วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1193 หนูรู้ว่าต้องทำยังไง
เพราะเธอมีใครบางคนให้ออกไปเที่ยวด้วย เชียนหลานเริ่มใช้เวลาดูแลตัวเองมากขึ้นบ้าง ครอบครัวของเธอสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ นี้ได้อย่างรวดเร็ว
สุดท้ายคุณนายเชียนจึงถามลูกสาวคนโตอย่างสงสัย “เชียนหลานกำลังคบกับใครอยู่หรือเปล่า ช่วงนี้เธอแต่งหน้ามากขึ้นนิดหน่อยนะ”
“หนูก็ไม่มั่นใจค่ะ” พี่สาวของเชียนหลานส่ายหน้า
“ลูกต้องแสดงความรักความเป็นห่วงน้องสาวให้มากกว่านี้นะ คิดถึงฐานะของเราสิ เราจะทำยังไงถ้าเธอลงเอยด้วยการแต่งงานเพื่อนร่วมงานจนๆ” คุณนายเชียนเอ่ยกับลูกสาวคนโต
“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะแม่ หนูจะจับตาดูเชียนหลานไว้”
“เชียนฮุ่ย แม่ไม่ได้ขออะไรมากหรอกนะ แม่แค่อยากให้เชียนหลานเจอผู้ชายดีๆ อย่างนั้นต่อให้พ่อกับแม่จากโลกใบนี้ซะตอนนี้เราก็คงตายอย่างสงบ”
เชียนฮุ่ยยิ้มก่อนกล่าวปลอบแม่ตัวเอง “แม่คะ ไม่ต้องห่วงหรอกคะ เชียนหลานจะต้องมีความสุขแน่ๆ ค่ะ”
“แอบตามเธอไปบ้าง ถ้าผู้ชายคนนั้นต่ำกว่ามาตรฐานก็ขวางพวกเขาไว้ก่อนที่ความรู้สึกของพวกเขาจะเลยเถิดไปมากกว่านี้”
เชียนฮุ่ยไม่มีทางเลือก เธอไม่อาจต้านทานคำพร่ำบ่นของแม่ตัวเองได้จึงตอบกลับ “แม่คะ…หนูรู้ว่าต้องทำยังไงค่ะ”
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เชียนหลานเลือกที่จะสอนหนังสือที่โรงเรียนแทนที่จะทำงานให้กับกิจการของครอบครัวตัวเอง พ่อแม่ของเธอก็ออกปากคัดค้านไปแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงการตัดสินใจด้านหน้าที่การงานของเธอ มันจึงไม่ได้สำคัญมากนักว่าเธอจะยอมฟังพวกเขาหรือไม่ อย่างไรก็ตามครั้งนี้มันเกี่ยวพันกับชีวิตส่วนใหญ่ของเธอจึงไม่ใช่เรื่องที่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอ
เชียนหลานไม่รู้ว่าครอบครัวตัวเองกำลังจับตาดูเธอทุกฝีก้าว เธอรู้เพียงโม่จื่อเฉินเป็นคนประเภทที่เธอถูกใจเข้าอย่างจัง
แม้ว่าเชียนหลานจะเติบโตมาพร้อมกับผู้ช่วยเต็มบ้าน เธอก็เป็นผู้ใหญ่และมีความคิดเป็นของตัวเอง รู้ว่าสิ่งใดที่เธอต้องการและไม่ต้องการ
ดังนั้นโม่จื่อเฉินจึงไม่ใช่คนที่เธออยากจะปล่อยให้หลุดมือไป ไม่ว่าจะเป็นชีวิตหรือคนรัก ตราบใดที่เธอได้เจอสิ่งที่ชอบ เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ลอง หากแต่แน่นอนว่าหากโม่จื่อเฉินไม่พึงใจในตัวเธอขึ้นมา อย่างนั้นมันคงเป็นเรื่องที่ต่างออกไป
