ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 794
ใช่แล้ว!
เฉินอิงโรผู้ไม่ธรรมดาคุ้มคลั่งไปแล้ว
ก่อนที่การแข่งขันศิลปะการต่อสู้จะเริ่มขึ้น เฉินโป๋ยุงคิดจะใช้ประโยชน์จากตระกูลจิ่งในการกำจัดเฉินเฟิง จิ่งเซิ่งแห่งตระกูลจิ่งไปสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายกับเฉินเฟิง ปรากฏว่าจิ่งเซิ่งผู้ที่รบแพ้ โดนเฉินเฟิงกระทืบซะหัวเละเทะไปหมด ตายตกไปตามกัน
หลังจากที่เฉินอิงโรผู้ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรู้เข้า ก็ขาดสติ ปากบ่นพึมพำ เงยหน้าขึ้น สองตาแดงก่ำ สีหน้าบิดเบี้ยว คว้าพยาบาลที่อยู่ข้างๆตะโกนขึ้น :เฉินเฟิงตายแล้ว!ในที่สุดเฉินเฟิงก็ตาย!
การตายของจิ่งเซิ่งเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเฉินอิงโร
วันนี้ เฉินโป๋ยุงอาศัยกำลังของครอบครัว ส่งเฉินอิงโรไปรักษาที่โรงพยาบาลประสาทที่ขึ้นชื่อของเมืองเยี่ยนจิง
แต่ว่า พอเฉินอิงโรฟื้นขึ้นจากยากล่อมประสาท ก็ได้แต่ตะโกนคำรามก้องอยู่แบบนี้:เฉินเฟิงตายแล้ว!เฉินเฟิงตายแล้ว!ฮ่าๆๆๆ เฉินเฟิงในที่สุดแกก็ตาย!
เฉินอิงโรที่เสียสติไปนาน จัดการดูแลชีวิตตัวเองไม่ได้แม้แต่น้อย
เฉินโป๋ยุงพ่นบุหรี่ออกมาคำโต แล้วถอนหายใจลึกๆ
เฉินเฟิงคนก่อนสำหรับเฉินโป๋ยุงแล้ว ก็แค่แข็งแกร่งกว่าคนในกลุ่มเดียวกันก็เท่านั้น
แต่ว่าตอนนี้ พอเฉินเฟิงได้เป็นแชมป์เปี้ยนศิลปะการต่อสู้ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ตอนนี้อยากจะหาเรื่องเฉินเฟิง ก็ต้องคิดให้ดี อย่างไรเสียเฉินเฟิงในตอนนี้ไม่เหมือนก่อนหน้าแล้ว
“เพล้ง~!”“เพล้ง~!”
ในตอนที่เฉินโป๋ยุงกำลังครุ่นคิดนโยบายการรับมือนั้น ด้านนอกประตูก็มีเสียงดังกังวานมา จากนั้นก็เป็นเสียงเดินของรองเท้าส้นสูง
เฉินโป๋ยุงฟังออก ว่าเจ้าของเสียงฝีเท้านั้นรีบร้อนมาก เสียงฝีเท้าดังมาแต่ไกลแล้วมาหยุดลงใกล้ๆ
ประตูห้องหนังสือถูกคนด้านนอกผลักเข้ามา คนที่มาคือภรรยาของเฉินโป๋ยุง——หวังซิ่วเหมย
“แคก~!”“แคก~!”
