ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 689
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 689 จั่วจู้เข้ามายุ่งเรื่องทางโลก
ดวงตาที่หลับเอาไว้ของชายหนุ่มลืมขึ้นมา แววตาของเขาฉายความเปล่งประกาย สิ่งที่ตามมาหลังจากดวงตาเปล่งประกายนั้นคือรังสีสังหาร หลังจากมองหน้าของชายชราอย่างชัดเจน รังสีสังหารบนตัวของชายหนุ่ม กลับมาเป็นปกติ
“สิบปีแล้ว จั่วจู้นายเก็บตัวถือศีลมานานขนาดนี้แล้ว รู้สึกยังไงบ้าง?” ชายชรามองดูชายหนุ่มตรงหน้า พูดขึ้นช้าๆ
ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นทำความเคารพ จากนั้นพูดด้วยความนอบน้อม:“น้อมเคารพผู้อาวุโส ตั้งแต่สิบปีก่อนที่ผมกินยาที่ท่านให้ ร่างกายของผมก็ดีขึ้น เก็บตัวถือศีลสิบปีที่ผ่านมานี้ ผมบรรลุถึงระดับหั้วจิ้งชั้นกลางแล้ว!”
คำพูดของจั่วจู้เคล้าไปด้วยความภาคภูมิใจและรู้สึกขอบคุณชายชรา
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา เมื่อสิบปีก่อนเขาได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งศิลปะการต่อสู้ของประเทศญี่ปุ่น ทว่าวันหนึ่งเขากลับหายตัวไป การหายตัวไปของเขาทำให้วงการศิลปะการต่อสู้ประเทศญี่ปุ่นสั่นสะเทือน ผู้มีอำนาจมากมายต่างพากันตามหา ทว่ากลับไม่พบร่องรอย สุดท้ายทุกคนจึงคิดว่าเขาตายไปแล้ว
ความเป็นจริงเขาถูกข้าราชการลับของประเทศญี่ปุ่นพาตัวไป จากนั้นก็สุ่มเลี้ยงดูฝึกฝนเขา
“อื้ม ไม่เลว สิบปีแล้ว ถึงเวลาที่นายควรจะลาศีลแล้ว ตอนนี้มีเรื่องสำคัญที่นายต้องไปจัดการ!”
ชายชราพึงพอใจในตัวจั่วจู้เป็นอย่างมาก
“ผู้อาวุโส ท่านได้โปรดสั่งมาได้เลย!”จั่วจู้รีบพูดด้วยความเคารพ
“พรุ่งนี้นายตามคนของเสินอิ่นออกไปจากประเทศญี่ปุ่น ไปเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก นายวางแผน สามารถได้ที่หนึ่งในการแข่งขันครั้งนี้หรือไม่เป็นเรื่องรอง เรื่องสำคัญที่สุดคือระหว่างการแข่งขัน นายต้องฆ่าคนๆหนึ่ง!”
ชายชราพูดถึงตรงนี้ นึกถึงความอับอายขายหน้าของวงการศิลปะการต่อสู้ประเทศญี่ปุ่น แววตาของเขามีไฟแค้นปะทุออกมา
“ฆ่าใครครับ?”
“เฉินเฟิงจากประเทศหวา!” คำพูดพวกนี้ชายชราแทบจะกัดฟันพูดออกมา
“ผู้อาวุโสวางใจได้ครับ ผมจะเด็ดหัวเฉินเฟิงลงมา!”
ขณะที่จั่วจู้พูดนั้นเจตนาสังหารฉายออกมาทันที แววตาของเขาฉายแสง
“อื้ม ดี!”
