วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1109 เธอไม่ได้เป็นมิตรกับคุณ
เหลียงหย่งอวี๋รอแต่ก็ไม่เห็นถังหนิง สุดท้ายจึงกลับไปที่ห้องโถงซึ่งถังหนิงกำลังพูดคุยกับเรื่องการเลี้ยงลูกกับบรรดาภรรยาของคนใหญ่คนโตอยู่ เธอรู้สึกเดือดดาลในใจเมื่อเห็นดังนั้น
ถังหนิงทำให้เธอต้องเสียลูกสาวของตัวเองไป แต่ยังมีหน้ามาพูดถึงประสบการณ์การเลี้ยงลูกของเธออีกหรือ
“หย่งอวี๋ เธอหายไปไหนมา” คุณชายรองตระกูลตี๋ตามหาเหลียงหย่งอวี๋อยู่นานเขาจึงไม่พอใจนัก “ฉันจะพาเธอไปเจอกับคนสำคัญสักหน่อย…”
เหลียงหย่งอวี๋มองถังหนิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน แม้ว่าเธออยากจะกระชากหน้ากากของอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้ เธอก็รู้ว่าตัวเองต้องอดทนจนกว่างานจะจบ จึงปล่อยให้ถังหนิงมีความสุขไปก่อน เพราะหลังจากงานแต่งงานเธอจะตามแก้แค้น!
ถังหนิงสัมผัสได้ถึงสายตาเชือดเฉือนของเหลียงหย่งอวี๋จากที่ไกลๆ แต่เธอไม่ได้ตอบโต้กลับ
อย่างไรเสียเธอก็เข้าใจว่าคนส่วนใหญ่มักโทษคนอื่นมากกว่าจะทบทวนการกระทำของตัวเอง
“พี่หนิงคะ ฉันรู้สึกว่าเจ้าสาวไม่ได้เป็นมิตรกับคุณเท่าไหร่เลยนะคะ” หญิงสาวท่าทางใจดีที่ถ่ายรูปกับเจ้าแฝดเอ่ย หลังจากเห็นสายตาของเหลียงหย่งอวี๋ที่ส่งมาด้านหลังถังหนิงในรูปของเธอ ขณะที่ยื่นให้ถังหนิงดูรูปในโทรศัพท์แล้วว่าขึ้น “ดูสิคะ…”
ถังหนิงไม่ได้มองรูปนั้น เธอทำเพียงแค่หัวเราะออกมา “ฉันว่าคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ คุณตี๋กับฉันไม่เคยเจอกันมาก่อนสักหน่อย”
“อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้นะคะ”
ถังหนิงดูแลลูกๆ ต่อในขณะที่พูดคุยกับคนรอบข้างเรื่อง มดราชินี ในไม่ช้าก็ถึงเวลาเริ่มพิธีแต่งงาน
โม่ถิงกลับมาหาแม่ลูกและดึงพวกเขาเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งของเขา เห็นได้ชัดว่ามันเป็นภาพที่น่ามองยิ่งกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีเสียอีก
“งานแต่งงานนี้อาจจะดูอลังการ แต่เมื่อวานนี้ฉันยังเห็นคุณชายรองตี๋เข้าโรงแรมไปกับผู้หญิงอีกคนอยู่เลย!”
