ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 686
บทที่ 686 แผนการมีการเปลี่ยนแปลง
ทั้งสามคนเพิ่งลงจากรถ เดินไปถึงห้องโถงของไนท์คลับ มีสาวสวยแต่งตัวเซ็กซี่คนหนึ่ง เดินมาต้อนรับทันที มองอย่างพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นคล้องแขนของหวู่เหวินโป๋ ศีลสามในเวลานี้น้ำลายยืด
“พระสงฆ์น้อย คืนนี้พี่จัดการ เล่นให้เต็มที่!”
สิ้นเสียงของหวู่เหวินโป๋ ดวงตาทั้งสองข้างของศีลสามเป็นประกาย ยิ้มจนไม่สามารถปิดปากได้ หวู่เหวินโป๋อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เสียงหัวเราะของทั้งสองคน คนหนึ่งหัวเราะด้วยความสมเพช คนหนึ่งหัวเราะด้วยความดีใจ รู้สึกเหมือนปีศาจลามกเจอกับแท่งลามกอนาจาร
มองดูท่าทางของทั้งสองคน เฉินเฟิงยิ้มเศร้า แต่ว่าวันนี้เรียกหวู่เหวินโป๋มา ถือว่าไม่ผิดจริงๆ ทั้งสองคนมีนิสัยคล้ายคลึงกัน สามารถเที่ยวเล่นด้วยกันได้ ถ้าเฉินเฟิงเป็นคนพาศีลสามเที่ยว บางทีคงจะไม่สนุกขนาดนั้น
ทั้งสามคนเดินเข้าไปด้านใน ด้านในมีเสียงดนตรีและร้องตะโกนของผู้คนดังขึ้นเบาๆ แสงไฟวิบวับ หนุ่มหล่อสาวสวยกำลังเต้นบนฟลอร์เต้นรำ บรรยากาศครึกครื้นมาก
สิ่งที่ดึงดูดสายตาที่สุดก็คือหนุ่มหล่อสาวสวยที่อยู่รอบๆ พวกเขายืนอยู่ใต้แสงไฟ โพสท่าสวยหล่อ รอให้แขกพาพวกเขาไป
ขอแค่มีคนชอบ ก็จะบอกกับบริกร ทางด้านบริกรก็จะรีบพาเขา(เธอ)มาตรงหน้าแขกทันที
ที่นี่มีผู้ชายหน้าตาลามก แค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไร สิ่งแรกที่พวกเขาเลือกก็คือสาวสวย อีกทั้งการมาครั้งที่สองพวกเขาก็ไม่มีวันเลือกคนเดิม
ทั้งยังมีผู้ชายหน้าตาดี พวกเขาบางคนจะเลือกสาวสวยมานั่งดื่มเป็นเพื่อน มีบางคนไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้เลือกผู้ชายหนึ่งคนหรือสองคนมานั่งเป็นเพื่อน ทำให้คนรู้สึกเหลือเชื่อ
ผู้หญิงเลือกผู้หญิง ผู้หญิงเลือกผู้ชาย สถานการณ์ดูวุ่นวายมาก
มีบ้างบางคนที่ไม่ได้เรียกคนมานั่งดื่มเป็นเพื่อน พวกเขาบางทีอาจจะเป็นกลุ่มคนสามถึงห้าคนรวมตัวกัน หรืออาจจะเป็นการมาครั้งแรกต้องการเพียงความรู้สึกแปลกใหม่เท่านั้น
ตั้งแต่ศีลสามเดินเข้ามาในไนท์คลับดวงตาของเขาก็ไม่เคยห่างจากสาวสวยมาก่อน เขาหรี่ตามองดูพวกเธอ น้ำลายยืดไม่หยุด
“พระ พระทำอะไรอยู่ มานี่ พวกเราหาที่นั่งสักที่นั่งกันก่อน!”
มองดูท่าทางไม่ได้เรื่องของศีลสาม หวู่เหวินโป๋ลากเขาทันที
ศีลสามดึงสายตากลับมาด้วยความอาลัยอาวรณ์ เดินตามหวู่เหวินโป๋มาตรงโต๊ะนั่ง จากนั้นหวู่เหวินโป๋ก็สั่งเหล้าและผลไม้ด้วยความชำนาญ
“ศีลสาม นายเลือกได้แล้ว ขอแค่เป็นสาวสวย นายชอบคนไหนก็บอกฉันได้เลย!”
