ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 694
บทที่ 694 บุตรแห่งสภามืด
นึกถึงตรงนี้เซียวเอินแอบชำเลืองมองเฉินเฟิง เห็นว่าเฉินเฟิงไม่ได้แสดงท่าทีอะไร คล้ายกลับว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
ถึงแม้เฉินเฟิงจะไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา แต่เซียวเอินรู้ว่าเฉินเฟิงต้องรู้ตัวนานแล้ว แค่ไม่พูดออกมาก็เท่านั้น
“เป็นอะไรไปหรอครับ?”
เฉินเฟิงหันไปมองเซียวเอินกะทันหัน
“อ๊า? เปล่าครับ ไม่มีอะไร!”เซียวเอินไม่ทันได้ดึงสติกลับมารีบตอบทันที
“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมเชื่อว่ารถยนต์คันข้างหลังไม่กล้าจู่โจมรถคุ้มกันแน่นอน ถ้าพวกเขากล้าทำ อย่างเบาก็คือตาย อย่างหนักก็คือ สร้างความขัดแย้งให้กับสองประเทศ ผมคิดว่าพวกเขาไม่โง่ขนาดนั้น!”
เฉินเฟิงมองไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ พูดวิเคราะห์ออกมา
“คุณเฉินพูดถูกครับ!”
เซียวเอินตอบ คิดดูแล้วสิ่งที่เฉินเฟิงพูดนั้นไม่ผิด แม้ว่าคนพวกนั้นจะมีอำนาจ แต่ความสามารถแบบนี้ตอนที่เผชิญหน้ากับประเทศ เป็นสิ่งที่อ่อนแอมา
เป็นจริงตามนั้น รถยนต์เหล่านั้นเพียงแค่ตามอยู่ไกลๆเท่านั้น ไม่กล้าทำอะไรเกินเลย
ตลอดการเดินทางปลอดภัยมาก ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหน้าประตูโรงแรม
“ฝ่ายตรงข้ามมีผู้คุ้มกันของประเทศเซียวอันเซียวเอินนำเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษสิบคนคอยคุ้มกัน ตอนนี้ถึงโรงแรมแล้ว กรุณาแนะนำ!”
มองดูเฉินเฟิงเดินเข้าโรงแรมโดยถูกคนมากมายคุ้มกัน กองกำลังอีกสามกองกำลังด้านหลัง เห็นภาพนี้ รีบรายงานกับผู้รับผิดชอบที่อยู่เบื้องบน
“คอยจับตาดูต่อไป ห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาด!”
หลังจากเจ้าหน้าที่ที่คอยจับตาดูรายงานไปแล้วนั้น คำตอบที่พวกเขาได้รับแทบจะเหมือนกัน ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าทำอะไรเฉินเฟิงที่นี่
เฉินเฟิงเดินมาถึงเคาน์เตอร์โรงแรม กรอกข้อมูลเล็กน้อย จากนั้นเซียวเอินและเฉินเฟิงพูดคุยกันไม่กี่ประโยค หมุนตัวเดินจากไป ทว่าเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษอีกสิบนายไม่ได้ออกไป พวกเขารับคำสั่งให้ปกป้องคุ้มกันความปลอดภัยของเฉินเฟิง
เวลานี้ ตึกใหญ่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมฮิลตัน
ยีฟูคายังคงแต่งตัวกระฉับกระเฉง มาถึงหน้าประตูห้องๆหนึ่ง เคาะประตู หลังจากได้รับคำตอบ ค่อยเดินเข้าไป
“หัวหน้าใหญ่ ได้รับข้อมูลที่แม่นยำแล้วค่ะ เฉินเฟิงจากประเทศหวาคนนั้น เวลานี้พักอยู่ที่โรงแรมฮิลตันฝั่งตรงข้ามค่ะ!”
ยีฟูคาเพิ่งเดินเข้ามาก็รีบรายงาน คนที่อยู่ตรงหน้าเธอคือวิลเลียมบุตรแห่งสภาพมืด
วิลเลียมพยักหน้าเพื่อส่งสัญญาณบอกให้ยีฟูคาพูดต่อ
“วันนี้เฉินเฟิงเพิ่งลงจากเครื่องบิน กลุ่มชิงหง แก๊งมาเฟียรวมถึงเสินอิ่นของประเทศญี่ปุ่น ทั้งสามกองกำลังคอยสะกดรอยตามหลังเขา จนกระทั่งเฉินเฟิงเข้าไปในโรงแรม!”
“แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ แก๊งมาเฟีย เสินอิ่นและกลุ่มชิงหงสะกดรอยตามเท่านั้น ไม่ได้ลงมือทำอะไร อีกทั้งจากรายงานที่พวกเราได้รับ กองกำลังทั้งสามไม่มียอดฝีมือแม้แต่คนเดียว!”
ยีฟูคาพูดถึงตรงนี้หยุดชะงักไป จากนั้นพูดต่อ:“ต้องรู้ก่อนว่าเฉินเฟิงไม่ใช่คนที่จะสามารถรับมือได้ง่ายๆ ทั้งสามกองกำลังไม่ส่งยอดฝีมือมาแม้แต่คนเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่อยากและไม่มีทางที่จะลงมือทำอะไรเฉินเฟิงที่ลอนดอน ผิดปกติเกินไปแล้ว!”
“ฮ่าๆ ปกติมาก!”
วิลเลียมหัวเราะแล้วพูดต่อ:“ตอนนี้เฉินเฟิงเป็นตัวแทนของประเทศหวาในการเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกแล้ว ในเวลาสำคัญแบบนี้ถ้ากองกำลังไหนใช้ยอดฝีมือที่เป็นพวกผู้อาวุโสจัดการเฉินเฟิง ข้อหนึ่ง สหพันธ์บูโดของประเทศหวาต้องแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งแน่นอน ข้อสอง ถ้าหากทั้งสามกองกำลังทำแบบนี้ องค์กรศิลปะการต่อสู้โลกไม่ว่าจะด้านไหนก็ไม่มีวันนิ่งดูดายแน่!”
“เดิมทีพวกเขาเป็นศัตรูแค่กับเฉินเฟิงคนเดียว ถึงเวลานั้นเกรงว่าจะเป็นศัตรูกับทั้งสหพันธ์บูโดของประเทศหวาแล้ว อีกทั้งพวกเขาทำแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นองค์กรศิลปะการต่อสู้โลกอยู่ในสายตา ผลที่ตามมาพวกเขาไม่สามารถรับเอาไว้ได้!”
“แน่นอน ยังมีข้อหนึ่ง ทั้งสามกองกำลังนี้มีลูกศิษย์หรือผู้สืบทอดเข้าร่วมการแข่งขัน ถ้าพวกเขาลงมือทำอะไรเฉินเฟิงก่อน ก็จะถูกคนอื่นพูดว่า ผู้สืบทอดของพวกเขาเทียบกับเฉินเฟิงไม่ได้!”
บุตรแห่งสภามืดคนนี้ไม่ใช่คนทั่วไป แค่คำพูดสั้นๆไม่กี่คำ ก็สามารถวิเคราะห์ต้นเหตุปลายสายทั้งหมดได้แล้ว
“อื้ม น่าจะเป็นแบบนี้ค่ะ!”
ยีฟูคาพยักหน้าเห็นด้วยกับคำอธิบายของวิลเลียม
“แต่ว่าพูดกลับมาแล้ว หลังจากจบการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก ฉันคิดว่าทั้งสามกองกำลังต้องจัดการเฉินเฟิงอย่างเต็มพิกัดแน่นอน ถึงขึ้นร่วมมือกัน!”
“ถึงเวลานั้น เขาไม่สามารถถอยหลังได้ มีแค่ตายเท่านั้น!”
วิลเลียมเดินไปที่หน้าต่าง มองไปยังโรงแรมฮิลตันที่อยู่ไกลๆ หัวเราะในลำคอ
“หัวหน้าใหญ่ จากความสามารถของหัวหน้าฆ่าเฉินเฟิงง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ!”
ยีฟูคากล่าวชมข้างๆ
“เป็นคนที่มีความหมาย ฉันอยากจะหักคอมันทันทีจริงๆ!”
