วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1228 ต่อไปนี้ก็ดูแลจื่อซีให้ดีนะ
เพราะเหตุนี้เฉินจิ้งหรงถึงได้มาโรงพยาบาลบ่อยขึ้น และใช้การทำบำบัดเป็นข้ออ้างในการตีสนิทกับนางพยาบาล
เธอหวังจะได้ยินเรื่องซุบซิบจากพวกเธอบ้าง ทว่าคนเดียวที่รู้ว่าโม่จื่อซีมาหาเหยาอันฉีคือนางพยาบาลที่เป็นผู้ช่วยของเหยาอันฉี หลังจากพยายามมาหลายวันเฉินจิ้งหรงจึงยังไม่ได้ข้อมูลอะไรกลับไป
ระหว่างนี้เหยาอันฉีกำลังยุ่งกับเก็บของเพราะเธอกำลังจะย้ายบ้าน
เธอจึงไม่ได้เข้ามาข้องแวะกับเรื่องซุบซิบนินทาของเหล่านางพยาบาล
“หมอเหยาคะ ช่วงนี้คุณเลิกงานเร็วนะคะ”
“เพราะฉันกำลังจะย้ายบ้านน่ะค่ะ” เธอตอบ “ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่นนะคะ”
“พักผ่อนเยอะๆ นะคะ หมอเหยา” พยาบาลผู้ช่วยของเธอบอกพร้อมรอยยิ้ม
เหยาอันฉีรู้ว่าทุกคนในโรงพยาบาลกำลังพูดถึงเรื่องของเฉินจิ้งหรงกับโม่จื่อซี เพราะเฉินจิ้งหรงมาทำบำบัดที่โรงพยาบาลบ่อยๆ
หากแต่ไม่มีใครรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างโม่จื่อซีกับเธอ อย่างไรเสียเหยาอันฉีก็เก็บตัวเงียบและไม่ค่อยสุงสิงกับใครอยู่แล้ว โดยเฉพาะหลังจากคลอดซิงเจ๋อ เธอยิ่งระมัดระวังกับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จึงมีไม่กี่คนในโรงพยาบาลที่รู้สถานการณ์ของเธอ
เมื่อเธอได้ยินว่าเฉินจิ้งหรงยังไม่ตัดใจจากพ่อของลูกเธอ อันที่จริงเหยาอันฉีไม่ได้รู้สึกอะไร เธอเข้าใจว่าทุกคนรับมือกับการเลิกกันแตกต่างกันไป อย่างเช่นโม่จื่อซีที่ก้าวไปข้างหน้าเต็มที่และไม่สนใจเฉินจิ้งหรงอีก
หลังเลิกงานเหยาอันฉีกลับมาที่บ้านอย่างเคย โม่จื่อซีมาหาในวันนั้นเพื่อช่วยเธอย้ายของ ดังนั้นทันทีที่เธอเสร็จงานที่โรงพยาบาลจึงรีบกลับมาที่บ้าน
เมื่อมาถึงบ้าน โม่จื่อซีมารอด้านนอกพร้อมรถของเขาเรียบร้อยแล้ว เหยาอันฉีไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดโรงพยาบาลให้เขาฟังด้วยไม่อยากเพิ่มภาระให้อีกฝ่าย
เขาเข้ามาใบห้องของเธอและเห็นว่าทุกอย่างถูกเก็บใส่กล่องไว้แล้ว ก่อนพบบางอย่างที่น่าทึ่งตอนนั่งลงข้างเตียงเธอ “เรามีทุกอย่างที่บ้านใหม่นะครับ คุณไม่จำเป็นต้องเก็บของพวกนี้หรอก แค่เอาเสื้อผ้าไปบางส่วนก็พอครับ”
“ฉันเสียดายน่ะค่ะ” เหยาอันฉีตอบ
“อีกอย่างคุณก็ดูจืดชืดเกินไป ต่อไปนี้เราจะช่วยกันดูแลซิงเจ๋อ คุณก็ดูแลตัวเองและใช้เวลากับรูปลักษณ์ภายนอกให้มากขึ้นในช่วงที่คุณมีเวลานะครับ” โม่จื่อซีโบกมือให้เหยาอันฉี “ผมจะเอาของทั้งหมดที่
ซิงเจ๋อคุ้นเคยไป ส่วนของคุณซื้อใหม่ก็ได้ครับ”
