วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1164 ท่านประธานบริหารมีภรรยาที่ดี
แชมป์มวยปล้ำเอ่ยชื่นชมกับสิ่งลูกสาวตัวเองทำ “ลูกจัดการเรื่องนี้ได้อยู่หมัดเลยนะ เขาก็แค่คนชั้นต่ำ ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหน ลูกสาวของพ่อหาคนที่ดีกว่านี้มากได้อยู่แล้ว”
แชมป์มวยปล้ำก็ยังเป็นแชมป์มวยปล้ำอยู่วันยังค่ำ แม้ว่าเขาจะอายุมากและไม่ได้ลงแข่งอีกแล้ว เขาก็ยังรับผิดชอบดูแลการฝึกทีมชาติอยู่
เขาจึงยังมีรูปร่างที่ดีมาก หรงซิ่วหยวนผู้อ่อนแอถึงกลายเป็นเพียงกระสอบทรายของเขาเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่มีที่ให้ระบายความหงุดหงิดใจ ลูกเขยไร้ค่าของเขาจึงเป็นสนามอารมณ์ที่เหมาะเจาะ
หากแต่เขาไม่มีทางปล่อยให้คนอื่นรู้เรื่องนี้เด็ดขาด
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น พ่อลูกเปิดไวน์แดงเพื่อเฉลิมฉลองกัน…
“คิดซะว่าไอ้เวรนั่นตายไปแล้วแล้วกัน ลูกสาวของพ่อจะได้มีเรื่องกวนใจตอนไปหาผู้ชายคนอื่น”
ไป๋ชิงอีระบายยิ้มก่อนตอบ “พ่อคะ จริงๆ แล้วหนูยังคบกับรักแรกของหนูอยู่นะ แค่แต่งงานกับหรงซิ่ว
หยวนเพราะพ่อไม่ยอมให้หนูคบกับผู้ชายคนนั้นเฉยๆ แต่หนูว่าถึงเวลาที่ต้องพูดตรงๆ กับพ่อแล้วละค่ะ”
“อย่างนั้นตลอดหลายปีมานี้จริงๆ ลูกก็คบชู้อยู่เหรอ”
“หนูไม่มีทางเลือกนี่คะ หนูต้องมีหน้ามีตาในสังคม หรงซิ่วหยวนเลยเป็นเกราะกำบังที่ดีที่สุดของหนูไง!”
ด้วยเหตุนี้นักมวยปล้ำอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาขณะวางแก้วในมือลง “มาถึงขนาดนี้แล้วพ่อจะพูดอะไรได้ละ ทำอะไรระวังๆ แล้วก็จัดการเรื่องของหรงซิ่วหยวนให้เรียบร้อยแล้วกัน”
“หนูรู้ค่ะ พ่อ!”
จัดการให้เรียบร้อยหรือ ไป๋ชิงอีคงคิดว่าเธอรู้ทันหรงซิ่วหยวนหลังจากอยู่ด้วยกันมานานหลายปี เธอจึงตรงดิ่งไปยังบ้านของรักแรกของตัวเองอย่างไม่ยี่หระก่อนจะเผลอใจไปกับความปรารถนาของตัวเอง
ทว่าในจังหวะที่ทั้งสองกำลังดื่มด่ำกับไฟราคะและสื่อคิดว่าพวกเขาคงไม่มีทางได้เห็นหลักฐานที่หรงซิ่วหยวนพูดถึง วิดีโออันแล้วอันเล่าก็ได้เริ่มปรากฏขึ้นในโลกออนไลน์
และทุกๆ วิดีโอนั้นชัดเจนอย่างถึงที่สุด
พ่อของไป๋ชิงอีปรากฏตัวขึ้นตลอดวิดีโอ เผยให้คนทั้งโลกได้เห็นท่าทีเกรี้ยวกราดของเขา ในขณะที่ไป๋ชิงอียืนยุยงอยู่ด้านข้าง
ทันทีที่วิดีโอหลุดออกมา คนที่คอยติดตามเรื่องนี้ต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน…
“โอ้พระเจ้า เขาเป็นสัตว์หรือยังไงกัน เตะลูกเขยอย่างกับลูกบอลอย่างนั้นได้ยังไง”
“ฉันนับถือเขาเป็นต้นแบบด้วยซ้ำ นึกไม่ถึงว่าลับหลังเขาจะโหดร้ายขนาดนี้”
“ไป๋ชิงอีน่าขยะแขยงชะมัด สามีของเธอถูกทำร้ายสาหัสขนาดนี้ เธอยังลงไปหัวเราะกับพื้นได้อีก พระเจ้าช่วย พ่อลูกคู่นี้เป็นปีศาจชัดๆ!”
