วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1184 ใครลอกเลียนแบบใครกันแน่
คนทั่วไปคงไม่อาจโหดเหี้ยมได้เท่ากับผู้อาวุโสหนานกง
อย่างไรเสียเขาก็ไปถึงขั้นที่จับตัวเหลนตัวเองเป็นตัวประกัน แล้วจะมีอะไรที่เขาทำเพื่อแก้แค้นไม่ได้บ้าง
สุดท้าย วิกฤตการณ์หมาพันธุ์เดือด จึงได้ออกฉายในปลายเดือนธันวาคมอย่างที่ชายแก่หวังไว้ อย่างไรก็ตามในฐานะบริษัทตกยุคในวงการ บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ไม่ได้รับความสนใจอย่างที่คาดหวังไว้ เป็นอย่างนั้นจนกระทั่งวันถัดมาเมื่อมีเรื่องฉาวโฉ่เกิดขึ้น ในที่สุดผู้ชมชาวอเมริกันจึงได้รู้จักพวกเขา
[โอ้พระเจ้า หนึ่งในหนังของพวกเขาลอกเลียนแบบมาจากหนังจีนละ ฉันละไม่อยากจะเชื่อเลย]
[ฉันไม่เชื่อว่าคนจีนจะเขียนอะไรดีๆ ได้หรอก แต่พวกเขาก็ฉายก่อนจริงๆ นั้นแหละ]
[เรื่องตลกอะไรกันเนี่ย! เมื่อก่อนคนจีนไม่ลอกเลียนแบบอะไรบ้างล่ะ พวกเขากล้าดียังไงมาแก้ตัวอย่างนี้]
ข่าวนี้เป็นกระแสอย่างรวดเร็วด้วยเกี่ยวข้องกับการปะทะกันของสองวัฒนธรรม
อีกทั้งฮอลลีวูดยังเป็นที่ที่ทุกคนในวงการบันเทิงใฝ่ฝัน พวกเขาจะบอกว่าคนในวงการฮอลลีวูดลอกเลียนแบบชาวจีนได้อย่างไร
ต่อให้ชาวตะวันตกถูกทำร้ายจนตายพวกเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อ
ด้วยข่าวฉาวนี้คนอเมริกันเริ่มจดจำ วิกฤตการณ์หมาพันธุ์เดือดได้เช่นเดียวกับ มดราชินี 2 ของถังหนิง พวกเขาถือจังหวะนี้ในการเยาะเย้ยเทคนิคการถ่ายทำของชาวจีน ไปพร้อมกับการชื่นชมผลงานของประเทศตัวเองที่มีเนื้อเรื่องที่พัฒนาขึ้น
พวกเขาช่างหน้าไม่อาย แม้ว่าภาพยนตร์ของถังหนิงจะฉายก่อนมานานแล้ว พวกเขาก็ยังคว้ามันมาสร้างกระแสและฉกฉวยผลประโยชน์จากมัน
ไม่นานหลังจากนั้นบริษัทภาพยนตร์จากอเมริกันประกาศว่าจะจัดการกับข้อกล่าวหา และอ้างว่าช่างวางระเบิดชาวจีนขโมยบทของพวกเขาและปล่อยให้หลุดไป ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังเผยหลักฐานว่าชายคนนั้นทำงานให้กับกองถ่ายของมดราชินีสอง
“เราจะเอาเรื่องกับบริษัทจีนกับสิ่งที่พวกเขาทำ ทนายความของเราจะติดต่อพวกเขาไปในไม่ช้า ผมหวังว่ามดราชินีสองจะถูกถอดออกจากโรงภาพยนตร์เพื่อเป็นการให้เกียรติกัน”
ทางอเมริกาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก เรื่องสำคัญคือการที่สุดท้ายผู้ชมชาวจีนกลับรู้สึกขุ่นเคืองใจเช่นกัน
