ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 4
ตอนที่ 4 อาซุร่า
รถมอเตอร์ไซค์ติดสติ๊กเกอร์โกสต์ไรเดอร์ สวมต่างหูสีดำ เส้นผมย้อมเป็นสีแดงประหนึ่งเปลวเพลิง สวมกางเกงยีนส์และเสื้อเชิ้ตรัดรูป ร่างกายผอมเก้งก้างมีแต่กระดูก
เป็นภาพที่สามารถพบเจอได้ในอินเทอร์เน็ตมากมาย..
“เฉินห่าว?” เฉิงซินเย่วร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
หญิงสาวรู้จักเด็กหนุ่มคนนี้ดี..
เฉินห่าวเป็นเพื่อนร่วมห้องของเฉิงซินเย่วที่ซ้ำชั้น เขาเป็นนักเรียนที่ชอบก่อเรื่องในโรงเรียนอยู่เสมอๆ นอกจากจะชอบโดดเรียนและเอาแต่เล่นแล้ว เขายังชอบมีเรื่องทะเลาะวิวาท แกล้งเด็กนักเรียนหญิง จนทุกคนในโรงเรียนต่างก็พากันสาบแช่ง
แต่สุดท้ายเด็กหนุ่มคนนี้ก็เรียนไม่จบ เขาหยุดเรียนกลางคัน และกลับไปอยู่บ้านเฉยๆ
เฉิงซินเย่วเองก็เคยได้ยินมาว่า ตั้งแต่ออกจากโรงเรียนไป เขาก็ทำแต่เรื่องไม่ดี
“เป็นบุญของฉันจริงๆ!! คิดไม่ถึงว่าดาวโรงเรียนอย่างเธอจะยังจำฉันได้ด้วย!”
เฉินห่าวตอบกลับไปยิ้มๆ มือข้างหนึ่งก็เล่นต่างหูของตนเองไปด้วย “คนสวย.. ไปนั่งรถเล่นด้วยกันดีกว่า!”
“ฉันไม่ไปหรอก เชิญนายไปคนเดียว!” เฉิงซินเย่วส่ายหน้าไปมา
เฉิงซินเย่วปฏิเสธกลับไปโดยเร็ว จะเรียกว่าทำไปโดยสัญชาติญาณก็ว่าได้ เธอไม่มีทางไปนั่งรถเล่นกับคนแบบนี้เด็ดขาด
“อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธนักสิ! เดี๋ยวฉันจะแนะนำเพื่อนๆให้เธอรู้จักด้วย รับรองว่าสนุกสุดเหวี่ยงเลยล่ะ!”
เฉินห่าวทำตัวกร่างสุดๆ เขาพุ่งตรงเข้าไปหาเฉิงซินเย่วเพื่อที่จะคว้าข้อมือของเธอ และลากเธอไปด้วย เฉิงซินเย่วเองก็คิดไม่ถึงว่าเฉินห่าวจะทำตัวอันธพาลเช่นนี้ เธอจึงรีบวิ่งไปหลบอยู่หลังหลินหนานด้วยความตกใจ และหวาดกลัว
หลินหนานก้าวเท้าออกไปข้างหน้าขวางไว้ทันที และเพียงแค่ก้าวเดียวสั้นๆ ร่างของหลินหนานก็ยืนปกป้องเฉิงซินเย่วที่กำลังยืนตัวสั่นอยู่ด้านหลัง
เฉินห่าวเหลือบมองหลินหนานตั้งแต่หัวจรดเท้า และเมื่อเห็นว่าหลินหนานนอกจากจะรูปร่างไม่สูงแล้ว ยังดูไม่แข็งแรงอีกด้วย เขาก็ได้แต่นึกเย้ยหยันอยู่ในใจ
“เฉิงซินเย่ว หมอนี่เป็นใครกัน?” หลงเฉินร้องตะโกนถามออกไป
เฉิงซินเย่วไม่อยากเสวนากับหลงเฉินอีก เธอจึงไม่ตอบกลับไป และเอาแต่ปิดปากเงียบ หลินหนานจึงเป็นฝ่ายตอบกลับไปยิ้มๆ
“ฉันเป็นใคร.. แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายไม่ทราบ?”
“ปากเก่งนักนะ!”
เฉินห่าวหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด หลังจากพ่นควันโขมงใส่หน้าหลินหนานแล้ว จึงได้ถามออกไปว่า “แกคงจะเป็นพี่ชายของเธอสินะ?”
