ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 790
บทที่ 790 ต่างฝ่ายต่างวางแผนทำร้ายกัน
สิ่งที่ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวและไม่สบายใจที่สุดก็คือ ออกัสตัสครอบครองยายีนที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อพันธุกรรมมนุษย์ ว่ากันว่าสามารถทำให้ร่างกายของคนบรรลุขีดจำกัดของมนุษย์ และมีวิวัฒนาการที่ดียิ่งขึ้น ทำให้หั้วจิ้งชั้นต้นมีความสามารถใกล้เคียงกับหั้วจิ้งชั้นสูงสุด
พูดได้ว่า ยาชนิดนี้ถ้าปรากฏออกมาในปริมาณมาก จะทำให้โลกทั้งใบเกิดการเปลี่ยนแปลง
ในทางเดียวกันก็สื่อให้เห็นอย่างชัดเจน ถึงความอันตรายของออกัสตัสคนนี้ เป็นคนที่ทำให้ฝ่ายอำนาจต่างๆทั่วทุกมุมโลกล้วนปวดหัว
เวลานี้พระสันตะปาปาโจ้ส์เริ่มปวดหัวขึ้นมาแล้ว การแข่งขันเพิ่งจบลง หัวหน้าองค์กรศิลปะการต่อสู้ทั่วโลกกำลังเตรียมจะเปลี่ยนคน และคนที่ได้คัดเลือกเป็นหัวหน้าคือหลัวเห้าเทียน ถ้าหากเวลานี้ออกัสตัสมาถึงโรมแล้วจริงๆ นี่ไม่ใช่ข่าวดีอะไร
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ แต่พวกกงปุ่นเหย่อู่ก็ไม่มีเหตุผลในการไม่ลงมือหนิ? ควรจะลงมือมากกว่าเดิมไม่ใช่หรอ? อย่าลืมสิ ลูกศิษย์ของออกัสตัสวิลเลียมตายด้วยน้ำมือของเฉินเฟิงเหมือนกัน” หลังจากตกตะลึง พระสันตะปาปาพูดในสิ่งที่ตนสงสัยออกมา:“หรือเป็นเพราะกงปุ่นเหย่อู่รู้ว่านายแอบสะกดรอยตามเฉินเฟิง ดังนั้นเขาจึงถอยหนี?”
“มีความเป็นไปได้เหมือนกันครับ” แซคพยักหน้าครุ่นคิด:“กงปุ่นเหย่อู่ โซโลและหงเทียนป้าทั้งสามคนล้วนเป็นยอดฝีมือระดับหั้วจิ้งชั้นสูงสุดที่มีชื่อเสียงมาหลายปี ต่างคนต่างมีวิธีการที่คนอื่นไม่รู้ การที่สามารถรู้ว่าผมแอบสะกดรอยตามก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”
“บางทีนี่อาจจะเป็นคำอธิบายที่ดี่สุด” พระสันตะปาปาโจ้สพูดขึ้นช้าๆ
“พระสันตะปาปา” แซคทำความเคารพพระสันตะปาปา จากนั้นถามด้วยความไม่เข้าใจ:“ในเมื่อเฉินเฟิงปฏิเสธความหวังดีของพระสันตะปาปาไปแล้ว ทำไมถึงต้องให้ผมแอบดูแลความปลอดภัยของเขาด้วยครับ?”
