วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1244 คุณท้าทายฉันก่อน!
ก่อนอื่นไห่รุ่ยยอมรับว่าโม่จื่อซีเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของถังหนิงกับโม่ถิง ซึ่งได้แต่งงานกับเหยาอันฉีและมีลูกด้วยกันแล้ว
ทว่าเด็กนั้นไม่ได้เป็นลูกของคนอื่น เขาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของโม่จื่อซีกับเหยาอันฉี!
ดังนั้นจึงไม่มีการนอกใจเพราะพวกเป็นคู่รักที่ถูกต้องกันมาตั้งแต่แรก
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมโม่จื่อซีถึงได้คบหากับเฉินจิ้งหรงมาสี่ปีก่อนจะแต่งงานกับเหยาอันฉี นั้นเพราะว่ามี ใครบางคน หลอกลวงเขาและทำให้คนรักทั้งสองต้องคลาดกันไปกว่าสี่ปี
ใครบางคนคนนี้ ไห่รุ่ยบอกให้สาธารณชนคาดเดาว่าเป็นใครกันเอง
แม้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับประเด็นส่วนตัวและโม่จื่อซีก็ไม่ต้องการตกเป็นที่สนใจ ไห่รุ่ยก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดเผยผลตรวจดีเอ็นเอของซิงเจ๋อเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลโม่จริง
ยิ่งไปกว่านั้นคนที่รับผิดชอบออกมาชี้แจงยังได้เปิดโปงเรื่องราวของ เอและ บีที่ได้หลับนอนด้วยกันเพราะความเมา หากแต่ บีออกไปเสียก่อน ตอนนั้นเองที่ ซีฉวยโอกาสกับสถานการณ์นี้ แอบย่องเข้ามาและหลอกให้ เอ เชื่อว่าเธอเป็นคนที่เขาหลับนอนด้วย
ด้วยความเข้าใจผิดนี้ เอและ ซี จึงได้กลายมาเป็นคู่รักกัน ทว่าสี่ปีต่อมาความจริงก็ถูกเปิดเผยขึ้น!
มันเป็นเรื่องราวที่ชวนติดตามซึ่งสรุปความสัมพันธ์ระหว่างโม่จื่อซี เหยาอันฉี และเฉินจิ้งหรงไว้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
ในที่สุดสาธารณชนก็ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดและเข้าใจว่าทั้งโม่จื่อซีกับเหยาอันฉีนั้นถูกวางแผนเล่นงาน ทั้งยังรู้ว่าเหยื่อที่น่าสงสารที่สุดในสถานการณ์ทั้งหมดก็คือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เหยาอันฉี
“นี่เป็นเรื่องราวที่ทุกคนต้องการได้ยินครับ เรื่องทั้งหมดเป็นมาเช่นนี้ อธิบายว่าทำไมโม่จื่อซีถึงได้เลิกกับแฟนที่คบมาสี่ปีและไปแต่งงานกับเหยาอันฉี
“ไม่มีการนอกใจหรือคบชู้ทั้งนั้น ทุกคนต่างแค่เข้าใจผิดไปบ้างเท่านั้นเองครับ
“ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงตระกูลโม่ หากแต่นี่เป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรต้องขุดคุ้ยกันไปมากกว่านี้
“วันนี้ไห่รุ่ยถึงได้ออกมาชี้แจงทุกอย่างให้กระจ่าง เราหวังว่าทุกคนจะเว้นพื้นที่ให้ทั้งคู่ด้วยนะครับ
“อีกเรื่องที่อยากจะแจ้งให้ทราบคือหนังไซไฟเรื่องล่าสุดของไห่รุ่ยกำลังจะออกฉายครับ เราหวังว่าทุกท่านจะคอยติดตามเมื่อเวลานั้นมาถึงนะครับ…”
การออกมาแก้ข่าวของไห่รุ่ยไม่ได้พูดถึงชื่อ เฉินจิ้งหรง หรือโจมตีเธอแต่อย่างใด แต่พวกเขาก็ยังทำให้ทุกคนเข้าใจว่าหากเฉินจิ้งหรงไม่ได้โกหก เหยาอันฉีคงไม่ต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาสี่ปี และลูกก็คงไม่ใช้ชีวิตมาสี่ปีโดยไร้ซึ่งพ่อ
ความจริงได้ถูกเปิดเผยแล้ว!
