วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1172 แม่ เกิดอะไรขึ้นคะ
ปรสิต กำลังคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่องและชุนชิวผ่านการประชาสัมพันธ์รอบแรกไปได้สำเร็จ หากแต่สิ่งที่คอภาพยนตร์สงสัยมากที่สุดคือวันออกฉาย
หนานกงเฉวียนไม่ได้ทำตามคำแนะนำของผู้อาวุโสหนานกง เขาตัดสินใจฉายภาพยนตร์ทันทีที่พร้อม
ทว่าชายสูงวัยยืนกรานในความเห็นของตัวเอง
ทั้งสองขัดแย้งกันมาตลอด กระทั่งในที่ประชุมพวกเขาก็ยังมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง จึงมีคนไม่มากในบริษัทที่นับถือชายแก่ อย่างไรเสียพวกเขาก็รู้ว่าเขามีเจตนาซ่อนเร้น
แต่ผู้อาวุโสหนานกงยืนยันว่าหากพวกเขารอไปอีกหน่อย เขาจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้และทำให้ภาพยนตร์ของพวกเขาดังได้ แล้วมันจะผิดตรงไหนกันล่ะ โลกธุรกิจก็เป็นวงการมายาและไม่น่าวางใจซึ่งผู้ชนะจะได้ครอบครองทุกอย่างมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ใครจะสนใจเรื่องจรรยาบรรณกัน
จนกระทั่งถึงจุดที่ชายทั้งสองได้แต่ไม่อาจตกลงกันได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสหนานกงตัดสินใจเด็ดขาด คือเมื่อ ปรสิต จัดการประชุมผู้ลงทุนและเขาไม่ได้รับเชิญ! เขาได้ถูกกีดกันทุกทาง
หลังผู้อาวุโสหนานกงรู้เรื่องนี้ เขาประสาทเสียเต็มที
เขารู้ว่าตัวเองกับหนานกงเฉวียนนั้นเกินกว่าจะเจรจากันได้แล้ว!
มันไม่มีทางที่จะตกลงกับเขาได้เลย!
ดังนั้นเพื่อกันไม่ให้หนานกงเฉวียนประกาศวันออกฉายอย่างเป็นทางการ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากลงมือกับหลานชายตัวเอง
ด้วยก่อนหน้านี้เขาคลุกคลีกับวงการใต้ดิน จึงไม่ยากที่เขาจะติดต่อคนจากสายสืบ
เขาได้รับความช่วยเหลือและตัดสินใจวางยาหนานกงเฉวียน ลูกไม้สกปรกที่เขาเรียนรู้มาตลอดชีวิตจากวงการใต้ดินกำลังถูกเอามาใช้กับหลานชายของเขาเอง
หนานกงเฉวียนคอยระวังปู่ของเขาเรื่อยมา แต่เมื่อคนเราคิดจะร้ายกาจขึ้นมาจริงๆ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันตัวจากพวกเขาได้ตลอด!
“ลงมือพรุ่งนี้เลย ฉันจะช่วยให้แกเข้าไปในห้องทำงานของหนานกงเฉวียนก่อนที่เขาจะมาถึงและจะให้แกหนีออกไปทางทางออกฉุกเฉิน” ผู้อาวุโสหนานกงเอ่ยกับคนร้ายที่มาช่วยเขา
“คุณแน่ใจเหรอ อยากจะทำอย่างนี้กับหลายตัวเองจริงๆ เหรอ”
“ฉันแค่ทำให้เขาหลับไปชั่วคราวเท่านั้นแหละ…หลังจากทุกอย่างผ่านพ้นไป เดี๋ยวเขาก็ตื่นขึ้นมาและไม่เป็นไรเอง” ชายแก่ว่าพลางสูบบุหรี่
“แต่ว่ายาสลบนี้อาจทำให้ถึงตายได้เลยนะ!”
