วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1237 ผมรู้ใจตัวเอง
ว่ากันตามจริงในความคิดของเหยาอันฉี ค่ำคืนที่เธอใช้กับโม่จื่อซีนับว่าเป็นความทรงจำที่เธอโปรดปรานที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แน่นอนว่าเธอรู้มาตลอดว่าผู้ชายที่เธอหลับนอนด้วยคือโม่จื่อซี แม้เธอจะไม่เคยพูดถึงแต่ความจริงเธอนั้นใส่ใจทุกความเคลื่อนไหวของเขา ตั้งแต่ครั้งที่เขาได้เลื่อนตำแหน่งจนถึงยามที่เขาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล อย่างน้อยเธอก็รู้ถึงทุกเหตุการณ์อยู่บ้าง
เขาค่อยๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอพร้อมความเข้าใจในการเติบโตของเขา สุดท้ายเธอถึงกับอยู่ในจุดที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ารู้สึกบางอย่างกับเขา
ทว่าเธอเอาแต่ห้ามใจไม่ให้สนใจเขา เตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเขาไม่ใช่ของเธอ เขาจะไม่ได้เป็น และไม่มีทางเป็น
อย่างไรก็ตามโม่จื่อซีในความทรงจำของเธอกับโม่จื่อซีที่คนอื่นพูดถึงก็ได้มาอยู่ข้างเธอในขณะนี้แล้ว มีเหตุผลอะไรต้องรักษาระยะห่างกับเขาอีกกันล่ะ
เธอจึงอดใจตอบสนองเขาด้วยการโอบแขนรอบลำคอของเขาไม่ได้…
จังหวะนั้นเองที่เขารู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีก่อน ในหัวเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะครอบครองหญิงสาวคนนี้และเชื่อมกายให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
หากแต่ในช่วงที่สำคัญที่สุดมาถึง…
เขาชะงักอย่างกะทันหันและมองหน้าเธออย่างไม่แน่ใจ “ครั้งนี้คุณเต็มใจใช่ไหมครับ”
“เมื่อสี่ปีก่อน…ฉันก็เต็มใจค่ะ” เธอตอบด้วยความจริงจัง สีหน้าเปล่งประกายพร้อมน้ำเสียงอ่อนหวานที่ดังขึ้น
โม่จื่อซีห้ามใจไม่ไหว สอดกายรุกล้ำลึกสู่ส่วนอบอุ่นของเธอ ทั้งคู่กอดก่ายในอ้อมแขนกันและกันแน่นในทันใด…
ราวกับค่ำคืนนั้นยาวนานไม่มีสิ้นสุด ในขณะที่โม่จื่อซีแสดงความแข็งแกร่งอย่างชายชาติทหาร เรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกับว่าเขาหลงใหลอย่างถอนตัวไม่ขึ้นและไม่อาจหยุดยั้งได้
ความปรารถนาลึกซึ้งอย่างที่เขาจำได้ในคืนแห่งโชคชะตา ชวนให้ไม่มีทางต่อต้านความต้องการได้
เดิมทีเหยาอันฉีว่าจะกลับไปที่ห้องนอนใหญ่หลังจากที่เสร็จกิจ หากแต่ด้วยความต้องการไม่หยุดหย่อนของโม่จื่อซี เธอไม่มีทางเลือกนอกจากพับความตั้งใจนี้เก็บไป อย่างไรเสียเธอก็รู้ว่าซิงเจ๋อจะไม่ตื่นขึ้นมา
ชายคนนี้เหมือนกับปีศาจแสนตะกละตะกลามที่กลืนกินร่างกายทุกส่วนของเธอ ยาวนานจนกระทั่งแสงเช้าวันใหม่สาดส่อง
“ไม่ไหวแล้วนะคะ” เธอเหนื่อยล้าเต็มทีจนไม่มีร่างกายส่วนไหนที่ไม่กระทบกระเทือน
โม่จื่อซีลุกออกจากเตียง อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ก่อนวางเธอลงในอ่างอาบน้ำ เธอนึกย้อนไปถึงการโรมรันของพวกเขาในยามค่ำคืนขณะที่นอนแช่น้ำอุ่น เตียงที่เคยเป็นระเบียบเรียบร้อยในตอนนี้กลับยุ่งเหยิงจนเกินจะคาดคิด
มันยังเรียกว่าห้องนอนอยู่ได้อีกอย่างไรกัน นี่มันสนามรบชัดๆ
หลังเก็บกวาดห้อง โม่จื่อซีกลับมาในห้องน้ำและเห็นว่าเธอผล็อยหลับไปในอ่างอาบน้ำเสียแล้ว เขาจึงตัดสินใจอุ้มเธอกลับไปในห้องนอนใหญ่
แต่เหยาอันฉีผลักเขาออกอย่างไม่รู้ตัว “ฉันหมดแรงแล้วค่ะ…ปล่อยฉันนะ”
“แน่นอนครับ ผมจะปล่อยคุณเดี๋ยวนี้แหละ แต่เราจะต่อกันคืนนี้นะครับ”
เขาอดใจและตามหาความรู้สึกนี้มาสี่ปี กว่าในที่สุดจะได้รู้มันไม่ง่ายนัก แล้วเขาจะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไร
เธอผล็อยหลับไปและนอนนิ่งไม่ไหวติง ในขณะที่เขาช่วยโทรไปลางานให้เธอ ถึงอย่างไรตอนนี้หมอเหยาก็ยังไม่อาจลุกจากเตียงได้
เมื่อนึกถึงความรู้สึกในคืนก่อน รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของโม่จื่อซี เรือนร่างของหญิงสาวคนนี้สุดแสนจะเกินต้านทาน!
…
เหยาอันฉีลงเอยด้วยการหลับไปจนกระทั่งตกบ่าย โม่จื่อซีกำลังเช่นเกมกับซิงเจ๋อในห้องนั่งเล่นเมื่อเธอตื่นขึ้นมา
เขายังมีเรี่ยวแรงมากขนาดนี้ได้อย่างไรกัน
เธอนึกข้องใจเล็กน้อย
“คุณหิวไหมครับ ทานอะไรสักหน่อยก่อนสิ” เมื่อเห็นว่าเธอตื่นแล้วเขาก็เดินเข้าไปอุ่นอาหารบางอย่างในครัวให้เธอก่อนวางลงบนโต๊ะอาหาร “มาทานสิครับ”
“ฉันไม่ค่อยอยากอาหารจริงๆ น่ะค่ะ รู้สึกคลื่นไส้นิดหน่อย”
“เป็นอะไรไปครับ”
“ทั้งหมดเพราะว่าคุณไม่ยั้งเลยไงคะ!” เธอท้วง
โม่จื่อซีหัวเราะกับท่าทีตอบโต้นี้ “แต่ว่าผมยังไม่เสร็จดีเลยนะ บอกผมมาสิว่าคุณต้องกินยาอะไร ผมจะไปเอาให้คุณเอง”
“ฉันต้องนอนค่ะ” เธอรีบกลับไปที่เตียงเพื่อนอนเอาแรงหลังรู้ว่าโม่จื่อซีนั้นยังไม่เต็มอิ่ม
เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเวลาล่วงเลยไปจนสี่ทุ่ม
ครั้งนี้เขาเอาอาหารมาวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียงก่อนเอ่ย “ลุกขึ้นครับ ผมจะป้อนคุณเอง ขอโทษที่หักโหมไปนะครับ”
“ยังดีที่คุณรู้ค่ะ” เหยาอันฉีลุกขึ้นนั่งและเอนพิงหัวเตียงเพื่อเพลิดเพลินกับบริการจากโม่จื่อซี
“คืนนี้ผมจะไม่ทำอะไร คุณจะได้พักผ่อนเต็มที่ ผมจะออกไปตอนตีสามพรุ่งนี้นะครับ” เขารับปากขณะป้อนซุปให้เธอ “ผมแค่อยากพูดบางอย่างจากใจจริงกับคุณน่ะครับ”
