วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1245 คนประเภทเดียวกัน
หลี่เซิ่งหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น ตามองเฉินจิ้งหรงด้วยห้วงอารมณ์ที่อธิบายได้ยาก เขานึกไม่ถึงว่าเธอจะกลับมาหาเขา
คนอย่างเฉินจิ้งหรง…กลับมาหาเขาจริงๆ …
“เลิกปิดบังซะที โอเคไหม”
หลี่เซิ่งหยวนปล่อยใจไปตามอารมณ์และยอมรับโชคชะตา ขณะจุมพิตหญิงสาวตรงหน้า เขาอดไม่ได้ที่จะยอมรับว่าตัวเองตกหลุมรักเฉินจิ้งหรงท่ามกลางความปรารถนาที่ถูกเติมเต็ม แม้ว่าเธอจะช่างร้ายกาจ เจ้าแผนการ และเคยรักคนอื่นมาก่อนก็ตาม
ร่างกายทั้งสองสอดประสานกันอย่างเร่าร้อนอยู่ทั้งคืนกระทั่งทั้งคู่เข้าใจกันและกันได้ชัดเจน
เฉินจิ้งหรงเองได้เข้าใจอีกสิ่งหนึ่ง ว่าเธอไม่ได้เสียใจกับการจากไปของโม่จื่อซีเพราะความรักเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเพราะศักดิ์ศรีและความรู้สึกผิดของเธอด้วย
…
เช้าวันต่อมาทั้งคู่ตื่นขึ้นมาในโรงแรมโดยไม่รู้ว่าสื่อมวลชนกำลังรอพวกเขาอยู่ที่ลานจอดรถ
หลี่เซิ่งหยวนได้ถูกกีดกันในวงการบันเทิงเป็นการชั่วคราวแล้ว แต่เขาก็ยังถูกจับได้ว่าเปิดห้องโรงแรมกับผู้หญิงคนหนึ่ง…
ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเขาพังป่นปี้ในทันที
พวกเขาทุลักทุเลเล็กน้อย หากแต่ก็สามารถหลบจากเหล่านักข่าวมาได้ เฉินจิ้งหรงถามขึ้นอย่างเป็นกังวลหลังจากนั้น “พวกเขาจะถ่ายรูปเราไว้ได้หรือเปล่า จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณคะ”
“ในเมื่อผมถูกกีดกันไปแล้ว พวกเขาจะถ่ายรูปเราได้หรือเปล่ามันก็ไม่สำคัญหรอกครับ” หลี่เซิ่งหยวนอยู่ในจุดที่เกินจะถอนตัวออกมาได้แล้ว
ที่แย่ที่สุดคือผู้หญิงที่เขาถูกจับได้ว่าอยู่ด้วยกันจะเป็นใครก็ได้ แต่กลับปรากฏว่าเป็นหนึ่งในตัวละครหลักในข่าวฉาวของโม่จื่อซี ด้วยเหตุนี้หลี่เซิ่งหยวนจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่กว่าเดิมในขณะที่คนบนโลกออนไลน์ลุกฮือพร้อมกับคำปรามาส
“ที่บอกว่าไม่สำคัญมันหมายความว่าอะไร ฉันปล่อยให้ความสามารถของคุณเสียเปล่าไปอย่างนี้ไม่ได้หรอกนะคะ”
หลี่เซิ่งหยวนไม่ได้เอาคำพูดของเธอมาใส่ใจ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นลูกผู้ชายและลูกผู้ชายก็มีศักดิ์ศรีเป็นของตัวเอง
แม้ทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันให้รู้เรื่องเมื่อคืนก่อน และได้มาเกี่ยวพันกันในเชิงชู้สาว พวกเขาก็ยังคงต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงเมื่อตื่นขึ้นมา
เขาไปส่งเธอที่บ้านก่อนจะจากไป ว่ากันตามจริงเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยซ้ำ…
