ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 699
บทที่ 699 ขอโทษ
“คุณเฉิน ขอโทษที่ผมไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนได้ ที่นี่มีผลไม้และเหล้า ท่านเชิญตามสบาย ผมจะไปรายงานสถานการณ์กับองค์หญิงก่อนนะครับ! ”
เซียวเอินพูดด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด เมื่อครู่นี้เขาเห็นสีหน้าไม่กี่คนที่อยู่ตรงประตู ภายในใจรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา
“เซียวเอินเกรงใจเกินไปแล้ว ท่านรีบไปเถอะ! ”
ทีแรกเฉินเฟิงก็มองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าเซียวเอินไปหาองค์หญิงแอนนี่ไม่ได้จะไปรายงานเรื่องที่ตนมาถึงงานเลี้ยง แต่อยากจะไปเชิญองค์หญิงแอนนี่มาทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับข่ายซ่าญาติดีกัน แค่เรื่องเหล่าบางเรื่องรู้ก็รู้แล้ว แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้
เห็นเฉินเฟิงไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เซียวเอินก็รีบสาวเท้าออกจากที่นี่
ถึงแม้ข่ายซ่าจะถูกกลุ่มคนล้อมรอบ ทว่านัยน์ตาของเขากลับมองทิศทางที่เฉินเฟิงอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้พอเห็นเซียวเอินจากไปตามลำพัง เขาก็รีบออกจากท่ามกลางผู้คน
“คุณเซียวเอิน ไม่รู้ว่าตอนนี้องค์หญิงอยู่ที่ไหน? ” ข่ายซ่ายังไม่ถึงข้างกายเซียวเอิน ก็รีบเอ่ยพูดขึ้นแล้ว
เซียวเอินลังเลสักพัก แล้วกำลังครุ่นคิดว่าจะบอกฝ่ายตรงดีหรือไม่ เวลานี้ก็มีเสียงๆ หนึ่งเรียกขึ้น “รีบดูเร็ว องค์หญิงเสด็จออกมาแล้ว! ”
เสียงพูดยังไม่ทันจบลง ทุกคนก็หันไปมองทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของราชวัง แค่เห็นองค์หญิงแอนนี่ทำสีหน้าที่เคล้าด้วยรอยยิ้ม แล้วสวมใส่ชุดกระโปรงยาวสีขาวบริสุทธิ์ พร้อมค่อยๆ เดินมา เธอยังคงสวยขนาดนั้น ชุดกระโปรงยาวสีขาวประดับประดาไปด้วยเพชรพลอย ทั้งสูงส่งและไม่ขาดความสง่าผ่าเผย
ตรงคอยังสวมใส่สร้อยเส้นหนึ่ง ตรงมือก็ใส่กำไลหยกไว้ เพชรพลอยบนเรือนร่างของเธอไม่น้อยกว่าสิบ
หากคนปกติสวมใส่แบบนี้ อาจจะทำให้ดูพื้นๆ ธรรมดาๆ ทว่าองค์หญิงแอนนี่สวมใส่กลับไม่เหมือนผู้อื่น
ด้านหลังแอนนี่มีสาวใช้สองคนกำลังถือกระโปรงของเธอไว้
ตอนที่แอนนี่เดินมา นัยน์ตามองหาเรือนร่างของเฉินเฟิงที่อยู่ท่ามกลางผู้คนไม่หยุด พอมองไปสักพักกลับไม่เห็นเฉินเฟิง แอนนี่จึงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย สำหรับคนอื่นแอนนี่ไม่เจอชำเลืองมองเพียงแต่พริบตาเดียว รวมไปถึงข่ายซ่าที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลโรโปรี ต่างก็ไม่มีสิทธิ์ๆ นี้
องค์หญิงแอนนี่ดูผิดหวังอย่างมาก ทว่าเวลานี้สายตาของเธอกวาดมองไปเรื่อยเปื่อย ก็เห็นเรือนร่างนั้นที่คุ้นเคย เวลานี้กำลังอยู่ตรงประตูตามลำพัง องค์หญิงแอนนี่ทำนัยน์ตาเปล่งประกาย รอยยิ้มดูเบิกบานมากขึ้น เฉินเฟิงมาแล้ว
