ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 780
บทที่ 780 ไม่รู้เป็นรู้ตาย
“เฉินเฟิงเก่งกาจอย่างที่คาดไว้จริงๆ เมื่อกี้ตอนบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลางก็แกร่งขนาดนี้แล้ว วันข้างหน้าผู้ที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกันก็จะไม่มีคนไหนเป็นศัตรูอีกต่อไป! ”
นอกจากผู้ชมธรรมดาเหล่านั้นแล้ว เหล่าจอมยุทธ์ที่มองเวทีต่างก็อดไม่ได้ที่จะปรากฏคำๆ นี้ออกมา
“ช่างเหลือเชื่อ ปีศาจจริงๆ! ”
มองทุกอย่างบนเวที เติ้งนีอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยเสียงลาก เฉินเฟิงทำให้เขารู้สึกตกตะลึงในหลายเรื่องมากเกินไปแล้ว
ตอนนั้นเขายังบอกว่าจะต่อสู้กับเฉินเฟิง ตอนนี้ดูๆ แล้วก็เขาช่างไม่เจียมตัวในความสามารถที่ตัวเองมีเลยจริงๆ
จะบอกว่าผู้ที่มีจิตใจที่ซับซ้อนที่สุดก็คืออาเธอร์ที่อยู่ข้างๆ ตอนนี้ภายในใจของอาเธอร์หม่นหมองเหมือนน้ำ สีหน้าซีดเซียวไร้เรี่ยวแรง ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าอยากจะมาที่นี่ เพื่อมองเฉินเฟิงถูกคนสังหารด้วยอย่างรุนแรงกับตา ทว่าก่อนเริ่มแข่งขัน เฉินเฟิงกลับบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลาง ทำให้ความมั่นใจของเขาสั่นไหวเล็กน้อย ทว่าตอนนี้เฉินเฟิงกลับจู่โจมและทำให้อู๋คุนพ่ายแพ้ นี่ทำให้อาเธอร์ไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ
ความสามารถของอู๋คุนแกร่งกว่าเขา สิ่งนี้ภายในใจของอาเธอร์รู้ดี ทว่าเฉินเฟิงกลับสามารถทำให้อู๋คุนพ่ายแพ้ ขณะเดียวกันก็สามารถทำให้เขาพ่ายแพ้ในท่วงท่าเดียว
“ทุกครั้งที่นึกถึงเขากลับสามารถเติบโตได้อย่างว่องไวภายในช่วงเวลาสั้นๆ! ” ภายในใจของอาเธอร์รู้สึกขมขื่นเล็กน้อย ตอนนี้เขาก็ไม่ได้อยู่ในแดนเดียวกันกับเฉิงเฟิงแล้ว เขาไม่สามารถปรึกษาหารือกับเฉินเฟิงอีกต่อไป
“เยี่ยมจริงๆ เฉินเฟิงจะชนะแล้ว! ”
บนที่นั่งวีไอพี ธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่ปรบมือ แล้วรู้สึกตื่นเต้นดีใจจนเกินคำบรรยาย หากเฉินเฟิงชนะการแข่งขันนี้ มีความหมายแอบแฝงว่าอะไร ภายในใจของเธอรู้ดีอย่างมาก เพราะว่าแบบนี้ ดังนั้นภายในใจของธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่ก็รู้สึกดีใจจนเหมือนดอกไม้บาน
สำหรับเลขาโมดริช ภายในใจก็นึกถึงอะไรได้ขึ้นมา ความสามารถของเฉินเฟิงเหนือความคาดหมายจริงๆ ส่วนพระสันตะปาปาโจ้ส์ที่อยู่ข้างๆ ก็มองเฉินเฟิงด้วยยิ้ม ภายในใจแอบพยักหน้า แล้วมองเฉินเฟิงยิ่งอยู่ก็ยิ่งอยู่ในสายตาแล้ว
“สหายใหญ่ช่างเก่งกาจเกินไปแล้ว การประลองครั้งนี้ไม่มีอะไรน่ากังวลอีก สหายใหญ่ต้องชนะ! ”
“นั่นต้องพูดด้วยหรอ ความสามารถของสหายเฉินเฟิงสามารถทำให้เห็นตรงนั้นเลย! ”
จียุ่นที่อยู่ในที่นั่งทุกคน ศีลสามและคนอื่นๆ ก็อดไม่ได้ที่จะวิจารณ์ขึ้น เฉินเฟิงแสดงการแข่งขันออกมาอย่างเก่งกาจขนาดนี้ จริงๆ แล้วก็ทำหน้าบูดบึ้ง ตอนนี้พวกเขาสองสามต่างก็มีความตื่นเต้นกันมาก
