วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1165 ตาม
“ตลอดชีวิตที่เหลือของฉัน ฉันจะอยู่ที่ไห่รุ่ยตราบใดที่พวกเขายังต้องการฉันอยู่ค่ะ!
“ฉันเขียนเพลงให้ประธานโม่กับถังหนิงด้วย ฉันจะแสดงในไม่กี่นาทีนี้แหละค่ะ…”
“หมายความว่างานวันนี้จะเป็นการปล่อยเพลงใหม่ของคุณด้วยงั้นเหรอครับ แฟนเพลงทุกคนโชคดีจังเลยนะครับ ซ่งหลินหลินพูดออกมาเองว่าเขียนเพลงให้กับประธานโม่กับถังหนิงด้วย! อีกเดี๋ยวก็คงได้ยินกับหูกันแล้ว!”
…
แฟนๆ ในงานต่างพากันดีใจ
ตอนนี้ซ่งหลินหลินกลับมาแล้ว พวกเขารู้ว่าเธอได้กลายเป็นนักร้องที่ต่างจากเดิมไปถนัดตา เมื่อก่อนแม้ว่าเธอจะมีฝีมือเธอก็ยังออกจะหยิ่งอยู่บ้าง
ทว่าหลังเกิดเรื่องขึ้น ทุกคนสัมผัสได้ถึงความเป็นผู้ใหญ่ของเธอและดูออกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีหัวคิด เธอได้เติบโตขึ้นอย่างแท้จริงและมันทำให้ผู้คนปวดใจ
แฟนๆ จึงตะโกนบอกเธอ “อย่าคุ้ยหาแฟนจากถังขยะอีกนะคะ คุณเป็นคนน่าทึ่งมาก!”
คืนนั้นซ่งหลินหลินปล่อยโฮออกมากลางงาน
เธอพลันรู้สึกว่าคนมากมายไม่ทอดทิ้งเธอไป
ไม่นานหลังจากนั้น เธอเริ่มร้องเพลงใหม่เพื่อโม่ถิงกับถังหนิง ชื่อของมันคือ ตาม แค่ชื่อเพลงก็เพียงพอที่จะนิยามความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักได้แล้ว
ในขณะเดียวกันท่วงทำนองที่ลึกซึ้งกินใจชวนให้ทุกคนดำดิ่งไปกับบทเพลง
“ไม่คาดคิดว่าอยู่ๆ คุณจะปรากฏตัวขึ้น
“ฉันเลยใช้ชีวิตไปข้างหน้าตามลำพังเรื่อยมา
“คิดว่าคงต้องเปล่าเปลี่ยวกระทั่งโลกใบนี้สิ้นสลาย
“แต่คุณกลับตามหลังมาไม่ห่างหายไปไหน…”
ด้วยท่วงทำนองที่ซาบซึ้งและคำร้องที่เข้าถึงอารมณ์ คนที่กำลังรับฟังเริ่มร้องไห้ออกมา ราวกับอยู่ๆ พวกเขาก็เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างโม่ถิงกับถังหนิง และพวกเขายึดเหนี่ยวกันไว้ในยามยากลำบากมาเพียงไหน
ในขณะเดียวกันถังหนิงกับโม่ถิงกำลังอิงแอบแนบชิดกันอยู่ที่บ้าน อุ้มเหยียนเอ๋อร์ไว้ พลางดูการถ่ายทอดสดงานที่ซ่งหลินหลินเข้าร่วมผ่านโทรทัศน์
เมื่อเธอได้ยินเพลงของซ่งหลินหงิน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าถังหนิง “เธอตั้งใจเขียนเพลงนี้มากเลยนะคะ ถิง คุณคิดว่าไงคะ”
“ผมว่ามันเป็นเพลงหลักในอัลบั้มใหม่ของเธอได้เลยละครับ!” ท่าทีของโม่ถิงเรียบเฉย หากแต่การใช้มันเป็นเพลงหลักของอัลบั้ม แสดงเขายอมรับว่ามันยอดเยี่ยมแค่ไหน
ในไม่ช้าเพลง ตาม ได้ขึ้นอันดับเพลงเจ้าใหญ่ยักษ์ทุกที่ และได้รับความนิยมไปทั่วปักกิ่งอย่างไม่หยุดยั้ง
สุดท้ายแม้จริงๆ ซ่งหลินหลินจะได้ประโยชน์จากเหตุการณ์เลวร้ายของเธอ และมีงานมากกว่าแต่ก่อน แต่ยิ่งไปกว่านั้นสองเดือนให้หลังเกิดเหตุการณ์ เธอได้ตั้งใจส่งอย่างอื่นมาให้ตามที่สัญญาไว้ เพลงประกอบภาพยนตร์มดราชินีสองนั่นเอง!
“คุณรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” ถังหนิงถามอย่างสงสัยขณะมองหน้าซ่งหลินหลิน
“เพราะฉันบอกให้ลู่เช่อคอยสังเกตและบอกฉันทันทีที่เห็นคุณที่ไห่รุ่ยค่ะ” ซ่งหลินหลินหัวเราะ “นี่นับว่าเป็นของขวัญเพื่อหนังจากฉันหรือเปล่าคะ”
“คุณให้ของขวัญเรามาแล้วนะคะ” ถังหนิงเอ่ยอย่างกำลังพูดถึงเพลงล่าสุดที่เธอปล่อยออกมา
“อันนั้นไม่นับสิคะ อันนี้ต่างหากที่เป็นของขวัญจริงๆ คุณกับประธานโม่ลองฟังตัวอย่างก่อนก็ได้ค่ะ”
ถังหนิงถือยูเอสบีเอาไว้พร้อมความรู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อย ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ตอนที่เธอช่วยซ่งหลินหลิน เธอไม่ได้ทำเพื่อจะได้รับของขวัญในวันนี้
จึงเอ่ยกับซ่งหลินหลินหลังจากที่เธอวางตัวอย่างเพลงลง “คุณไม่ต้องทำเพื่อถิงกับฉันมาขนาดนี้ก็ได้ค่ะ แค่คุณมองผู้ชายให้ออกแล้วไม่ก่อเรื่องวุ่นอีกเราก็พอใจแล้วละค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ…ฉันจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก”
หลังซ่งหลินหลินออกไป ถังหนิงส่งตัวอย่างเพลงให้โม่ถิง “ลองฟังดูสิคะ ใครจะรู้ บางทีหนังอาจจะไม่ดังแต่เพลงประกอบอาจจะดังก็ได้นะคะ…”
โม่ถิงมองภรรยาอย่างเอ็นดู ก่อนส่งตัวอย่างเพลงให้ลู่เช่อ และสั่งให้เขาเอาไปให้ผู้เชี่ยวชาญฟัง
ซ่งหลินหลินนั้นจริงใจอย่างถึงที่สุด…
แน่นอนว่าเวลานี้ตระกูลไป๋ได้พ่ายแพ้และพังพินาศ ข่าวฉาวโฉ่เรื่องแล้วเรื่องเล่าถูกเปิดโปงออกมา ค่อยๆ ฉีกหน้ากากจอมปลอมของพวกเขาทีละชั้น คุณพ่อไป๋ถูกไล่ออกจากทีมชาติในท้ายที่สุด พร้อมกับชู้รักของไป๋ชิงอีที่ถูกแฉ เธอลุ่มหลงในตัวชู้ตัวเองมากเสียยิ่งกว่าและรู้จักกันมานานกว่าหรงซิ่วหยวนด้วยซ้ำ
ทว่าไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับไห่รุ่ยและซ่งหลินหลิน
อย่างไรเสียถังหนิงก็ไม่คิดสนใจตามเล่นงานคนอื่นยามที่พวกเขาล้มไม่เป็นท่า
ในขณะเดียวกันตลอดเวลาที่เกิดเรื่องวุ่นวายทั้งหมด ผู้อาวุโสหนานกงได้จับตามองทุกอย่างที่เกิดขึ้นและเห็นวิธีที่ไห่รุ่ยรับมือกับวิกฤต เขาปฏิเสธไม่ลงว่าโม่ถิงนั้นเก่งกาจไม่น้อย
หากชุนชิวตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน พวกเขาคงไม่อาจชุบชีวิตซ่งหลินหลิน และยังส่งให้เธอโด่งดังยิ่งกว่าเดิมอย่างที่เขาทำได้
ทว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเขาตราบเท่าที่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับความคืบหน้าของ ปรสิต …
หากเป็นเช่นนั้น เขาจะแสดงให้เห็นความหมายที่แท้จริงของคำว่าเลือดเย็น!