เมื่อเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ หลี่เซิ่งหยวนก็ได้หายหน้าไปสามวันแล้ว
เฉินจิ้งหรงตามหาเขาไปทุกที่และก็ไม่พบแม้แต่ที่บาร์ เธอจึงนึกได้ว่าชายคนนี้แบกศักดิ์ศรีไว้มากเพียงไหน ว่าแต่เขาไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาเมื่อแรกครั้งที่ตัดสินใจช่วยเธอบ้างหรือ
เธอจึงตัดสินใจของความช่วยเหลือจากตระกูลโม่ในท้ายที่สุด
ถึงอย่างไรโม่ถิงก็ยังมีสิทธิ์ขาดในวงการนี้ มันเป็นเช่นนั้นมาตลอดไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา
ทันทีที่โม่ถิงออกคำสั่งก็ไม่มีใครกล้าขัดขืน ทั้งวงการจึงได้หันหลังให้หลี่เซิ่งหยวนโดยพร้อมเพรียงกัน
ด้วยเหตุนี้เฉินจิ้งหรงติดต่อเหยาอันฉีไปในท้ายที่สุด
แน่นอนว่าแม้เหยาอันฉีจะไม่สบอารมณ์นัก มันก็ไม่มีเหตุผลที่เธอจะหลบหน้าอีกฝ่าย “ครั้งนี้คุณต้องการอะไรอีกล่ะ”
“ฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะโม่จื่อซี แต่มาเพราะผู้ชายที่ช่วยฉันแสดงละครตบตา” เธอแสดงเจตนาที่แท้จริงไปตามตรง “เขาเป็นคนที่ปล่อยข่าวเรื่องของเธอกับโม่จื่อซี จากนั้นก็ถูกกีดกันจากวงการแล้วก็หายตัวไป ฉันถึงได้มาหาเธอที่นี่”
“พวกคุณสองคนเป็นคนประเภทเดียวกันชัดๆ สินะ” เหยาอันฉีว่าเข้าให้ “แล้วยังไงล่ะ คุณคิดว่าฉันช่วยคุณได้หรือไง”
“ฉันอยากเจอถังหนิง ฉันรู้ว่ามันอาจจะเป็นการขอที่มากเกินไป แต่ผู้ชายคนนั้นมีสภาพแบบนี้ก็เพราะฉัน ฉันต้องทำบางอย่างเพื่อเขา ฉันรู้ว่าเธอไม่มีเหตุผลต้องมาช่วยฉัน ฉันเลยทำได้แค่ขอร้อง
“ฉันยอมตกลงทุกอย่างเลย”
หลังเหยาอันฉีฟังอีกฝ่ายจบ เธอเงียบไปครู่หนึ่งขณะเขียนบันทึกการรักษาบนโต๊ะไม่หยุดมือ
“ฉันช่วยคุณได้ แต่แม่สามีของฉันอาจจะไม่ยอมมาเจอคุณ”
“แค่ช่วยฉันก็พอแล้ว จะสำเร็จหรือเปล่ามันไม่สำคัญหรอก” เฉินจิ้งหรงถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอรู้ว่าตราบใดที่เหยาอันฉียอมช่วยเธอก็มีโอกาสขึ้นมากแล้ว
“ทีนี้คุณก็ไปได้แล้วค่ะ”
เฉินจิ้งหรงไม่อยู่รบกวนอีกฝ่ายต่อ หากแต่ก่อนที่จะจากไปเธอก็บอกความในใจออกมา “ฉันชื่นชมเธอและเสียใจกับสิ่งที่ทำไปจริงๆ นะ ถ้าฉันไม่ทำเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนไป ทั้งสองคนก็คงแต่งงานกันไปนานแล้วและมีลูกคนที่สองกันแล้ว”
เหยาอันฉีไม่ได้ตอบ สำหรับเธอแล้วเรื่องสมมุตินั้นไม่มีวันเป็นจริงได้
อีกทั้งเธอยังได้รับในสิ่งที่สมควรในสี่ปีให้หลัง แม้ว่าพระเจ้าจะส่งเธอมาให้พบพานเรื่องยากลำบากมากมาย เธอก็ไม่ได้ทุกข์ทรมานจนเกินไปนักในท้ายที่สุด
หลังจากนั้นเหยาอันฉีจึงโทรหาถังหนิง
“เอ่อ…คุณแม่คะ”
“อันฉี ว่ามาเถอะ” อีกฝั่งของปลายสาย ถังหนิงกำลังยุ่งอยู่
“วันนี้เฉินจิ้งหรงมาหาฉันเพราะเรื่องนายแบบคนนั้นค่ะ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สบายใจเรื่องนี้แล้วก็ขอพบกับคุณแม่น่ะค่ะ”
ทันทีที่ได้ยินดังนั้นถังหนิงก็หัวเราะออกมา “แต่ว่าพ่อเป็นคนจัดการเรื่องนี้นะ เธอก็ควรไปพูดกับเขาสิ”
“แม่คะ ฉันกำลังคิดว่าถ้าเฉินจิ้งหรงปล่อยโม่จื่อซีไปจริงๆ งั้นฉันก็หวังให้เธอมีความสุข ถึงได้ยอมบอกสิ่งที่เธอต้องการให้ ฉันไม่อยากไปข้องเกี่ยวอะไรกับเธอแล้วน่ะค่ะ”
ถังหนิงพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ “ฉันเข้าใจเจตนาเธอนะ ให้รอไปอีกไม่กี่วันแล้วกัน อย่าเข้าไปยุ่ง เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปหาเฉินจิ้งหรงเอง”
“ขอบคุณนะคะคุณแม่ ขอบคุณที่ช่วยเราแก้แค้นนะคะ…”
“ฉันรู้ว่าเธอทำให้พวกเธอทั้งสองคนลำบากมามาก ตอนนี้ก็ไม่เป็นไรแล้วละนะ” ถังหนิงเอ่ยปลอบ “ต่อไปนี้ทั้งสองคนจะได้อยู่อย่างสงบสักที ถ้าเจอเรื่องเดือดร้อนอีกก็กลับมาที่บ้านนะ”
เหยาอันฉีตื้นตันใจกับความใจกว้างของถังหนิง ถังหนิงไม่เคยหวังสิ่งใดจากเธอ ต้องการเพียงให้ทั้งคู่มีความสุขเพียงเท่านั้น
นี่เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของครอบครัวอันพึงจะเป็น
คืนนั้นโม่จื่อซีกลับบ้านมาจากกองกำลังพิเศษ หลังได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับเฉินจิ้งหรง เขาก็ได้แต่ชื่นชมภรรยาตัวเอง “คุณนี่ไม่ใช่คนเลือดเย็นเลยนะครับ”
“ฉันแค่ไม่อยากให้เฉินจิ้งหรงตามรังควานเราต่อไปน่ะค่ะ หากเธอหลุดพ้นจากความสัมพันธ์นี้ได้ งั้นก็ไม่มีเหตุผลที่เราไม่ควรช่วยเธอนะคะ”
เขาพยักหน้ารับก่อนจะช้อนตัวเธอไว้ในอ้อมแขน “ผมไม่มีอารมณ์คิดเรื่องอื่นหรอกครับ ในหัวผมมีแต่คุณไปหมด…”
“คุณเอาแต่ให้ซิงเจ๋ออยู่กับจื่อเหยียนเพราะอย่างนี้ ไม่รู้ว่าจื่อเหยียนก็ยุ่งเหมือนกันเหรอคะ”
“เธอจะยุ่งอะไรล่ะครับ เธออาจจะดูแลไห่รุ่ยอยู่ แต่มันก็ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว เธอแค่ต้องไปโผล่ที่บริษัทอยู่เรื่อยๆ และพ่อก็จะทำเป็นมองข้ามไปเองแหละครับ
“อีกอย่างเธอก็รักซิงเจ๋อมากด้วย” จังหวะนี้โม่จื่อซีได้ถอดเสื้อกาวน์สีเนื้อของเธอออกไปแล้ว ก่อนสัมผัสเข้ากับความอบอุ่นของเรือนร่างเธอ
“คุณนี่…อื้ม…” คำพูดที่เหลือของเธอถูกเขากลืนกินไปในทันที อย่างไรเสียตอนนี้คำพูดมันสำคัญที่ไหนกันล่ะ
ที่ฐานปฏิบัติการพิเศษมีแต่ผู้ชาย ทั้งวันพวกเขาได้แต่ฝึกหรือไม่ก็ออกไปทำภารกิจ แล้วชายหนุ่มเหล่านี้จะโหยหาอะไรมากที่สุดกันล่ะ
เป็นธรรมดาที่จะฝันถึงการได้กลับบ้านและแนบสนิทชิดเชื้อกับภรรยาของพวกเขา ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบไปมากกว่านี้แล้ว!