“มีสามเหตุผล” พระสันตะปาปาพูด
“ข้อหนึ่ง เพราะหลัวเห้าเทียน เฉินเฟิงเป็นแขกที่พวกเราคูเรียเชิญมา ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับเฉินเฟิงระหว่างทางกลับไปยังโรงแรมวาติกัน นายเป็นหลัวเห้าเทียน นายจะทำยังไง? เวลานี้มีปัญหากับหลัวเห้าเทียน เท่ากับมีปัญหากับวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย พวกเราจะได้มากกว่าเสีย อีกอย่าง เกิดเรื่องขึ้นในเขตของพวกเราคูเรีย เสียหน้าไม่ได้”
“ข้อสอง เพราะทิฟฟานี่ ทิฟฟานี่ชอบเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้มาก ปากเอาแต่บอกว่าเขาโง่ แต่ภายในใจกลับเป็นห่วงมาก อายุของพวกเราก็ไม่น้อยแล้ว วันข้างหน้าโลกนี้เป็นโลกของคนหนุ่มสาว จากพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ที่เฉินเฟิงแสดงออกมาตอนประลอง และนิสัยของเขาในงานเลี้ยง ฉันเชื่อว่าในอนาคตข้างหน้าอีกไม่นาน เจ้าเด็กคนนี้ต้องมีชื่อเสียงอย่างแน่นอน ต้องเป็นยอดฝีมือสูงสุดท่ามกลางยอดฝีมือมากมาย เวลานี้พวกเราแสดงเจตนาดีออกไป มีแต่จะเป็นผลประโยชน์กับเรา ไม่มีผลเสีย”
“สำหรับข้อที่สาม” พระสันตะปาปาโจ้ส์หยุดพักหนึ่ง พูด:“ฉันมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง วันข้างหน้าเจ้าเด็กคนนี้ต้องสู้กับออกัสตัสสักครั้ง! ดังนั้น ในเวลาเดียวกันที่ฉันไม่ต้องมีศัตรู ให้ความช่วยเหลือเจ้าเด็กคนนี้นิดหน่อย อาศัยเขา กำจัดออกัสตัส”
เพิ่งพูดจบ แววตาพระสันตะปาปาโจ้สฉายแสงที่น่าตกตะลึง
แซคโค้งลำตัวลง ก้มหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก
……
อีกด้านหนึ่ง
กงปุ่นเหย่อู่ โซโลและหงเทียนป้าทั้งสามคนกำลังเตรียมตัวออกไป
จู่ๆหงเทียนป้าก็พูดขึ้น:“ฉันคิดมานานแล้ว ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เหมาะสม”
โซโลที่อยู่ด้านข้างย้อนถามหงเทียนป้า:“ไม่เหมาะสมตรงไหน?”
ที่แท้ ตอนที่รู้ว่าเฉินเฟิงได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงกลางคืนของพระสันตะปาปาโจ้ส์ กงปุ่นเหย่อู่ โซโลและหงเทียนป้าทั้งสามคนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากคูเรีย ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงรีบติดต่อสภามืด อยากได้รับการช่วยเหลือจากคนของสภามืด
และคนที่กงปุ่นเหย่อู่ โซโลและหงเทียนป้าพวกเขาสามคนติดต่อไปหาไม่ใช่ใครอื่น แต่คือคนสนิทของออกัสตัส——เมอร์ล็อต
แต่เมอร์ล็อตไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใดๆกับกงปุ่นเหย่อู่ โซโลและหงเทียนป้าพวกเขาสามคน ในทางกลับกันเขากลับพูดเตือนกงปุ่นเหย่อู่ โซโปละหงเทียนป้าพวกเขาสามตัน
“ประธานสภาออกัสตัสบอกให้ฉันบอกพวกนายไม่กี่ประโยค”
เมอร์ล็อตพูด:“ข้อหนึ่ง สภามือของพวกเราไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวความแค้นระหว่างพวกนายกับเฉินเฟิง เฉินเฟิงเป็นแขกที่พระสันตะปาปาเชิญมาพิเศษ หากระหว่างทางกลับโรงแรมเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเฉินเฟิง เท่ากับเป็นการตบหน้าคูเรียอย่างแรง ถึงแม้สภามืดของเราไม่ได้กลัวคูเรีย แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องสร้างศัตรู และไม่จำเป็นต้องแบกรับความโกรธจากคูเรียแทนพวกนายด้วย”