การลอกเลียนแบบเป็นสิ่งที่ไม่มีใครยอมรับได้ โดยเฉพาะเมื่อมี ถังหนิง คนที่พวกเขาชื่นชอบและ ไห่รุ่ย บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศมาเกี่ยวข้อง หากแม้แต่ผลงานของไห่รุ่ยไม่อาจเชื่อถือได้ อย่างนั้นยังจะมีความหวังใดหลงเหลือในตลาดไซไฟในประเทศอีก
ดังนั้นผู้คนบนโลกออนไลน์จึงเริ่มแสดงความเห็น
[ฉันว่าชาวอเมริกันต้องทำตตัวหน้าด้านและบิดเบือนความจริงแน่ มดราชินีสอง เริ่มฉายก่อนชัดๆ พวกเขาจะอ้างว่าถูกลอกเลียนแบบได้ยังไง]
[หรือชาวอเมริกันจะใช้อำนาจกดขี่คนที่อ่อนแอกว่ากันล่ะ]
[ฉันดูหนังทั้งสองเรื่องมาแล้ว มันคล้ายกันแค่ส่วนหนึ่งของนักแสดงสมทบ แม้แต่บทพูดก็แทบจะเหมือนกัน แต่ฉันไม่ได้บอกว่าใครลอกเลียนแบบใครนะ]
[คนในวงการฮอลลีวูดจะลอกคนอื่นเหรอ]
[อย่างหาว่าฉันพูดตรงๆ เลยนะ หนังสองเรื่องมีบทพูดเหมือนกันแต่บทมันเหมาะกับเนื้อเรื่องของ มดราชินี 2 มากกว่าชัดๆ มันไม่เห็นจะเข้ากับเนื้อเรื่องของหนังอเมริกาเรื่องนั้นเลย]
[ฉันเองก็ดูหนังอเมริกาเรื่องนั้นมาหมือนกัน พูดตามตรงนะมันไม่ได้มาตรฐานของฮอลลีวูดเลย เนื้อเรื่องก็งั้นๆ แม้แต่ตัวเอกยังไม่มีบทบาทสำคัญเลย มันก็แค่มีฉากเลือดสาดกับต่อสู้เยอะๆ เท่านั้นแหละ ถ้าพูดถึงการลอกเลียนแบบฉันมั่นใจว่าชาวอเมริกันนั้นแหละที่ลอก!]
ทันใดนั้นทั้งโลกออนไลน์มีประเด็นโต้เถียงกันหนาหู แต่แน่นอนว่าผู้อาวุโสหนานกงทำให้ มดราชินี 2 สั่นคลอนได้สำเร็จ เพราะหลายคนเริ่มมีความเห็นเป็นกลาง อย่างน้อยจนกว่าปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์จะคลี่คลาย พวกเขาคงไม่วางแผนจะชื่อตั๋วไปดูมัน
สำหรับมดราชินีสองที่ประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ในขณะที่พวกเขามีอยู่ในจุดสูงสุด นับว่าเป็นอุปสรรคที่อยู่ๆ ก็โผล่มาไม่น้อย
ยิ่งเมื่อชาวอเมริกันลงมือรวดเร็วอย่างน่าตกใจ ทันทีที่พวกเขาบอกว่ากำลังติดต่อไห่รุ่ยก็ขึ้นเครื่องบินลัดฟ้ามาปักกิ่ง
พวกเขาทำเหมือนตัวเองกำลังพูดความจริงและทำทีแข็งกร้าวและน่ากลัว
ทว่ามีเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
ในขณะที่ซูโยวหรานกับหนานกงเฉวียนนั่งดูข่าวอยู่ที่บ้าน พวกเขาทั้งโมโหระคนอึ้ง หากเสี่ยวต้านเขอไม่ได้อยู่ในมือผู้อาวุโสหนานกง พวกเขาอาจก้าวออกมาหักหลังชายแก่ไปแล้ว ทว่าตอนนี้ลูกสาวของพวกเขาตกอยู่ในมือของอีกฝ่าย พวกเขากลัวที่จะลงมือบุ่มบ่าม
สาธารณชนต้องการให้ไห่รุ่ยออกมาชี้แจงเพราะข่าวฉาวนั้นเกี่ยวพันกับศักดิ์ศรีของประเทศชาติ หาดแม้แต่บริษัทอย่างไห่รุ่ยยังลอกเลียนแบบ ยังจะมีความหวังใดหลงเหลือในวงการนี้อีก