พวกเขามีเวลาว่างจำกัดด้วยความเป็นครูกันทั้งคู่ แต่มีโรงภาพยนตร์อยู่ใกล้ๆ โรงเรียนมันจึงกลายเป็นข้ออ้างให้เชียนหลานได้พบกับโม่จื่อเฉินอีกครั้ง
แม้ว่าโม่จื่อเฉินจะคิดว่าโรงภาพยนตร์ออกจะน่าเบื่อไปสักหน่อย เขาก็ไม่ได้หงุดหงิดกับคำเชิญของ เชียนหลานจึงตกลงไปพบกับเธอ
ทั้งสองนัดพบกันหลังเลิกคาบเรียนเพื่อดูภาพยนตร์รอบสองของวัน อย่างไรก็ตามเชียนหลานไม่รู้ว่าครอบครัวตัวเองส่งคนคอยสะกดรอยตามเธออยู่
ทว่าแน่นอนว่าโม่จื่อเฉินสังเกตเห็นในทันใด พวกเขาใช้วิธีสะกดรอยตามที่เชยจนเทียบไม่ได้กับช่างภาพที่คอยตามตระกูลโม่ด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นมือสมัครเล่น
แต่โม่จื่อเฉินแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“ช่วงนี้ไม่ค่อยมีหนังดีๆ เลยค่ะ แต่มีเรื่องหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสอยู่ ฉันเลยตัดสินใจซื้อตั๋วมาค่ะ” เชียนหลานเอ่ยขณะที่ยื่นตั๋วให้เขา
ทันทีที่โม่จื่อเฉินเห็นชื่อภาพยนตร์ เขาอดที่จะหัวเราะในใจไม่ได้ มันเป็นภาพยนตร์ที่สร้างโดยไห่รุ่ย
“ครั้งที่แล้วฉันเห็นว่าคุณไม่ค่อยชอบหนังสืบสวนเท่าไหร่ ครั้งนี้ฉันเลยเลือกหนังไซไฟน่ะค่ะ”
“โอเคครับ” เขายังคงนิ่งเฉยและรักษาท่าทีอยู่ตลอดเวลา ว่ากันตามจริงนี่เป็นด้านความเป็นมืออาชีพของเขาในฐานะเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง
“คุณมีงานอดิเรกอื่นนอกจากการสอนในชั้นเรียนไหมคะ อย่างออกกำลังกายหรืออ่านหนังสือน่ะค่ะ”
“ผมชอบนอนหลับครับ” โม่จื่อเฉินตอบอย่างไม่อ้อมค้อม เขาสอนหนังสือช่วงกลางวันและทำภารกิจให้เสร็จสิ้นยามกลางคืน เท่านี้ก็เหนื่อยมากแล้ว เมื่อเขามีเวลาว่างเขาถึงเลือกที่จะนอนหลับ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างน่าเบื่อเหมือนกัน” เชียนหลานหัวเราะ
จากมุมมองของคนนอก ดูเหมือนทั้งสองคนจะไม่มีทางจุดกันติดแม้แต่น้อย ทว่าเชียนหลานกลับต้องการให้โม่จื่อเฉินได้ลองขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“หนังกำลังจะเริ่มฉายแล้ว เข้าไปด้านในกันเถอะครับ” โม่จื่อเฉินบอก เขาเริ่มรำคาญคนที่แอบถ่ายรูปพวกเขาเล็กน้อย
เชียนหลานพยักหน้ารับ เธอถือถังป็อปคอร์นไว้ขณะที่เดินเข้าไปในโรงพร้อมกับโม่จื่อเฉินก่อนนั่งลง
คนที่คอยตามพวกเขาอยู่ได้ส่งรูปไปให้เชียนฮุ่ยเรียบร้อยแล้ว
ทันทีที่เชียนฮุ่ยเห็นโม่จื่อเฉิน เธอมุ่นคิ้ว “ไอ้หมอนี่หล่อดีนะ แต่ฉันมั่นใจว่าเขาไม่ได้มีชาติตระกูลแน่ๆ เขาเป็นแค่แมงดาชัดๆ!”
ด้วยความประทับใจแรกเห็นของเธอ เชียนฮุ่ยสั่งให้คนไปตามสืบประวัติของโม่จื่อเฉิน แต่ไม่เพียงเขาจะเป็นครูธรรมดา พ่อแม่ของเขายังดูตกอับอีกด้วย
พูดได้อีกอย่างคือเขาเป็นคนธรรมดาที่ไร้ซึ่งพ่อแม่และไม่มีสิ่งใดคู่ควรแก่การเอ่ยถึง
คนที่เบื้องหลังอย่างนี้จะคู่ควรกับเชียนหลานได้อย่างไรกัน
ด้วยเหตุนี้เชียนฮุ่ยจึงได้ช่องทางติดต่อโม่จื่อเฉินมาจากโรงเรียน ถูกของแม่ของเธอ เธอต้องยุติความสัมพันธ์ระหว่างเชียนหลานกับโม่จื่อเฉินก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
โม่จื่อเฉินนึกไม่ถึงว่าตระกูลเชียนจะมาหาเขาในวันถัดมา เขาแค่เห็นว่าตอนที่เขากับเชียนหลานดูภาพยนตร์เสร็จ คนที่คอยตามพวกเขาอยู่ได้หายตัวไปแล้ว
“คุณโม่คะ…”
“คุณเรียกผมว่าจื่อเฉินก็ได้ครับ” โม่จื่อเฉินตอบ
“ฉันอยากถามคุณว่า…คิดยังไงกับเรื่องความรักคะ” เชียนหลานบอกใบ้ชัดเจน หากแต่เขาไม่ได้ตอบกลับไปในทันที เชียนหลานจึงส่งยิ้มให้อย่างประหม่าก่อนเอ่ยสำทับ “ฉันขอโทษด้วยนะคะ ฉันคงใจร้อนมากเกินไป”
“ไม่ครับ เป็นอย่างนั้นคุณก็น่ารักดี” โม่จื่อเฉินระบายยิ้ม “ผมไม่มีความคิดเห็นกับเรื่องความรักทั้งนั้นครับ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับโชคชะตานั่นแหละครับ”
“หนังของไห่รุ่ยดีมากเลยนะคะ ขอบคุณสำหรับวันนี้ ไว้เจอกันอีกนะคะ”
โม่จื่อเฉินไม่ได้แสดงท่าทีสนใจชัดเจนนักและไม่ได้ปฏิเสธเธอเช่นกัน
มันยิ่งทำให้เชียนหลานสงสัยว่าเธอคงพูดตรงเกินไป
“ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยู่แถวๆ นี้เอง” เธอปฏิเสธข้อเสนอของเขา “คุณคงเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันแล้ว กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะนะคะ”
“โอเคครับ ถึงบ้านแล้วส่งข้อความมาบอกผมนะครับ” โม่จื่อเฉินว่าขึ้นอย่างไม่ได้ตามตื๊อ
ดูเหมือนว่าโม่จื่อเฉินจะสุภาพอย่างสุภาพบุรุษกับทุกคนราวกับว่าพยายามรักษาระยะห่างไว้ เชียนหลานจึงหดหู่ในใจเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้แสดงสีหน้าออกมาให้ครอบครัวของเธอจับได้และมาขัดขวางพวกเขา
ทั้งคู่แยกย้ายกันหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตามหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นอีกครั้งที่โม่จื่อเฉินหายตัวไปในยามค่ำคืน มันช่วยไม่ได้เพราะนี่เป็นงานของเขา
ด้วยเหตุนี้เพื่อนร่วมงานของเขาจึงหัวเราะใส่เขา “เพราะองค์กรบ้าๆ นี่ นายเลยแม้แต่บอกความจริงว่ากำลังดูใจกับแม่สาวน้อยไม่ได้ นายคงต้องลำบากแน่ๆ ละ ถ้านายไม่ได้ชอบเธอ ฉันว่านายรีบปฏิเสธเธอไปดีกว่านะ เก็บความรู้สึกไว้จะมีประโยชน์อะไรล่ะ”
“ถ้าเป็นคนอื่นพวกเธอก็คงกลัวจนหนีหายไปแล้ว แต่ครั้งนี้สถานการณ์มันต่างออกไปนี่” โม่จื่อเฉินยักไหล่
“ให้ตายสิ มีคนบนโลกนี้ที่ชอบท่าทางน่าเบื่อของนายจริงๆ เหรอเนี่ย!”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิ จริงๆ แล้วฉันก็มีนิสัยอีกตั้งหลายอย่าง” เขาเอ่ยขณะสวมถุงมือสีดำ
…
เชียนหลานรู้สึกขึ้นมาเล็กน้อยว่าโม่จื่อเฉินไม่ได้ชอบเธอ แต่เขาก็ไม่เคยแสดงออกมาอย่างชัดเจน มันจึงชวนให้เธอวุ่นวายใจไม่น้อย…
เธอมาถึงบ้านในขณะที่สมาชิกในครอบครัวเข้านอนกันหมดแล้ว เชียนหลานจึงรอดพ้นจากการต้องอธิบายว่าเธอไปไหนมา ทว่าเธอไม่รู้ว่าครอบครัวตัวเองรู้เรื่องที่เธอออกเดตกับชายหนุ่มฐานะต่ำต้อยแล้ว