“ไม่ใช่!’ หลินหนานตอบสั้นๆพร้อมกับส่ายหน้า
“งั้นก็คงจะเป็นลุงของเธอสินะ?” เฉินห่าวขมวดคิ้วพร้อมกับถามต่อ
“ก็ยังไม่ใช่อีกนั่นล่ะ!” หลินหนานยังคงส่ายหน้าไปมา
“งั้นแกคงเป็นพ่อของเธอสินะ?”
แต่หลังจากพูดออกไปแล้ว เฉินห่าวก็ทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มยียวนและพูดต่อว่า “ไม่สิๆ แกเป็นพ่อของเธอไม่ได้แน่ เพราะเธอเป็นลูกกำพร้านี่ พ่อแม่ของเธอตายหมดแล้ว..”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลงเฉิน แววตาของเฉิงซินเย่วก็เปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อยในทันที นั่นเพราะความตายของพ่อแม่เมื่อครั้งที่เธอยังอยู่ในวัยเด็กนั้น ได้กลายเป็นบาดแผลและความเจ็บปวดในใจของเธอมาจนถึงทุกวันนี้
หลินหนานจ้องมองเฉินห่าวแน่นิ่ง เข้าถอนหายใจออกมาพร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อย “เจ้าหนู.. แกนี่มันปากเหม็นชะมัด! เมื่อเช้าลืมแปรงฟันหรือยังไง.. ห๊ะ?!!”
“เหี้ยเอ๊ย!! นี่แกกล้าพูดกับฉันแบบนี้เชียวเหรอวะ? ฉันว่าแกรนหาที่ตายแล้ว? แกคงยังไม่รู้สินะว่าฉันเป็นใคร?” เฉินห่าวทั้งสบถ และร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห
ใครๆแถบนี้ก็รู้จักเขากันทั้งนั้น และไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้มาก่อน แล้วหมอนี่เป็นใครกันถึงกล้าพูดกับเขาแบบนี้?!!
เฉิงซินเย่วที่ยืนอยู่ด้านหลังรีบดึงหลินหนานถอยกลับมาทันที และกระซิบเสียงเบาว่า “พี่หนาน พวกเรารีบไปกันดีกว่า!”
“ก็ดีเหมือนกัน..”
หลินหนานเองก็คร้านที่จะมีเรื่องกับตัวอะไรก็ไม่รู้ เขาจึงยกเท้าขึ้นเพื่อที่จะก้าวเดินไปทางร้านบะหมี่ลุงซันพร้อมกับเฉิงซินเย่ว แต่คิดไม่ถึงว่าเฉินห่าวซึ่งกำลังอารมณ์ขึ้น ได้ยื่นมือออกมาขวางพวกเขาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวก่อน!”
“อะไรอีกล่ะ?! นี่แกยังต้องการอะไรอีก?” หลินหนานขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับถามออกไปด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย
“ฉันไม่ได้พูดกับแก! ฉันบอกเฉิงซินเย่ว ใครใช้ให้แกพูดแทรกขึ้นมา?” เฉินห่าวตอบโต้ด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าต้องการมีเรื่อง
เพียะ!!
เสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งถนนอู่หลง..
เฉินห่าวยกมือขึ้นกุมแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเองไว้ พร้อมกับจ้องมองหลินหนานด้วยความตกตะลึง!
เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบโต้ในช่วงที่ถูกหลินหนานตบหน้า เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก
“นี่.. นี่แกกล้าตบหน้าฉันเหรอ?” เฉินห่าวร้องตะโกนด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อ
“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าปากแกเหม็นเพราะไม่ได้แปรงฟันตอนเช้า หรือเพราะไปกินขี้มา นั่นไม่ใช่เรื่องของฉัน! แต่แกต้องไม่เอาปากเหม็นๆนั่นไปพูดกับคนอื่น และ”
“ใครใช้ให้แกไม่แปรงฟันตอนเช้าก่อนออกจากบ้านล่ะ แค่นั้นยังไม่พอ.. นี่แกยังไปกินขี้มาอีก แล้วยังกล้าเอาปากที่กินขี้มาพูดกับคนอื่นแบบนี้ ก็สมควรต้องโดน..” หลินหนานตอบกลับยิ้มๆ
“ไอ้ชาติชั่ว!! ฉันจะฆ่าแก!”
เฉินห่าวร้องตะโกนด่า ร่างของเขาสั่นเทิ้มด้วยความโมโห พร้อมกับพุ่งหมัดเข้าใส่ใบหน้าของหลินหนานทันที
“ยังช้าไปไอ้หนู!”