“ไม่น่าละ หรงซิ่วหยวนถึงต้องนอกใจ ถ้าฉันเป็นเขา คงทนพ่อลูกคู่นี้ไม่ได้หรอก”
ไม่นานไป๋ชิงอีก็ได้รับสายโทรศัพท์ ทว่าเมื่อเธอได้ยินพ่อตัวเองตวาดลั่นมาจากปลายสายเธอก็ถึงกับอึ้งไป “เป็นอย่างนี้ไม่ได้สิ เป็นไปไม่ได้…”
เธอลุกขึ้น คว้าโทรศัพท์ตัวเองมาเปิดอ่านข่าวล่ามาแรง
วิดีโอที่พ่อของเธอใช้ความรุนแรงได้แพร่สะพัดไปทั่วเสียแล้ว
“ฉันมั่นใจว่าพังแล็ปท็อปของหรงซิ่วหยวนไปแล้วนะ มันเป็นไปได้ยังไงกันละ”
ทั้งหมดต้องขอบคุณสัญชาตญาณความรอบคอบของโม่ถิง คืนนั้นเมื่อหรงซิ่วหยวนบอกว่าแล็ปท็อปของตัวเองสำคัญขนาดไหน บอดีการ์ดได้แจ้งให้โม่ถิงทราบเรื่องนี้
เมื่อเขารู้เรื่องจากบอดีการ์ด เขาตอบกลับทันที “เอาแล็ปท็อปเครื่องอื่นให้เขาถือไว้ แล้วส่งเครื่องที่มีหลักฐานมาที่ไห่รุ่ยด่วนเผื่อไว้
“ให้เขาใช้เครื่องชั่วคราวนั้นสร้างความเชื่อมั่นของสื่อ”
อันที่จริงการที่ไป๋ชิงอีพยายามทำลายหลักฐานนั้นเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด เธอได้ขุดหลุมฝังตัวเองไว้มาก เพราะโม่ถิงเฝ้าระวังการกระทำที่น่าสุ่มเสี่ยงล่วงหน้าเอาไว้ เธอจึงต้องมาเดือดร้อนเช่นนี้
สุดท้ายวิดีโอนี้จึงถูกปล่อยออกมาพร้อมกับความจริงที่ถูกเปิดโปง ซ่งหลินหลินได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และอนาคตของพ่อลูกผู้ใช้ความรุนแรงก็ดูจะมืดมน
ในวันที่วิดีโอถูกปล่อยออกมา แชมป์มวยปล้ำกำลังอยู่ในช่วงวันหยุด เขาได้รับผมกระทบจากเรื่องนี้อย่างหนัก และดูเหมือนว่าคงต้องบอกลาวงการมวยปล้ำไปในคราเดียวกัน
ไป๋ชิงอีนึกไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะทำให้พ่อของเธอสูญเสียทุกอย่างไป!
ทว่าไม่ใช่เพียงพ่อของเธอ แต่เป็นทั้งตระกูลของเธอต่างหาก!
“ไม่นะ ฉันเรียนรู้ทุกอย่างมาจากถังหนิง จะผิดพลาดไม่ได้หรอก…เป็นไปไม่ได้!”
เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตระกูลไป๋ถูกกองทัพนักข่าวรุมล้อม บางคนยังเห็นไป๋ชิงอีออกมาจากห้องพักของชายอีกคนด้วยซ้ำ ดูเหมือนเธอจะเป็นฝ่ายนอกใจด้วยเช่นกัน ตระกูลไป๋จึงตกที่นั่งลำบากอย่างดิ้นไม่หลุด และไม่มีเวลาไปจัดการกับซ่งหลินหลินและหรงซิ่วหยวน อย่างไรเสียพวกเขาก็ยังไม่อาจจัดการกับเรื่องของตัวเองก่อนได้ด้วยซ้ำ!