“คุณมีบางอย่างจากใจจริงจะพูดหลังจากที่นอนกับฉันเหรอคะ” เธอมองค้อนใส่เขา
“มันเป็นเพราะผมรู้บางอย่างชัดเจนน่ะครับ” เขาระบายยิ้ม “ตอนนี้ผมรู้ใจตัวเองดีแล้ว ไม่รู้ว่าจะอธิบายมันยังไงดี แต่อันฉี…ผมมารู้ว่าจริงๆ ตัวเองชอบคุณมาตั้งแต่แรก เป็นคุณมาตลอด”
ตลอดสี่ปีมานี้เฉินจิ้งหรงแสดงละครตบตาเป็นเหยาอันฉี หากแต่เธอไม่เคยเข้าไปอยู่ในใจของเขาได้แม้แต่น้อย
เขาเพียงแค่ไม่เคยรู้เรื่องนี้จนกระทั่งเหยาอันฉีปรากฏตัวขึ้น และเขามั่นใจว่าเขาแค่ปฏิบัติกับเฉินจิ้งหรงในฐานะสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบเท่านั้น ทว่าเธอก็เป็นได้เท่านั้นไม่มีสิ่งอื่นใดอีก
สี่ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยสัมผัสกับความสุขอย่างเช่นเมื่อคืนนั้น กระทั่งห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่เมื่อคืนนี้!
และเหยาอันฉีก็เข้าใจว่าเขารู้สึกเช่นไร เพราะเธอเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน…
ก่อนเมื่อคืน เธอไม่เข้าใจความรู้สึกสับสนที่มีต่อโม่จื่อซี แต่ทันทีที่ความทรงจำของเธอถูกกระตุ้นขึ้นมา มันก็ชัดเจนว่าเธอชอบเขา
“ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจ ผมจะอยู่เคียงข้างคุณให้ดีที่สุด เราอาจจะเสียเวลาไปสี่ปี แต่ผมจะไม่ปล่อยคุณไปอีกแล้ว”
เธอพยักหน้าก่อนซบลงกับแผงอกของเขา โชคชะตาของพวกเขาช่างไม่คาดฝัน หลังจากที่วกไปวนมาอยู่นาน ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาสู่จุดที่พวกเขาเริ่มต้นกัน
เมื่อบอกความในใจกัน ทั้งคู่รู้สึกว่าได้เป็นสามีภรรยากันในท้ายที่สุด คืนนั้นโม่จื่อซีหลับไปจนกระทั่งตีสาม แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่อาจทนจากไปได้ ครั้งนี้เขาไม่ได้คิดถึงเพียงลูกชาย แต่ยังรวมถึงหญิงสาวที่เหนื่อยอ่อนซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วย
ยังไม่ทันได้ออกจากบ้านเขาก็คิดถึงพวกเขาเสียแล้ว…
…
ในเวลาเดียวกัน เฉินจิ้งหรงตัดสินใจไม่ตามหาโม่จื่อซีไประยะหนึ่ง ถึงอย่างไรเธอก็ทำให้ตัวเองอับอายขายหน้าพอแล้ว ซ้ำยังเสียหน้าที่การงานไปด้วย
แม้เธอจะสะใจที่ได้ยินว่าเหยาอันฉีถูกไล่ออกจากโรงพยาบาลทหาร ทุกครั้งที่คิดว่าอีกฝ่ายกับโม่จื่อซีคบกันก็ยังปวดใจ
เธอไม่มีทางยอมรับได้!
จึงเริ่มตามสืบว่าเหยาอันฉีย้ายไปโรงพยาบาลไหน ด้วยหวังว่าสุดท้ายเธอจะได้ทีเล่นงานในสักวันหนึ่ง
ในเมื่อเธอไม่ได้โม่จื่อซี…ใครหน้าไหนก็ไม่อาจได้เขาไป