“อย่าพูดดังสิ เห็นๆ กันอยู่ว่าพวกเขาแต่งงานกันเพราะนังแพศยานั่นท้อง เธอก็แค่เข้าสู่แวดวงสังคมชั้นสูงได้เพราะลูกชายเท่านั้นแหละ”
“แล้วไม่ว่างานแต่งจะหรูหราแค่ไหน มันก็แค่เรื่องจอมปลอม ฉันมองครอบครัวของถังหนิงยังจะสบายตาซะกว่า”
“ถังหนิงต้องพาฝาแฝดมาเย้ยเหลียงหย่งอวี๋แน่ๆ ฮ่าๆ ”
“นั่นสิ เธอมีลูกชายสองคน ไม่ใช่ว่าเธอจะพามาคนเดียวด้วย แค่เธอมาร่วมงานแต่งนี้ก็ถือว่าไว้หน้า
เหลียงหย่งอวี๋แล้วนะ…”
ในห้องจัดงานเลี้ยงเต็มไปด้วยเรื่องซุบซิบนินทา ถึงอย่างไรทุกคนในวงการนี้ก็รู้ว่าเหลียงหย่งอวี๋ยอมขึ้นเตียงคุณชายรองตี๋ได้อย่างไร ถึงตอนนี้เธอจะได้เป็นคุณนายอย่างเป็นทางการแล้ว ก็ปฏิเสธหัวนอนปลายเท้าที่ต่ำต้อยของเธอไม่ได้
งานแต่งงานลวงโลกย่อมถูกกำหนดให้จบไม่สวยมาตั้งแต่แรก จึงไม่แปลกใจที่ผู้คนจะนึกกังขาในใจ
ในทางกลับกันถังหนิงกับโม่ถิงเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของสิ่งที่พึงจะเป็น หลังจากพวกเขาแต่งงานกันสายฟ้าแลบทุกคนก็ต่างเยาะเย้ย หากแต่บัดนี้พวกเขาก็ได้กลายมาเป็นพ่อแม่ลูกสาม และขึ้นชื่อว่าเป็นคู่รักหวานชื่นที่ตัวติดกันตลอดเวลา
ดังนั้นหากใครต้องเลือกระหว่างงานแต่งงานที่หรูหรากับพิธีสมรสที่ชื่นมื่น คนส่วนใหญ่คงเลือกอย่างหลังกัน
ผู้หญิงส่วนใหญ่ในงานแต่งงานจึงอิจฉาที่มีงานแต่งงานอย่างนี้ ทว่าไม่ได้คิดอิจฉาเหลียงหย่งอวี๋
หากแต่เหลียงหย่งอวี๋ไม่ได้คิดเช่นนั้น ตอนนี้เธอเป็นคนในตระกูลตี๋แล้ว ต่อให้เธอหย่าทันทีหลังจากนี้ เธอก็ยังได้ทรัพย์สินของสามีกลับบ้านครึ่งหนึ่ง แล้วทำไมเธอถึงต้องอยากได้ความรักด้วยล่ะ ในเมื่อเงินคือทุกอย่าง!
ในที่สุดพิธีการที่อลังการและโอ่อ่าก็จบลงหลังจากที่คุณชายรองตี๋จุมพิตภรรยาของเขา จากนั้นจึงได้เวลาของการที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะเดินไปชนแก้วกับทุกคนในงาน
หลังจากใช้เวลายี่สิบนาทีในการเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงตัวใหม่ที่หรูหรา เหลียงหย่งอวี๋ดึงตัวสามีตัวเองตรงมายังถังหนิงก่อนเอ่ย “คุณคะ จำที่ฉันพาลูกสาวของฉันออกไปข้างนอกแล้วบังเอิญทำเธอหายไปได้หรือเปล่า ประธานโม่กับคุณนายโม่เป็นคนช่วยดูแลเธอไว้ค่ะ”
คุณชายรองตี๋ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอยู่ๆ เหลียงหย่งอวี๋จึงยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด เขาจึงอยากจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่เธอกำลังพูดถึง ทว่าเธอกลับเอ่ยสำทับ “คุณลืมเรื่องอย่างนี้ได้ยังไงกันคะ เพราะเรื่องนี้ลูกสาวของเราเลยยังหายตัวไปอยู่ไงคะ!”
หลังจากได้ยินดังนั้น เขาพยายามลากตัวภรรยาของเขาออกไป แต่เธอกลับขืนตัวเอาไว้
“คืนนั้นฉันทะเลาะกับสามีเลยหนีออกมาพร้อมกับลูกสาวของเราด้วยความโกรธ แล้วก็ทิ้งเธอไว้ข้างรถของประธานโม่ จากนั้นประธานโม่ก็เจอเธอแล้วพาเธอไปส่งโรงพยาบาล
“ฉันขอบคุณพวกคุณมากๆ ที่ทำอย่างนั้น แต่พอฉันไปขอร้องให้พวกคุณรับเลี้ยงเธอสักพักหนึ่ง เพราะฉันทะเลาะกับสามีและไม่มีที่ไปในอากาศหนาวอย่างนั้น คุณก็ปฏิเสธ
“ฉันจำได้ไม่ลืมเลยค่ะ!”
