ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 711
บทที่ 711 หนึ่งกระบวนท่า
“ไม่ต้อง”
ลีฝูพูดขึ้นก่อนว่า เพียงแต่สายตาของเขาไม่ได้มองผู้ตัดสินเลย แต่จ้องมองดูวิลเลียมอยู่ตลอด
ตอนนี้วิลเลียมกำลังส่ายหัว แสดงให้รู้ว่าไม่มีความเห็นอะไร
“ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นตอนนี้การแข่งขัน…เริ่มขึ้นได้”
เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่มีความเห็นใดๆ เข้าใจกฎกติกาของการแข่งขันแล้ว ผู้ตัดสินก็ไม่พูดอะไรอีก ก้าวถอยหลังไป แล้วก็โบกมือข้างเดียว การแข่งขันเริ่มขึ้นตั้งแต่บัดนี้
“หวือ”
กรรมการตัดสินเพิ่งพูดเสร็จ วิลเลียมก็รีบลงมือก่อนทันที ถีบด้วยเท้าข้างเดียว พุ่งไปหาลีฝูอย่างรวดเร็วมาก
เพราะวิลเลียมรวดเร็วมาก พวกผู้ชมต่างก็มองไม่เห็นตัวเขา เห็นเพียงเงารางๆของวิลเลียม และท่ามกลางผู้คนในตอนนี้ มีเพียงแขกวีไอพีกับผู้แข็งแกร่งหลายคน ที่เห็นภาพนี้อย่างชัดเจน
ลีฝูที่มาจากเวียดนาม เหมือนจะคิดไม่ถึงว่าวิลเลียมจะรวดเร็วได้ขนาดนี้ ตอนนี้จึงตอบโต้อะไรไม่ทัน ก้าวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
แต่การกระทำของเขาก็ยังช้าไป อย่างน้อยก็ช้ามากสำหรับวิลเลียม
ร่างกายของวิลเลียมปรากฏอยู่ด้านข้างลีฝูในทันใด เมื่อปรากฏตัวแล้วก็ลงมือต่อยหมัดออกไปอย่างไม่ลังเล
ลีฝูไม่ทันตั้งตัว ทำได้เพียงอาศัยประสบการณ์ในการต่อสู้ที่มีมาหลายปีป้องกันตัว
“ปัง”
เสียงดังปังดังขึ้น หมัดของวิลเลียมต่อยบนแขนของลีฝู ลีฝูร้องลั่นอย่างเจ็บปวด แขนถูกวิลเลียมต่อยจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
หมัดหนึ่งต่อยลงไป วิลเลียมก็ไม่ได้หยุดการโจมตี ทำการชกไปที่ศีรษะของลีฝูอีกครั้ง
“ปัง”
ลีฝูไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลย หรือจะพูดว่าอยู่ตรงหน้าวิลเลียม เขาไม่คู่ควรที่จะมีโอกาสแบบนี้ หัวของเขาเหมือนดั่งเต้าหู้ ถูกวิลเลียมทุบระเบิด เลือดพุ่งออกมาในทันที
หลังจากวิลเลียมโจมตีไปแล้วหนึ่งครั้ง ก็ถอยหลังไป เพียงพริบตาเดียว ก็ถอยห่างออกไปไกลหลายเมตร ไม่เปื้อนเลือดของลีฝูแม้เพียงนิด
พัฟ
ร่างกายของลีฝู สูญเสียกำลังทั้งหมดจนสิ้น ล้มลงจนฝุ่นตลบ
วิธีที่โหดเหี้ยมของวิลเลียมนี้ ทำให้การต่อสู้ของทั้งสองคนจบลงอย่างรวดเร็ว สร้างความตกใจให้กับผู้ชม
การแข่งขันจบสิ้นลง แต่กลับไม่มีเสียงใดๆจากผู้ชม
ภายใต้แสงอาทิตย์สาดส่อง วิลเลียมยืนดูผู้ชมอยู่อย่างห่างไกล สายตาจ้องมองไปยังเฉินเฟิงอีกครั้ง ในสายตายังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายกระหายเลือด
หลังจากนั้นก็หันตัวเดินออกไปจากสนามแข่งขัน การแข่งขันในครั้งนี้สำหรับเขา ช่างเป็นอะไรที่ง่ายมาก
ฆ่าลีฝูที่เป็นนักสู้ระดับแบบนี้ สำหรับเขาแล้วถือเป็นสิ่งที่น่าเบื่อมาก ไม่สามารถกระตุ้นปลุกเร้าความต้องการสู้ภายในใจของเขาได้เลย
“ดีเยี่ยม”