สำหรับเทียนอิงที่ตื่นเต้นในขณะเดียวกัน ภายในใจก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย การผิดหวังนี้ ทีแรกก็เพราะความแตกต่างจากเฉินเฟิงยิ่งอยู่ก็ยิ่งใหญ่ เฉินเฟิงพวกเขาไม่ใช่คนพวกเดียวกันไปแล้ว
หมัดนี้ของเฉินเฟิงในเมื่อครู่นี้ สามารถบอกได้ว่าสามารถชักจูงความรู้สึกของคนทั้งหมด
เกงปุ่นเหย่อู่ เทพเจ้าแห่งสงครามของญี่ปุ่น โซโล คนที่เป็นเจ้าสำนักและมีอำนาจต่างก็ทำสีหน้าที่หม่นหมอง ความสามารถของเฉินเฟิงได้รับการอัพระดับ สำหรับแผนการต่อไปของพวกเขาแล้วก็ถือว่าไม่ดีมากๆ
และอู่จื้อโจว,จีอู๋ฉาง,ชางโป๋,อาจารย์ฟางเจิ้นและคนอื่นๆ แม้นบอกว่าประเทศหวามีการดำรงยืนหนึ่งยืนสองในโลกศิลปะการต่อสู้ ทว่าตอนนี้ภายในใจก็รู้สึกตกตะลึงไม่หยุด
“ครั้งนี้แกสามารถทำตัวเย่อหยิ่งได้แล้ว ในรุ่นเดียวกันก็ไม่ได้มีใครเป็นศัตรูคู่ปะทะแล้ว ต่อให้เป็นผู้อาวุโสบางส่วนน่าจะก็ไม่ใช่คู่แข่งของเขาเหมือนกัน! ”
อู่จื้อโจวทำสีหน้าที่ยิ้มๆ แล้วยืนอยู่ข้างเย่หนานเทียน แล้วพูดขึ้น
“เขาเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจที่สุดของฉันมาโดยตลอด! ”
เย่หนานเทียนทำสีหน้าที่เย่อหยิ่ง แล้วมองไปยังเฉินเฟิงที่อยู่กลางเวที เหมือนที่เขาพูดทั้งหมดว่า เฉินเฟิงเป็นความน่าภูมิใจของเขาจริงๆ
ตอนที่วิพากษ์วิจารณ์เฉินเฟิงต่อหน้าทุกคน อู๋คุนค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วผ่านการฟื้นฟูที่ลึกลับมาแล้ว และค่อยๆ ทำให้แผลภายในใจร่างกายค่อยๆ ปรับไป
เขาต้องลุกขึ้น อีกอย่างการแสดงของเขาเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บ นี่ทำให้เขาตั้งใจเขาแบบนี้ เขากลัวว่าเฉินเฟิงจะถือโอกาสทำร้ายชีวิตของเขา ทว่าหลังจากที่เขายืนขึ้น กลับเห็นเฉินเฟิงไม่ได้ลงไม้ลงมือใดๆ
ปล่อยยาที่เป็นยีนที่อยู่ภายในร่างกายของแกออกมาเถอะ ฉันจะทำให้แกตายอย่างชัดเจน! ”
เฉินเฟิงทำสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกใดๆ มองอู๋คุนแล้วพูดขึ้น คำๆ นี้ทำให้ภูมิหลังของอู๋คุนถูกเปิดเผยออกมาหมด
อู๋อคุนทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป ทีแรกเขานึกว่าจะบดบังได้ดีมาก ทว่าก็นึกไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะมองเห็นอย่างชัดเจนมาก นี่ทำให้อู๋คุนรู้สึกไม่มั่นใจในใจ
เฉินเฟิงแฉละครที่ตบตาของอู๋คุน นี่ทำให้อู๋คุนรู้สึกยากที่จะอดทน นี่เป็นการตบหน้าเขาอย่างไร้ข้อสงสัย ยิ่งจะทำให้คนอื่นรู้สึกเขาเหมือนดั่งตัวตลก
อู๋คุนถึงแม้ภายในใจจะรู้สึกอัดอั้น ทว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไร อีกอย่างยังแอบปรับลมปราณภายในใจร่างกายอย่างเงียบๆ เตรียมตัวต้านรับการจู่โจม
อู๋คุนรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่แข่งของเฉินเฟิงอีกต่อไป ดังนั้นเวลานี้ยายีนที่แผ่ออกมาจากภายในร่างกาย อยากจะใช้เวลาที่สั้นที่สุดในการอัพความสามารถของตัวเอง
“นี่ก็คือจอมยุทธ์ นี่ก็คือราชา เฉินเฟิงสมน้ำหน้า! ”
“ใช่ บนเรือนร่างของเฉินเฟิง ฉันเห็นถึงวิญญาณของมหาปรมาจารย์! ”