“ไม่ต้องห่วงมากหรอกน่า ถ้าฉันบอกให้แกลงมือก็แค่ลงมือไปตามที่สั่งเถอะ” ผู้อาวุโสหนานกงเอ่ยยืนยัน
“อย่างนั้นผมจะทำมันจริงๆ แล้วกัน” ชายคนนี้เป็นนักฆ่ามืออาชีพ ด้วยอายุของเขาจึงทำให้ผ่านประสบการณ์โชกโชน เขาจึงรู้จักวิธีการลงมือที่รวดเร็วและแม่นยำ
ตราบใดที่เขามั่นใจว่าตัวเองจะปลอดภัยพอ การคร่าชีวิตคนคนหนึ่งเป็นเพียงเรื่องเด็กเล่นด้วยซ้ำ
แผนของผู้อาวุโสหนานกงคือการฉีดยาสลบหนานกงเฉวียนซึ่งจะทำให้เขามีอาการสาหัส ยานี้ไม่ได้ขายอย่างถูกกฎหมาย เป็นยาบางอย่างที่ต้องซื้อผ่านช่องทางพิเศษ
คืนนั้นหนานกงเฉวียนทำกิจวัตรอย่างเคย หลังจากกล่อมเสี่ยวต้านเขอเข้านอน เขากลับมาที่ห้องนอนและกอดภรรยาอย่างรักใคร่จนหลับไป วันต่อมาเขามาถึงบริษัทเพื่อเซ็นเอกสารบางอย่างตามปกติ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเงาดำทาบทับเขามาจากด้านหลัง และปักเข็มฉีดยาเข้าที่คอก่อนที่เขาจะได้ตอบโต้อะไร ในชั่วนาทีเขาก็หมดสติไป
นักฆ่ารอโอกาสนี้มานานหลายชั่วโมงแล้ว…
เขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสส่งเสียงได้อย่างไร
หลังจากนอนสลบไปนาน ในที่สุดผู้ช่วยของหนานกงเฉวียนก็พบเข้ารีบส่งตัวไปโรงพยาบาลทันที
หลังจากตรวจอาการคร่าวๆ หมอยืนยันว่าเขาถูกวางยา แต่ยังไม่อาจชี้ชัดได้ว่าเป็นยาอะไร ยิ่งไปกว่านั้นยานี้ได้แล่นขึ้นไปสู่สมองและเขาต้องใช้เวลาสักพักในการฟื้นตัว
ยังคงไม่ทราบการวินิจฉัยโดยละเอียดจนกว่าหมอจะตรวจสอบอาการมากกว่านี้
ผู้ช่วยของเขาโทรหาซูโยวหรานด้วยความตื่นตระหนกทันที เมื่อเธอได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น เธองุนงงขณะที่รีบไปที่โรงพยาบาล
ไม่นานหลังจากนั้นสื่อเริ่มได้ข่าวและคิดว่าหนานกงเฉวียนป่วยหนักและอยู่ในอาการสาหัส
หากแต่ทั้งผู้อาวุโสหนานกงและซูโยวหรานรู้ว่าความจริงคืออะไร
ในขณะที่ที่เธอเดินวนไปมานอกห้องฉุกเฉิน ซูโยวหรานทั้งหวั่นใจและโกรธ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าทุกวันนี้ยังมีคนใช้วิธีสกปรกขนาดนี้อีก ที่แย่ที่สุดคือเป็นฝีมือปู่ของสามีเธอเอง
เธอไม่เคยคลุกคลีในวงการใต้ดิน จึงไม่รู้ว่ามันเป็นสถานที่โสมมเพียงไหน อย่างไรก็ตามสิ่งที่รู้แน่ชัดคือเหตุการณ์นี้ต้องมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสหนานกงแน่ๆ
ตอนนี้เองที่ผู้อาวุโสหนานกงมาถึงโรงพยาบาลพร้อมกับผู้บริหารระดับสูงที่บริษัท
ดวงตาซูโยวหรานแดงก่ำขณะจ้องผู้อาวุโสหนานกงเขม็งด้วยความกรุ่นโกรธ “ปู่ตั้งใจจะทำอย่างนี้ใช่ไหมคะ ปู่”
“โยวหราน เกิดอะไรขึ้นกับเฉวียนเอ๋อร์กันล่ะ หมอบอกว่าอะไร”
“แสดงละครตบตาเก่งดีนี่คะ” ซูโยวหรานสวนกลับ “ฉันต่างหากที่ควรถามปู่ว่าเกิดอะไรกับเฉวียน”
“โยวหราน ฉันเป็นปู่ของเขานะ เธอกำลังสงสัยว่าฉันวางแผนทำร้ายหลานชายตัวเองงั้นเหรอ”
“ฉันพูดผิดตรงไหนล่ะคะ”
“ผิดแน่ๆ สิ” ผู้อาวุโสหนานกงปฏิเสธ “ฉันมีหลานชายอยู่แค่คนเดียวนะ”
ซูโยวหรานแค่นหัวเราะและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก หลังเงียบไปพักใหญ่ ในที่สุดเธอก็บอกกับชายแก่ “ถ้าการแก้แค้นเป็นทางเดียวที่จะทำให้ปู่หยุดแล้วทำให้ทุกคนอยู่อย่างสงบสุขได้ งั้นก็ไปแก้แค้นเลยค่ะ ไปหาตระกูลโม่ซะ…
…ฉันไม่รู้ว่าปู่ต้องการอะไร แต่ไม่ว่ามันจะคืออะไร แล้วเฉวียนไม่ให้คุณทำเรื่องอะไร ฉันยอมตกลงทั้งหมดค่ะ!”