เมื่อวิลเลียมเดินลงมาจากเวทีการแข่งขัน ก็มีเสียงปรบมือดังกึกก้องจากผู้ชม ในขณะเดียวกันก็มีคนตะโกนร้องว่าดีเยี่ยม มาถึงวินาทีนี้พวกเขาถึงค่อยรู้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในชนชั้นสูงกำลังนับเวลาที่เรียกร้องให้ออกไป ว่าตั๋วที่พวกเขาได้มาอย่างยากเย็นแสนเข็ญนั้น คุ้มค่ามาก
วิลเลียมที่ต่อสู้อย่างโหดร้ายและมีพลังความแข็งแกร่งที่น่ากลัว ตรงกับรสนิยมของพวกเขา ตอนนี้ต่างก็กำลังร้องลั่นอย่างกึกก้อง
“วิลเลียมคนนี้ น่ากลัวมากจริงๆ”
“ใช่ เขาลงมือก็ฆ่าทันที ไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายยอมแพ้เลย”
“ได้เห็นถึงฝีมือการต่อสู้ของวิลเลียมแล้ว ผมคิดว่านักสู้คนต่อไป หากถูกเลือกให้ต่อสู้กับวิลเลียม เทียบกับเพื่อให้ได้มีชีวิตรอดแล้ว จะต้องเลือกที่จะยอมแพ้แน่ เพราะยังไงวิลเลียมก็มีพลังที่แข็งแกร่งมาก และมีจิตใจที่โหดเหี้ยม”
เมื่อเผชิญหน้ากับความโหดเหี้ยมของวิลเลียม ไม่เพียงผู้ชมที่มองดูบนเวที แม้แต่นักต่อสู้ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันพวกนั้น ตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบคุยกัน ยังไงวิลเลียมก็ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของพวกเขาอย่างมาก
เห็นถึงความสามารถของวิลเลียมด้วยตาตัวเอง บวกกับวิธีที่โหดเหี้ยมของอีกฝ่าย นี่ทำให้สภาพจิตใจของบางคนบางคน ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น มีนักสู้สองคนที่อยู่ไม่ไกล ตอนนี้กำลังมองดูวิลเลียม ด้วยจิตใจที่สั่นเทา พวกเขาเป็นกลุ่มเดียวกับวิลเลียม
“สาธุๆ วิลเลียมสารเลวคนนี้ โหดเหี้ยมมาก ก็แค่การแข่งขัน ชนะแล้วก็พอสิ ทำไมต้องฆ่าอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้”
ศีลสามขมวดคิ้ว เขาไม่สนใจกับการแข่งขัน แต่วิธีการที่โหดเหี้ยมของวิลเลียม กลับทำให้เขาไม่พอใจ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าวิลเลียมมีพลังที่แข็งแกร่งมาก
“เอ่อ…ศีลสาม เติ้งนีของอินเดีย ไม่โหดเหี้ยมแบบนี้ใช่ไหม?”
ถึงแม้จียุ่นจะเป็นทายาทของตระกูลจี ผ่านประสบการณ์การฝึกฝนมาหลายอย่าง เขาคิดว่าถึงแม้จะไม่สามารถไปถึงการแข่งขันสูงสุด แต่ก็คงจะได้คะแนนที่พอใช้ได้ แต่ตอนนี้เห็นแบบนี้แล้ว ความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของวิลเลียม ทำให้ความเชื่อมั่นในตัวเองของเขาถูกบั่นทอน โดยเฉพาะการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมของวิลเลียม ทำให้เขาตัวสั่นอยู่ไม่เบา
ได้ยินคำพูดของจียุ่น ศีลสามพูดขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า “ไม่หรอก เติ้งนีเป็นคนรักในการต่อสู้ ชอบการต่อสู้ ไม่ชอบฆ่า และไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นคนในพระพุทธศาสนา”
“เฉินเฟิง ผมเห็นวิลเลียมหันมามองคุณตั้งสองครั้ง และสายตาก็ไม่เป็นมิตร พวกคุณสองคนรู้จักกันหรือ?”