ตอนที่คำพูดของเฉินเฟิงเอ่ยออกมา ผู้ชมในงานต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงไม่หยุด ตอนแรกอู๋คุนสามารถจู่โจมฝ่ายตรงข้ามเพียงท่วงท่าเดียว อาเธอร์จู่โจมฝ่ายตรงข้ามอีกครั้งเพียงครั้งเดียว หรือว่าเติ้งนีก็เห็นฝ่ายตรงข้ามเป็นกระสอบทราย เวลานี้ยังเทียบไม่ได้กับความมีเสน่ห์ของเฉินเฟิง
ทำให้อู๋คุนเผยความสามารถที่แท้จริงของตัวเองออกมา เฉินเฟิงจู่โจมเขาอย่างซึ่งๆ หน้า นี่ล้วนเป็นจอมยุทธ์ตัวจริงทั้งนั้น ถึงแม้อู๋คุนคือศัตรูของเขา ทว่าเฉินเฟิงก็ไม่ได้เปิดเผยทุกอย่างอย่างชัดเจน
“ไอ้คนที่ไม่รู้จักเป็นไม่รู้จักตาย แกต้องชดใช้ในความโง่ครั้งนี้ของแก! ”
อู๋คุนทำสีหน้าที่โหดเหี้ยม ยายีนในร่างกายก็ได้แผ่ซ่านออกมาอย่างเต็มที่ เขาจะฆ่าเฉินเฟิงให้สิ้นซาก เขาจะล้างผลาญการข่มเหงครั้งนี้ โดยเฉพาะเสียงของผู้ชมที่เข้าหูของอู๋คุน ทำให้อู๋คุนรู้สึกได้รับการข่มเหงในใจ เขาจะฆ่าเฉินเฟิงต่อให้ทุกคนโดยตรง ถึงจะสามารถกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองกลับมา
“พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ฉันแค่ให้โอกาสแกครั้งเดียว อย่าคิดว่าแกจะมีประสบการณ์การต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบ หากแกไม่ได้ทำร้ายฉันให้หนัก ฉันต้องฆ่าแกแน่นอน! ”
เฉินเฟิงทำนัยน์ตาหม่นหมอง แล้วมองอู๋คุนที่อยู่ตรงหน้า
คำพูดของเฉินเฟิงเปล่งออกมา ภายในใจของอู๋คุนรู้สึกไม่ดี เขานึกไม่ถึงว่าเฉินเฟิงกลับมองออกถึงแผนการของเขา อุบัติการณ์ในก่อนหน้านี้ที่พูดถึง งั้นครั้งนี้ก็ต้องมองออกถึงความคิดในใจของอู๋คุนจริงๆ
อู๋คุนไม่ได้ต่อสู้ก็ขี้ขลาดแล้ว ทว่าเรื่องนี้ถึงตอนนี้ หากไม่สู้ก็ไม่ได้ ต้องสู้จริงๆ
“เฉินเฟิง แกไปตายเถอะ! ”
อู๋คุนตะโกนขึ้นเสียงดัง ยายีนภายในร่างกายก็แพร่กระจายไปทั่วร่าง ลมปราณก็พุ่งสูงถึงขั้นขีดสุดตามไปด้วย ตอนนี้อู๋คุนแกร่งกว่าเมื่อกี้นี้แล้ว
ระหว่างที่พูด ขาขวาของอู๋คุนก้าวออกมาแรงๆ บนพื้นจู่ๆ ก็หุบลงไป ร่างของอู๋คุนหายไปในพริบตา แล้วพุ่งไปยังเฉินเฟิง เวลานี้เขาก็ไม่ได้เก็บอะไรไว้ อีกทั้งยังใช้แรงที่เป็นหมัดสุดท้ายของหมัดอสูร ฟ้าร้องอสูร
ฟ้าร้องไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็หมายถึงกำลัง และหมายถึงความอยู่ยงคงกระพัน ในหนังสือที่ลึกลับ ความหมายของฟ้าร้อง ฟ้าร้องก็เพื่อที่จะลงโทษผู้คนที่มีชีวิตอยู่
หมัดอสูรสุดท้าย เรียกว่าฟ้าร้อง ก็หมายความว่าเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีไม่ชนะ การต่อสู้ที่อยู่ยงคงกระพัน กำลังใดๆ ก็ไม่สามารถหยุดการลงโทษของฟ้าร้องไห้
เวลานี้อู๋คุนมีเสน่ห์เหมือนรุ้ง กระดูกทั้งร่างแคร่กๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีเสียงคำรามของฟ้าร้องปะปนมาด้วย เวลานี้เป็นเวลาที่อู๋คุนแกร่งที่สุดในชีวิตนี้ เขาจะใช้การจู่โจมที่แกร่งที่สุดนี้ในการจู่โจมเฉินเฟิง เขาใช้การท่วงท่าที่แกร่งที่สุด แล้วฆ่าเฉินเฟิงต่อหน้าผู้ชมทั้งงาน
การต้องเผชิญกับเสน่ห์เหมือนรุ้งของอู๋คุน เฉินเฟิงก็ไม่ได้รู้สึกหวาดผวา สามารถบอกได้ว่าเป็นเวลาที่ทำให้เฉินเฟิงหวาดผวาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน