ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 840
แต่ชายชรากลับไม่ได้สนใจพลางเดินเข้าไปหาพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
เขานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ เฉินเฟิงแล้วก็หันไปพูดกับเขาทันที
“เฉินเฟิง คุณชายเฉิน?”
เฉินเฟิงมองเขาถึงแม้ว่าจะมีอายุที่เยอะและมีรอยย่นให้เห็นบนใบหน้า แต่กลับยังมีความเปล่งปลั่งและสีหน้าที่แดงระเรื่อ ดูมีความสดใสอย่างมาก
“ใช่แล้ว แต่ผมคงไม่เหมาะสมที่คุณจะเรียกแบบนั้น”
“คุณชายเฉินล้อเล่นเกินไปแล้ว ถึงจะไม่ได้กล่าวถึงตำแหน่งของคุณในแวดวงธุรกิจ แต่ความสามารถและจุดแข็งของคุณนั้นเป็นที่ประจักษ์อย่างมาก ผมว่าคงไม่มีใครกล้าว่าคุณไม่เหมาะสมหรอก”
เฉินเฟิงยิ้มเยาะออกมาพร้อมกับพูดต่อ
“แต่คุณก็ยังให้คนไปเชิญผมมาด้วยวิธีที่ว่าหากผมไม่มาที่นี่ ก็เอาเรื่องการเคลื่อนไหวของผมไปแจ้งให้กับสำนักเทียนซาน ทั้งหมดนี้คงจะเป็นสิ่งที่คุณพูดสินะ ?”
เมื่อได้ยินคำถามของเฉินเฟิง ชายชราไม่ได้แสดงท่าทีขอโทษอะไร เพียงแต่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่ายเท่านั้น
“ถ้าหากผมไม่บอกแบบนี้ ก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะเชิญคุณชายเฉินมาที่นี่ได้ แต่ผมสัญญาได้เลยว่าต่อให้คุณชายเฉินไม่ยอมรับการเชื้อเชิญนี้ ผมก็ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะว่าผมนั้นมีความชื่นชมในตัวคุณชายเฉินมาตลอด”
เฉินเฟิงถึงกับตะลึง พลางกล่าวถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ชื่นชมในตัวผม?นี่เป็นมุกใหม่หรือไงกัน?”
ชายชรายังคงไม่มีการตอบสนองใดๆ เพียงแต่ตอบกลับเขาเท่านั้น
“คุณชายเฉิน ผมว่าเรามาเข้าเรื่องสำคัญกันเลยดีกว่า ผมว่าคุณมาที่นี่คงไม่อยากมาเสียเวลากับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้หรอก”
ชายชราหวังจะหยอกล้อสักหน่อย แต่เหมือนเฉินเฟิงจะไม่ได้สนใจอะไร เขาเพียงแค่กำลังจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความไม่สบอารมณ์สักเท่านั้น
“ในเมื่อคุณมีเรื่องจะพูดก็รีบเข้าเรื่องเถอะ คุยเรื่องสำคัญก่อนเรื่องอื่นยังไม่ต้องไปสนใจ รอให้คุณพูดธุระของคุณเสร็จแล้ว พวกเราค่อยว่ากันอีกที”
ชายชรายิ้มแห้งๆ ให้กับเขาก่อนจะพูดต่อ
“ถ้าหากไม่ใช่เงินสามแสนหยวนที่คุณชายเฉินเสนอให้กับลูกน้องของผม ผมคงจะไม่มีทางรู้ว่าคุณชายเฉินเดินทางมายังทะเลทรายแห่งนี้ ถึงแม้ว่าเงินสามแสนหยวนสามารถทำให้ผมทำเรื่องอื่นได้มากมาย แต่ว่าในเมื่อคุณชายเฉินเป็นคนออกมือเอง ผมก็ไม่สามารถที่จะไปถือโทษได้”
เขาพูดไปพร้อมรอยยิ้ม เฉินเฟิงที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มตาม
“ผมได้บอกกับไอ้ผมแดงไปแล้วให้เขามาแจ้งเรื่องกับคุณ ในเมื่อทำเรื่องไม่สำเร็จ อย่างนั้นก็แสดงว่าเงินที่ให้ไปมันคงน้อยเกินไป แต่เรื่องนี้คงจะโทษผมไม่ได้หรอกนะ เพราะผมเองก็ไม่คิดว่าเงินสามแสนหยวนนั่นจะสามารถซื้อพวกเขาได้ แต่ถ้าหากอยากได้มากกว่านั้นผมคงจะไม่ได้พกเงินมาเยอะขนาดนั้น เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกกับคุณงั้นหรอ”
