ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 687
บทที่ 687 วีรบุรุษ
เวลาตอนเที่ยง ควรเป็นเวลาที่พระอาทิตย์สาดส่อง แต่บนภูเขาอูเมิงอุณหภูมิต่ำมาก โดยรอบเต็มไปด้วยหมอก การมองเห็นไม่ดีเท่าไหร่
หมอกโอบล้อมภูเขา ภูเขาอูเมิงที่เคยสวยเหมือนแดนสวรรค์ เวลานี้กลับไม่มีความรู้สึกนั้นแล้ว รู้สึกเหมือนหมอกนั้นเป็นเหมือนเมฆดำที่อยู่ในจิตใจของทุกคนบนภูเขาอูเมิง
ตระกูลจิ่งเป็นหนึ่งในตระกูลโบราณของประเทศหวา มีการสืบทอดมาอย่างยาวนาน ซ่อนตัวมานานหลายปี แต่เมื่อออกมานั้น ล้วนทำให้เกิดกระแสพายุ เพื่อสร้างชื่อให้กับตระกูลจิ่ง บอกกับตระกูลจิ่งทุกคนว่าถ้าไม่ได้ออกไปก็จงเงียบเข้าไว้ แต่ถ้าออกไปเมื่อไหร่ต้องทำให้ดังสะท้านราวกับฟ้าผ่า
แต่การท้าประลองวรยุทธ์ของจิ่งเถิงที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลจิ่งไม่ได้ทำให้คนในวงการสามัญชนตกตะลึง แต่กลับทำให้ตระกูลจิ่งอับอาย ทำให้คนในวงการสามัญชนมองตระกูลจิ่งเปลี่ยนไป
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนในตระกูลจิ่ง อยากจะฉีกเฉินเฟิงเป็นแปดชิ้นๆ เพื่อระบายความขับแค้นใจ
เพียงแต่ ความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ของสหพันธ์บูโดทำให้พวกเขาไม่กล้าทำบุ่มบ่าม อย่างน้อยต่อหน้า พวกเขาไม่กล้าทำอะไร
สิ่งสำคัญก็คือเฉินเฟิงถูกเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก สิ่งนี้ทำให้ตระกูลจิ่งเป็นกังวล ถ้าทำอะไรเฉินเฟิงขึ้นมา ตระกูลจิ่งของพวกเขาก็กลายเป็นศัตรูกับวงการศิลปะการต่อสู้ของประเทศหวา
พวกเขาไม่สามารถรองรับผลนี้ได้
ยังมีอีกข้อหนึ่ง พวกเขารู้เรื่องที่เฉินเฟิงฆ่าลูกศิษย์ของหวังอีเตา จากนั้นได้รับโควต้าเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก อีกทั้งครั้งนี้ประเทศหวาได้เพิ่มโควต้าผู้เข้าแข่งขันถึงสี่คน
ทุกครั้งที่จิ่งเซ่อเหมิงผู้เป็นพ่อของจิ่งเถิงคิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกเสียใจ ถ้าจิ่งเถิงไม่ตาย โควต้าสี่คนนั้น ต้องมีจิ่งเถิงหนึ่งคน
แต่เขารู้ดีว่าบนโลกนี้ไม่มียาที่กินแล้วสามารถย้อนอดีตได้ อีกทั้งสถานการณ์ในตอนนั้น การต่อสู้ระหว่างจิ่งเถิงและเฉินเฟิงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
มองดูท่าทางเป็นกังวลของผู้เป็นพ่อ จิ่งหยุนเฟิงเป็นกังวลเล็กน้อย เอ่ยถามขึ้น:“พ่อครับ ตอนนี้พวกเราควรจะทำยังไงดีครับ?”
“ความแค้นลึกเท่าน้ำทะเล ไม่สามารถอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันได้!”
ถ้าจิ่งเซ่อเหมิงไม่กลัวว่าจะสร้างปัญหาให้กับตระกูลจิ่ง เขาคงไปเด็ดหัวเฉินเฟิงด้วยตนเองนานแล้ว เพื่อแก้แค้นแทนลูกชาย
“จากสถานการณ์ในตอนนี้ มีแค่สองวิธีเท่านั้นที่ทำได้!”