ควันบุหรี่ที่โชยมาทำให้หวังซิ่วเหมยรู้สึกไม่ค่อยสบาย ไอพลาง ใช้มือโบกพัดหน้าจมูก
“มีอะไรหรือเปล่า”เฉินโป๋ยุงมองและถามภรรยาที่อยู่ตรงหน้า
หวังซิ่วเหมยใช้มือปิดปาก พูดเสียงอู้อี้“โรเอ๋อร์หายดีแล้ว”
“ว่าไงนะ หายดีแล้ว หมายความว่าไง”เฉินโป๋ยุงตะลึง เขาพอจะเดาออกว่าภรรยาต้องการจะพูดอะไร แต่ก็ไม่แน่ใจ
“ฉันบอกว่า อาการป่วยของโรเอ๋อร์ดีขึ้นแล้ว เจ้าตัวสบายดีแล้ว”น้ำเสียงของหวังซิ่วเหมยตื่นเต้น
เฉินโป๋ยุงดีใจลิงโลด ไม่รู้ตัวว่าบี้บุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่เมื่อไหร่
“เป็นมายังไง ทำไมอาการป่วยของโรเอ๋อร์ถึงจู่ๆดีขึ้น”
“ดูคุณพูดเข้าสิ คุณอยากให้ลูกสาวอยู่ในโรงพยาบาลบ้าไปตลอดหรือไงคะถึงจะพอใจ”หวังซิ่วเหมยกลอกตาขาวมองเฉินไป๋ยุงอย่างตำหนิ พูดขึ้น“เราออกไปพูดด้านนอกกันดีกว่า”
พูดจบ หวังซิ่วเหมยจึงหมุนตัวเดินจากไป
เฉินโป๋ยุงรีบเดินขึ้นหน้า ก้าวเท้าออกไปจากห้องหนังสือ
เมื่อครู่กำลังเซ็งเรื่องเฉินเฟิง ตอนนี้จู่ๆก็เบิกบานขึ้นมา อย่างน้อยก็มีข่าวดีอย่างหนึ่ง
หวังซิ่วเหมยนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ยกถ้วยชาขึ้นจากโต๊ะจิบสองคำ กลิ่นบุหรี่ในห้องทำให้หล่อนรู้สึกไม่สบายนัก
“เหล่าเฉิน ฉันจะบอกให้ฟัง ที่โรเอ๋อร์หายไวขนาดนี้ เป็นเพราะความดีความชอบของฉันแท้ๆ”หวังซิ่วเหมยเห็นเฉินโป๋ยุงนั่งลงตรงหน้าจึงเปิดปากพูด
“ว่าไงล่ะ”เฉินโป๋ยุงถามหวังซิ่วเหมยขึ้นอย่างสงสัย
ผู้เชี่ยวชาญในเมืองเยี่ยนจิงยังไม่มีใครรับมือกับอาการของลูกสาวอยู่ ตอนนี้จู่ๆหายดี แล้วภรรยามาบอกว่าเป็นความดีความชอบของตัวเอง นี่มันเป็นมาไงกัน
“ที่จริงฉันก็แค่บอกกับโรเอ๋อร์ว่า สวะอย่างเฉินเฟิงโดนฆ่าตายระหว่างการแข่งขัน”หวังซิ่วเหมยเล่าเหตุการณ์จริงอย่างมีจังหวะจะโคน
“ว่าไงนะ”เฉินโป๋ยุงตกใจจนลุกขึ้นโผลง เบิ่งตาโพลงโต
“อย่ากระต่ายตื่นตูมสิ”หวังซิ่วเหมยเดินไปหยุดข้างเฉินโป๋ยุง พยุงเขานั่งลง พูดต่อ“เหล่าเฉินคะ คุณลองคิดดู ที่โรเอ๋อร์เป็นบ้า ก็เป็นเพราะไอ้สวะเฉินเฟิงนั่นแท้ๆ ฉันก็แค่หนามยอกเอาหนามบ่ง บอกโรเอ๋อร์ ว่าเฉินเฟิงโดนฆ่าตายแล้ว”
“พอฉันลอง ก็ได้ผลจริงๆ โรเอ๋อร์กำลังกรี๊ดอยู่ก็หยุดลง กลับมาถามฉันว่าจริงเหรอ ตอนนั้นฉันดีใจ ว่าได้ผล จึงรีบตอบว่าใช่ๆ ตอนนี้ลูกสาวค่อยๆสงบลงแล้วค่ะ และยอมรับการรักษา
หวังซิ่วเหมยเล่าเรื่องเฉินอิงโรให้เฉินโป๋ยุงฟังทุกอย่าง
“แต่ วิธีนี้รักษาได้แค่เฉพาะหน้า ช้าเร็วลูกต้องออกจากโรงพยาบาลบ้าอยู่ดี ถึงเวลาก็รู้เองว่าเฉินเฟิงไม่ได้ตายจริง”จู่ๆหวังซิ่วเหมยเปลี่ยนวิธีพูด“เพื่อให้ลูกได้ฟื้นฟูอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นเฉินเฟิงต้องตายจริงๆ”
