ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 83
บทที่ 83 กินไฟตามข้างถนน
“คนที่พวกเขาจะมารับ คือท่านประธานของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ต้าหลง” จวงเห่าหยินพูดขึ้นด้วยความ มั่นใจ
“ท่านประธานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้าหลง! ” หลิน ต้ายงเอ่ยพูดด้วยสีหน้าที่ภูมิใจ “งั้นคงจะเป็นบุคคลสำหรับ ที่ติดอันดับฟอร์บส์แล้ว”
“ไร้สาระ คนที่มีเงินทุนเป็นหกหมื่นกว่าล้านหยวน แล้ว นายคิดว่าจะไม่ได้ติดอันดับฟอร์บส์หรือไง” จวงเห่าหยิน ถลึงตามองหลินต้ายงเพียงแวบตาเดียว จากนั้นก็พูดขึ้น
“เหอะ” เวลานี้ เฉินเฟิงจึงหัวเราะขึ้นอย่างไม่เกรงใจ ”
“แกหัวเราะทำไม? ไอ้บ้านนอก? นี่แกใกล้จะตายแล้วยัง กล้าหัวเราะอีกหรอ? ” จวงเห่าหยินหันกลับมาจับจ้อง เฉินเฟิงแล้วพูดขึ้น
เฉินเฟิงส่ายหัวแล้วพูดด้วยเสียงเรียบเฉย “ฉันหัวเราะ อะไรแกไม่รู้หรือไง?”
“คนที่พี่ชายแกมารับ ไม่ใช่ท่านประธานของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ต้าหลง” เฉินเฟิงเอ่ยพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
“ไม่ใช่ท่านประธานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้าหลง หรอ? สมองของแกถูกรถไฟทับใช่ไหม คนเยอะขนาดนี้ ปรากฏตัว ไม่รับท่านประธานแล้วจะให้มารับแกหรือไง? ” %3D จวงเห่าหยินทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ นอกจากท่านประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้าหลงแล้ว แล้วใครจะ มีรถโรลส์-รอยซ์ห้าคันขับมาแบบนี้
“แกยังถือว่าฉลาด” เฉินเฟิงยิ้มอ่อนๆ ขึ้น
จวงเห่าหยินทำเสียงอำๆ อึ้มๆ ไอ้โง่นี้ มันบ้านแล้วหรือ ไง? เขาก็แกพูดไปเท่านั้น ไอ้โง่นี้มันยังคิดจะเอาจริงอีก
“ท่านประธานจวง ฉันว่าไอ้เด็กเปรตนี้มันคงทำถูกทำให้ ตกใจจนกลายเป็นเอ๋อไปแล้ว แล้วยังเริ่มพูดจาเหลวไหล อีก” หลินต้ายงแสยะยิ้มขึ้น แล้วใช้สายตากวาดมองเสื้อผ้า ของเฉินเฟิง แล้วใส่เสื้อผ้ายกขนอิฐอันเลอะเทอะ แล้วยัง คิดว่าจะให้เหล่าคณะกรรมการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ต้าหลงมารับอีก
จวงเห่าหยินเบาะปากแล้วเอ่ยพูด “ที่แท้แกมีความกล้า แค่เท่านี้หรอ นี่มันยังไม่ถึงไหนเลย ทำไมแกรู้สึกกลัวจน ต้องราดเลยหรือไง”
เฉินเฟิงถอนหายใจแรงๆ “แกไม่เชื่อจริงๆ หรอว่าพวกเขา มารับฉัน? ”
“ถ้าพวกเขามารับแก ฉันคงกินไฟตามถนนแล้ว” จวงเห่า หยินชี้ไปยังไฟข้างถนน แล้วหัวเราะเยาะพลางพูดขึ้น
เฉินเฟิงทำเหมือนยิ้มและไม่ยิ้ม “งั้นฟันของแกคงไม่แข็ง ขนาดนั้น”
พูดจบ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมา
คนที่อยู่ข้างหน้าสุดสวมใส่ชุดเดรสรัดรูป แล้วถุงน่องสี ดำ เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างเซ็กซี่ ผู้หญิงที่มีผมดำสลวยแล้วท่าทางดูสง่า การแต่งดูมีเสน่ห์ ทำให้ทั้งเรือนร่างของเธอ แผ่รังสีอันงดงามที่เมืองหลวงแห่งนี้
“เย็ดเข้เฉียวเสี่ยวโย่ว! คณะกรรมการบริหารบริษัท อสังหาริมทรัพย์! ”
“นี่เป็นหนึ่งในสิบลำดับสาวสวยในเมืองจินหลิงของเรา เลยนะเนี่ย ปกตินางมักจะไม่ปรากฏตัวง่ายๆ ต่อหน้าใคร ทำไมวันนี้นี้ถึงมาได้”
“คนที่ทำให้สาวสวยเฉียวเสี่ยวโย่วมารับและยังทำตัว เหมือนมาเยือนทางที่ทางการ เป็นใครกันแน่?!