เมื่อคิดเช่นนั้นผู้อาวุโสหนานกงลูบศีรษะเสี่ยวต้านเขออย่างไม่รู้ตัว “ช่วงนี้มีความสุขที่โรงเรียนไหม ไฉ่เอ๋อร์”
“คุณทวดขา หนูคืนดีกับฝาแฝดแล้วเลยมีความสุขทุกวันเลยละค่ะ”
“หนูมีความสุขก็ดีแล้วละ!” ผู้อาวุโสหนานกงเอ่ยอย่างมีนัยแอบแฝง “ไฉ่เอ๋อร์มีความสุข ทวดก็มีความสุขไปด้วย”
เมื่อเห็นทวดกับเหลนสนิทสนมกันมากขึ้น หนานกงเฉวียนโล่งใจหากแต่กลับรู้สึกได้ถึงความอันตรายเช่นกัน ถึงอย่างไรเขาก็ยังเฝ้าระวังชายสูงวัยอยู่ เขากลัวว่าสักวันหนึ่งอีกฝ่ายจะใช้เสี่ยวต้านเขอเป็นเครื่องมือเพื่อการแก้แค้นของตัวเอง
ซูโยวหรานสัมผัสได้ถึงแววเป็นกังวลในสายตาของเขาจึงกล่าวปลอบ “คุณขอให้เสี่ยวต้านเขอหลบหน้าปู่ไม่ได้หรอกนะคะ อย่างนั้นคงจะโหดร้ายมากเกินไป!”
“แต่ผมก็ยังต้องระวังนะครับ!” หนานกงเฉวียนท้วงพลางกุมมือภรรยาไว้ “คุณไม่รู้หรอกว่าผมรักครอบครัวนี้มากแค่ไหนจนพยายามเติมเต็มให้สมบูรณ์มากขนาดนี้ แต่ยังไงใจคนเราก็ยากแท้หยั่งถึงนี่ครับ”
ซูโยวหรานถอนหายใจออกมาและส่ายหน้า “ฉันละสงสัยว่าเมื่อไหร่คุณปู่จะปล่อยวางสักที”
“ผมเกรงว่ามันคงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขามากๆ เลยละครับ…”
หลังได้ยินคำตอบของหนานกงเฉวียน เธอพยายามคิดหาทางช่วย แต่ก็รู้ตัวอย่างรวดเร็วว่าไม่มีสิ่งใดที่เธอทำได้แม้แต่น้อย
วันถัดมาผู้อาวุโสหนานกงเสนอตัวไปส่งเสี่ยวต้านเขอที่โรงเรียน เป็นธรรมดาที่ซูโยวหรานจะหวั่นใจกับข้อเสนอนี้ ด้วยกลัวว่าเขาจะรู้ว่าเสี่ยวต้านเขอสนิทสนมกับฝาแฝดโม่ขนาดไหน
“คุณปู่คะ…ฉันจัดการเรื่องนี้เองได้ค่ะ…”
“ในเมื่องานไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วฉันก็มีเวลาว่าง มันไม่ใช่เรื่องลำบากเลย ไฉ่เอ๋อร์ อยากให้ทวดไปส่งที่โรงเรียนไหม”
เสี่ยวต้านเขอมองหน้าซูโยวหรานก่อนเลื่อนสายตาไปหาผู้อาวุโสหนานกง สุดท้ายเธอจึงพยักหน้าให้ “หนูอยากให้ทวดไปส่งหนูค่ะ แม่ขา ยอมเถอะนะคะ!”
เห็นเช่นนี้ซูโยวหรานไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้าตกลง
เสี่ยวต้านเขอยังเด็กมาก ซูโยวหรานไม่ต้องการให้เธอเข้ามาเดือดร้อนกับความบาดหมางของผู้ใหญ่ เธอจึงหวังว่าผู้อาวุโสหนานกงจะแค่อยากไปส่งเสี่ยวต้านเขอที่โรงเรียนและไม่มีเจตนาซ่อนเร้น
หนานกงเฉวียนรู้ว่าเธอกำลังเป็นกังวลจึงบอกกับเธอ “ถ้าคุณกังวลผมส่งคนไปคอยตามเขาก็ได้นะครับ”
“ฉันกลัวว่าปู่จะรู้เรื่องสองพี่น้องน่ะสิคะ…”
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอกครับ ผมจะจัดการเอง”
ไม่ห่างออกไป คุณทวดกับเหลนรู้ว่าซูโยวหรานกับหนานกงเฉวียนกำลังพูดเรื่องอะไรกัน แต่พวกเขากลับทำเพียงมองหน้าและขยิบตาให้กัน
ถึงอย่างไรเสี่ยวต้านเขอก็ได้รับอนุญาตจากทวดให้เป็นเพื่อนกับฝาแฝดได้ พ่อแม่ของเธอจึงกำลังกังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง…
หากแต่เสี่ยวต้านเขอยังเด็ก เธอจะรู้ตัวได้อย่างไรว่ากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือ