ลูกเขยมังกร - บทที่ 911 หนทางในการให้อภัย
แต่ทว่าเฉินเฟิงยังคงแสดงท่าทีเฉยเมยดังเดิม และไม่คิดที่จะไปสนใจเขา
ไป๋ซูจึงตัดสินใจนั่งลงข้างเฉินเฟิงพร้อมพูดกับเขา : “คุณชายเฉิน เรื่องก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่าผมทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่คุณก็ไม่น่าจะไปทำแบบนี้กับเรื่องของคุณSouthcoนี่ครับ แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการผลักผมให้ตกไปในนรถสิบแปดชั้น ไม่มีทางให้ผมได้กลับตัวเลย ”
เฉินเฟิงตอบกลับอย่างติดตลก: “ดูเหมือนว่านี่จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผมนะ ไป๋ซิงมาขอร้องให้ผมช่วยเหลือเอง และการที่เขาเคยช่วยชีวิตผมเอาไว้ครั้งหนึ่ง การช่วยเหลือเขานั้นจึงเป็นเรื่องปกติ ส่วนเรื่องที่Southcoตัดสินใจเลือกไป๋ซิงนั้น แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าไป๋ซิงมีความเหมาะสมมากกว่าตัวเลือกคนอื่นๆ และเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผมมากนัก ”
ไป๋ซูตอบกลับ: “คุณชายเฉิน หากคุณพูดแบบนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว ผมรู้ดีว่าคุณมีความเก่งกาจ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะความไม่รู้ของผมเองถึงได้ทำสิ่งผิดพลาดแบบนั้นไป แต่หลังจากที่รู้ถึงภูมิหลังของคุณชายเฉินแล้ว ผมก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมากจริงๆ ถ้าหากว่าคุณชายเฉินสามารถให้อภัยผมได้ ผมจะยอมภักดีเชื่อฟังคุณดั่งม้าเลย”
เมื่อเห็นว่าทิฐิของไป๋ดูลดลงไปแบบนี้ ทำให้เฉินเฟิงอดสงสัยไม่ได้เลยว่าเขาคนนี้ใช่ไป๋ซูตัวจริงหรือเปล่า
“คุณอยากให้ผมอภัยให้คุณงั้นหรอ?” เฉินเฟิงกล่าวถาม
ไป๋ซูพยักหน้าตอบ: “ผมสามารถทำทุกอย่างเพื่อชดใช้แก่คุณชายเฉิน”
เฉินเฟิงจ้องมองแววตาของเขา ซึ่งเขาดูจริงจังอย่างมาก ทั้งยังไม่มีความเสแสร้งเลยสักนิดเดียว เฉินเฟิงจึงกล่าวถามอีกครั้ง: “คุณทำแบบนี้เพราะต้องการร้องขออะไร โครงการนั้นของSouthco ในเมื่อผมได้ตอบตกลงไปแล้ว แน่นอนว่าจะกลับคำไม่ได้ ”
ทว่าไป๋ซูกลับไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ เพียงแต่ตอบกลับว่า: “ผมเองรู้ว่าทุกอย่างได้มีการตัดสินใจไปแล้ว แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะไปแก้ไขอะไรได้อีก แต่ตัวผมไม่ได้มาขอให้คุณชายทำความเข้าใจฉินให้อภัยเพื่อเรื่องนี้หรอกนะครับ ”
เฉินเฟิงตอบกลับอย่างสงสัย: “ผมพูดขนาดนี้แล้ว คุณยังอยากจะร้องขอการอภัยจากผมอีก นั่นทำให้ผมเริ่มอยากรู้แล้วสิว่าคุณต้องการอะไรกันแน่ คุณอย่าบอกผมนะว่าคุณแค่อยากจะมาขอการอภัยจากผมด้วยความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น คำพูดแบบนี้เอาไปพูดให้ภูตผีฟังเถอะ ผมไม่มีทางเชื่อหรอก ”