ทันทีที่เธอพูดออกมา ทุกคนรู้ว่าเหลียงหย่งอวี๋พยายามจะพูดอะไร
เธอกำลังใช้สถานะทางสังคมที่เพิ่งได้รับในการแก้แค้นหรือ
หากแต่เหลียงหย่งอวี๋อาจจะยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจว่าคำพูดพวกนี้มีแต่จะทำให้เธอดูงี่เง่ามากขึ้น เธอทอดทิ้งลูกตัวเองเพียงเพราะทะเลาะกัน และโกรธที่คนอื่นไม่ยอมรับดูแลลูกของเธอได้อย่างไร
ยัยโง่คนนี้ต้องเชี่ยวชาญเรื่องบนเตียงขนาดไหนกัน ตระกูลตี๋ถึงยอมทนกับความไร้สมองของเธอได้
“ลูกสาวที่น่าสงสารของฉัน…”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเราไม่ไปหาลูกสาวของเธอซะตอนนี้เลยล่ะ” ถังหนิงถาม “อย่าบอกนะว่าเธอทิ้งลูกอีกแล้วน่ะ”
“ฉัน…”
“คุณนายตี๋คะ วันนี้เป็นวันสำคัญของคุณ ฉันไม่อยากจะทำให้คุณเดือดร้อนหรอกนะคะ แต่คุณควรเลิกผูกใจเจ็บกับเรื่องนี้ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นสุดท้ายคงไม่ได้มีผลดีกับเราทั้งสองฝ่ายหรอกค่ะ”
“ถังหนิง ถ้าคุณไม่เห็นแก่ตัว ลูกสาวฉันก็คงไม่หายตัวไปอย่างนี้หรอก!”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ ถังหนิงก็พยักพเยิดไปทางเหลียงหย่งอวี๋ก่อนเอ่ยกับคุณชายรองตี๋ “คุณช่วยควบคุมภรรยาของคุณได้ไหมคะ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เธอจะต้องทำให้ตระกูลตี๋เสียชื่อแน่ค่ะ”
“ถังหนิง คุณมันเจ้าแผนการ กล้าดียังไงมายุยงให้เราแตกคอกัน คุณต้องมีแผนอยู่แน่ๆ ไม่น่าล่ะถึงได้ชนะรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม”
“เหลียงหย่งอวี๋ พอได้แล้ว! ไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน”
“เพราะฉันรู้ไงคะ ฉันถึงได้อยากรู้ว่าคุณจะยอมช่วยฉันหรือเปล่า!” เหลียงหย่งอวี๋ท้าทายขณะมองหน้าสามีของเธอ “คุณจะช่วยฉันหรือเปล่า หรือคุณจะเข้าข้างคนนอก อย่าลืมว่าฉันมีลูกชายของคุณอยู่ในท้องนะ!
“ฉันไม่ขออะไรมากหรอกค่ะ แค่ต้องการให้คุณนายโม่ขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเท่านั้น
“ถ้าเธอยอมทำ เราก็เลิกแล้วต่อกัน ไม่อย่างนั้นฉันจะตามจองเวรตลอดไป!”
ถังหนิงยิ้มเยาะ เห็นได้ชัดว่าเธอคาดหวังว่าเหลียงหย่งอวี๋จะมาเหนือชั้นกว่านี้
“เหลียงหย่งอวี๋ ดูซะว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน!”
“เธอก็เป็นลูกสาวของคุณเหมือนกันนะคะ!” เหลียงหย่งอวี๋ตะโกนอย่างเย็นชา “อย่าลืมว่าเธอหายตัวไปเพราะอะไรสิ! ฉันแค่ต้องการให้คนที่ทำผิดต่อฉันขอโทษก็เท่านั้นเอง!”