“ข้อสอง ตอนนี้เฉินเฟิงเป็นแชมป์การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก หากเวลานี้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับเขา เท่ากับเป็นการตบหน้าหัวหน้าต่างๆขององค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลก อีกทั้งหัวหน้าองค์กรศิลปะการต่อสู้คนต่อไปคือหลัวเห้าเทียน หลัวเห้าเทียนเป็นคนยังไง ฉันคงไม่ต้องพูดให้มากความ พวกนายทั้งสามคนก็คงรู้เป็นอย่างดี”
“ข้อสาม และเป็นข้อที่สำคัญที่สุด เฉินเฟิงในตอนนี้ไม่ใช่ตัวแทนของตัวเขาเอง แต่เป็นตัวแทนของหวาเซี่ย นี่หมายความว่าอะไร พวกนายรู้ดี”
“ดังนั้น ถ้าหากพวกนายสามคนสามารถแบกรับความโมโหโกรธเคืองจากพวกเขาได้ พวกนายก็ไปฆ่าเฉินเฟิงเถอะ”
ไม่รอให้กงปุ่นเหย่อู่ โซโลและหงเทียนป้าพวกเขาสามคนตอบกลับ ทางด้านเมอร์ล็อตก็ตัดสายไปแล้ว
หงเทียนป้าครุ่นคิดแล้วพูด:“ตอนนี้พวกนายลองคิดทบทวนคำพูดเมื่อกี้ของเมอร์ล็อต ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกว่า เบื้องหน้าที่เมอร์ล็อตแสดงให้พวกเราดู พวกเขาสภามืดไม่อยากแบกรับความเสี่ยงจากการฆ่าเฉินเฟิงในครั้งนี้ และปฏิเสธการเข้าร่วม แต่ว่า ในทางกลับกัน พวกเขาสภามืดไม่เข้าร่วม อาศัยความสามารถของพวกเราสามคนเป็นไปไม่ได้ที่จะลงมือในเขตพื้นที่คูเรีย ในทางตรงกันข้าม กลับกลายเป็นการปกป้องไอ้เด็กเปรตเฉินเฟิงไม่ใช่หรอ?”
โซโลถามอย่างไม่เข้าใจ:“แบบนี้มันไม่ถูก! วิลเลียมลูกศิษย์ของออกัสตัสตายด้วยน้ำมือของเจ้าไอ้เด็กเปรตเฉินเฟิง ตามหลักการแล้ว พวกเขาไม่ควรหยุดพวกเรา แต่ควรช่วยพวกเราถึงจะถูก”
เวลานี้กงปุ่นเหย่อู่พูดแทรกขึ้นมา:“โซโลพูดถูก ถึงแม้ครั้งนี้สภามืดเข้าร่วม ก็คงไม่ได้รับผลกระทบอะไร คนที่จะเดือดร้อน มีแต่อำนาจที่อยู่เบื้องหลังพวกเราสามคน เมื่อไหร่ที่ลงมือกับสภามืด เป็นการเปิดฉากกับวงการศิลปะการต่อสู้ทั่วโลก หากไม่ทันระวัง ก็จะมีฝ่ายหนึ่งล้มลงตลอดกาล”
หงเทียนป้า:“ถูกต้อง เพราะแบบนี้ แม้แต่หลัวเห้าเทียนที่เป็นหัวหน้าคนใหม่ขององค์กรศิลปะการต่อสู้ก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่พวกเราคิดให้ตายยังไงก็ไม่เข้าใจ ว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ถึงทำให้สภามืดผิดปกติแบบนี้”
“ตอนนี้พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ พวกเราพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการฆ่าไอ้เด็กเปรตเฉินเฟิงแล้ว” โซโลส่ายหน้าด้วยความไม่สบอารมณ์:“ไปกันเถอะ ตอนนี้พวกเราต้องรักษาชีวิตเอาไว้ ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าหลัวเห้าเทียนมาถึง ต่อให้มีปีกพวกเราก็หนียาก”
กงปุ่นเหย่อู๋สีหน้าเคร่งขรึม พูดเสียงเหี้ยม:“ขอแค่พวกเราสบโอกาส จะต้องฆ่าไอ้เปรตเฉินเฟิงให้แหลกเป็นชิ้นๆ”
หงเทียนป้าและโซโลเผยท่าทางชั่วร้าย
ราวกับว่าในสายตาของพวกเขาเฉินเฟิงเป็นคนที่ตายไปแล้ว