เทียนอิงเงียบไปสักพัก มองดูเฉินเฟิง แล้วถามขึ้น
ในวงการศิลปะการต่อสู้ประเทศหวา เทียนอิงนับว่าเป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงคนหนึ่ง และค่อนข้างมีประสบการณ์ในเส้นทางการฝึกศิลปะการต่อสู้ เมื่อกี้เขามองเห็นสายตาของวิลเลียม ที่มองมาอยู่ตลอด
“อืม ขาทั้งคู่ของศิษย์พี่ผมเย่หนานเทียน เป็นฝีมือของเขา”
เฉินเฟิงหยุดไปสักพัก แล้วพูดต่อว่า “เขากับผมจะต้องได้ต่อสู้กัน การต่อสู้ในครั้งนี้หากเขาไม่ตาย ผมก็ต้องตาย”
“นี่….”
ศีลสาม จียุ่น และเทียนอิง ทั้งสามคนเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก พวกเขาคิดไม่ถึงว่าระหว่างเฉินเฟิงกับวิลเลียม จะมีความแค้นต่อกันเช่นนี้
พวกเขายิ่งคิดไม่ถึงก็คือ ขอของเย่หนานเทียนที่เป็นยอดนักสู้ จะเป็นวิลเลียมทำร้าย
“ไอ๊หยา พี่เกรียงไกรมาก วิลเลียมคนนั้นโหดเหี้ยมมาก หากเขามีชีวิตอยู่ถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก กำจัดเขาทิ้ง ผมเห็นด้วย”
ศีลสามเป็นคนในพระพุทธศาสนา ฆ่าคนไม่ค่อยเป็นการดี และจะฆ่าคนง่ายๆไม่ได้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นพุทธะในบางแง่ และในครั้งนี้ถือเป็นข้อยกเว้น
เทียนอิงไม่พูดอะไรอีกตั้งแต่ประโยคเมื่อกี้ เขากับเฉินเฟิงยิ่งอยู่ก็ยิ่งห่างไกลกันมาก หนึ่งในสิบหกคนของการแข่งขันในครั้งนี้ ไม่มีเขา แต่ดูความหมายของเฉินเฟิง ชัยชนะในครั้งนี้สำหรับเขา จะต้องเอามาให้ได้
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เทียนอิงก็ไม่ยอมแพ้ จิตยังคงมุ่งมั่นว่าจะต้องได้ผลคะแนนที่ดีในการแข่งขันในครั้งนี้
สำหรับชัยชนะ เขาไม่กล้าคาดหวัง แต่ว่าในใจของเขายังมีจุดประสงค์อย่างอื่น ถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ยอมแพ้ แม้แต่สู้รบก็ไม่กล้าที่จะไปสู้รบ แล้วจะกล้าพูดว่าเป็นนักศิลปะการต่อสู้ได้อย่างไร
ภายใต้เสียงคุยกันของพวกผู้ชม เจ้าหน้าที่ขององค์กรศิลปะการต่อสู้ ขึ้นไปหามศพของลีฝูลงมา และได้ทำความสะอาดเวทีการต่อสู้
ผู้นำทีมของเวียดนามในตอนนี้ มองดูทุกอย่างนี้ด้วยสีหน้าซีดเซียว แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะการแข่งขันมีกฎระเบียบ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นในระหว่างการแข่งขัน ล้วนเป็นเรื่องของโชคชะตา ใครก็จะไม่เห็นด้วยต่อกฎระเบียบในการแข่งขันไม่ได้ แต่หากอีกฝ่ายใช้วิธีที่ไม่เหมาะสม นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนการแก้แค้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึง สภามืดองค์กรลึกลับที่อยู่เบื้องหลังวิลเลียม แค่พลังความสามารถของวิลเลียมเอง ก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถรับมือได้
หลังจากสนามแข่งขันถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว การแข่งขันก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
การแข่งขันเริ่มขึ้น ครั้งนี้เป็นคู่ที่สี่ หนึ่งในนักสู้คนหนึ่งถูกวิธีการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมของวิลเลียมเมื่อกี้ ทำให้ตกใจ จิตใจค่อนข้างลุกลี้ลุกลน ทำการต่อสู้ได้ไม่ดี สุดท้ายจึงพ่ายแพ้ให้กับอีกฝ่าย
แข่งขันของคู่ที่สี่จบสิ้นลง ลำดับต่อมาก็คือกลุ่มที่สามเข้าสู่สนามแข่ง