ไป๋ซูที่ได้ยินอย่างนั้นจึงตอบกลับ: “ในเมื่อคุณชายเฉินพูดขนาดนี้แล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นไม่มีเรื่องอะไรแล้ว อย่างที่ว่าผมมีเรื่องอยากจะมาร้องขอคุณชายเฉินจริงๆ ”
เฉินเฟิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม: “นี่สิถึงจะเป็นตัวคุณ แต่ผมจะไม่ให้คำรับรองหรอกนะ ต้องรอดูก่อนว่าคุณไม่ได้โกหกจริงๆ ”
ไป๋ซูที่ได้ยินถึงกับตะลึง ด้วยความคิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะพูดออกมาตรงๆ แบบนี้
แต่เขายังคงตอบกลับด้วยความพยายามอย่างที่สุด: “มันไม่มีทางให้แก้ไขได้เลยหรอครับ?คุณชายเฉิน ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นศัตรูกับคุณหรอกนะ ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะความมีตาแต่ไร้แววของตัวผมเองทั้งนั้น ”
เฉินเฟิงตอบกลับด้วยความอดกลั้น: “ผมรู้ดีว่าหากคุณรู้ถึงตัวตนของผมเร็วกว่านี้ก็คงจะไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน แต่ที่น่าเสียดายก็คือคุณได้ทำไปแล้ว และสิ่งที่เคยทำไปแล้วเป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้จากโลกนี้ ”
ไป๋ซูที่ได้ยินแบบนั้นจึงลุกขึ้นยืนด้วยความหมดหนทาง
“ในเมื่อพูดอย่างนี้แล้วผมก็คงต้องขอตัวลาก่อน และจะไม่มารบกวนคุณชายเฉินอีก ”
เมื่อพูดจบเขาก็เดินจากไป
กระทั่งเขาเดินไปได้สิบกว่าเมตร เฉินเฟิงก็ตะโกนเรียกห้ามเขาเอาไว้
“คุณ กลับมา”
ไป๋ซูประหลาดใจจนต้องหันหลังกลับไปมองเฉินเฟิง จนแน่ใจว่าเสียงตะโกนเมื่อสักครู่นั้นเป็นของเฉินเฟิงจริงๆ
เขาไม่ได้ถูกกระตุ้นให้เกิดความไม่พอใจใดๆ เพียงแต่เมื่อเฉินรู้ว่าเฉินเฟิงเรียกเขาจริงๆ เขาจึงเดินกลับไป
“คุณชายเฉินยังมีธุระอะไรอีกหรอครับ?”
เฉินเฟิงถามด้วยความอยากรู้: “คุณไม่รู้สึกโกรธกับสิ่งที่ผมเพิ่งทำไปเมื่อสักครู่นี้เลยหรอ?”
ไป๋ซูตอบกลับ: “แน่นอนว่ามีความโกรธภายในใจ แต่เรื่องบางอย่างสามารถที่จะทำได้ แต่เรื่องบางอย่างก็ไม่ควรที่จะทำเด็ดขาด ซึ่งสิ่งนี้ตัวผมเองเข้าใจดี ”
เมื่อฟังประโยคนี้ของเขา จู่ๆ เฉินเฟิงก็รู้สึกมีความสนใจขึ้นมา
“ผมรู้สึกชอบนิสัยหัวแข็งของคุณก่อนหน้านี้มากกว่านะ”
แต่ไป๋ซูกลับนิ่งเฉยไม่ตอบกลับอะไรทั้งสิ้น
“ในเมื่อคุณอยากให้ผมอภัยให้คุณ อย่างนั้นคุณช่วยไปจัดการเรื่องหนึ่งแทนผมหน่อย ถ้าหากคุณทำสำเร็จ ผมก็จะอภัยให้กับคุณ ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเฉินเฟิง ไป๋ซูก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที ถึงแม้จะถูกเขาควบคุม แต่ความเปลี่ยนไปของดวงตาจากความดีใจกลับสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
“คุณชายเฉิน เชิญพูด ผมจะช่วยคุณจัดการให้อย่างเหมาะสม”
เฉินเฟิงพูดต่อ: “คุณน่าจะรู้จักหมาป่าตัวหนึ่งในทะเลทรายสินะ?”
“คุณชายเฉินหมายถึงหมาป่าทะเลทรายงั้นหรอครับ?”
