ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 756
บทที่ 756 ยังไม่ออกฌาน
เงินจำนวนนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยเลย
นี่ไม่ใช่ประเด็น เงินพันล้านดอลลาร์อยู่ที่บริษัท ถ้าเฉินเฟิงแพ้ยังพอไหว บริษัทได้เงินไม่น้อย แต่ถ้าเฉินเฟิงชนะ บริษัทต้องจ่ายพันล้านดอลลาร์ นั่นน่ะพันล้านดอลลาร์นะ ต่อให้บริษัทเขาใหญ่แค่ไหน แต่ก็ไม่กล้าลงพนันบ้าคลั่งแบบนี้
พอเลขารายงานเสร็จ ตอนนี้ได้แต่ยืนโค้งนิ่งไม่พูดอะไร เธอรู้ว่าตอนนี้แม้แต่เจ้านายก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน
เจ้าของบริษัทลอตเตอรีได้แต่นิ่งเงียบ บางทีอาจกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ เวลาค่อยๆผ่านไป แม้แต่เลขาก็เริ่มรู้สึกกดดัน และที่กดดันแบบนี้เพราะจำนวนที่เยอะของเงินด้วย
“รีบเปิดประชุมคณะกรรมการผู้จัดการ!”
เจ้านายสั่งการลงมาแบบนี้ ตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงดี ต้องเรียกประชุมกรรมการผู้จัดการและหุ้นส่วนคนอื่นมาปรึกษากันว่าจะปิดบอร์ดพนันหรือจะลดอัตราเงินแพ้พนันของเฉินเฟิงลงสักหน่อยดี
ไม่งั้นถึงตอนสุดท้ายอาจจะล้มละลายก็ได้
อย่าว่าแต่เลขาเลย ขนาดเจ้าของบริษัทลอตเตอรีทำงานมาหลายสิบปียังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เรียกได้ว่าหาได้ยากยิ่ง
เลขารับคำเตรียมตัวติดต่อกรรมการคนอื่น ในตอนนี้เองกลับมีเสียงพนักงานร้องมาอย่างร้อนรนในหูฟัง
“เมื่อกี้มีเงินร้อยล้านดอลลาร์เข้ามาอีกแล้วค่ะ มาจากทางจีน!”
เห็นได้ชัดว่าพนักงานคนนั้นตกใจมาก จนเสียการควบคุมไปชั่วขณะ
“มีอะไร?”
เจ้าของบริษัทลอตเตอรีเห็นสีหน้าซีดเผือดของเลขา ก็ถามอย่างสังหรณ์ใจพิกล
“บอสคะ เมื่อกี้…มีเงินเข้ามาอีกร้อยล้านดอลลาร์จากทางจีนอีกแล้ว!”
เลขาละล่ำละลักบอกออกมา
“อะไรนะ?”
เจ้านายกระตุกเฮือก ลุกพรวดจากเก้าอี้ ตาเบิกกว้าง
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย? คนจีนตอนนี้รวยกันหมดหรือไง? แล้วนี่พวกเขาถือสิทธิ์อะไรเอาเงินมากขนาดนี้มาพนันข้างเฉินเฟิง พวกเขาเชื่อมั่นในตัวเฉินเฟิงขนาดนี้เลยหรือไง? แม่งเอ๊ย!”
ตอนนี้เจ้าของบริษัทโกรธมาก เขานิ่งเฉยไม่ไหวแล้วและโพล่งคำด่าออกมา
เลขาหดคอ ตั้งแต่มาทำงานที่นี่ เจ้านายมักจะเรียบร้อยสุภาพเสมอ ไม่เคยด่าคำหยาบแม้สักคำ ดูท่าวันนี้จะกระทบกระเทือนเขาอย่างจัง
“สั่งการลงไป หยุดบอร์ดพนันทุกอัน ก่อนการประชุมสิ้นสุดห้ามเปิดรับยอดอีก!”
เจ้าของบริษัทพ่นควันบุหรี่คำโต ก่อนสั่งการลงไป
“ค่ะ ทราบแล้วค่ะ!”
