ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 776
บทที่ 776 เจตนาสังหารอย่างมาก
“ท่านเมอร์ล็อตวางใจเถอะ หลังจากจบการประลอง บนโลกนี้จะไม่มีคนที่ชื่อเฉินเฟิงอีกฃ!”
ระหว่างที่พูด อู๋คุนก็เคล้าด้วยความอาฆาต ความเคียดแค้นของเขากับเฉินเฟิงอย่างมาก ไม่ว่าพวกเขาสองคนนี้ ไม่ว่าพวกเขาสอง
คนจะเคียดแค้นกันยังไง และอาจจะเป็นเพราะคำสั่งของเมอร์ล็อต เขาจึงไม่สามารถให้เฉินเฟิงรอดชีวิตหลังจากการประลองครั้งนี้
การประลองศิลปะการต่อสู้ใกล้เริ่มขึ้นแล้ว นี่คือครั้งที่สุดของการประลองศิลปะการต่อสู้ และก็คือครั้งที่จะตัดสินผู้ชนะ ตัดสินใจว่าคนไหนจะได้เหรียญทองในการประลองครั้งนี้
การประลองถูกกำหนดตอนบ่ายสาม ทว่าตอนบ่ายสองกว่าๆ ในงานที่จัดการประลองก็มีผู้ชมมารวมตัวกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาของบนโลกนี้ หรือจะเป็นเศรษฐีในสังคมชั้นสูง หรือจะเป็นยอดฝีมือในศิลปะการต่อสู้จากทั่วทุกมุมโลก ตอนนี้ก็มารวมตัวกันแล้ว แล้วต้องการชมการประลองที่มีประวัติศาสตร์
นอกจากคนเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีคนที่พิเศษอยู่บ้าง พวกเขาคือท่านผู้อาวุโสในสำนักชิงหง เป็นเจ้าสำนักที่มีอำนาจ แล้วยังมียอดฝีมือของแกมบิโน
ถ้าเทียบกับการประลองก่อนหน้านี้ ในการประลองของอู๋คุนและจอมยุทธ์เติ้งนีอินเดีย หลายๆ คนก็ได้ข้อสรุป อู๋คุนไม่เพียงแต่แกร่งกว่าอาเธอร์ หากเฉินเฟิงไม่สามารถบรรลุพลังของหั้วจิ้งชั้นกลาง งั้นเขาก็จะไม่นับว่าเป็นผู้ชนะ และต้องตายสถานเดียว
“อืม? นั่นไม่ใช่เติ้งนีอินเดียหรอ? ”
“ใช่ เขามาทำอะไร? ”
“ดูๆ แล้วเติ้งนีคนนี้ก็ไม่ถือว่าบาดเจ็บสาหัสมาก! ”
ต่อให้การประลองใกล้จะเริ่มขึ้น ทว่าก็นึกไม่ถึงว่าการประลองครั้งต่อไปใครที่เป็นคู่ประลองของอู๋คุน เติ้งนีกลับมาถึงในงานจัดการประลอง สำหรับเสียงวิจารณ์ข้างๆ เติ้งนีไม่ได้สนใจเลยสักนิด
การประลองครั้งที่แล้ว เขาแพ้ให้กับอู๋คุน นั่นก็คือวิลเลียม หลังจากการแข่งขันจบลง เขาได้รับบาดเจ็บจริงๆ ทว่าแผลพวกนี้ไม่ได้สาหัส เติ้งนีใช้ยารักษาที่หายากของอินเดีย ถึงจะสามารถรักษาวิชาการกังฟูของตัวเองไว้ได้ อีกอย่างยังสามารถฟื้นฟูความสามารถในการเคลื่อนไหว
“พวกคุณดู อาเธอร์กลับมาด้วย! ”
ไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมาหนึ่งเสียง ทุกคนใช้สายตามองไป
อาเธอร์แม้จะมีแค่แขนข้างเดียว ทว่าเขายังคงเป็นพาลาดินคูเรีย เป็นยอดฝีมือในจอมยุทธ์กลุ่มอายุน้อย เขามีความน่าภาคภูมิใจของตัวเอง
เวลานี้ทุกคนมองไปยังแขนเสื้อข้างขวาที่นอกจากว่างเปล่าแล้ว อาเธอร์ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากแต่ก่อน ยังคงมีเสน่ห์ของยอดฝีมือ
แค่ว่าหากคนที่เข้าใจอาเธอร์ ก็สามารถสังเกตในจุดที่ไม่เหมือนของเขา มีนัยน์ตาที่เหมือนกัน ไม่ได้หยิ่งยโสเหมือนที่ผ่านมา เวลานี้แค่ดูหม่นหมอง และเลือดเย็น
