วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1179 เทียบกันไม่ได้หรอก
หลังได้ยินคำตอบของถังหนิง โม่ถิงอดไม่ได้ที่จะบีบจมูกเธอ “คุณนี่ช่างกล้าคิดอย่างนั้นนะครับ”
“ไม่มีอะไรที่ฉันกลัวเกินจะนึกถึงหรอกค่ะ โดยเฉพาะพอเป็นเรื่องที่ฉันอยากให้คุณทำจริงๆ ผู้อาวุโสหนานกงเห็นบทบางส่วนไปและไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรได้จากสิ่งที่เห็นไปบ้างจริงๆ นี่คะ แล้วลู่เช่อก็ไม่ได้บอกเหรอคะว่าเขาติดต่อกับบริษัทหนังของทางอเมริกา นี่เป็นทางเดียวที่เราจะมั่นใจในความปลอดภัยของบทเราได้ค่ะ”
ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยเจอเรื่องบทหลุดออกไปตอนภาพยนตร์เรื่องโง่แล้ว ตอนนั้นพวกเขาได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือและรับรองด้านลิขสิทธิ์ หากแต่ครั้งนี้สถานการณ์นั้นต่างออกไป ดังนั้นการตีพิมพ์หนังสือจึงไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมนัก
“คุณคิดว่าไงคะ อยากจะเดิมพันครั้งนี้กับฉันไหม”
โม่ถิงมองถังหนิงพร้อมรอยยิ้ม หากเป็นเมื่อก่อนแนวทางเช่นนี้คงไม่มีทางได้รับการอนุมัติในคณะกรรมการบริการแน่
ทว่าตอนนี้การยอมรับความคิดเห็นของถังหนิงของเหล่าผู้ถือหุ้นได้เพิ่มขึ้นด้วยเล็งเห็นถึงความสามารถของเธอ
ความจริงแล้วพวกเขาอาจตามใจถังหนิงเสียมากกว่าสามีของเธออีก
แค่ถังหนิงมีข้อเสนอ ผู้บริหารระดับสูงก็ยินดีที่จะรับพิจารณาทันที บางคนยังบอกโม่ถิงไม่ให้เข้มงวดกับภรรยาเกินไปนักด้วยซ้ำ
“ในเมื่อนั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องการ งั้นผมจะบอกให้ทุกคนที่อยู่เบื้องหลังร่างแผนการที่เหมาะสมแล้วกันครับ เราต้องรับประกันว่าการตลาดหลังจากออกฉายจะมีประสิทธิภาพ”
ถังหนิงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า เธอดีใจกับความเชื่อมั่นของประธานโม่…
…
วันถัดมาโม่ถิงแจ้งข้อเสนอของถังหนิงในการประชุมคณะกรรมการบริหาร เขาชี้แจงว่าบทรั่วไหลออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อาวุโสหนานกงเล่นแง่อะไรอีก ถังหนิงตัดสินใจที่จะไม่ทำตามแนวทางตามปกติ
แน่นอนว่ามันมีความเสี่ยงสูง
แม้ว่าทุกคนจะมั่นใจในคุณภาพของภาพยนตร์ การออกฉายโดยที่ไม่ทำการตลาดก่อนก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน (แน่นอนว่าไม่นับรวมถึงภาพยนตร์ชั้นรอง)
ในเมื่อมดราชินีสองเป็นผลงานชิ้นเอกของไห่รุ่น ทุกคนต่างรู้สึกเคร่งเครียด แต่โม่ถิงบอกให้ลู่เช่อแสดงสถิติบางอย่างให้ทุกคนดู “จากสถิติเมื่อสองปีก่อน ทุกอย่างที่ถังหนิงเข้าไปเกี่ยวข้องมีผลตอบรับสูงสุดมาตลอด ผมไม่ได้พูดถึงแค่ มดราชินี แม้แต่หนังเรื่องแรกของเธออย่างโง่ก็ยังมียอดผู้เข้าชมออนไลน์ล้นหลาม และเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง…
