ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 707
บทที่ 707 ผลการแบ่งกลุ่ม
“หึ มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือไม่ก็โชคดีเท่านั้นแหละ แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะโชคดีแบบนั้น ครั้งนี้นายหนีไม่พ้นหรอก ฉันจะเป็นคนหักคอนายด้วยตัวเอง!”
รอน ชาย์เฟร์มีสีหน้าไม่พอใจ ตอนนี้เขาแทบจะพุ่งตัวเข้าไปสู้กับเฉินเฟิงสักตั้ง
“โชคดีอย่างนั้นหรือ? เฮอะๆ ฆ่าคนอย่างนายใช้แค่ความสามารถก็เพียงพอแล้ว!”
เฉินเฟิงยิ้มบางๆราวกับว่ารอน ชาย์เฟร์ไม่ได้มีค่าอะไรในสายตาเขา และความจริงแล้วเฉินเฟิงก็คิดแบบนั้นจริงๆ รอน ชาย์เฟร์ก็แค่อุ่นเครื่อง หลังจากนี้ยังมีคู่ต่อสู้คนสำคัญอีก
“ว่าไงนะ?”
รอน ชาย์เฟร์คิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะมองข้ามตนแบบนี้ วินาทีนี้เขาโมโหจนแทบสำลัก หากไม่ใช่เพราะกลัวจะผิดกฎการแข่งขันเขาคงลงมือไปแล้ว
“ดีมาก หวังว่าตอนแข่งจริง นายจะกล้ามากพอเหมือนอย่างที่พูดตอนนี้ล่ะ!”
ตอนที่เขาโต้กลับ เฉินเฟิงไม่ได้สนใจเขาด้วยซ้ำ มัวแต่เสียน้ำลายกับคนประเภทนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะสุดท้ายแล้วความสามารถคือสิ่งที่กำหนดทุกอย่าง
ตอนนี้คนที่อยู่ไกลออกไปอย่างจั่วจู้อัจฉริยะจากประเทศญี่ปุ่น หงอี้ทายาทสายตรงของหงเทียนป้าแห่งสำนักหงเหมิน รวมถึงวิลเลียมและอาเธอร์กำลังมองพวกเขาอยู่ โดยที่มีความอาฆาตอย่างแรงกล้าแผ่ซ่านออกมาจากตัว
ยังมีอีกคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างคนเหล่านี้นั่นก็คือเติ้งนีจากพระพุทธศาสนาอินเดีย เขาก็กำลังมองเฉินเฟิงอยู่ทว่าแววตาไม่มีความอาฆาต มีเพียงการประกาศสงครามเท่านั้น แววตาของเขาราวกับกองไฟกำลังลุกโชน เขาอยากประชันฝีมือกับเฉินเฟิงในตำนานใจจะขาด
สำหรับคนพวกนี้นอกจากเติ้งนีแล้ว เฉินเฟิงแทบจะไม่มองคนอื่นเลย เขาไม่ได้รู้สึกกลัวเพียงแต่เขาไม่เห็นสายตาอาฆาตของคนพวกนั้นอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ?
“เอาล่ะ ทุกคนเงียบก่อน ตอนนี้ขอเชิญผู้เข้าแข่งขันทุกคนเรียงแถวขึ้นมาจับสลากหมายเลขของตัวเองบนเวที”
โจ้ส์ยืนอยู่บนเวที เสียงของเขาเป็นดั่งระฆังเพื่อบอกกับผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ด้านล่าง
โจ้ส์เอ่ยจบ ผู้เข้าแข่งขันคนแรกแถวแรกก็เดินขึ้นเวทีอย่างไม่ลังเล ส่วนคนอื่นก็ทยอยเดินมาต่อแถวเพื่อรอคิวจับสลากของตัวเอง
“ซวยแล้ว ทำไมฉันซวยขนาดนี้ ฉันจับได้กลุ่มหนึ่ง!”
“ว้อท ฉันได้อยู่กลุ่มเดียวกับวิลเลียม นี่ไม่ใช่เรื่องตลกใช่ไหม!”