หวู่เหวินโป๋ตบไหล่ศีลสาม
“ได้ๆๆ!”ศีลสามพูดตกลงหลายครั้งติดต่อกัน ดีใจเป็นอย่างมาก จากนั้นดวงตาเบิกกว้าง มองดูสาวสวยที่อยู่ในไนท์คลับ
แต่ว่าผ่านไปหลายนาทีเขาก็ยังเลือกไม่ได้
“เสร็จรึยัง?” หวู่เหวินโป๋อดไม่ได้ที่จะเร่ง
“แฮ่กๆ เอ่อ คนเยอะเกินไปแล้ว ไม่รู้จะเลือกยังไง!”
ท่าทางของศีลสามดูประหม่าเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร!” หวู่เหวินโป๋พูดปลอบ จากนั้นผายมือ บริกรเดินมาข้างๆเขาแล้วโค้งตัวพร้อมพูดขึ้น:“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้รับใช้คะ?”
“แบบนี้แล้วกัน หาผู้หญิงสวยๆมาให้ฉันสองสามคน ให้น้องชายฉันเลือกดูก่อน!”
หวู่เหวินโป๋ชำนาญแล้ว เขาคุ้นชินทุกอย่าง จากนั้นหยิบแบงค์สีแดงออกมาจากกระเป๋าไม่กี่ใบ แล้วยื่นให้กับบริกร
บริกรดีใจมาก หลังจากได้รับทิปแล้วก็รีบตอบตกลง
หลังจากบริกรเดินไป ศีลสามนิ่งงัน แล้วพูดขึ้น:“ไม่ถูกสิ ทำไมให้ผมดูแค่คนเดียว ทำไมพวกนายสองคนถึงไม่หาผู้หญิงบ้าง!”
“ฉันไม่เอาแล้ว!”เฉินเฟิงเพิ่งพูดจบ หวู่เหวินโป๋ก็แสดงท่าทีว่าวันนี้เขาก็ไม่ต้องการเรียกผู้หญิง พวกเขามาที่นี่ก็เพราะพาศีลสามมาเที่ยวเล่นเท่านั้น
“ฉันเกรงใจแย่เลย!”ศีลสามเกาหัวด้วยความประหม่า
“สวัสดีค่ะ คุณผู้ชาย!”
ศีลสามเพิ่งพูดจบ หญิงสาวแต่งตัวเซ็กซี่คนหนึ่งเดินเข้ามา จากนั้นโค้งตัวลงทักทายข้างๆพวกเขา
“นั่งๆๆ!”
ศีลสามขยับเข้าไปนั่งด้านในและรีบตบเบาะที่นั่งข้างๆ
เรื่องยังอีกไกล ในเมื่อพาศีลสามมาเที่ยวเล่นแล้ว ก็ต้องเล่นให้เต็มที่ ใช้เวลาไม่นานก็มีสาวสวยอีกสามคนเดินข้ามา ไม่มีความเอียงอายแม้แต่น้อย นั่งลงข้างๆศีลสาม ศีลสามถูกล้อมด้วยผู้หญิงสี่คนทันที ในใจของเขาดีใจมาก
เวลานี้เขารู้สึกดีใจกว่าการบรรลุพระธรรม อิ่มเอมใจมาก
“น่าสนใจ ความรู้สึกนี้ฟินสุดๆ!”
ศีลสามในเวลานี้ที่ถูกห้อมล้อมด้วยความอบอุ่น พูดผิดพูดถูกไปหมดแล้ว
เฉินเฟิงและหวู่เหวินโป๋ทั้งสองคนที่อยู่ด้านข้างสีหน้าไร้คำพูด
“พระสงฆ์สมัยนี้ปล่อยตัวปล่อยใจขนาดนี้เลยหรอ?!”
ท่าทีลามกของศีลสาม ทำให้หวู่เหวินโป๋อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
“ฮ่าๆๆ เขากินเนื้อ ฆ่าสัตว์ ทำทุกอย่าง งดความหื่นก็อย่าได้พูดถึง!”