“ฉัน…”
“เอาตามนั้นแล้วกันนะครับ” หลังจากตกลงได้ดังนี้ โม่จื่อซีพาเหยาอันฉีไปบ้านใหม่ที่เขาเตรียมไว้ให้สองแม่ลูก
เขารู้ว่าเหยาอันฉีคงไม่มีทางยอมอยู่ในบ้านหลังโต สนามหญ้าหน้าบ้านเล็กๆ ที่เขาเตรียมไว้จึงไม่ได้หรูหรานัก หากแต่เรียบง่ายและสวยงาม มันทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
อย่างน้อยเธอก็ดูออกว่าเขาตั้งใจเตรียมสิ่งนี้
“ถ้าขาดเหลืออะไร คุณก็เพิ่มเติมได้ตามต้องการเลยนะครับ นี่เป็นเบอร์ติดต่อพี่เลี้ยง คุณเรียกเธอมาได้ตอนที่ต้องการ ผมจะไปรับซิงเจ๋อมาพรุ่งนี้ คุณกลัวที่จะอยู่คนเดียวตอนกลางคืนไหมครับ” โม่จื่อซีถาม
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้กลัว…แต่คุณยังไม่ได้ไปรายงานตัวกับกองกำลังพิเศษไม่ใช่เหรอคะ คุณจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ”
“ผมจะไปเจอเพื่อนหน่อยน่ะครับ” โม่จื่อซีตอบขณะหยิบเสื้อแจ็กเกต “เรานัดเจอกันแถวๆ นี้คุณอยากจะมาด้วยกันไหมครับ”
จากนิสัยของเธอ เธอมักกลัวจะมีปัญหา
ทว่าเมื่อเห็นว่าเขาจริงจังเพียงไหน เธอก็รู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่เธอต้องทำเพื่อตอบแทนเขา จึงตอบรับไป “โอเคค่ะ”
โม่จื่อซีถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย อย่างนึกว่าหูฝาดไป
เขาระบายยิ้มก่อนเอ่ยกับเหยาอันฉี “ในเมื่อเราจะไปทานมื้อเย็นด้วยกัน คุณก็น่าจะไปเปลี่ยนชุดใหม่สักหน่อยนะครับ คุณจะไปทั้งเสื้อกาวน์หมอไม่ได้นะครับ เดี๋ยวคนเขาจะคิดว่าคุณไปที่นั่นเพื่อช่วยชีวิตใคร”
“งั้นรอสักครู่นะคะ”
“รออะไรล่ะครับ ออกไปซื้อของให้คุณกันเถอะ คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเสื้อผ้าคุณยังอยู่ที่ห้องพักเก่า” พูดจบ โม่จื่อซีลากเธอออกจากบ้านไป
เหยาอันฉีมีนิสัยเฉยชาแต่เธอก็ปรับตัวได้ดี
โม่จื่อซีดูออกว่าเธอไม่ใช่คนที่จะไปสู้รบตบมือหรือมีปากเสียงกับใคร เธอรักสงบ อ่อนโยน และบอบบางราวกับดอกมัม
ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงสถานที่นัดพบ เมื่อเพื่อนของเขาเห็นเหยาอันฉี พวกเขาก็มองหน้ากันอย่างแปลกใจ
“จื่อซี นายนี่แน่จริงๆ ที่พาน้องสะใภ้มาที่นี่อย่างนี้”
“อันฉีอึดอัดหมดแล้ว อย่าเสียมารยาทสิ” โม่จื่อซีเอ่ยเตือน “ถ้านายอยากจะพูดอะไรก็มาพูดกับฉัน”
“ไหนๆ เราก็พูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว พวกนายสองคนดวงสมพงศ์กันจริงๆ ฉันชอบผู้หญิงแบบหมอเหยานะ ยังไงผู้หญิงก็ควรจะอ่อนหวาน”
เธอนั่งเงียบๆ ขณะมองโม่จื่อซีดื่มและพูดคุยกับเพื่อนของเขา เขาใส่ใจความรู้สึกของเธอและปกป้องทุกครั้งที่หนุ่มๆ พยายามทำให้เธอลำบากใจ