ซ่งหลินหลินพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของตัวเองได้ในท้ายที่สุด แต่เธอก็ได้รับบทเรียนที่สาหัสเช่นกัน
เมื่อผู้หญิงเจอกับคู่ครองที่แย่และไม่อาจแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ เธอมักจะทำให้ตัวเองต้องเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน
ซ่งหลินหลินเห็นข่าวในระหว่างที่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เธอนึกขอบคุณโม่ถิงกับถังหนิงเหลือเกิน เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะกลับมามีที่ยืนได้
เธอได้รับการพิสูจน์ว่าไม่ใช่คนผิด แล้วตอนนี้ยังถูกมองว่าเป็นเหยื่อ!
ยิ่งไปกว่านั้น ลู่เช่อตรวจดูกล้องวงจรปิดละแวกบ้านของเธอและจับภาพคนที่มาทำร้ายเธอ จากนั้นเขาจึงพิสูจน์ว่าไป๋ชิงอีเป็นคนจ้างวานทำร้ายร่างกาย ตอนนี้หลายคนจึงเห็นอกเห็นใจเธอ
ในขณะเดียวกันทันทีที่หรงซิ่วหยวนเป็นอิสระ เขารีบมาหาซ่งหลินหลินที่โรงพยาบาล หากแต่หลังจากได้รับบทเรียนในครั้งนี้ เธอรู้แล้วว่าโลกนั้นช่างโหดร้ายเพียงใด
ความอบอุ่นเดียวที่เธอหลงเหลืออยู่ในหัวใจมาจากโม่ถิงและถังหนิง
เธอจึงปฏิเสธหลงซิ่วหยวนไปตรงๆ ก่อนบอกกับพยาบาล “ช่วยบอกเขาว่าอย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีกด้วยนะคะ ฉันไม่มีทางยกโทษให้เขาเด็ดขาด”
เป็นจังหวะเดียวกับที่ถังหนิงมาถึงโรงพยาบาล หลังได้ยินสิ่งที่ซ่งหลินหลินพูด เธอก็หัวเราะ “คุณรู้ตัวว่าควรทำอะไรแล้วเหรอ”
“หลังจากเรื่องเกิดขึ้น ฉันอยากแค่ตั้งใจกับการแต่งเพลงน่ะค่ะ ฉันเหนื่อยไม่ไหวแล้ว…”
“มันเป็นทางเลือกของคุณค่ะ ไห่รุ่ยจะประกาศให้คุณกลับไปทำงานอย่างเป็นทางการ แล้วผู้จัดการของคุณก็จะช่วยวางแผนว่าควรทำอะไรต่อไป จะได้ไม่มีผลกับชื่อเสียงของคุณ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ น้ำตาของซ่งหลินหลินไหลรินมาจากดวงตา “ถังหนิง ฉันไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงเลยจริงๆ ค่ะ”
“เลยขอบคุณฉันอย่างนี้เหรอ ด้วยการร้องไห้เนี่ยนะคะ”
“ฉันไม่เคยร้องไห้อย่างนี้ต่อหน้าคนอื่นมาก่อนเลยนะคะ คุณเป็นคนแรก!” ซ่งหลินหลินว่าขึ้น “คุณกับประธานโม่มอบโอกาสครั้งที่สองในชีวิตกับฉัน”
“มีความสุขกับชีวิตที่รอคุณอยู่นะคะ”
ซ่งหลินหลินพยักหน้า “หลังจากฉันหายดี ฉันจะกลับไปเตรียมกลับมาอย่างเป็นทางการค่ะ”
สุดท้ายหรงซิ่วหยวนก็ไม่ได้ไปเจอซ่งหลินหลินอย่างที่เธอหวังไว้ อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอหายสนิทและกลับไปทำงานอย่างที่รับปากไว้ พอสุขภาพแข็งแรงดีเธอก็เข้าร่วมงานสังคมอีกครั้ง แน่นอนว่าเธอรู้ว่าสื่อคงมีคำถามกับเธอมาก แต่เธอไม่กลัวที่จะอยู่ต่อหน้ากล้องอีกต่อไปแล้ว
บริเวณฉากหลังในงาน นักข่าวเริ่มถาม “หลินหลิน คุณรู้สึกยังไงกับการกลับมาของคุณคะ”
“ฉันรู้สึกว่าไห่รุ่ยมีประธานบริหารที่เยี่ยมยอดแล้วเขาก็มีภรรยาที่ดีด้วยค่ะ! ไม่มีพวกเขาก็คงจะไม่มีฉัน!” พูดจบ เธอก็หันไปมองกล้องก่อนโค้งคำนับจากใจจริงให้สามครั้ง