ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 681
บทที่ 681 ฉู่เหอแพ้พ่าย
เวลานี้เป็นโอกาสที่ดี ด้วยวิธีการของเฉินเฟิงจะยอมปล่อยไปได้ยังไง รีบโจมตีเพื่อเอาชนะ เตรียมที่จะจบการต่อสู้ในครั้งนี้
ภาพนี้อยู่ในสายตาของหวังอีเตา ทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหว ฉู่เหอเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวของเขา อีกทั้งยังเป็นคนที่เขาพร่ำสอนด้วยความตั้งใจมาหลายปี ก็เพื่อลบล้างความอับอาย แก้แค้นให้ตนเอง ถ้าฉู่เหอพ่ายแพ้ไม่เพียงแต่ชีวิตของเขาที่ไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้ การแก้แค้นของตนก็ไม่สามารถแก้แค้นได้ อีกทั้งการต่อสู้ในครั้งนี้มีคนดูจำนวนมาก หลังจากนี้เขาคงไม่มีที่ยืนในวงการศิลปะการต่อสู้อย่างแน่นอน
แต่หลังจากมองดูอย่างละเอียดแล้ว ฉู่เหอไม่ได้บาดเจ็บสาหัส ไม่ได้บาดเจ็บรุนแรง หวังอีเตาจึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ภายในใจของเขารู้สึกกลัว
ฉู่เหอถอยหลังอย่างรวดเร็ว คนอื่นไม่รู้สึกอะไร ทว่าเย่หนานเทียนที่มองดูภาพนี้ ทุกอย่างมันคุ้นตามาก เหมือนเคยเห็นกระบวนท่านี้ ขณะที่เขากำลังคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ร้องตะโกนเสียงดัง:“เฉินเฟิง ระวัง!”
“ไปตายซะ!”
ขณะที่เสียงของเย่หนานเทียนดังขึ้น ฉู่เหอลืมตาขึ้นในเวลาเดียวกัน เขาในตอนนี้สีหน้าดุร้าย หน้าตาเต็มไปด้วยความต้องการฆ่า มือทั้งสองผลักออก กลายเป็นมีดที่ไม่สามารถทำลายได้ เผชิญหน้ากับเฉินเฟิงที่ไล่ต้อนมา มีดฟันลงไป
กระบวนท่านี้ ฉู่เหอไม่ได้ออมมือ แต่เป็นท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาในตอนนี้
เผชิญหน้ากับภาพนี้ เฉินเฟิงหลบไม่ทัน เขาเองก็ไม่คิดจะหลบ ความเร็วที่พุ่งมานั้นหยุดกะทันหัน พลังภายในของร่างกายพลุ่งพล่าน เท้าทั้งสองข้างล็อคกับพื้น ต่อยหมัดออกไป เตรียมที่จะรับกระบวนท่าของฝ่ายตรงข้าม
เสียงดังขึ้น มือมีดและหมัดชนกระแทกกัน ลมปราณเดือดดาล ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั้งสี่ด้าน ครอบคลุมทั้งสองคนเอาไว้
ฉู่เหอเตรียมตัวมานานกล่าวได้ว่าเป็นกลยุทธ์รอซ้ำยามเปลี้ย ทางด้านเฉินเฟิงที่อยู่ในอันตราย ก็รีบต้านเอาไว้ทันที
กระบวนท่านี้ทำให้การต่อสู้เปลี่ยนไป
“แย่แล้ว ถ้าฉู่เหอยกมีดมังกรขึ้นมา เฉินเฟิงก็จะตกอยู่ในอันตรายแล้ว!”
ก่วนหนานเทียนขมวดคิ้วเป็นปม เผยสีหน้าเป็นกังวล
วันนี้เฉินเฟิงทำให้พวกเขาตกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาให้ความสำคัญกับคนรุ่นหลังคนนี้แล้ว เวลานี้ไม่อยากเห็นเฉินเฟิงพ่ายแพ้ แล้วถูกฆ่าจริงๆ
แต่ฉู่เหอไม่ใช่คนธรรมดา ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีวันฝึกฝนจนบรรลุไปถึงระดับหั้วจิ้งชั้นกลาง แม้ว่าเมื่อกี้เขาจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ในช่วงเวลาสำคัญสามารถใช้ท่าไม้ตายเพื่อหลบเคราะห์ร้ายนี้ ยังมีโอกาสหายใจ
ในเวลานี้เอง เท้าขวาของฉู่เหอยกขึ้นกระแทก วางไว้ด้านข้าง เป็นจริงตามนั้น เขายกมีดมังกรขึ้นมา ฟันเฉินเฟิง ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ พูดได้ว่าฉู่เหอเป็นฝ่ายเสียเปรียบมาโดยตลอด ทำให้ศักดิ์ศรีของเขารับไม่ได้
ต้องรู้ก่อนว่าเขาเป็นถึงหั้วจิ้งชั้นกลาง อีกทั้งยังคงเป็นคนที่ได้รับการสืบทอดศิลปะการต่อสู้โบราณ คิดไม่ถึงว่าจะถูกเฉินเฟิงที่เป็นจอมยุทธ์ในวงการสามัญบีบต้อนให้น่าอนาถแบบนี้ เวลานี้เขาอยากจะยกมีดมังกรขึ้นมาแล้วฟันเฉินเฟิง เพื่อที่จะระบายความแค้นในใจ
เฉินเฟิงเองก็มองเห็นภาพนี้ รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจะปล่อยให้คู่ต่อสู้สมหวังได้ยังไง
ตอนที่บอกว่าเวลาผ่านไปช้าเวลากลับผ่านไปแล้ว พลังภายในของเฉินเฟิงผสานเอาไว้ที่ขาทั้งสองข้าง กระแทกเท้าลงไป พื้นดินโคลนแตกแยกก้อนหินปลิวขึ้นมา เฉินเฟิงคว้าเศษหินที่ปลิวขึ้นมา ใช้แรงในการโยนมันออกไป
“ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!”
ก้อนหินหลายก้อนถูกเฉินเฟิงเขวี้ยงออกไป ก้อนหินพุ่งไปทางฉู่เหอ หยุดการคว้าจับมีดมังกร
“ไอ้สารเลว!”
ฉู่เหอร้องตะโกนเสียงดัง รีบหลบ
ต้องรู้ก่อนว่าคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จนอยู่ในแดนระดับนี้ แม้แต่ใบไม้ก็สามารถเด็ดมาทำร้ายคนได้ จึงอย่าได้พูดถึงก้อนหินที่เฉินเฟิงโยนมาเต็มแรง เศษหินพวกนั้นเป็นเหมือนลูกดอก ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือความรุนแรงล้วนไม่สามารถดูถูกได้ ฉู่เหอไม่มีความมั่นใจที่จะใช้ร่างกายต้านกระบวนท่านี้
อีกทั้ง เศษก้อนหินพวกนี้มีพลังภายในที่มหาศาลของเฉินเฟิงรวมอยู่ด้วย ในเมื่อเขาสามารถหลบได้ทำไมต้องโง่เอาตัวไปรับด้วย มันไม่มีความหมาย
เฉินเฟิงรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามไม่กล้ารับ อีกทั้งเป้าหมายของเขาก็ไม่ได้อาศัยกระบวนท่านี้ทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บ เป้าหมายสำคัญของเขาคือการหยุดคู่ต่อสู้ไม่ให้หยิบมีดมังกร เมื่อเห็นว่าได้เวลาเฉินเฟิงจึงรวมรวบพลังภายในผสานเข้าด้วยกันแล้วพุ่งออกไป
เวลานี้เฉินเฟิงใช้ผ่านวิชาหายใจที่ลึกลับ ใช้พลังภายใน ทำให้เกิดเป็นความเร็วสูงสุด สิ่งที่เขาต้องทำก็คือแย่งมีดมังกรมาก่อน แล้วฆ่าคู่ต่อสู้ จากนั้นจบการต่อสู้ในครั้งนี้ต่อหน้าทุกคน เอาชีวิตคู่ต่อสู้ ลบล้างความอับอายให้ศิษย์พี่
เวลานี้ดึงดูดสายตาของผู้คนมากมาย ชางโป๋ ฟางเจิ้ง อู่จื่อโจว และหวังอีเตา ต้องรู้ว่าการต่อสู้ของยอดฝีมือ ความเป็นความตายเป็นเรื่องแค่ชั่วพริบตา จนถึงเวลานี้สิ่งที่ใช้สู้คือความเร็ว ใครเร็ว คนนั้นก็เหนือกว่า และสามารถย้อนกลับมาฆ่า
ในเวลาสำคัญแบบนี้ รอบๆเงียบอย่างน่ามหัศจรรย์ สามสิบเมตร ยี่สิบเมตร สิบเมตร เงาที่ราวกับวิญญาณร้ายปรากฏเข้าไปใกล้มีดมังกร กลับเป็นเฉินเฟิง
ในเรื่องความเร็วเฉินเฟิงและฉู่เหอไม่ต่างกันมาก แต่เมื่อกี้เฉินเฟิงเขวี้ยงก้อนหินออกไป ทำให้ฉู่เหอจำเป็นต้องถอยหลัง เสียเวลาไป ความเร็วจึงไม่สามารถเทียบเท่านเฉินเฟิง
เฉินเฟิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย กระแทกเท้าไปข้างหนึ่ง มีดมังกรกระเด้งขึ้นมา เฉินเฟิงคว้าเอาไว้ในมือ หมุนตัว ฟันลงไป
การฟังลงไปในครั้งนี้ไม่มีกระบวนท่าอะไร มีแค่คำเดียวคือคำว่าเร็ว ตั้งแต่คว้ามีด หมุนตัว เพียงแค่เสี้ยวเวลาหนึ่ง
“แย่แล้ว!”