“คิดว่าคงจะเป็นท่านประธานตัวจริงของบริษัท อสังหาริมทรัพย์มั้ง”
มีคนไม่น้อยที่คิดเหมือนจวงเห่าหยิน แต่ว่ามีส่วนมาก
กลับไม่รู้ว่าเฉียวเสี่ยวโย่วเป็นใครกันแน่ ผู้คนที่เดินผ่าน จึง ทำได้เพียงเอามือถือขึ้นมาแล้วถ่ายอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็ โพสต์หนึ่งหน้าฟิตของตัวเอง พอมองหน้าตาอันสะสวยของเฉียวเสี่ยวโย่ว เอวที่เหมือน
งน้ำ ทำให้จวงเห่าหยินถึงกับกลืนน้ำลาย แค่รู้สึกว่าท้อง น้อยของเขาเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน เธอที่เหมือนดั่งแรไอ เทม ชีวิตเขาคงไม่มีทางได้แตะต้อง แต่แค่จินตนาการ เล่นๆ ในหัวสมองก็ยังดี
พี่ชาย” จวงเห่าหยินเดินหน้ามาไม่กี่ก้าว แล้วยิ้มต้อนรับ
โจวจิ่งเหวินดูๆ แล้วเหมือนมีอายุราวๆ สี่สิบกว่า เรือนร่าง ซูบผอม ผู้ชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่น เรือนร่างของเขาแผ่รังสีความเกรงขามออกมา พอเห็นจวงเห่าหยิน เขาแค่ ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “แกทำอะไรอยู่ที่นี่ ?
“พี่ชาย ไม่มีอะไร ก็แค่สองคนนี้ที่กล้ามากวนใจผมบน รถไฟ ผมเลยจะสั่งสอนๆ พวกเขาหน่อย” จวงเห่าหยินยิ้ม อย่างเบิกบาน
“อืม” โจวจิ้งเหวินผงกหัวเล็กน้อย แล้วกำชับขึ้น “ลงไม้ ลงมือให้มันเบาๆ หน่อย อย่าทำให้คนอื่นตายได้”
“พี่ชายวางใจเถอะ ผมรู้ดีแก่ใจ” จวงเห่าหยินจึงรีบพูดขึ้น “ใช่แล้ว พี่สาว วันนี้บริษัทพวกพี่มาเยือนแบบอลังการ แบบนี้ มารับท่านประธานบริษัทใช่ไหมครับ? “จวงเห่าหยิน ถามขึ้น
โจวจิ่งเหวินส่ายหัว แล้วพูดขึ้น “ไม่ใช่ มารับคนอื่น”
“มารับคนอื่น? ” จวงเห่าหยินผายมือแล้วหัวสมองของเขา จึงมีความคิดบางอย่างที่ไม่คาดคิดผุดขึ้นมา ไม่ใช่ว่ามารับ ไอ้โง่นั่นใช่ไหม?
ทว่าเขาแค่คิดถึงแบบนี้ไปครึ่งวินาที ก็ถูกจวงเห่าหยิน
เองปฏิเสธ ไอ้โง่นั่น มันจะมีปัญญาขนาดนี้ได้ยังไง ถ้ามีก็
คงไม่มีทางมานั่งรถไฟแล้ว
“เป็นอะไรไป? ” เหมือนดูออกว่าจวงเห่าหยินทำสีหน้าที่ ไม่ปกติ โจวจิ่งเหวินจึงถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร” จวงเห่าหยินส่ายหัว แล้วยิ้มพูดขึ้น “เมื่อกี้ไอ้ สองคนนั้นที่ไม่มีตาทิพย์ที่มากวนใจผม หนึ่งคนในนั้นกลับ บอกว่าพวกพี่มารับเขา ฮ่าๆๆ พี่ชาย พี่ว่ามันตลกไหม”
จวงเห่าหยินพูดจบ ก็ตั้งใจหันไปมองสีหน้าของโจวจิ่งเห วิน กลับสังเกตเห็นว่าไม่ได้ได้ยิ้ม อีกทั้งยังอ้าปากค้าง คน ที่หลินต้ายงและคนกลุ่มนั้นมุมล้อมคือเฉินเฟิง จากนั้นเขา จึงพูดอย่างล้ำๆ อึ้งๆ “เห่า …..เห่าหยิน แกนี่มันไม่ดูตาม้า ตาเรือเอง ไม่ใช่ว่าเป็นเขาใช่ไหม?”