บางทีไห่รุ่ยอาจไม่ได้ลงดาบเฉินจิ้งหรงเพราะบทความข่าวที่สองที่ปล่อยออกมา
สุดท้ายไห่รุ่ยก็ทำเพื่อรักษาหน้าของทุกคนไว้อย่างดีที่สุด…
…
ถึงกระนั้นผู้คนบนโลกออนไลน์ก็ยังอดถอนใจออกมาไม่ได้
[ผู้หญิงนี่น่ากลัวชะมัดเวลาที่เสียสติไป]
[รักที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวงจะไปมีประโยชน์อะไร ความจริงยังไงก็ย่อมถูกเปิดเผยอยู่วันยังค่ำ!]
[ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเขาพยายามโยนความผิดให้ตระกูลโม่ในตอนที่ข่าวแรกหลุดออกมา ฉันละงงสุดๆ]
[จบเรื่องไว้ตรงนี้เถอะ มันเป็นเรื่องในครอบครัว ฉันเก็บแรงไปดูหนังดีกว่า!]
แน่นอนว่ายังมีคนมากมายที่ต้องการต่อว่าเฉินจิ้งหรง หากแต่เธอไม่ได้สนใจอีกต่อไป อย่างไรเสียเธอก็ไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอกังวลในตอนนี้คือหลี่เซิ่งหยวนจะสูญเสียหน้าที่การงานไปเพราะเธอหรือไม่
แน่นอนว่าใครก็ตามที่มาท้าทายตระกูลโม่คงไม่มีทางรอดไปได้แน่ ดังนั้นประธานโม่จึงได้สั่งและบอกคนทั้งวงการว่าตารางงานของหลี่เซิ่งหยวนในปีถัดไปจะต้องไม่เหลือซาก
ทว่าเมื่อหลี่เซิ่งหยวนตัดสินใจช่วยเฉินจิ้งหรงตั้งแต่แรก เขาก็เตรียมใจไว้สำหรับเรื่องเช่นนี้แล้ว
ถึงอย่างไรเขาก็รู้ถึงผลที่จะตามมาจากการไปลองดีกับตระกูลโม่
เขาจึงทำได้เพียงยอมรับว่าสิ่งที่สูญเสียไปแล้วก็คือเสียไปแล้ว
…
เฉินจิ้งหรงเที่ยวถามถึงหลี่เซิ่งหยวนไปทั่ว แต่เธอได้แต่รู้ว่าเขาถูกเปลี่ยนตัวในผลงานที่กำลังจะมาถึงของเขา
ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตามเธอไม่อาจเข้าไปได้และไม่สามารถติดต่อเขาได้เช่นกัน
เธอไปที่บาร์ด้วยไม่มีหนทางอื่น
อย่างที่คาดการณ์ไว้ หลี่เซิ่งหยวนนั่งดื่มคนเดียวอยู่ที่นั่น
เฉินจิ้งหรงปรี่เข้าไปคว้าแก้วเหล้าจากมือเขา คว้าเสื้อของอีกฝ่ายและลากไปยังทางออก “คุณเสียงานไปเหรอ”
“อะไรเสียไปแล้วก็คือเสียไปแล้ว ผมจะทำอะไรได้อีกล่ะ” เขาว่าอย่างเรียบเฉย “ยังไงผมก็เริ่มเบื่ออยู่แล้วด้วย”
“คุณเสียงานไปเพราะฉัน”
“ผมว่าเราก็เสมอกันแล้วนะ ยังไงคุณก็เสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะผม” หลี่เซิ่งหยวนหัวเราะ “เฉินจิ้งหรง คุณเป็นผู้หญิงที่แย่แต่ผมก็ทำมันลงไปด้วยความเต็มใจนะ”