ภายในใจของฉู่เหอหนักอึ้ง ขนลุกขึ้นมา ความรู้สึกอันตรายพุ่งขึ้นมาถึงจุดสูงสุด แต่เวลานี้เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้แล้ว มองดูมีดที่ใกล้เข้ามา ภายในใจสั่นเทา
ตั้งแต่แรกที่สู้กันจนถึงตอนนี้ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าความตายใกล้เข้ามา ในช่วงเวลาอันตรายพลังภายในพลุ่งพล่านไปด้านหน้า ร่างกายหยุดนิ่งอย่างกะทันหัน หมุนตัวไปอีกด้าน
พูดไปแล้วความเป็นจริงสิ่งที่เชื่องช้าเกิดขึ้นระหว่างกระแสไฟฟ้าและหินไฟ แทบจะเสี้ยวเวลานี้ เฉินเฟิงง้างมีดขึ้นแล้วฟังลงมา เกือบจะโดนปลายจมูกของฉู่เหอ
แม้ว่ามีดฟันไม่โดนตัวเขา แต่เพราะความเร็วที่เร็วมาก ทำให้ผิวหนังของฉู่เหอถูกฟัน เลือดไหลลงมา โชคดีที่ร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บ
เฉินเฟิงฟันไม่โดน ไม่คิดจะหยุดนิ่ง ง้างมีดขึ้นมา พลิกมือพุ่งมีดออกไป เขาจะทำลายความหวังสุดท้ายของคู่ต่อสู้
ฉู่เหอพึ่งรอดจากความตาย เขากำลังกระวนกระวาย จิตใจยังไม่สงบนิ่ง ในช่วงเวลาสำคัญนี้ เฉินเฟิงพุ่งมีดมาอีกครั้ง เขาไม่มีทางหนีแล้ว ทำได้เพียงใช้ยกทั้งสองมือขึ้น อยากใช้พลังภายในต้านมีดเอาไว้
แต่ถึงอย่างไรมือทั้งสองข้างก็ทำมาจากเนื้อ จะเทียบกับมีดได้ยังไง แม้ว่าจะใช้พลังภายในก็ไม่สามารถต้านเอาไว้ได้
แน่นอน ถ้าแดนบรรลุไปจนถึงระดับมหาปรมาจารย์ก็อาจจะทำได้
“อ๊าก!”
แขนทั้งสองข้างของฉู่เหอชนกับมีด แม้ว่าแขนของเขาจะไม่ขาด อีกทั้งยังแหลกละเอียด เสียงร้องของเขา ร้องตะโกนออกไป
“ผวัะ!”
ร่างของฉู่เหอถอยไปไกล จากนั้นล้มลงบนพื้น
“จบแล้ว!”
เวลานี้ภายในใจของอู่จื่อโจว ก่วนหนานเทียนและฟางเจิ้งกระตุกสั่น พวกเขารู้ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ใกล้จะจบลงแล้ว ฉู่เหอที่เป็นยอดฝีมือหั้วจิ้งชั้นกลางพ่ายแพ้ราบคาบแล้ว!
แพ้ด้วยน้ำมือของเฉินเฟิง ไม่เพียงแค่แพ้เท่านั้น แม้แต่ชีวิตก็ไม่ใช่ของตนเองแล้ว