สายตาของจิ่งเซ่อเหมิงมองออกไปไกลแล้วพูดขึ้น:“ข้อหนึ่ง คนหนุ่มทั้งหมดของตระกูลจิ่ง ฝึกฝนวรยุทธ์อย่างเคร่งครัด จนกระทั่งสามารถไปถึงระดับเดียวกับผู้สืบทอด ข้อสอง สำหรับเรื่องแก้แค้นให้เสี่ยวเถิง ห้ามรีบร้อน อยู่เงียบๆแล้วคอยสังเกตการณ์ก็พอ!”
“พ่อจะอยู่เงียบๆแล้วสังเกตการณ์ยังไงครับ?”
เวลานี้จิ่งเซ่อเหมิงมีใจคิดอยากจะแก้แค้นให้จิ่งเถิงเพียงอย่างเดียว
“อย่างที่แกเคยพูดเอาไว้ว่าเฉินเฟิงคนนี้มีศัตรูมากมาย การเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้ ฉันคิดว่าต้องมีศัตรูและกองกำลังที่เป็นศัตรูกับเฉินเฟิงลงมือจัดการเขาแน่ อีกทั้งศิษย์พี่ของเขาเย่หนานเทียนตอนหนุ่มก็ทำผิดต่อคนจำนวนไม่น้อย ตระกูลพวกนั้นไม่มีวันลามือง่ายๆแน่!”
จิ่งหยุนเฟิงวิเคราะห์การแข่งขันในครั้งนี้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์:“อีกทั้งการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ ต้องเลือกคนสุดท้าย ถ้าอย่างนั้นขอแค่เฉินเฟิงเข้าร่วมการแข่งขันต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน รู้แต่แรกว่าการแข่งขันในครั้งนี้มีผู้แข็งแกร่งรวมตัวกันอยู่มากมาย แม้แต่เฉินเฟิงก็ไม่สามารถรับมือได้ง่ายๆ!”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ แม้ว่าสุดท้ายเขาจะได้ที่หนึ่ง ก็ไม่สำคัญ องค์กรและกองกำลังที่ดูอยู่ต้องไม่นิ่งดูดายแน่ จากความสามารถของตระกูลจิ่งฆ่าเฉินเฟิงนั้นง่ายราวกับแค่พลิกฝ่ามือ แต่ที่พวกเราไม่ลงมือนั้น เป็นเพราะพวกเราอยู่ที่ประเทศหวา ถ้ามีปัญหาขัดแย้งกัน ฉันไม่สามารถเผชิญหน้ากับสหพันธ์บูโดได้!”
“แต่กองกำลังต่างชาติไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก ไม่อย่างนั้นเย่หนานเทียนก็คงไม่ถึงขั้นพิการ ต่อให้ความสามารถของสหพันธ์บูโดจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ไม่สามารถทัดเทียมกับกองกำลังต่างชาติมากมาย!”
“ครับ พ่อพูดมีเหตุผล!”
“เฮ้อ!”จิ่งหยุนเฟิงถอนหายใจ:”น่าเสียดายที่ไม่สามารถฆ่าเฉินเฟิงด้วยมือตนเอง!”
“เซ่อเหมิงอ่า เสี่ยวเถิงถูกฆ๋าแล้ว ตระกูลจิ่งของพวกเราไม่มีผู้สืบทอดแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีปัญหาที่ไม่จำเป็น นายต้องจัดการอย่างใจเย็น ให้ความสำคัญกับภาพรวม อย่ามัวเมาเพราะการแก้แค้น!”