…สถิติพวกนี้หมายความว่าอะไร…
…มันหมายความว่าทุกคนได้ยอมรับว่าหนังของถังหนิงเป็นตำนานแล้ว พูดได้อีกอย่างว่าทุกคนยอมรับคุณภาพของหนังของเธอแล้ว ดังนั้นไม่ว่าเธอจะไม่ได้ทำอะไรใหม่ๆ มาฉายเลยพวกเขาก็จะยังดูผลงานของเธอซ้ำๆ อยู่ดี…
…แล้วมันยังไงน่ะเหรอครับ นี่ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ตัวเองรูปแบบหนึ่งไงละครับ! …
…มันยิ่งมีศักยภาพมากกว่าแผนการตลาดไหนอีกครับ…
…ผมตัดสินใจแล้วว่ามดราชินีสองจะออกฉายในวันเดียวกับที่ มดราชินี ออกฉาย ไห่รุ่นจะจัดงานพิเศษฉลองครบรอบหนังเรื่องแรก และจะมอบของขวัญกับทุกคนด้วยการออกฉายมดราชินีสองในเวลาเที่ยงคืนของวันเดียวกัน ทำอย่างนั้นหนังสองเรื่องก็จะยิ่งเชื่อมโยงกัน และมันจะตีตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ…
…พวกคุณทุกคนคิดว่ายังไงครับ”
พอเป็นเรื่องของภาพยนตร์ ผู้ถือหุ้นไม่มีอำนาจจะพูดอย่างถังหนิง ทำนองเดียวกัน พอเป็นเรื่องของการตลาดและประชาสัมพันธ์ พวกเขาก็ไม่มีอำนาจจะพูดอย่างโม่ถิงเช่นกัน
“ในเมื่อประธานโม่วางแผนทุกอย่างไว้แล้ว ก็ทำตามนั้นเถอะครับ ถ้าเราต้องการให้หนังดังพลุแตก ก็จำเป็นที่ต้องประชาสัมพันธ์ในแนวทางที่ไม่เหมือนใคร นั่นเป็นทางเดียวที่จะอยู่รอดในวงการนี้ได้” ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งเอ่ยขึ้นขณะที่ยกมือเห็นด้วย
“เราเองก็ไม่มีข้อคัดค้านเช่นกันครับ”
ผู้บริการระดับสูงคนหนึ่งของบริษัทถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “จริงๆ ผมคิดว่ามันค่อนข้างน่าสนใจเลยละครับ มันจะจุดกระแสให้หนังเรื่องแรกในขณะที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชม และมีเรื่องให้พูดถึงในโลกออนไลน์ ทุกคนต่างได้ผลประโยชน์ในสถานการณ์นี้”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ทำตามมตินี้นะครับ มาทำให้น่าทึ่งเพื่อเอาชนะคู่แข่งของเรากันเถอะครับ”
คนของไห่รุ่ยคาดหวังถึงผลลัพธ์ของแนวทางการทำการตลาดนี้
มดราชินีสองที่ไม่มีการทำการตลาดล่วงหน้ายิ่งเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของทุกคนอันโหดหิน หากคุณภาพภาพยนตร์แย่เกินไป ไม่มีทางที่มันจะอยู่รอดได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามทุกคนเชื่อมั่นในตัวโม่ถิง เพราะในฐานะผู้มีสิทธิ์ขาดเขาไม่เคยทำพลาดมาก่อนสักครั้ง
…
ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสหนานกงนึกไม่ถึงว่าโม่ถิงกับถังหนิงจะทำเรื่องแหกกฎขนาดนี้ เขาคิดว่าทั้งคู่ดูเหมือนกำลังทำตามแนวทางตามปกติ