ซ้ำยังส่งยิ้มมาให้เธออยู่เรื่อยๆ ด้วย
เหยาอันฉีไม่ได้คุยมากนัก เธอออกจะเงียบมาก หากแต่เพื่อนของเขาก็ยังอดพูดไม่ได้ “นี่ไอ้น้อง ครั้งนี้นายเจอคนที่เหมาะสมแล้วล่ะ
“ดูหมอเหยานั่งอยู่เงียบๆ ข้างนานเหมือนกับภรรยาที่ดีสิ มันเยี่ยมขนาดไหนกันล่ะ พวกนายสมกันสุดๆ ไปเลย”
โม่จื่อซีปล่อยให้เพื่อแซวไปเรื่อย เขาขี้เกียจจะมาอธิบาย ยังไงประเด็นก็อยู่ที่ทุกคนกำลังสนุกกัน
อย่างไรก็ตามเหยาอันฉีเป็นต้องอึ้งเมื่อโม่จื่อซีเมาหนักกว่าที่คิดไว้ เขาเมาจนไม่มีสติหลังจากที่มื้อเย็นจบลง
“เอาอีก…”
เมื่อเพื่อนของโม่จื่อซีเห็นว่าเขาเมา หนึ่งในพวกเขาหันไปหาเหยาอันฉีก่อนเอ่ย “พี่สะใภ้ พวกเขาอายุมากกว่าจื่อซี แต่ผมเด็กกว่าเขา อย่าถือสาที่พวกเราแซวพวกคุณเลยนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“พี่สะใภ้ จื่อซีเป็นคนรักครอบครัว อย่างที่คุณรู้ว่าทุกคนในตระกูลโม่เป็นคนที่น่าทึ่ง อย่าคิดมากที่เขาเคยคบกับเฉินจิ้งหรงเลยนะครับ สำหรับจื่อซีทุกอย่างก็เป็นแค่เรื่องในอดีต
“ถ้าเขาได้ทิ้งอะไรแล้วเขาจะไม่มีเยื่อใยเหลืออยู่สักนิด คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกนะครับ
“แล้วคุณก็ทำงานหนักมาตลอดไม่กี่ปีนี้ ตอนที่เขาเล่าเรื่องของคุณให้เราฟัง เขารู้สึกผิดอยู่เต็มอกเพราะปักใจว่าตัวเองเป็นคนทำให้ทั้งสองคนต้องลำบาก
“ต่อไปนี้ผมหวังว่าคุณจะมีความสุขด้วยกันได้นะครับ”
ความจริงแล้วเหยาอันฉีกับโม่จื่อซียังไม่ได้คบหากับลึกซึ้งถึงขนาดนั้น แต่ด้วยพวกเขามีลูกด้วยกัน เป็นธรรมดาที่คนจะมองพวกเขาเป็นคู่แต่งงานกัน
เหยาอันฉีไม่ได้อธิบายอะไรพลางพยุงโม่จื่อซีขึ้นมา
เขาไม่ได้ทำเรื่องน่าขายหน้าตอนที่เมาแค่หลับไปเท่านั้น
แน่นอนว่า เหยาอันฉีนึกชื่นชมที่เขามีเพื่อนฝูงที่ดีซึ่งให้กำลังใจเขาในยามที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
“ต่อไปนี้ก็ช่วยดูแลจื่อซีให้ดีด้วยนะครับ”
เธอพยักหน้ารับก่อนเพื่อนของเขาจะมาส่งเธอที่บ้าน เดิมทีโม่จื่อซีควรจะกลับไปที่ไฮแอทรีเจนซี แต่ตอนนี้เขาเมาอยู่แล้วจะไปที่ไหนได้อีก
หลังกลับมาถึงบ้านเธอวางเขาลงบนโซฟา และเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมซุปแก้เมาให้
เมื่อทำเสร็จและกลับมาที่ห้องนั่งเล่น เขาก็สลบไสลไปเรียบร้อยแล้ว
แม้เธอจะรู้ว่าตัวเอง โม่จื่อซี และเฉินจิ้งหรงมีความสัมพันธ์ที่ตัดกันไม่ขาดและยุ่งเหยิง…
…เธอก็รู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะไขว่คว้าหาความสุขของตัวเอง!