“พวกนายหยุดโวยวายได้แล้ว ฉันได้อยู่กลุ่มเดียวกับเฉินเฟิง ไอ้ตัวซวยคนนี้จะไม่คลุ้มคลั่งแล้วฆ่าฉันใช่ไหม?”
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีผู้เข้าแข่งขันหยิบหมายเลขของตัวเองออกมาจากกล่องก็มักจะมีเสียงอุทานตามมาด้วยเสมอ มีทั้งคนที่ดีใจและเศร้าใจ ทว่าโดยสรุปแล้วคนที่ดีใจจะมีเยอะกว่า เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ดวงซวยขนาดนั้น
การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้เป็นการรวบรวมผู้แข็งแกร่งจากใต้หล้ามาไว้ที่นี่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะขี้ขลาด คนส่วนมากมักจะมั่นใจในความสามารถของตัวเองถึงขีดสุด พวกเขาคิดว่าขอเพียงไม่เจอผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในอันดับต้นๆก็อาจจะไม่แพ้
นอกจากผู้แข็งแกร่งทั้งสิบหกคนที่ไม่ต้องจับสลาก คนที่เหลือล้วนไม่มีข้อยกเว้น อีกทั้งหนึ่งประเทศมีผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดเลือกเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น เช่นนั้นคนที่เหลือทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหงอี้ทายาทสายตรงของหงเทียนป้าหรือรอน ชาย์เฟร์ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการจับสลาก มูเนียร์ฉายาเสือจากัวร์จากประเทศอเมริกาก็เป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งทั้งสิบหกคน
หงอี้ก้าวไปด้านหน้าเพราะถึงคิวเขาจับสลากแล้ว เขากวาดสายตามองเฉินเฟิงด้วยสีหน้าเย็นชา แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาต จากนั้นก็ยื่นมือเข้าไปหยิบสลากในกล่องได้บอลออกมาลูกหนึ่งด้านบนมีเลข 45 เขียนอยู่ เขาถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่สิบห้า
ผลลัพธ์นี้ทำให้เขาผิดหวังพอสมควร เขาผิดหวังที่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับเฉินเฟิง เช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถกำจัดเฉินเฟิงได้โดยเร็ว
ทว่าถึงแม้จะผิดหวังแต่เขายังไม่หมดกำลังใจ ตามกฎการแข่งขันแล้วกลุ่มที่สิบห้าและกลุ่มที่สิบหกต้องประชันกันเพื่อคัดคนออก ยังมีความหวังอยู่ เมื่อคิดถึงข้อนี้หงอี้ก็กลับมามีความหวังอีกครั้ง
จากความสามารถของเฉินเฟิงขอเพียงไม่เจอผู้แข็งแกร่งระดับสูง ได้อยู่กลุ่มที่สิบหกก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้ารอบต่อไป
“โอ๊ะ หงอี้นายดวงดีนะเนี่ย จากอันดับในตอนนี้นายอาจจะได้ฆ่าไอ้กระต่ายจากประเทศหวานั้นเร็วกว่าที่คิด!”
รอน ชาย์เฟร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังของหงอี้ เขากวาดสายตามองเลขของหงอี้ก่อนเอ่ยขำ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้วล่ะ แต่ไม่แน่นะ นายอาจจะดวงดีกว่าฉัน ได้ฆ่ามันในเร็วๆนี้ก็ได้!”
หงอี้หัวเราะ เขาไม่รู้จักรอนแม้แต่หน้าก็ไม่เคยเจอมาก่อน ทว่าเขาคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอเพียงพวกเขามีเป้าหมายเดียวกันก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ แม้จะเป็นเพื่อนแค่ลมปากเท่านั้น
หลายวันมานี้ไม่ว่าจะเป็นหงอี้แห่งสำนักหงเหมินหรือรอน หรือแม้แต่จั่วจู้อัจฉริยะศิลปะการต่อสู้จากประเทศญี่ปุ่นล้วนเห็นเฉินเฟิงเป็นแค่ลูกไก่ในกำมือของพวกเขาเท่านั้น ทว่าในตอนนี้ต้องมาดูกันว่าใครจะดวงดีได้ฆ่าเฉินเฟิงก่อน
ถึงแม้คนเหล่านี้จะไม่พูดออกมาทว่าในใจกลับงัดข้อกันอยู่ว่าใครจะฆ่าเฉินเฟิงได้ก่อน
“ซาตานจงอวยพรให้ข้าพเจ้าได้อยู่กลุ่มที่สิบหกด้วยเถิด ข้าพเจ้าจะฆ่าเฉินเฟิงด้วยตัวเอง!”
รอนอธิษฐานในใจจากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆครั้งหนึ่งแล้วหยิบลูกบอลลูกหนึ่งออกมาจากกล่อง หมายเลขบนลูกบอลกลับเป็นเลขสี่สิบแปด
หมายเลขสี่สิบหก สี่สิบเจ็ด สี่สิบแปดทั้งสามหมายเลขนี้ล้วนจัดเป็นกลุ่มที่สิบหก นั่นหมายความว่า……
รอนชะงักไปอย่างเห็นได้ชัดทำใจไม่ได้ในทันที เขาคิดไม่ถึงเลยว่าความปรารถนาของเขาจะกลายเป็นจริง
ปฏิกิริยาของเขาทำให้หงอี้ที่อยู่ด้านหลังเกิดความสงสัยจึงชะโงกตัวไปดูหมายเลขของรอน ก่อนเอ่ยอย่างไม่จริงใจ “เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่านายดวงดี นายได้อยู่กลุ่มที่สิบหกจริงด้วย ยินดีด้วย!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เมื่อได้ฟังคำพูดของหงอี้ รอนจึงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ หัวเราะอย่างดีใจราวกับถูกลอตเตอรี่
“ไอ้หยา หงอี้เพื่อนยาก ขอโทษด้วยจริงๆนะ เห็นทีเฉินเฟิงคนนี้คงไม่มีโอกาสรอดชีวิตไปถึงการแข่งขันรอบถัดไปแล้วล่ะ!”
ขณะที่เอ่ยปากพูดสายตาของรอนก็มองไปยังเฉินเฟิงที่อยู่ไม่ไกล แววตาของเขามีความสะใจ ในสายตาเขาเฉินเฟิงคือคนที่ตายแล้ว
เสียงหัวเราะที่น่าเกลียดและสีหน้าที่น่าขยะแขยงของรอน เฉินเฟิงเองก็มองเห็นและเขาก็คาดเดาได้อย่างคร่าวๆ เพียงแต่เขาไม่ได้ใส่ใจเท่านั้น หันไปมองจอที่อยู่ด้านหลังของเวทีเพื่อรอดูว่าเทียนอิง ศีลสามและจียุ่นจะได้อยู่กลุ่มไหน
ตอนนี้ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดกำลังต่อแถวรอจับสลาก ทุกครั้งที่มีคนจับได้หมายเลขของตนเองแล้ว จอขนาดใหญ่ด้านหลังก็จะปรากฏข้อมูลโดยอัตโนมัติ
ทุกคนจับหมายเลขของตนเองไปตามลำดับ ไม่นานก็ถึงคิวของเทียนอิง เฉินเฟิงหันไปมองก็พบว่าหมายเลขของเทียนอิงคือเลขห้า จากการแบ่งกลุ่มตามหมายเลขทำให้เขาถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่สิบสอง
ผู้แข็งแกร่งของกลุ่มที่สิบสองคือปาข่าเกอจากอียิปต์ เทียนอิงก็รู้ดีสายตาของเขาจึงจับจ้องไปยังปาข่าเอ่อที่อยู่ด้านล่างเวที โดยประกาศสงครามผ่านทางสายตาอย่างชัดเจน
ผ่านไปสักพักหมายเลขของจียุ่นก็ปรากฏ หมายเลขของเขาคือเลขเก้า ตามหมายเลขเขาถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ห้า และผู้แข็งแกร่งของกลุ่มที่ห้าคือเติ้งนีจากอินเดีย
จียุ่นมองเลขสลับกับเติ้งนี สีหน้าของเขาดูหดหู่ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจนักที่ตนได้อยู่กลุ่มที่ห้า