“องค์หญิงผู้ทรงสูงส่ง คืนนี้ท่านดูงดงามอย่างผิดปกติ หากเทียบกับความงามของท่าน ทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ ก็ดูมืดมัวไม่มีความสว่างใดๆ! ”
หลังจากครุ่นคิดอย่างเงียบๆ ไปในระยะเวลาสั้นๆ ข่ายซ่าก็ออกจากท่ามกลางผู้คนด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ แล้วเดินมาตรงข้างๆ องค์หญิงแอนนี่ จากนั้นก็เอ่ยชมเธออย่างไม่ปิดบัง
“ขอบคุณค่ะ! ”
การที่ต้องเผชิญกับการถูกเอ่ยชม องค์หญิงแอนนี่จึงกล่าวขอบคุณอย่างมีมารยาทมากๆ
“องค์หญิงแอนนี่ ความงดงามของท่านเกรงว่าแม้แต่นางฟ้ายังไม่มี! ”
“ใช่ ที่ๆ มีองค์หญิงแอนนี่ รอบข้างก็จะเต็มไปด้วยความสว่าง! ”
แขกที่อยู่รอบข้างต่างก็เดินมาข้างหน้า แล้วต่างพูดด้วยความเคารพและยินดี
ไม่นับถือไม่ได้กับการแต่งกายที่สุภาพบุรุษมากๆ ของคนเหล่านี้ หนังหน้ากลับด้านอย่างผิดปกติ ในปากยังคงพูดคำพูดที่ทำให้คนรู้สึกขนลุก หน้าไม่แดง หัวใจก็ไม่เต้นเร็ว
องค์หญิงแอนนี่ยังคงทำสีหน้าที่เคล้าด้วยรอยยิ้ม แล้วในเวลานี้ จู่ๆ ข่ายซ่าก็พูดขึ้น “องค์หญิงแอนน่าผู้งดงาม ไม่ทราบว่าคืนนี้ท่านได้เชิญชวนสหายจากประเทศหวามาหรือไม่? ”
คำพูดนี้ของข่ายซ่านั้นเสียงดังเล็กน้อย นี่เขาตั้งใจพูดแบบนี้ ตอนที่คำพูดของเขาเอ่ยออกไป ทันใดนั้นก็ทำให้ทั้งงานเต็มไปด้วยความเงียบสงบ
“ใช่ มีปัญหาอะไรหรอ? ”
ได้ยินคำพูดนี้ของข่ายซ่า แอนนี่ก็นิ่งงันไปสักพัก ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามหมายความว่าอะไร
“องค์หญิง คือแบบนี้ ผมกับคนประเทศหวาเจอกันสองครั้ง ทว่าท่าทีของฝ่ายตรงข้ามกลับทำให้คนโกรธจนผมชี้ขึ้นมา เหมือนกับคนป่าเถื่อนที่ไม่สำเร็จทางด้านวิวัฒนาการ อีกอย่างไม่เพียงแต่ผมที่คิดแบบนี้ แขกที่อยู่รอบๆ ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน! ”
“ในมุมมองของผมแล้ว คนแบบนี้ มาร่วมงานของท่าน นี่เป็นการไม่ให้เกียรติท่าน ผมแนะนำให้รีบไล่เขาออกไป! ”
ตอนนี้ข่ายซ่าพูดขึ้นอย่างรีรอไม่ได้ เขาเหมือนอยากจะให้องค์หญิงแอนนี่รีบไล่เฉินเฟิงออกไปทันที
หลังจากที่คำพูดของข่ายซ่าพูดออกมา แขกทั้งหมดที่อยู่รอบๆ ต่างก็มองไปตรงมุมที่เฉินเฟิงอยู่
ตรงมุมที่ไม่ได้มีความน่าดึงดูดใดๆ เฉินเฟิงยืนอยู่ตรงนั้นตัวคนเดียว ปรากฏการณ์แบบนี้กับบรรยากาศในตอนนี้นั้นไม่เข้ากันเลยสักนิด
องค์หญิงแอนนี่มองเฉินเฟิงเพียงชั่วพริบตา นัยน์ตาเคล้าด้วยความโมโห เธอโมโหข่ายซ่า เธอโกรธที่ข่ายซ่าพูดคำพูดเมื่อครู่นี้
ข่ายซ่าคอยสังเกตมองสีหน้าของแอนนี่อยู่ข้างๆ ตลอดเวลา พอเห็นองค์หญิงหุบยิ้ม สีหน้าหม่นหมองลง ข่ายซ่าไม่รู้ว่าทำไม ภายในใจรู้สึกมัวหมองตาม
“เกิดอะไรขึ้น? ”
ในบรรดากลุ่มคนที่ค่อนข้างฉลาด ตอนนี้ก็ดูออกว่าเกิดสถานการณ์ที่ผิดปกติ
“คุณข่ายซ่า คุณต้องรู้ว่า คืนนี้เป็นงานวันเกิดของฉัน ไม่ใช่ของคุณ คุณจะมองสหายจากประเทศหวาของฉันยังไง ฉันไม่สน ทว่าไหนๆ ก็เป็นสหายของฉัน งั้นก็ต้องห้ามพูดจาเหยียดหยาม! ”