นิ้วมือของโจวจิ่งเหวินจึงหดลง จากนั้นสีหน้าของจวงเห่า หยินที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มดูเกร็งขึ้นมาทันที
“แก..แกว่ามาสิ” น้ำเสียงของโจวจิ่งเหวินสั่นเทาเล็ก
น้อย ในใจจึงเต็มไปด้วยความคาดเดา ทว่าเขาก็ไม่อยาก
จะเชื่อ ไอ้คนไม่มองตามม้าตาเรือที่เขาพูดถึง เป็นบุคคล
สำคัญของบริษัทที่เป็นคนที่พวกเขามารอต้อนรับ
จวงเห่าหยินกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้น “พี่ชาย คนของ บริษัทพวกพี่คงจะเข้าใจผิดไปแล้วหรือเปล่า ไอ้คน ที่ไม่มี ตาม้าตาเรือ เขาคือแรงงานที่กำลังมาหางานทำที่จินหลิง
นะ”
“เพี้ยะ!”
จู่ๆ ก็มีฝ่ามือหนึ่งตบลงบนใบหน้าที่อวบอ้วนของจวงเห่า หยิน ทำให้หน้าที่เป็นไขมันของเขาสั่นสะเทือน
“แรงงานงั้นหรอ! จวงเห่าหยิน ไอ้โง่เอ้ย ล้วนหาเรื่องห่า อะไร!” โจวจิ่งเหวินทำนัยน์ตาที่แดงระเรื่อ แรงงานห่าอะไร ของมึง เฉียวเสี่ยวโย่วที่เป็นคณะกรรมการของบริษัทก็เดิน มาข้างหน้าแล้วงอลำตัวทำความเคารพทันที
ตรงที่ไม่ไกล ใบหน้าเรียวเล็กของหลิ่วอีอีขาวซีดขึ้นมาทันที เธอรู้จักเฉียวเสี่ยวโย่ว ต่อให้เป็นปู่ของเธอ ก็ยังเอ่ย ชมเฉียวเสี่ยวโย่วไม่หยุด รู้สึกว่าเฉียวเสี่ยวโย่วสามารถ เป็นราชินีแห่งโลกธุรกิจได้ แล้วให้เธอต้องยึดแบบอย่าง เฉียวเสี่ยวโย่วไว้ปฏิบัติกับตัวเอง และเรียนรู้กับเฉียวเสี่ยว โย่วให้มากๆ
แต่ตอนนี้ คนที่เธอต้องยึดถือให้เป็นแบบอย่าง กลับเป็น ไอ้บ้านนอกที่เธอดูถูก ทุกคนกลับงอลำตัวให้เขา! อารมณ์ของหลิ่วอีอีได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก
บนโลกใบนี้ มันเป็นอะไรไปแล้ว?
“คุณชายเฉินต้องขอโทษด้วยนะคะที่ดิฉันสาย” เฉียว เสี่ยวโย่วพูดขึ้นด้วยความเคารพ เธอคือผู้จัดการมืออาชีพ ที่ตระกูลเฉินฝึกฝนออกมา ฐานะของเธอไม่ต่างจากการ เป็นคนใช้ของตระกูลเฉินเลย กิจการในพื้นที่จินหลิงของ ตระกูลเฉิน มีเธอเป็นคนดูแล และออกหน้าจัดการทุกอย่าง
“ไม่เป็นไร ฉันก็พึ่งถึงเหมือนกัน” เฉินเฟิงยิ้มอ่อนแล้วพูด พอเห็นฉากนี้ หลินต้ายงและชายร่างกำยำคนอื่นๆ ตอน นี้หน้าผากเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ แม้กระทั่งน่องและขาก็
ขึ้น
สั่นเทาขึ้นมา
“คุณชายเฉิน คนพวกนี้ ….” ดวงตาคู่สวยของเฉียวเสี่ยว โย่วจับจ้องไปพวกหลินต้ายง คนที่สามารถดำเนินกิจการ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ตาของเธอแน่นอนว่าต้องไม่แย่ ขนาดนั้น ดังนั้นมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกหลิน ต้ายงกำลังจะจู่โจมเฉินเฟิง