เลขารีบรับคำ หมุนตัวออกจากห้อง ในใจก็คิด ถ้าเฉินเฟิงชนะการแข่งขึ้นมาผลจะเป็นไงล่ะเนี่ย
การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกครั้งนี้ บริษัทลอตเตอรีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก บริษัททั้งหมดกำลังลงเดิมพนันในการแข่งด้วยกันทั้งนั้น แต่ยอดเงินเดิมพันครั้งนี้ของประเทศจีนกลับทำให้บริษัทลอตเตอรีหลายแห่งได้รับความเสียหาย
ถึงจะบอกว่าทางประเทศจีนลงเดิมพันข้างเฉินเฟิงอย่างหนัก แต่หลังจากบริษัทลอตเตอรีวิลเลียมปรึกษากับบริษัทอื่นแล้ว และทำการวิเคราะห์อัตราแพ้ชนะของผู้เข้าแข่งขันหลายคนแล้ว เลยลงมติให้เปิดบอร์ดลงพนันต่อ
ไม่เพียงแค่นั้น หลายบริษัทยังใช้สื่อโฆษณาขึ้นพร้อมกัน คุยโม้เรื่องฝีมืออาเธอร์ซะเลิศเลอ แพร่ออกไปว่าเฉินเฟิงต้องแพ้อาเธอร์แน่ ให้ลูกค้าวางเดิมพันอย่างสบายใจได้เลย
นี่เป็นมาตรการหนึ่งของพวกเขา หลังจากสื่อโฆษณาประกาศออกไปเสร็จ ผลลัพธ์มาตามที่คาดคิดไว้ คนส่วนใหญ่เริ่มลงพนันต่อ ส่วนมากพนันว่าอาเธอร์จะชนะการแข่งขัน
ถึงจะบอกว่าบริษัทลอตเตอรีประชาสัมพันธ์ไปหนักมาก แต่ยอดเงินเดิมพันการแข่งระหว่างอาเธอร์กับเฉินเฟิงกลับไม่ได้เพิ่มเท่าไหร่นัก
สุดท้ายได้ผลสรุปมาว่า ยอดเงินที่ลงพนันข้างอาเธอร์มีไม่ถึงร้อยล้านดอลลาร์ด้วยซ้ำ ส่วนมากยังมาจากประเทศอังกฤษเองอีกด้วย
การประกาศของบริษัทลอตเตอรี บวกกับข่ายซ่า โรโปรีพูดเองกับปากออกสื่อว่าอาเธอร์ซึ่งเป็นพี่ชายจะตัดสินความเป็นตายกับเฉินเฟิง ก็เป็นเพราะเรื่องพวกนี้ถึงมีคนลงเดิมพันข้างอาเธอร์ ไม่อย่างนั้นแทบจะไม่มีใครลงพนันข้างอาเธอร์เลย
จวบจนกลางดึก ยอดเงินยังไม่เกินพันล้านเลย เวลานี้บริษัทลอตเตอรีวิลเลียมกับบริษัทอื่นไม่มีวิธีอื่นแล้ว เลยได้แต่ภาวนาให้อาเธอร์ชนะเฉินเฟิง
คำประกาศของข่ายซ่ากับการรายงานอย่างบ้าคลั่งของบริษัทลอตเตอรีใหญ่ ทำให้การแข่งขันนัดนี้พุ่งขึ้นอีกระดับ
นี่ไม่ใช่แค่การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับประเทศเท่านั้นแล้ว ขนาดคนชั้นสูงที่ไม่รู้เรื่องการต่อสู้ยังรู้เรื่อง หรือแม้แต่ชาวบ้านธรรมดาก็รู้อีก
วันที่29 ก.ค. การประลองของอาเธอร์กับเฉินเฟิง
เนื่องด้วยสื่อโฆษณาก่อนหน้านั้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวมากมายหลั่งไหลมาที่โรม พริบตาเดียวเมืองโรมคึกคักเป็นอย่างมาก ไปที่ไหนก็เจอแต่นักท่องเที่ยว
ราคาของมากมายเริ่มขึ้นเพราะการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยว ราคาโรงแรมก็เลยเพิ่มตามเป็นหลายเท่า
พระอาทิตย์ค่อยๆตกลง ในโรงพยาบาลที่องค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลกระบุไว้
พวกผู้อาวุโสฟางเจิ้ง ชางโป๋ อู่จื่อโจว จีอู๋ฉาง จียุ่นและเทียนอิงที่พิการข้างหนึ่ง มารวมกันอยู่ที่นี่และมองดูศีลสามที่นอนนิ่งบนเตียง
“อาการไม่สู้ดีนัก ท่านอู่ เฉินเฟิงยังไม่ออกฌานเลย เขากดดันมากไปหรือเปล่า?” ชางโป๋ทนไม่ไหวเลยถามขึ้น
หลังจากการแข่งขันเมื่อวานจบลง เฉินเฟิงก็ประกาศเข้าฌานชั่วคราว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมา ไม่รู้ว่าเครียดมากไปหรือเปล่า
“น่าจะไม่ นิสัยอย่างเฉินเฟิงไม่มีทางไม่ออกฌานเพราะเครียดเกินไปแน่ น่าจะเป็นเพราะกำลังศึกษาวิทยายุทธ์มากกว่า!”