ชายชราที่ถูกเฉินเฟิงพูดด้วยถ้อยคำแบบนั้นทำให้สีหน้าของเขาหมองลงทันที แต่เพียงครู่เดียวเขาก็กลับมาปั้นสีหน้าได้อีกครั้ง เพียงทว่าน้ำเสียงที่พูดออกมาไม่ได้มีความเป็นมิตรดังเมื่อสักครู่นี้แล้ว
“ผมบอกไปแล้ว พวกเราไม่ได้มีเงินจำนวนมากมายเท่ากับคุณชายเฉินหรอก สำหรับคุณชายเฉินเงินสามแสนหยวนนั่นเป็นเพียงแค่เศษเงินเท่านั้น แต่สำหรับพวกเราแล้วเงินนั่นนับเป็นหยาดเลือดหยาดเหงื่อของพวกเราเลยทั้งนั้น”
“อย่าพูดอย่างนั้นเลย เงินนั่นล้วนแลกมาด้วยความยากลำบากทั้งนั้น” เฉินเฟิงรีบแย้งเขาทันที
บางทีการถกเถียงกันต่อไปคงจะไม่ได้เรื่องอะไรขึ้นมา ชายชราจึงพยายามไม่ใส่ใจเรื่องนี้ ก่อนที่เขาจะพูดต่อไป
“ผมไม่ได้จะมาถกเถียงเรื่องนี้กับคุณชายเฉินหรอก พวกเรากลับมาเข้าเรื่องสำคัญกันดีกว่า ตอนที่ผมรู้ว่าคุณชายเฉินเดินทางมาที่นี่ และได้รู้ถึงความสามารถอันเก่งกาจของคุณชายเฉิน ผมก็นึกได้ถึงเรื่องบางเรื่องขึ้นมาซึ่งบางทีคุณชายเฉินอาจจะมีความสนใจ”
เฉินเฟิงได้แต่ส่งเสียงออกมาด้วยความงุนงง
“หืม?”
ชายชราส่งสัญญาณให้กับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ นำเอาของวางลงตรงหน้าโต๊ะชาของเฉินเฟิง
หญิงสาวเปิดผ้าที่คลุมออกอย่างช้าๆ ซึ่งด้านในนั้นมีกล่องใบหนึ่งที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่ ด้านนอกของมันถูกปักด้วยด้ายทองรูปดอกโบตั๋นอันสวยงามและหรูหรา
“เปิดออก”
เมื่อได้ยินคำสั่งของชายชรา หญิงสาวจึงหยิบกุญแจเล็กๆ ออกมาแล้วเสียบลงไปในรูกุญแจของกล่องใบนั้น เธอค่อยๆ ขยับจนที่ปลดล็อกเปิดออกก่อนจะเปิดกล่องออกมา
เฉินเฟิงชะโงกหัวเข้าไปดูด้วยความสงสัย แต่ด้านในนั้นกลับไม่ได้มีอะไรพิเศษ นอกจากมีกล่องทองคำบริสุทธิ์อันสวยงามที่อยู่ด้านในเท่านั้น
ซึ่งไม่ใช่แค่เฉินเฟิงที่สงสัย แม้แต่ชิงจือเองยังหันไปจ้องมองของที่อยู่ในนั้นด้วย
เมื่อเห็นว่าทั้งสองต่างเกิดความสงสัย ชายชราจึงให้หญิงสาวนำเอาทองคำที่ทำให้เป็นกล่องขนาดเล็กนั้นออกมาวางไว้ตรงหน้าของเฉินเฟิง
“มีอะไรอยู่ในนั้น?” เฉินเฟิงถาม
ชายชราตอบกลับ “ก็แค่ของชิ้นเล็กๆ เท่านั้น แต่ก่อนที่จะเปิดออกมาดูนั้นผมอยากจะถามอะไรสักหน่อย”
“คุณอยากจะถามอะไรอีก?พูดเยอะขนาดนี้ ผมอาจจะหมดความอดทนได้”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่ถ้าผมไม่ถาม ผมคงจะพูดอีกต่อไปไม่ได้ ดังนั้นผมจึงจำต้องถามซะก่อน”
“เอาล่ะ ก็ได้ แค่คุณถามก็จบเรื่องแล้ว ผมล่ะไม่อยากจะมาสนทนาอะไรมากมายกับคนแบบคุณจริงๆ”
เฉินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พึงพอใจ แต่ชายชรากลับไม่ได้โกรธเคืองอะไร ทั้งยังกล่าวต่อ
“ผมรู้ว่าคุณชายเฉินไม่ได้เป็นเพียงแค่คนโลภ เจ้าเล่ห์ และไร้มนุษยธรรมอย่างที่มีข่าวลือด้านนอกนั่นเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่แม้แต่ญาติสนิทและเพื่อนฝูงก็ยังสามารถทรยศได้อีกด้วย”
“เดี๋ยวๆๆ” เฉินเฟิงรีบยกมือขึ้นมาขัดไม่ให้ชายชรากล่าวต่อ ก่อนที่จะถามด้วยความแปลกใจ
“ข่าวลืออะไร ทำไมผมถึงไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองจะเป็นคนโลภ เจ้าเล่ห์ ทั้งยังไร้มนุษยธรรมอีก ใครเป็นคนปล่อยข่าวลือแบบนี้ออกมากัน ?”