เขาจับตามองไห่รุ่ยอย่างใกล้ชิดเพราะเขาต้องการให้ทางอเมริกาออกฉายภาพยนตร์ของพวกเขาก่อนไห่รุ่ยแต่ไม่เร็วจนเกินไปนัก
เขาอยากเกาะกระแส มดราชินี แต่ก็ต้องการฟ้องร้องมดราชินีสองด้านลิขสิทธิ์เช่นกัน
เขาจึงรอแล้วรอเล่าให้โม่ถิงประกาศวันออกฉายอย่างเป็นทางการ
ทว่าการรอคอยของเขานั้นสูญเปล่า เพราะไห่รุ่ยไม่คิดออกมาประกาศแต่อย่างใด
“พวกเขาจะใจเย็นได้ขนาดนี้เลยเหรอ”
ทำไมพวกเขาถึงจะไม่ทำอย่างนั้นกันล่ะ
มันเป็นคำถามที่น่าแปลกนัก
มดราชินี ออกฉายครั้งแรกในวันที่สิบหกธันวาคม ดังนั้นมดราชินีสองจึงมีกำหนดฉายในวันครบรอบภาพยนตร์เรื่องแรก
หากแต่ในเวลานี้มีข่าวลือเล็กๆ เริ่มแพร่สะพัดไปวงการ หันอวี่ฝานกลับมาเต็มตัวและกำลังวางแผนปั้นเทียนอี้เอ็นเตอร์เทนเมนต์ขึ้นมาอีกครั้ง
หากเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับถังหนิง คงไม่มีใครสนใจหันอวี้ฝานแม้แต่น้อย แต่ในอีกทางเทียนอี้ก็เป็นเรื่องราวนมนานมาแล้วของถังหนิง มันนานเสียจนเธอเองจำไม่ค่อยได้ด้วยซ้ำ อย่างไรเสียตอนนี้ตัวตนและสถานะของเธอก็ต่างชั้นกับหันอวี่ฝานลิบลับ
ไห่รุ่ยมีความสามารถในการทำลายบริษัทเล็กๆ ได้ทุกเมื่อ แต่โม่ถิงไม่คิดว่าหันอวี้ฝานเป็นศัตรูเพราะบางอย่างที่ถังหนิงบอกเขาในคืนนั้น
“ประธานโม่คะ คุณไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้มากวนใจคุณนะ ในใจของฉัน หันอวี่ฝานเทียบกับคุณไม่ได้หรอกค่ะ”
โม่ถิงพึงพอใจกับคำพูดเหล่านี้
…
ในขณะเดียวกันที่บ้านตระกูลหนานกง หนานกงเฉวียนกำลังทำผลงานใหม่หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ในเมื่อเขาตกลงมอบปรสิตให้ผู้อาวุโสหนานกงเขาก็ไม่กลับคำ แต่กลับตั้งใจกับสิ่งอื่นเพื่อชดเชยกับความสูญเสียของทุกคน
แน่นอนว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับผู้อาวุโสหนานกงอยู่ในจุดที่กู่ไม่กลับแล้ว ถึงอย่างไรชายสูงวัยก็วางยาเขา ไม่ว่าหนานกงเฉวียนจะใจกว้างเพียงไหน มันคงจะทิ้งรอยแผลเป็นในใจของเขาตลอดไป
หลังจากผ่านความเป็นความตายครั้งนี้มา หนานกงเฉวียนยิ่งปกป้องภรรยาและลูกสาวมากกว่าเดิม
อย่างน้อยมีผู้อาวุโสหนานกงอยู่ เขาก็ไม่กลับไปตาบอดอีกแล้ว
หากแต่เรื่องที่ซูโยวหรานกับหนานกงเฉวียนรู้แผนของชายแก่และไม่อาจบอกคู่รักโม่ได้ ทำให้พวกเขารู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด
ถึงอย่างไรตระกูลโม่ก็ได้ช่วยชีวิตของหนานกงเฉวียนไว้…
อีกทั้งพวกเขายังเจอหน้ากันที่งานสังคมบ่อยครั้ง แต่ในเวลาเช่นนี้กลับทำได้แต่เดินผ่านกันไปราวกับคนแปลกหน้า…