สิ่งสำคัญของคืนนี้คือการพาศีลสามเที่ยว สำหรับเขา หวู่เหวินโป๋ไม่ใช่คนตระหนี่ถี่เหนี่ยว เขาโอนเงินให้สาวนั่งดริ้งแต่ละคนด้วยตัวเลขหกหลัก เพื่อที่ให้พวกเธอเล่นกับศีลสามให้เต็มที่
ผู้หญิงกลุ่มนี้พุ่งเข้าหาเพราะเงินอยู่แล้ว เมื่อเห็นความใจกว้างของหวู่เหวินโป๋ เวลานี้แต่ละคนพากันถามไถ่ศีลสาม
สาวสวยทั้งสี่คนนอกจากชนแก้วกับเฉินเฟิงและหวู่เหวินโป๋เป็นครั้งคราวแล้ว เวลาส่วนมากก็ล้วนอยู่กับศีลสาม แทบอยากจะตัวติดแนบชิดไปบนตัวศีลสาม
“ฮ่าๆๆ ความรู้สึกแบบนี้มันดีจริงๆ ชีวิตหลายปีที่ผ่านมาของฉันมันสูญเปล่า!”
ศีลสามอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น เวลานี้เขารู้สึกว่าตนเองอยู่บนสวรรค์ ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่เคยมีมาก่อน เมื่อก่อนนอกจากฝึกวรยุทธ์ ก็คือฝึกวรยุทธ์ ชีวิตน่าเบื่อมาก จะมีชีวิตแบบนี้ได้ยังไง
“ศีลสาม คืนนี้เป็นของนายทั้งหมด ดื่มด่ำให้เต็มที่!”หวู่เหวินโป๋อดไม่ได้ที่จะพูดติดตลก
ศีลสามหัวเราะเสียงดัง กอดหญิงสาวแล้วเดินออกไปด้านนอก
แต่ในเวลานี้เองจู่ๆเฉินเฟิงก็หยุดเดิน เขาเห็นคนวัยกลางคนหนึ่ง ยืนอยู่ที่ประตูไนท์คลับ มองดูศีลสามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ปรมาจารย์ฟางเจิ้ง!”
เฉินเฟิงเห็นปรมาจารย์ฟางเจิ้ง กำลังจะเตือนศีลสาม คิดไม่ถึงเวลานี้จะมีเสียงร้องตะโกนด้วยความโมโหดังขึ้น
“ศีลสาม!!!”
เสียงสามตกใจกับเสียงร้องตะโกนด้วยความโมโห มองดูชัดๆก็เห็นว่าเป็นปรมาจารย์ฟางเจิ้ง
“พระ……พระใหญ่!”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะศีลสามดื่มเหล้ามากไป หรือว่ากลัว เขาพูดติดติดขัดขัด
เห็นเพียงฟางเจิ้งโผล่มาข้างๆศีลสามในชั่วพริบตา ลากศีลสามออกไปจากกลุ่มหญิงสาว จากนั้นตบหัวล้านของศีลสามอย่างไม่ลังเล
ศีลสามถูกตบจนลนลานไปหมด
“อะไร? เขาคือพระ?”
สีหน้าของสาวสวยทั้งหลายเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ทุกอย่างเงียบอย่างรวดเร็ว ทุกคนชะงักนิ่งงันอยู่ที่เดิม เฉินเฟิงเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเดินขึ้นหน้าไม่กี่ก้าว ประสานมือแล้วพูดขึ้น:“ปรมาจารย์ฟางเจิ้ง เรื่องนี้!”
เฉินเฟิงคิดอยู่ครึ่งค่อนวัน ไม่รู้จะพูดเรื่องนี้ในทิศทางอื่นยังไงดี
“ครั้งนี้แล้วไปแล้ว รีบกลับวาติกันกับฉัน คราวหน้าถ้านายออกมาเที่ยวเล่นอีก ฉันจะไม่แค่สั่งสอนเขา แต่ยังสั่งสอนนายด้วย!”
แม้ว่าตอนนี้ปรมาจารย์ฟางเจิ้งจะโมโห แต่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาก็พูดอะไรมากไม่ได้
“วาติกัน?”
เฉินเฟิงชะงัก วาติกันเป็นสถานที่จัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก คนที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ล้วนเป็นคนโดดเด่นที่ถูกคัดเลือกออกมา ศีลสามไม่มีเหตุผลที่ต้องตามไป
อาจจะเป็นเพราะมองออกว่าเฉินเฟิงสงสัย ปรมาจารย์ฟางเจิ้งจึงพูดอธิบาย:“โควต้าของประเทศหวาในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่มีสี่คน จียุ่น เทียนอิง ศีลสามล้วนต้องไป!”
ได้ยินคำพูดของปรมาจารย์ฟางเจิ้ง เฉินเฟิงชะงักทันที ความกังวลในใจมากขึ้นเรื่อยๆ