หลิงนหนานส่ายหน้าพร้อมกับร้องตะโกนบอกด้วยสีหน้าขบขัน และเมื่อหมัดของเฉินห่าวใกล้จะปะทะเข้ากับใบหน้าของตัวเองแล้ว หลินหนานก็รีบย่อตัวลงทันที
ในจังหวะที่ย่อตัวลงนั้น เขาก็ได้ยกเท้าข้างขวาถีบเข้าที่หัวเข่าข้างหนึ่งของเฉินห่าวอย่างรวดเร็ว
ปัง!!
เฉินห่าวรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวเข่า แล้วร่างของเขาก็กระเด็นลอยละลิ่วออกไปกลางอากาศหลายเมตร หลังจากที่ร่างของเฉินห่าวร่วงลงไปกองกับพื้นแล้ว ก่อนที่จะทันได้ลุกขึ้นนั้น ฝ่าเท้าขนาดใหญ่ก็ลอยมาเหยียบใบหน้าของเขาไว้ ทำให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีก
การตอบโต้ของหลินหนานทำให้เฉินห่าวถึงกับร่วงลงไปกองกับพื้นอย่างหมดท่า และเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็กินเวลาไม่ถึงห้าวินาทีด้วยซ้ำไป!
ผู้คนที่พาเดินอยู่ต่างก็พากันหันมามองด้วยความตกตะลึง!
และคนที่ตกใจและประหลาดใจมากที่สุดก็ดูเหมือนจะเป็นเฉิงซินเย่ว!
เธอไม่เคยคิดว่าพี่หนานที่เป็นคนอารมณ์ดี และพูดจาสุภาพอ่อนโยนมาตลอด จะกลายเป็นคนห้าวหาญ ดุเดือด และสามารถจัดการกับเฉินห่าวให้ได้รับความอับอายถึงเพียงนี้ได้ เธอไม่เคยเห็นด้านที่ดุดันเช่นนี้ของเขามาก่อนเลย!
“แกรู้มั๊ยว่าฉันเป็นใคร?” เฉินห่าวยังคงพูดจาข่มขู่
“ฉันไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้!!” หลินหนานส่ายหน้า
“แกรู้มั๊ยว่าลูกพี่ของฉันเป็นใคร? ลูกพี่ของฉันคือกะโหลกไฟโกสต์ไรเดอร์!” เฉินห่าวร้องคำรามออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง
“ฉันไม่สนใจ นั่นไม่ใช่เรื่องของฉัน!” หลินหนานตอบกลับยิ้มๆ พร้อมกับออกแรงกดฝ่าเท้าของตนเองให้แรงขึ้น
แรงกดจากฝ่าเท้าที่รุนแรงขึ้น ทำให้ใบหน้าของเฉินห่าวบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด เขารู้สึกราวกับว่ากำลังถูกกำแพงที่หนักอึ้งบดลงที่ใบหน้า และพยายามที่จะบดขยี้หัวของเขาให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ที่สำคัญ.. เขาเริ่มตระหนักแล้วว่าชายหนุ่มผู้นี้สามารถทำเช่นนั้นได้จริงๆ และเวลานี้เฉินห่าวก็เริ่มหวาดกลัวอย่างมาก
“พี่หนาน.. ช่างเถอะ! พวกเรารีบไปกันดีกว่า” เฉิงซินเย่วพึมพำออกมาเสียงเบา
เวลานี้เธอกลัวมากว่าหลินหนานจะทำอะไรที่น่าสะพรึงกลัว และสยดสยองมากไปกว่านี้
“ตกลง! พี่เชื่อฟังเธอ!” หลินหนานพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยตอบ ก่อนจะชักฝ่าเท้าของตนกลับคืนมา
เฉินห่าวถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก และรู้สึกว่าตนเองสามารถเอาชีวิตน้อยๆนี้รอดกลับมาได้แล้ว
เฉินห่าวรีบเอามือขึ้นไปลูบไล้แก้มข้างนั้นของตนเอง
ไอ้เย็ดแม่!
โคตรเจ็บเลย!
แม่งเจ็บชิบหาย!
เฉินห่าวรู้สึกว่าใบหน้าของเขาครึ่งซีกนั้นบวมเป่งยิ่งกว่าซาลาเปา..
แต่ในระหว่างนั้น หลินหนานก็โน้มตัวลง พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อเฉินห่าวขึ้นมา สภาพของเฉินห่าวเวลานี้ไม่ต่างจากไก่ต้ม..