ภายใต้สายตาของทุกคน อาเธอร์ก็ไม่ได้ยืนอยู่ที่นั่งวีไอพี อีกทั้งยังไปที่เขตของผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ไกลๆ ถึงแท้ทุกคนต่างก็วิจารณ์ ทว่าอาเธอร์ก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย แล้วยังคงไม่เห็นทุกคนในสายตา
“ทีแรกก็นึกว่าคุณสามารถเข้าประลองครั้งตัดสินอีก แล้วยังจะสามารถเอาเหรียญทองไปครอบครอง แต่นึกไม่ถึงว่าคุณกับผมกลับพ่ายแพ้ ตอนนี้ทำเพียงเป็นผู้ชมการประลองรอบตัดสินอยู่ที่นี่! ”
พอเห็นอาเธอร์เดินมา เติ้งนีก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
“เหอะ คุณแพ้การประลองก็เพราะไม่มีความสามารถพอ ทว่าผมกลับไม่เหมือนกัน หากผมไม่ประมาท ต้องไม่แพ้การประลองแน่นอน! ” อาเธอร์พูดด้วยน้ำเสียงเลือดเย็น
“ไม่ว่ายังไงเหตุผลก็คือแพ้การประลอง ผลสรุปสุดท้ายพวกเราก็แพ้อยู่ดี ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร ผู้ชนะที่ประวัติศาสตร์เขียนไว้ อีกอย่างเหรียญทองของการต่อสู้ครั้งนี้ ผมรู้สึกว่าเฉินเฟิงในประหวาต้องชนะการแข่งขันแน่นอน! ”
เติ้งนีกลับไม่ได้โกรธเพราะน้ำเสียงของอาเธอร์ แต่พูดความคิดของตัวเองออกมาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“เหอะ ไม่มีทาง เฉินเฟิงต้องตายในระหว่างการประลอง! ”
คำพูดของอาเธอร์เคล้าด้วยแรงสังหาร และจวนอยากจะบดกระดูกของเฉินเฟิงให้เป็นขี้เถ้าจนใจจะขาด
ได้ยินน้ำเสียงและคำพูดของอาเธอร์ เติ้งนีลอบถอนหายใจแล้วส่ายหน้าไม่พูดไม่จา อีกทั้งนัยน์ตายังมองไปยังผู้ที่เข้าร่วมการประลอง
บนที่นั่งวีไอพี พระสันตะปาปาโจ้ว์ยังคงเลือดเย็นเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งนัยน์ตามองไปยังเลขาโมดริชแล้วเอ่ยถาม “การประลองครั้งนี้ คุณมองยังไง? ”
เลขาโมดริชพูดพึมพำด้วยเสียงต่ำและพิลึกแล้วพูดขึ้น “ตามความสามารถของเฉินเฟิงและอู๋คุน หากเอามาเทียบกันแล้ว เฉินเฟิงคงไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย! ”
คำพูดของเลขาโมดริชเพิ่งจะจบลง ก็สัมผัสได้ถึงธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่กำลังใช้สายตาที่ไม่เป็นมิตรมองมาที่เขา
เลขาโมดริชแสยะยิ้มอันขมขื่น แล้วพูดต่อ “แต่ว่าประเทศหวาเฉินเฟิงกับจอมยุทธ์ปกตินั้นไม่เหมือนกัน ที่ผ่านมาเขามักจะแสงพลังความสามารถอันแข็งแกร่งออกมา ตอนที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่สุดทางตัน อีกทั้งไม่เพียงแต่สร้างความอัศจรรย์เพียงครั้งเดียว ดังนั้นผลการประลองครั้งนี้ ไม่บอกก็รู้ พระสันตะปาปาทรงมองเรื่องนี้ยังไงบ้าง? ”
“เหอะ ประเทศหวาเฉินเฟิงต้องชนะการแข่งขันครั้งนี้แน่นอน! ” ไม่รอให้พระสันตะปาปาเอ่ยพูด ธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่ทำน้ำเสียงที่ตอบกลับอย่างหนักแน่น