“คุณผู้หญิง!” ผู้ช่วยของหนานกงเฉวียนเอ่ยแทรก อย่างไรก็ตามเธอผลักเขาออกไปด้านข้าง “ถ้าเราไม่ให้ปู่ทำตามเจตนาของตัวเอง เขาคงจะท้ายคนอื่นอีก คนนั้นอาจจะเป็นนายหรืออาจจะเป็นฉันก็ได้! ”
หลังจากได้ยินดังนั้น ผู้ช่วยจึงปิดปากเงียบอย่างว่าง่าย
“ปู่คะ กรุณาปล่อยเราไปเถอะค่ะ เราไม่ต้องการแก้แค้นแล้วก็ไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายของปู่ด้วย ถ้าปู่ต้องการอะไรก็ไปทำเลยค่ะ!”
สื่อบอกว่าหนานกงเฉวียนป่วยหนัก หากแต่พวกเขาต่างรู้ดีว่าความเป็นจริงคืออะไร
หลังจากนั้นผู้อาวุโสหนานกงแย่งตำแหน่งประธานบริหารมาได้สำเร็จ หลังจากที่ซูโยวหรานตกลงให้ทุกอย่างที่เขาต้องการ อย่างไรเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะขึ้นรักษาการในช่วงที่หนานกงเฉวียนอาการไม่สู้ดีนัก
ในบ่ายวันนั้นเมื่อเสี่ยวต้านเขอเลิกเรียน เธอไม่เห็นพ่อตัวเองอย่างที่หวังไว้ แต่กลับถูกพาไปที่โรงพยาบาลแทน
“แม่ เกิดอะไรขึ้นกับพ่อคะ พ่อเป็นหวัดเหรอ”
ซูโยวหรานยังคงเข้มแข็งจนกระทั่งบัดนี้ แต่ครั้นได้ยินคำถามของเสี่ยวต้านเขอ เธอกลั้นน้ำตาไม่ไหวอีกต่อไปขณะที่ดึงเสี่ยวต้านเขอเข้ามาในอ้อมแขนและเริ่มร้องไห้ออกมา
“แม่คะ แม่ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“ถ้าแม่รู้ตัวมากกว่านี้สักนิด ถ้าแม่ระวังมากกว่านี้สักนิด ถ้า…”
“แม่ขา นี่มันอะไรกันคะ”
เสี่ยวต้านเขอทั้งกลัวและเป็นห่วงเพราะซูโยวหรานเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมอธิบายอะไรออกมาแต่อย่างใด
ในที่สุดซูโยวหรานหยุดร้องไห้และนึกได้ว่าตัวเองอยู่กับเสี่ยวต้านเขอ เธอเช็ดน้ำตาก่อนเอ่ยกับเสี่ยวต้านเขอ “พ่อไม่สบายแล้วก็ยังไม่ตื่นขึ้นมาเลยค่ะ เสี่ยวต้านเขอต้องเป็นเด็กดีจนกว่าพ่อจะตื่นขึ้นมานะคะ โอเคไหม”