“นี่นายยังต้องการอะไรจากฉันอีก?” แววตาที่เคยเกรี้ยวกราดของเฉินห่าวพลันเปลี่ยนเป็นอ้อนวอน พร้อมกับมีน้ำตาไหลพรากออกมา
เวลานี้ความรู้สึกหวาดกลัวได้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างของเฉินห่าว เมื่อสัมผัสได้ถึงความโหดเหี้ยมของหลินหนาน เขารู้สึกว่าหลินหนานไม่ต่างจากมนุษย์หมาป่า ที่โหดเหี้ยมป่าเถื่อนยิ่งกว่ามนุษย์ที่ป่าเถื่อนเสียอีก!
“ฉันขอเตือนแกอีกครั้งว่า อยู่ให้ห่างจากเฉิงซินเย่ว ต่อไปอย่าได้เข้าใกล้เธออีก ไม่อย่างนั้น…”
สายตาของหลินหนานเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกจนน่าขนลุกขึ้นมาทันที!!
ฝ่ามือที่กำคอเสื้อของเฉินห่าวอยู่นั้น ค่อยๆออกแรงเพิ่มขึ้นทีละน้อย และเฉินห่าวก็รู้สึกว่าลำคอของตนเองนั้นถูกบีบแน่นขึ้นเรื่อยๆ สภาพของเขาเวลานี้ไม่ต่างจากปลาที่กำลังขาดน้ำ และไม่สามารถอ้าปากได้
เฉินห่าวรู้สึกราวกับว่ากำลังจะหมดสติ ระหว่างที่ดิ้นรนด้วยความตื่นตระหนกตกใจอยู่นั้น สายตาของเขาก็สบเข้ากับสายตาของหลินหนาน
มันช่างเป็นสายตาที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง..
สายตาของเขาดุร้ายราวกับอสูรกายที่เล่าต่อๆกันมา นอกจากจะดูเหมือนหิวกระหายเลือดแล้ว ยังดูโหดเหี้ยมอย่างมากด้วย!
แต่ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนราชันย์แห่งขุมนรก! สายตาของเขาเหมือนจะบอกว่า หากราชันย์นรกต้องการให้เจ้าตาย เจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อย่างไร!
แต่ในระหว่างที่เฉินห่าวรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังจะตายนั้น หลินหนานก็ปล่อยมือออก เฉินห่าวรีบหายใจเข้าปอดอย่างตะกละตะกราม เขาไม่เคยรู้สึกว่าอากาศเป็นสิ่งที่หอมหวานเช่นนี้มาก่อนเลย!
หลินหนานตบบ่าของเขาเบาๆ และพูดออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “พ่อหนุ่ม โลกทุกวันนี้อยู่ยาก นายควรจะกลับไปตั้งใจเรียน แล้วก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์กับสังคมมากกว่านี้”
หลินหนานยิ้มให้ และอบรมสั่งสอนเฉินห่าวราวกับเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากท่าทีดุดันก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง แต่เฉินห่าวกลับรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ในยามที่แย้มยิ้มนั้น กลับน่ากลัวยิ่งกว่าเวลาที่เขาไม่ยิ้มเสียอีก
“ยกโทษให้ผมด้วย ผมผิดไปแล้ว!”
เฉินห่าวพูดขึ้นด้วยน้ำตานองหน้า จากนั้นจึงเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีรูปโกสต์ไรเดอร์ของตนเอง แล้วสตาร์ทรถพุ่งออกไปโดยไม่ลังเล!
“หมอนั่นก็แค่ลูกแกะหลงทางตัวหนึ่ง!” หลินหนานพยักหน้าด้วยความพอใจ
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหนาน เฉิงซินเย่วถึงกับยกมือขึ้นปิดปากพร้อมกับหัวเราะออกมาทันที
“นี่เธอหัวเราะอะไร? พี่พูดอะไรผิดเหรอ?” หลินหนานถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง
“พี่หนานคะ ถ้าเฉินห่าวเป็นลูกแกะ ฉันว่าพี่ก็คงเป็นหมาป่า!” เฉิงซินเย่วเลิกคิ้วขึ้นล้อเลียนขณะที่พูด
“หืมม.. นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเห็นว่าพี่เป็นหมาป่า..” หลินหนานตอบกลับพร้อมกับยิ้มฟันขาว
ก่อนหน้านี้.. ใครๆต่างก็เรียกเขาว่า ‘อาซุร่า’
นักฆ่าอาซุร่า!!