เพราะเรื่องนี้สุดท้ายฟังอวี้จึงจัดงานแถลงข่าว เขากล่าวอย่างมั่นใจกับสื่อขณะที่ยืนบนเวที “ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงเกี่ยวกับข่าวฉาวนี้นะครับ ขอให้ผมได้ชี้แจงในนามของไห่รุ่ยด้วยนะครับ
“ประการแรก บทของมดราชินีสองซึ่งถูกสร้างโดยถังหนิงและอำนวยการสร้างโดย ไห่รุ่ย นั้นได้ถูกเขียนด้วยมือของ โม่ถิง ประธานกรรมการบริหารของไห่รุ่ยเองครับ นี่เป็นร่างฉบับแรกที่มีวันที่ระบุกำกับไว้ชัดเจน หมายความว่าก่อนที่มดราชินีสองจะเริ่มถ่ายทำ มีบทที่เตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นคุณเฉิงยังไม่ได้เข้าร่วมทีมงาน แล้วเขาจะปล่อยข้อมูลมาให้เราลอกเลียนแบบได้ยังไงกันครับ
“ยิ่งไปกว่านั้นบทที่เสร็จสมบูรณ์และเรื่องย่อในมือของนักแสดงทุกคนยังถูกพิมพ์ในวันที่เฉพาะเจาะจงด้วย ซึ่งหมายความว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในระหว่างการถ่ายทำ แล้วการลอกเลียนแบบจะเกิดขึ้นได้ยังไงล่ะครับ
“ประการที่สอง ผมมั่นใจว่าทุกคนได้ยินเรื่องการระเบิดที่เกิดขึ้นที่กองถ่าย มดราชินี 2 แล้ว ช่างวางระเบิดคนนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังการระเบิดครับ แม้แต่ตอนที่เราพูดกันอยู่นี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังพยายามหาตัวเขาอยู่ แต่เนื่องจากหนึ่งในนักแสดงของเราจับได้ว่าชายคนนั้นแอบดูบทของตัวเองระหว่างช่วงพัก มันก็เป็นไปได้ว่าชายคนนี้จะหนีไปอเมริกาแล้วบอกบทของเราให้กับทางอเมริกาแทนใช่ไหมล่ะครับ
“ประการที่สาม เราได้วิเคราะห์เนื้อเรื่องของหนังทั้งสองเรื่องแล้ว ผมมั่นใจว่าทุกท่านดูออกว่าหนังเรื่องใดที่เหมาะกับ บทที่มีการลอกเลียนแบบ มากกว่ากัน
“หนังที่เกิดจากการทุ่มเทอย่างจริงใจเทียบกับหนังที่อาศัยชื่อของวงการฮอลลีวูด ผมมั่นใจว่าทุกคนคงดูออกว่าใครจริงใจมากกว่ากันครับ
“ต่อไปนี้เป็นคำพูดจากปากถังหนิงเองครับ ฉันไม่คิดที่จะเอาชนะใครหรือฝันถึงวงการฮอลลีวูดแม้แต่น้อย ฉันแค่ต้องการให้ตลาดวงการไซไฟในประเทศเฟื่องฟูเท่านั้น
“ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับวงการฮอลลีวูดไปแล้ว และฉันไม่คิดว่าความสามารถของพวกเขาจะด้อยไปกว่าพวกเขาแต่อย่างใด
“ฉันจึงหวังว่าทุกคนจะเชื่อมั่นใน มดราชินีสอง ตั้งแต่การถ่ายทำจนถึงการออกฉาย หนังของเราไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับชาวอเมริกัน เราจะฝากเรื่องที่เหลือไว้ให้ทนายความของเราจัดการ…”