เธอพลันรู้สึกตื้นตันใจขึ้นมา เธอคอยตามโม่จื่อซีมาสี่ปี แต่ตอนนี้กลับมีคนคนหนึ่งมาคอยตามเธอ
ความรู้สึกนี้ช่างน่าฉงนแต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกผิดเช่นกัน
“ฉันไม่อยากทำให้คุณเสียงานไป”
“แต่มันก็เสียไปแล้วนี่ครับ…”
“ไปเอามันคืนกลับมาสิคะ” เธอให้กำลังใจ “ฉันจะทำทุกทางที่ช่วยคุณได้”
“คุณเนี่ยนะ ช่วยผมเหรอ อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับวงการบันเทิงเลยครับ ผมไม่ต้องการให้ช่วยหรอก ผมสบายมาก”
พูดจบ หลี่เซิ่งหยวนพยายามจะเดินจากไป หากแต่เธอรั้งเขาไว้
“ปล่อยผมเถอะ ผมบอกไปแล้วว่าผมต้องการอะไร และข้อตกลงของเราก็จบลงไปแล้ว ทำไมคุณยังมาขลุกกับผมล่ะ”
“ฉันอยากไปโรงแรมกับคุณค่ะ” เธอบอกอย่างตรงไปตรงมา “ฉันอยากได้ร่างกายของคุณ ไม่ได้เหรอ”
หลี่เซิ่งหยวนสร่างเมาขึ้นมาทันทีขณะมองเธอด้วยความปรารถนาลุกโชน เขาต้องยอมรับว่าตัวเองหลงใหลในเรือนร่างของเธอ
พวกเขาหลับนอนด้วยกันเพียงครั้งเดียวแต่เขากลับคิดถึงมันมากเหลือเกิน
“คุณพูดเองนะ อย่ามาเสียใจแล้วกัน”
หลังจากเขาพูดจบ ทั้งคู่รีบเข้าโรงแรมและลงเอยในอ้อมแขนของกันและกันอย่างรวดเร็ว เฉินจิ้งหรงพบว่าเธอไม่ได้ไม่ชอบความรู้สึกนี้
หากแต่เขายังมีสติดีอยู่ “ถ้าคุณวางแผนจะทำเหมือนผมเป็นโม่จื่อซีอีก ครั้งนี้ผมจะไม่เล่นตามน้ำด้วยแล้วนะครับ”
“ฉันเจอกับโม่จื่อซีแล้ว…”
“ยินดีด้วยครับ”
“เราสะสางทุกอย่างกันแล้ว ฉันดื้อด้านเกินไป ใครก็ช่วยฉันไม่ได้ แต่ฉันเข้าใจแล้วว่าเขาไม่มีทางกลับมา ฉันไม่ทำเหมือนคุณเป็นเขาหรอก ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง แต่ที่ฉันรู้คือคุณอาจจะดูเป็นคนไม่ดีและมีเจตนาแอบแฝง แต่คุณก็เสียงานไปเพราะฉัน ฉันเลยทิ้งคุณไปไม่ได้”
เขานิ่งเงียบขณะมองหน้าเธอ
“ผมไม่เชื่อว่าคุณจะปล่อยโม่จื่อซีไปได้จริงๆ หรอก”
“คนที่ฉันปล่อยไปไม่ได้คือคุณต่างหาก” เธอบอกพลางกอดเขา “บางทีคนอย่างเราก็เหมาะจะคบกันมากกว่า…”
“งั้นผมก็เป็นคนคั่นเวลาของคุณสินะ” เขาถามพร้อมแค่นยิ้ม “ผมเป็นแค่คนคั่นเวลาที่ไม่ได้มีความหมายอะไร”
“คุณท้าทายฉันก่อนนะ” เฉินจิ้งหรงเอ่ยขณะจับเสื้อของเขาไว้ “คุณมาท้าทายฉัน ทำให้ฉันสนใจ แล้วก็เขี่ยฉันทิ้งได้ยังไงกัน”