สำหรับสิ่งที่จั่วจู้แสดงออกมา ชายชราพึงพอใจเป็นอย่างมาก
เวลาของวันนี้ ผู้สืบทอดของกองกำลังใหญ่ต่างๆของโลก ตระกูลและสำนักต่างๆล้วนออกเดินทาง เป้าหมายของพวกเขาคือวาติกัน
แต่จั่วจู้ของประเทศญี่ปุ่นกลับไม่เหมือนพวกเขา เขาพูดข้ามแม่น้ำและภูเขานับพันลูก บอกว่าจะฆ่าเฉินเฟิง
คำพูดนี้ ทำให้สะนั่นหวั่นไหวทันที ต้องรู้ว่าจั่วจู้เป็นถึงจอมยุทธ์ที่เก่งกาจที่สุดในรอบร้อยปีของประเทศญี่ปุ่น เมื่อสิบปีก่อนเขาเป็นผู้แข็งแกร่งในบรรดาคนรุ่นใหม่ แต่เมื่อสิบปีก่อนเขากลับหายตัวกะทันหันอย่างลึกลับ
คิดไม่ถึงว่าปรากฏตัวอีกครั้ง จั่วจู้จะพูดคำว่าฆ่าเฉินเฟิง แบบนี้จะทำให้ทุกคนนิ่งเฉยได้ยังไง
อีกทั้งเฉินเฟิงยังเคยทำให้ประเทศญี่ปุ่นวุ่นวายไปหมด เป็นความอับอายของวงการจอมยุทธ์ประเทศญี่ปุ่น คนแบบนี้ จอมยุทธ์ทั้งประเทศญี่ปุ่นอยากจะฆ่าเฉินเฟิงเพื่อระบายความแค้นในใจ ลบล้างความน่าอับอายในอดีต
เรื่องนี้จอมยุทธ์ในโลกค่อยๆรับรู้ การได้รับความสนใจจากจอมยุทธ์ทั่วโลกในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพราะจั่วจู้ แต่เป็นเพราะเฉินเฟิง
อย่างที่รู้กัน เฉินเฟิงมีชื่อเสียงหลังจากไปประเทศญี่ปุ่นเพียงลำพัง จากนั้นเขาก็ได้ฆ่าผู้สืบทอดของตระกูลจิ่งซึ่งเป็นตระกูลที่ซ่อนตัวเอาไว้ หลังจากนั้นทายาทราชาดาบก็ได้ท้าประลองวรยุทธ์กับเฉินเฟิง แต่กลับถูกฆ่าตาย เรื่องนี้แพร่ออกไปทั่วสารทิศแล้ว พูดอย่างไม่โอเวอร์ คนในวงการศิลปะการต่อสู้นอกจากคนที่เก็บตัวถือศีลฝึกวรยุทธ์แล้ว ไม่มีใครไม่รู้
ในสถานการณ์แบบนี้ จั่วจู้ของประเทศญี่ปุ่นกลับกล้าท้าประลองวรยุทธ์กับเฉินเฟิง อีกทั้งยังสาบานว่าจะเด็ดหัวเฉินเฟิง จะไม่ทำให้คนตกใจได้ยังไง
“ครั้งนี้มีเรื่องสนุกๆให้ดูแล้ว จั่วจู้ของประเทศญี่ปุ่นไม่รู้ว่าจะได้เจอกับเฉินเฟิงที่การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกรึเปล่า!”
“เพียงแต่ไม่รู้ว่า พวกเขาสองคนใครแข็งแกร่งกว่าใครอ่อนแกกว่า?”
“ถ้าจะให้ฉันพูด ช่วงนี้กำลังเป็นช่วงขาขึ้นของเฉินเฟิง อีกทั้งความสามารถของเขาก็เด่นชัดในสายตาทุกคน เขาน่าจะชนะ อีกอย่าง ถึงแม้จะบอกว่าจั่วจู้ของประเทศญี่ปุ่นจะเป็นอัจฉริยะในรอบร้อยปี แต่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว ใครจะไปรู้ว่าความสามารถของเขาเป็นยังไง?”
เดิมทีเหล่าจอมยุทธ์ต่างให้ความสนใจการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก แต่ใครจะไปรู้มีเรื่องของจั่วจู้แทรกเข้ามา บอกว่าจะท้าประลองวรยุทธ์กับเฉินเฟิง เวลานี้ดึงดูดความสนใจคนจำนวนไม่น้อย
ทุกคนพากันพูด การแข่งขันศิลปะการต่อสู้เฉินเฟิงและจั่วจู้ทั้งสองคนนี้จะได้เจอกันรึเปล่า ถ้าได้เจอกัน ตอนที่สองคนนี้สู้กัน ใครจะเป็นฝ่ายชนะ?
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอก เฉินเฟิงไม่รู้เลย
ภูเขาเขาหนานในซีเหลียง บ้านที่เย่หนานเทียนพักอาศัย
เฉินเฟิงเงยหน้าขึ้นมองพระอาทิตย์ เขากำลังฝึกลมหายใจด้วยวิชาหายใจลึกลับ
“หื้ม?”
เดิมทีเฉินเฟิงกำลังหลับตาฝึกลมหายใจ เวลานี้ลืมตาขึ้นกะทันหัน ขมวดคิ้วเป็นปม
“เป็นอะไรไป? เสี่ยวเฟิง!”