เฉินเฟิงพยักหน้า: “หมาป่าทะเลทรายคนนั้นนั่นแหละ ดูเหมือนว่าผู้นำของตระกูลหลี่จะเป็นหลังจู่ของหมาป่าทะเลทราย เรื่องนี้คุณก็รู้ด้วยสินะ ”
ไป๋ซูตอบรับเพียงเสียงเดียว
“ส่วนเรื่องที่ผมจะให้คุณไปทำนั้นก็คือให้คุณไปยังบ้านตระกูลหลี่แล้วเชิญหลานสาวของหลังจู่ที่ชื่อว่าหลี่จื่อเยว่มาที่นี่ ”
ไป๋ซูถึงกับตกใจ: “คุณชายเฉินคิดจะต่อกรกับหมาป่าทะเลทรายงั้นหรอครับ?หมาป่าทะเลทรายนั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่ทุกคนในทะเลทรายไม่มีใครยอมไปต่อกรด้วยเลยนะครับ พวกเขาเป็นคนโหดเหี้ยม ถึงต่อให้จะเป็นคนที่พวกเขาสู้ด้วยไม่ได้ แต่พวกเขากลับยอมทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะฉีกเนื้อส่วนหนึ่งของศัตรูมาให้จนได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ไม่มีใครยอมไปต่อกรกับพวกเขา ”
เฉินเฟิงพยักหน้าแล้วตอบกลับ: “เรื่องนี้ผมเองก็รู้ดี แต่ตอนนี้เรื่องที่ผมวานให้คุณไปทำ หากว่าคุณทำได้ ผมก็จะยอมอภัยให้กับคุณ แต่ถ้าไม่ได้ คุณก็ไสหัวไปให้ไกลๆ เท่าที่จะทำได้ เพราะผมไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีก ”
ไป๋ซูนิ่งชะงักไปชั่วขณะ เพราะเรื่องนี้สำหรับเขาแล้วถือเป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ
หมาป่าทะเลทรายที่นอกจากตระกูลเชียนแล้ว ทุกคนภายในทะเลทรายแห่งนี้ก็ไม่มีใครกล้าต่อต้านกับพวกเขาอย่างซึ่งหน้าเลยสักคน และถึงต่อให้เป็นตระกูลเชียนเองพวกเขาก็ไม่ยินยอมที่จะไปเผชิญหน้ากับหมาป่าทะเลทรายอยู่ดีเพราะการทำแบบนั้นจะไม่เป็นผลดีกับพวกเขาเอง เช่นเดียวกับการที่ไม่มีใครไปทำธุรกิจกับคนบ้าแบบนั้น
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดไป๋ซูก็ตอบกลับเสียที: “เรื่องนี้ผมจะพยายามทำอย่างเต็มที่ แต่ผมไม่ขอรับรองกับคุณชายเฉินว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ เพราะคนของหมาป่าทะเลทรายล้วนเป็นคนอันตรายทั้งนั้น ”
เฉินเฟิงพยักหน้ายิ้มแล้วตอบกลับ: “นั่นเป็นเรื่องของคุณแล้ว เพราะผมจะรอดูผลสรุปเท่านั้น”
รอจนกระทั่งไป๋ซูจากไป เสี่ยวเย่ถึงค่อยกล้าเดินออกมาจากด้านใน
“คุณชายเฉิน คนนั้นคือคุณชายไป๋งั้นหรอคะ ?ทำไมฉันถึงไม่เคยเจอมาก่อนเลย” เสี่ยวเย่ถามด้วยความสงสัย
เฉินเฟิงว่ากลับด้วยรอยยิ้ม: “เพราะคุณเห็นว่าเขาหน้าตาดีใช่ไหมล่ะ ดังนั้นเลยอยากหว่านเสน่ห์ใส่เขา แล้วจะได้กลายเป็นคุณหญิงผู้สูงส่งในตระกูลร่ำรวยเสียที”
เสี่ยวเย่รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที: “จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงคะ ฉันยังไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำจะไปหว่านเสน่ห์ใส่เขาได้ยังไง ”
เฉินเฟิงตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม: “งั้นความหมายของคุณก็คือถ้าคุณรู้จักเขา คุณก็จะหว่านเสน่ห์ใส่เขา จากนั้นก็จะได้เป็นคุณหญิงผู้สูงส่งใช่หรือเปล่า ?”
เสี่ยวเย่หน้าแดงขึ้นมา ก่อนจะพยายามส่ายหน้าอย่างสุดกำลัง: “ไม่ใช่ ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น คุณอย่าพูดจาเหลวไหลนะคะ”
เฉินเฟิงมองไปที่หญิงสาวผู้ไร้เดียงสาคนนี้และยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ในวันถัดมา เฉินเฟิงได้ให้ชายคนนั้นส่งเขาลงจากเขาไป เขาไปยังโรงแรมที่Leonaพักอยู่ แต่ปรากฏว่าห้องพักของLeonaได้มีการคืนห้องไปแล้ว จึงทำให้เฉินเฟิงรู้สึกสงสัยขึ้นมา จึงได้โทรศัพท์ไปหาSouthco
แต่ทันทีที่ถามถึงLeona Southcoก็พูดกลับมาด้วยความโกรธเคืองแทน: “เฉินเฟิง ผมเคยเตือนคุณไว้แล้วว่าอย่าคิดจะไปแตะต้อง Leona คุณเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ คนหนึ่ง แต่ไม่สามารถที่จะกลายเป็นชายหนุ่มที่แสนดีคนหนึ่งได้ ”
เฉินเฟิงรู้สึกเคืองใจทันที แต่กลับไม่เข้าใจว่าทำไมSouthcoถึงได้สรุปทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ไปได้ จึงได้เพียงตอบกลับด้วยความไม่สบายใจ: “ผมกับLeonaเป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น ผมก็แค่เป็นห่วงในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง และจะไม่มีทางเกิดเรื่องอย่างที่คุณคิดเอาไว้แน่นอน คุณวางใจได้เลย ”