จิ่งหยุนเฟิงรู้จักลูกชายคนนี้เป็นอย่างดี เขากลัวว่าเซ่อเหมิงจะมัวเมากับการแก้แค้น ลงมือจัดการเฉินเฟิงตอนที่แข่งขันศิลปะการต่อสู้ ถึงเวลานั้นจะเกิดปัญหาใหญ่
ความเป็นจริงสิ่งที่จิ่งหยุนเฟิงคิดไม่ผิดแม้แต่น้อย จิ่งเซ่อเหมิงเองก็คิดแบบนี้จริงๆ อีกทั้งเขาได้เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว รอให้ถึงเวลาแล้วจัดการจู่โจมฆ่าเฉินเฟิง
เพียงแต่หลังจากได้ยินคำอธิบายของพ่อและความทุกข์ของผู้เป็นพ่อ บอกให้เขาเห็นความสำคัญของส่วนรวม ปล่อยเรื่องนี้ไปชั่วคราว
อีกทั้งเขารู้สึกว่าการวิเคราะห์ของผู้เป็นพ่อไม่ผิด ภายใต้การโจมตีของกองกำลังต่างชาติเฉินเฟิงต้องตายแน่นอน
พระอาทิตย์ค่อยๆตก บนท้องฟ้ามีแสงอาทิตย์ยามเย็น ยีฟูคามาอีกครั้งถูกคนกรีซโบราณเรียกว่าเทพภูเขาของเขาโอลิมปัส
ยีฟูคาเป็นคนรับผิดชอบข่าวกรองของสภามืด อีกทั้งยังเป็นลูกสาวของวิลเลียมบุตรแห่งสภามืด หรืออาจจะเป็นอย่างที่คนอื่นเขาเล่าลือ วิลเลียมเห็นเธอเป็นผู้หญิงของตนหรือไม่ ยีฟูคาเองก็ไม่มั่นใจ
แต่เธอไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ไม่ว่าจะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขาหรือไม่เห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขา เธอก็ยินดีที่จะติดตามวิลเลียมบุตรแห่งสภามืด ยอมเป็นวัวเป็นควายให้เขา
“ยีฟูคายินดีกับหัวหน้าใหญ่ที่สามารถเอาชนะผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ กลายเป็นบุตรแห่งสภามืดของสภามืด เป็นตัวแทนของสภามืดเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศในครั้งนี้!”
ยีฟูคาผมสั้น มองดูแล้วกระฉับกระเฉงมาก เห็นแค่เธอโค้งตัวทำความเคารพ แสดงความเคารพและรักใคร่บุตรแห่งสภามืดอย่างไม่ปกปิด
ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่แปลกมาก นิสัยที่ได้รับการยอมรับของเธอไม่แน่นอน ตอนที่เธอผิดหวัง ไม่ว่าใคร ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สามารถทำให้เธอหันกลับไปได้ แต่ตอนที่เธอรักใครคนหนึ่ง เธอจะเอาทุกอย่างของเธอให้เขาอย่างไม่ลังเล ซื่อสัตย์และทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของอีกคน
เมื่อหลายวันก่อน ผู้แข็งแกร่งที่อยู่เบื้องหลังของสภามืด รวบรวมผู้สมัครคัดเลือกบุตรแห่งสภามืด ทำการคัดเลือกภายใน ณ ภูเขาแห่งนี้ ความสามารถของวิลเลียมแข็งแกร่ง เอาชนะผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ก้าวกระโดดจนได้เป็นบุตรแห่งสภามืด
“อื้ม!เธอมาที่นี่ เป็นเพราะประเทศหวามีข่าวอะไรแล้วงั้นหรอ?”
เผชิญหน้ากับความเคารพนับถือของยีฟูคา วิลเลียมไม่มีท่าทีไม่คุ้นชิน สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจของเขา
เขามีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่เล็ก เขาได้รับยาวิเศษโดยบังเอิญ หลังจากที่กิน พรสวรรค์ในร่างกายของเขาก็เพิ่มสูงขึ้น การฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้พัฒนาเร็วขึ้นหลายเท่าตัว ในเวลาสั้นๆเขาก็สามารถบรรลุได้หลายแดน คนที่เคยเป็นคู่แข่งของเขาไม่อยู่ในสายตาของเขานานแล้ว อีกทั้งการคัดเลือกภายในครั้งนี้ เขาไม่เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญแต่อย่างใด เพราะจากความสามารถของเขาการเอาชนะผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ง่ายเหมือนแค่พลิกฝ่ามือ
เวลาที่คนพูดถึงชื่อของวิลเลียม ล้วนต้องพูดว่าเป็นผู้สูงส่งในบรรดาคนรุ่นใหม่ของโลก
“ใช่ค่ะ หัวหน้าใหญ่ พวกเราได้รับข่าวมาแล้ว เมื่อหลายวันก่อนเฉิงเฟิงได้ต่อสู้กับทายาทราชาดาบของประเทศหวา สุดท้ายเฉินเฟิงเป็นฝ่ายชนะ ฆ่าทายาทราชาดาบ กลายเป็นตัวแทนของประเทศหวาในครั้งนี้ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ อีกทั้งเฉินเฟิงยังถูกขนานนามว่าเป็นคนรุ่นหลังอันดับหนึ่งของประเทศหวา!”
หลังจากยีฟูคารายงานจบ ยืนฟังอยู่ที่เดิมด้วยความเคารพ