เย่หนานเทียนที่อยู่ข้างๆคอยมองดูตลอดเวลาเดินขึ้นหน้า ถามด้วยความเป็นห่วง
เห็นเพียงเฉินเฟิงส่ายหน้าแล้วยิ้มเศร้า:“ไม่มีอะไรครับศิษย์พี่ เพียงแต่หลายวันที่ผ่านมานี้ ความสามารถของผมยังคงไม่พัฒนาขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล!”
ตั้งแต่เฉินเฟิงฝึกฝนวรยุทธ์มานั้นพูดได้ว่าราบรื่นมาโดยตลอด มีอุปสรรคน้อยมาก แดนของเขาก่อนหน้านี้ขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงแต่หลังจากบรรลุมาจนถึงระดับหั้วจิ้ง ก็หยุดอยู่ที่หั้วจิ้งชั้นต้นเป็นเวลานาน แต่แม้จะเป็นแบบนี้เขาก็ยังคงเป็นผู้แข็งแกร่งในบรรดาคนรุ่นเดียวกัน
เพียงแต่นับจากผู้สืบทอดของตระกูลที่ซ่อนตัวเอาไว้พากันลาศีล จุดเด่นของเขาค่อยๆดูลดลง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของเทียนอิง ศีลสาม จียุ่นและจิ่งเถิงล้วนไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่
ทั้งยังมีฉู่เหอที่เป็นผู้แข็งแกร่งคนนี้ ถึงแม้สุดท้ายเขาจะแพ้เฉินเฟิง แต่การต่อสู้ในครั้งนี้เฉินเฟิงเอาชนะด้วยความยากลำบาก ตัดประสบการณ์ด้านการต่อสู้ออกไปยังไม่ต้องพูดถึง ถ้าแค่ด้านความสามารถ เฉินเฟิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉู่เหอ
ความเป็นจริงนี้ทำให้เฉินเฟิงหงุดหงิด ที่เขาท้าประลองหวังอีเตาเมื่อครั้งที่แล้ว ก็เพื่อให้แรงกดดันกับตนเอง วันนั้นเขาจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย จากนั้นก็มาที่นี่เพื่อเตรียมเก็บตัวถือศีลฝึกซ้อมวรยุทธ์ เตรียมตัวสำหรับการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในอนาคต
แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากมาถึงที่นี่ ความเร็วในการฝึกซ้อมจะช้าลง
“เสี่ยวเฟิง อันที่จริงนายใจร้อนเกินไป!”
เย่หนานเทียนถอนหายใจ แล้วพูดต่อ:“ตอนนี้นายทำสุดความสามารถแล้ว ถึงขีดสุดของร่างกายนายแล้ว!”
“แต่ฉู่เหอคนนั้นบรรลุถึงหั้วจิ้งชั้นกลางแล้ว!”
เย่หนานเทียนพูดอธิบาย:“นายกับพวกเขาไม่เหมือนกัน พวกเขาเป็นตระกูลที่ซ่อนตัวเอาไว้ เป็นตระกูลที่สืบทอดวิชาให้กันเอง ถ้าพูดถึงกระบวนท่าและวิชา บางทีนายอาจจะไม่แตกต่างจากพวกเขาเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และความตั้งใจในการฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ นายห่างไกลจากพวกเขา สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ!”
“อะไรนะ?”
“การใช้ยาสมุนไพรในการช่วย ต้องรู้ว่ายาสามารถเปลี่ยนศักยภาพของจอมยุทธ์ได้ เพิ่มพลังภายใน ทำให้บรรลุแดนได้ แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคในวงการศิลปะการต่อสู้ปัจจุบัน ที่ใช้ยาเพื่อย่นระยะเวลาให้สั้นลง!”
“แต่ผู้สืบทอดของศิลปะการต่อสู้โบราณอย่างตระกูลจิ่ง ไม่มีวันทำแบบนี้ พวกเขาใช้ยาค่อยๆเปลี่ยนร่างกาย แต่ไม่ใช้ยาเพื่อบรรลุแดน ในทางกลับกันมองมาที่นาย ไม่เคยใช้ของภายนอกพวกนี้ ก็สามารถมาจนถึงระดับทุกวันนี้ได้ สามารถพิสูจน์ความเก่งกาจของนายได้แล้ว!”
เย่หนานเทียนยิ้มแล้วพูดอธิบายที่มาที่ไปของเรื่องทั้งหมด
“อ่อ ผมเข้าใจแล้ว!”
จู่ๆเฉินเฟิงก็นึกถึงคำพูดของอู่จื่อโจวที่เคยพูดเอาไว้ เขาบอกว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ จะมีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่บรรลุระดับหั้วจิ้งปรากฏออกมา