ฟังคำพูดของหวังซิ่วเหมยผู้เป็นภรรยา เฉินโป๋ยุงจึงครุ่นคิด
“เหล่าเฉินคะ เมื่อก่อนตระกูลจิ่งเคยติดหนี้บุญคุณตระกูลเฉินของเราอยู่ และครั้งนี้ตระกูลจิ่งก็ทำงานที่รับปากเราไม่สำเร็จ และจิ่งเซิ่งของตระกูลจิ่งก็ตายด้วยน้ำมือของเฉินเฟิงไม่ใช่หรือคะ พวกเราแค่จุดไฟกระพือให้อีกนิดหน่อย ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะรามือ”หวังซิ่วเหมยพูดความคิดตัวเองออกมา
เฉินโป๋ยุงหรี่ตา กัดฟัน
“ตกลง”
อีกด้านหนึ่งของเมืองเยี่ยนจิง พื้นที่ตระกูลจิ่งกว้างใหญ่ไพศาล
จิ่งหยูนเฟิงเรียกสมาชิกครอบครัวมารวมตัวกัน เรียกประชุมสำคัญ ในกลุ่มนี้ มีสายของจิ่งหยูนหลินด้วย
“วันนี้ ที่ผมเรียกทุกคนมาประชุมสมาชิกครอบครัว มีเพียงสาเหตุเดียว:ก็คืออยากจะหารือกับทุกคนเรื่องกำจัดไอ้สวะเฉินเฟิง!”
“ต่อไปขอให้ซื่อหมิงบอกกล่าวสถานการณ์ของเฉินเฟิงให้ทุกคนรับทราบ”จิ่งหยูนเฟิงแสดงท่าให้จิ่งซื่อหมิงขึ้นมาบรรยาย
“เชื่อว่าทุกท่านได้รับทราบโดยวิธีต่างๆนานาแล้ว เฉินเฟิงได้เป็นแชมป์เปี้ยนการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก อีกอย่าง ในการแข่งขันแมชสุดท้าย เขาได้ทำสถิติใหม่ ได้เข้าสู่ระดับกลาง”จิ่งซื่อหมิงชะงัก พูดขึ้น“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เดิมทีเราจะใช้โอกาสในการในการแข่งขันจู่โจมฆ่ามันเสียหน่อยแต่ก็ล้มเหลว”
จิ่งซื่อหมินพูดต่อ“จากข่าวล่าสุดในตอนนี้ เฉินเฟิงได้กลับไปหวาเซี่ยเรียบร้อยแล้ว การตายของเสี่ยวเซิ่งก่อนหน้า ตระกูลจิ่งของเราก็ได้เข้าสู่กระบวนการไม่ตายไม่เลิกรากับเฉินเฟิ่งเรียบร้อย จากนิสัยของเจ้านั่น คราวนี้ตระกูลจิ่งของเราก็คงต้องเผชิญกับอันตรายครั้งใหญ่”
พอจิ่งซื่อหมิงพูดจบ บรรยากาศทั้งห้องประชุมก็เงียบขึ้นอย่างประหลาด
ผู้คนในห้องประชุม ไม่มีใครกล้าแสดงความเห็นอะไรทั้งสิ้น ทุกคนที่มานั่งในนี้ได้ล้วนเป็นยอดคน แต่พอรู้พัฒนาการฝีมือของเฉินเฟิงแล้ว ต่างก็รู้ว่าจะเอาชีวิตเขาก็จะต้องแลกด้วยมูลค่ามหาศาล
“ก่อนที่ผมจะเรียกทุกคนมารวมตัวประชุมกัน เฉินโป๋ยุงแห่งตระกูลเฉินก็อดใจไม่ไหวโทรหาผมก่อนแล้ว เขาโทรมาขอร้องว่าไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม ก็ต้องกำจัดเฉินเฟิงให้ได้”จู่ๆจิ่งหยูนเฟิงก็พูดขึ้นว่า“คิดว่าทุกท่านที่นั่งอยู่ที่นี่คงจะรู้ดี ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว ตระกูลจิ่งของเราติดหนี้บุญคุณตระกูลเฉินไว้มาก จึงทำให้ตระกูลจิ่งอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้”