ชายชราได้แต่ยิ้มจางๆ
“เอาเป็นว่าไม่ใช่ผมที่เป็นคนพูดแล้วกัน รู้กันแค่ว่าข่าวลือนี้เริ่มต้นมาจากตระกูลเฉิน ไปยังยันเจียง จนถึงเมืองชางโจว คนที่ได้ยินข่าวลือเรื่องนี้ล้วนต่างก็คิดแบบนี้กันทั้งนั้น แต่สำหรับตัวผมนั้นพอจะวิเคราะห์ตามความจริงบ้าง เพราะหากมีคนนิสัยแบบนั้นจริง เขาคงไม่มีทางที่จะมาได้ไกลถึงขนาดนี้ได้หรอก”
ถึงแม้ชายชราจะยืนอยู่ข้างเดียวกับเฉินเฟิงแต่นั่นไม่ได้ทำให้เฉินเฟิงรู้ตื้นตันใจในความคิดของเขาเลยสักนิด
เพียงแต่เขายังมีความสงสัยอยู่ว่าทำไมตัวเองถึงได้มีข่าวลือฉาวโฉ่และชื่อเสียงที่เลวร้ายแบบนี้
ส่วนชิงจือที่อยู่ข้างก็มองเขาพร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ยออกมา เฉินเฟิงที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ
“ช่างเถอะ พวกเขาอยากจะพูดอะไรก็ให้พวกเขาพูดไป ถ้าหากไปจัดการกับพวกเขา คราวหลังก็คงจะยิ่งปล่อยข่าวลือน่าเกลียดกว่านี้อีก”
ชายชรายังคงยิ้ม รอให้เฉินเฟิงสงบลง เขาถึงค่อยพูดต่อ
“ที่ผมพูดไปเยอะขนาดนั้น ที่จริงแค่อยากจะถามว่าคุณชายเฉินยินยอมที่จะออกเงินก้อนหนึ่งหรือเปล่าก็เท่านั้น?ถ้าหากว่ามีเงินก้อนนี้แล้ว พวกเราถึงจะสามารถเริ่มคุยเรื่องต่อไปได้ ถ้าหากไม่ อย่างนั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอีก”
เฉินเฟิงหันไปมองชายชราด้วยความสงสัยก่อนจะถาม
“เท่าไหร่?”
“ก็ไม่ได้มาก แค่สองพันล้าน” ชายชราชูมือสองนิ้วขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับแสดงตัวเล็กที่บ่งบอกจำนวน
ถึงตัวเลขศูนย์ที่ตามหลังจากมีจำนวนมาก จนสามารถซื้อหมู่บ้านแห่งหนึ่งได้อย่างสบายๆ แต่เฉินเฟิงกลับยังคงแสดงสีหน้าปกติ
“สองพันล้าน นี่ไม่ใช่ตัวเลขจำนวนน้อยๆ เลย ถ้าหากอยากจะให้ผมมอบเงินจำนวนสองพันล้านให้คุณอย่างง่ายดาย ผมควรจะต้องรู้ให้แน่ชัดก่อนว่าคุณจะใช้มันทำอะไรกันแน่ ?”
ชายชราหัวเราะออกมาเบาๆ
“ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณชายเฉินไม่มีทางปฏิเสธเพียงเพราะเงินจำนวนสองพันล้านแน่นอน แสดงว่าคุณพอจะมีความสนใจอยู่บ้าง อย่างนั้นผมก็มีโอกาสที่จะทำให้คุณชายเฉินยอมออกเงินสองพันล้านนี้”
เฉินเฟิงถามด้วยความสนใจ
“ผมเริ่มสงสัยแล้วสิว่าคุณจะทำยังไงถึงจะทำให้ผมยอมควักเงินสองพันล้านนี้ออกมาให้คุณอย่างว่าง่าย”
ชายชราชี้ไปยังกล่องทองบริสุทธิ์ที่อยู่ตรงหน้า
“คำตอบอยู่ในนี้แล้ว”
เมื่อพูดจบ เขาก็ให้หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างเริ่มเปิดกล่องออก
กล่องใบนี้ถูกออกแบบทำมาจากทองคำแท้ซึ่งมีความหรูหรายิ่งกว่ากล่องไม้ใบเมื่อสักครู่นี้อย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่ามากก็ตามแต่งานแกะสลักบนกล่องนั้นกลับมีความวิจิตรบรรจง แต่กลับมีความเบาะบางดุจใบไม้อันแน่นิ่ง ที่ไม่ได้มีความแตกต่างกับใบไม้ของจริงเลย ซึ่งจากความคุ้นชินของเฉินเฟิงที่เคยได้พบเห็นวัตถุโบราณและของวิจิตรศิลป์ที่มีชื่อเสียง เขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่านี่ไม่ใช่ของธรรมมาทั่วไปแน่นอน