องค์หญิงแอนนี่ถึงแม้จะพูดด้วยเสียงเบา ทว่าทุกคนต่างก็ฟังออกว่าองค์หญิงโกรธแล้ว หากพูดอย่างถูกต้องก็คือโมโห
“ท่านข่ายซ่า ท่านไม่เคารพสหายของฉัน ก็คือไม่เคารพฉัน หรือว่าคืนนี้ท่านมาที่นี่ ก็เพื่อที่จะมาเหยียดหยามฉัน? ”
“องค์…….องค์หญิง! ”
ต่อให้ข่ายซ่าจะโง่มากเพียงใด ตอนนี้ก็ฟังออกถึงคำพูดของแอนนี่และก็ได้สติกลับมา อีกทั้งเขาเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม ตอนนี้พอสังเกตเห็นถึงสถานการณ์ว่าไม่ดี ก็รีบดึงคำพูดกลับมา
แค่ว่า ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว
“ท่านข่ายซ่า ตอนนี้ฉันต้องบอกกับท่านอย่างจริงๆ จังๆ ท่านรีบขอโทษสหายของฉัน หากสหายของฉันไม่ให้อภัยท่าน งั้นต้องขอโทษด้วย ฉันทำได้เพียงเชิญท่านออกไป! ”
คำพูดขององค์หญิงแอนนี่นั้นหนักแน่นมาก และไร้ข้อสงสัยใดๆ
หลังจากที่คำพูดขององค์หญิงจบลง ทุกคนต่างก็นิ่งงันไป สีหน้าของแต่ละคนแสดงสีหน้าที่คาดคิดไม่ถึงออกมา
แขกบางส่วนที่อยู่ในงานไม่รู้ข่ายซ่าและเฉินเฟิงมีความเคียดแค้นยังไงกัน ทว่าเมื่อครู่นี้ข่ายซ่าเพิ่งจะแสดงออกมา ก็ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้ว องค์หญิงแอนนี่เพิ่งจะเดินออกมา ข่ายซ่าก็พูดออกมาอย่างชัดเจนว่าต้องให้องค์หญิงไล่คนประเทศหวาออก ทว่าใครก็นึกไม่ถึงว่าองค์หญิงแอนนี่กลับพูดแบบนี้ออกมา
ไม่ต้องพูดว่าทุกคน แม้แต่ตอนนี้ข่ายซ่าก็ตอบสนองกลับมาไม่ทัน
เขานึกไม่ถึงว่าองค์หญิงแอนนี่จะข่มเหงเขาต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ อีกอย่างคำพูดเมื่อครู่นี้ขององค์หญิงแอนนี่ หรือว่าเป้าหมายที่เขามาที่นี่ก็เพื่อที่จะข่มเหงเธอ
คำพูดนี้มันแย่มากแล้ว ต้องรู้ว่าเขาเป็นตัวแทนของครอบครัวโรโปรี จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้สติกลับมา
ครอบครัวโรโปรีแม้ว่าจะมีอิทธิพลและอำนาจอันใหญ่หลวง ทว่าก็ไม่ได้เก่งกาจจนกล้าที่จะไม่เห็นตระกูลราชวงศ์อยู่ในสายตา
คำพูดขององค์หญิงแอนนี่ ได้ตบหน้าเขาแรงๆ ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้โดยไร้ข้อสงสัยใดๆ
ตอนนี้ทุกคนต่างก็มองไปยังตรงมุมที่เฉินเฟิงอยู่ เมื่อครู่นี้เฉินเฟิงไม่ได้โดดเด่นขนาดนั้นในสายตาของพวกเขา ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นที่ดึงดูดของทุกคน
ข่ายซ่าทำสีหน้าที่ขาวซีด และเหมือนกำลังจะพูดอะไรออกมา เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนสถานการณ์นี้
“องค์หญิง…….ผม! ”
ตอนนี้ภายในใจของเขารู้สึกขุ่นเคือง และรู้สึกโมโหมาก เขาฝันยังนึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาที่อยู่ในที่สูงส่ง ทว่ากลับนึกไม่ถึงว่าตอนนี้กลับถูกบีบบังคับมาถึงขั้นนี้
“ฉันพูดแล้ว ไม่งั้นก็ขอโทษ ไม่งั้นก็ออกจากที่นี่ ฉันไม่ทวนคำพูดอีกครั้ง อีกอย่างการตัดสินใจของฉันไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน! ”
ยังไม่ทันให้ข่ายซ่าพูดจบ องค์หญิงแอนนี่ก็พูดแทรกคำพูดของเขา สีหน้าดูเคร่งขรึม และไร้ข้อสงสัยใดๆ