“การแข่งขันยังไม่ได้จบ ใครชนะใครแพ้ก็ไม่แน่ ตามประสบการณ์หลายๆ ของฉัน ฉันรู้สึกว่าเปอร์เซ็นที่เฉิงเฟิงจะชนะนั้นไม่มาก ทว่าการประลองหลายครั้งเมื่อก่อนหน้านี้ ผลงานของเฉินเฟิงก็คาดคิดไม่ถึงจริงๆ ดังนั้นหากตามความรู้สึกแล้ว เฉินเฟิงอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะชนะครั้งนี้! ”
พอฟังคำพูดของพระสันตะปาปาโจ้ส์ เลขาโมดริชจึงสุดคำบรรยาย นี่มันหมายความว่าอะไรกันแน่
“สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกคน สวัสดีครับ! ”
เวลานี้พิธีกรการประลองศิลปะการต่อสู้ของโลกใบนี้เดินออกมาตรงที่ประลอง เขาสวมใส่ชุดยูนิฟอร์มสีดำ เวลานี้ใบหน้าเคล้าด้วยรอยยิ้มแล้วกำลังคุยกับทุกคน “การประลองศิลปะการต่อสู้ระดับโลกดำเนินมานานในประวัติศาสตร์ การประลองดุเดือดมาก วันนี้เป็นการประลองครั้งสุดท้ายของศิลปะการต่อสู้แล้ว ก็เป็นครั้งที่ตัดสินว่าใครจะได้เหรียญทอง พวกคุณเฝ้ารอกันอยู่ไหมครับ? ”
“ดี เฝ้ารอบมาก! ”
“ดี……”
ทุกคนในงานกรีดร้องและกระโดดโลดเต้นกัน คลื่นเสียงนั้นยิ่งอยู่ยิ่งสูงขึ้น การเปล่งเสียงออกมาอย่างเสียงดัง เพื่อที่จะแสดงอารมณ์ที่ตื่นเต้นดีใจ
“การประลองใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว แม้กระทั่งอารมณ์ของผมยังรู้สึกค่อนข้างตื่นเต้น ผลสรุปการประลองครั้งนี้จะเป็นยังไง? ใครสามารถชนะการแข่งขันครั้งนี้แล้วเป็นผู้ชนะล่ะ? ”
พิธีกรพูดขึ้นต่อ “ประเทศหวาเฉินเฟิงชนะผู้เข้าร่วมประลองมากมายถึงจะเดินมาถึงขั้นสุดท้ายนี้ และวิลเลียมก็มีความสามารถที่เก่งกาจเหมือนกัน สุดท้ายทั้งสองคนนี้ก็ได้เจอกัน แล้วจะเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดยังไง ทำให้ทุกคนเช็ดตาคอยดู! ”
“การประลองจะเริ่มขึ้นอีกสิบกว่านาที ผมจะลองทุกคนก่อน พวกคุณคิดว่าใครที่สามารถชนะการประลองครั้งนี้ แล้วจะได้รับถ้วยรางวัล? ” ตอนที่พิธีกรพูดขึ้นก็ได้ยื่นไมค์ไปด้านหน้า
“เฉินเฟิง! ”
“ประเทศหวาเฉินเฟิง! ”
พิธีกรเพิ่งจะพูดจบ ในงานก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น เสียงนี้ส่งผลกระทบไปทั้งงาน
“ใครจะได้รับชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้! ” พิธีกรเอ่ยถามด้วยเสียงที่ดังสนั่นอีกครั้ง
“ประเทศหวาเฉินเฟิง! ”
“วิลเลียม! ”
“วิลเลียมต้องได้รับชัยชนะ! ”
ในครั้งนี้มีเสียงที่ไม่เหมือนกันปรากฏขึ้น หนึ่งฝั่งเป็นคนที่สนับสนุนเฉินเฟิง อีกฝั่งสนับสนุนวิลเลียม อีกอย่างเสียงตะโกนว่าวิลเลียมได้รับชัยชนะ ก็ได้กลบเสียงของเฉินเฟิง
ผู้ชมที่สนับสนุนและนึกว่าความสามารถของวิลเลียมนั้นแกร่งมาก อีกทั้งการประลองหลายรอยที่ผ่านไปก็สามารถมองออก เฉินเฟิงต้องไม่ใช่ผู้ปะทะ ความเป็นไปได้ที่วิลเลียมจะชนะนั้นเยอะมาก