เทียนอิงที่ปกติพูดน้อยเอ่ยขึ้น น้ำเสียงบอกชัดว่าเชื่อมั่นในตัวเฉินเฟิงมาก ที่เขาพูดคือ เขาคิดว่าเฉินเฟิงไม่มีทางยอมถอยแน่ มันไม่ใช่นิสัยของเขา
“ใช่ นิสัยอย่างเฉินเฟิงไม่น่าจะเครียดอะไรหรอก ปกติความสามารถในการรับแรงกดดันของเขาสูงมาก อีกอย่างการแข่งวันพรุ่งนี้เทียบไม่ได้กับสิ่งที่เขาเคยเจอมาเลย เมื่อก่อนเฉินเฟิงเจอเรื่องเลวร้ายกว่านี้มากนักยังผ่านมาแล้วเลย การแข่งพรุ่งนี้สำหรับเขาแล้วไม่มีอะไรน่าเครียดหรอก!”
อู่จื่อโจวเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของเทียนอิง และสำทับต่อว่า: “ก่อนเขาเข้าฌานบอกว่าจะศึกษาวิทยายุทธ์ ตอนนี้ยังไม่ออกฌาน ดูท่าน่าจะมีการพัฒนานะ!”
แต่คำพูดของอู่จื่อโจวกลับไม่ได้ทำให้ทุกคนสบายใจขึ้นเลย พวกเขารู้ว่าอู่จื่อโจวกำลังปลอบใจพวกเขา แต่สถานการณ์จริงอาจไม่ดูดีขนาดนั้น
“การสร้างวิทยายุทธ์แขนงใหม่น่ะไม่ง่ายนะ แต่โบราณมามีอัจฉริยะมากมายแค่ไหนที่พยายามอย่างยากลำบากในการสร้างออกมา และการศึกษาวิทยายุทธ์จนสามารถสร้างท่าเฉพาะตัวได้เรียกได้ว่ายากกว่าขึ้นสวรรค์ซะอีก เฉินเฟิงอายุยังน้อยก็สามารถมีท่าเฉพาะตัวได้สองกระบวนท่านี่ถือว่าไม่ง่ายเลยนะ เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาเข้าฌานเพื่อหวังสร้างกระบวนท่าที่สาม มันคงยากยิ่งกว่า พูดตรงๆนะความหวังมีไม่เยอะหรอก!”
จีอู๋ฉางพูดการวิเคราะห์ของตัวเองออกมาด้วยสายตาครุ่นคิด
ทุกคนเงียบสนิท ต่างเห็นด้วยกับคำพูดของจีอู๋ฉาง พวกเขารู้ดีว่าการสร้างวิทยายุทธ์แขนงหนึ่งขึ้นมามันยากแค่ไหน มันไม่ใช่อะไรที่จะทำได้ง่ายๆ
ถึงตอนนี้เฉินเฟิงจะสร้างกระบวนท่าได้สองท่าแล้ว แต่มันก็ยังไม่ใช่แขนงหนึ่ง และการแข่งของอาเธอร์กับเฉินเฟิงก็ใกล้ขึ้นมาทุกที ในเวลาสั้นๆแบบนี้จะมาสร้างกระบวนท่าที่สาม แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ศีลสามเป็นอัจฉริยะศิลปะการต่อสู้ เรียกได้ว่าสุดยอด จิตใจเขาไม่ได้โฟกัสที่การต่อสู้ แต่ถ้าให้เขาทุ่มเทกำลังศึกษาวิทยายุทธ์ รับรองต้องสร้างวิทยายุทธ์แขนงเฉพาะตัวได้แน่ แต่ต่อให้เป็นอัจฉริยะอย่างเขาก็ไม่สามารถสร้างวิทยายุทธ์เฉพาะตัวในเวลาอันสั้นแบบนี้ได้ มันต้องใช้เวลา