สายตาของวิลเลียมคล้ายกับว่าสามารถมองเห็นเฉินเฟิงที่อยู่ในโรงแรม นัยน์ตาของเขาฉายเจตนาฆ่า เผยความเหี้ยมโหด
“เอ่อ…….!”ยีฟูคาลังเลอยู่พักหนึ่ง ไม่กล้าพูดออกไป
วิลเลียมมองไปที่เธอแล้วยิ้ม พร้อมกับพูดขึ้น:“วางใจเถอะ ถึงแม้ฉันจะใจร้อนไปหน่อย แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลา ถ้าตอนแข่งศิลปะการต่อสู้ ต่อหน้าประเทศต่างๆทั่วโลก หักคอของเขา ถึงเวลานั้น ฉันจะกลายเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในสายตาของทุกคน!”
คำพูดของวิลเลียมเต็มไปด้วยความทระนง ไม่แปลกที่จะบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลางตั้งแต่อายุอย่างน้อย อีกทั้งผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในอันดับเทพยังเป็นอาจารย์ของเขา เขามีสิทธิ์ที่จะหยิ่งทระนงตน
ลอนดอนเป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ ในทางเดียวกันก็เป็นใจกลางเศรษฐกิจ มองไปแล้วเต็มไปด้วยความหรูหราสุดลูกหูลูกตา
อากาศในลอนดอนชื้นเล็กน้อย ฝนตกบ่อย วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ฝนหยุดตกแล้ว พระอาทิตย์สาดแสงออกมาจากก้อนเมฆ ทำให้พื้นดินอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย
บนท้องถนนมีรถยนต์โรลส์รอยซ์กำลังมุ่งหน้าไปยังย่านร่ำรวย
“ตอนที่เพิ่งลงจากเครื่องบินท้องฟ้ายังสดใสอยู่เลย ตอนนี้มืดครึ้มอีกแล้ว!”
ข่ายซ่าที่นั่งอยู่บนรถยนต์อดไม่ได้ที่จะบ่น คล้ายกับว่าไม่ชอบอากาศแบบนี้ อากาศแบบนี้ทำให้อารมณ์ไม่ดี
“เอ่อ ซูซานวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เธอกลับไปพักผ่อนให้เต็มที่!”
ข่ายซ่าหันหน้าไปบอกกับซูซานที่อยู่ข้างๆ
“ค่ะ ได้ค่ะ!”
ถึงแม้ซูซานจะตอบ แต่สีหน้าของเธอหดหู่ เธอเป็นผู้ช่วยของข่ายซ่า แต่อีกฐานะหนึ่งเธอก็เป็นผู้หญิงของข่ายซ่าด้วย ทุกครั้งที่พวกเขากลับมาจากการเดินทาง ล้วนจะกลับไปที่วิลล่า จากนั้นก็ดื่มด่ำความรักระหว่างชายหญิง
แต่วันนี้ข่ายซ่ากลับให้เธอตรงกลับไป ซูซานรู้ว่าเป้าหมายของข่ายซ่าในตอนนี้คือองค์หญิงแอนนี่
ซูซานสวยมาก หุ่นก็ดี แต่เมื่อเทียบกับองค์หญิงแอนนี่แล้ว ยังไม่อาจเทียบได้ หรืออาจจะบอกว่าคนละชั้น
ตอนนี้สิ่งเดียวที่ข่ายซ่าคิดคือการเอาใจองค์หญิงแอนนี่ โยนเธอทิ้งไปนานแล้ว ถึงแม้ในใจของซูซานจะไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
นิสัยของเธอเป็นแบบนี้ ตอนที่รู้สึกแย่เธอยอมเก็บมันเอาไว้ ไม่ยอมบอกให้ใครรู้
ซูซานเปิดประตูรถ ลงจากรถ จากนั้นขึ้นไปนั่งที่รถของตนเอง ขับตรงไปที่วิลล่า
แต่สิ่งที่ซูซานไม่รู้ก็คือ ช่วงนี้ที่เธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ่อยๆ รู้สึกตื่นตกใจนั้น เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากเฉินเฟิง
เฉินเฟิงนอนอยู่บนเตียง หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาองค์หญิงแอนนี่