วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1252 ผมไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด
โม่จื่อเหยียนรู้ตัวว่าตัวเองอาจดูตรงไปตรงมาและเปิดเผยมากเกินไป เธอจึงเริ่มกังวลว่ากู้ชิงหลีจะคิดว่าเธอไม่รักนวลสงวนตัวนัก
“ฉันแค่คอยสังเกตคุณ…อยู่เป็นครั้งคราวน่ะค่ะ”
กู้ชิงหลีเผยรอยยิ้มหล่อเหลาและไม่ได้ถามไปมากกว่านี้ ผู้หญิงอ่อนไหวง่ายเขาจึงทำให้เธออับอายไม่ได้
“ดูเหมือนว่าผมจะต้องตั้งใจให้มากกว่านี้แล้วสิ”
“หือ” โม่จื่อเหยียนไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะบอกอะไร
“เพื่อเข้าใจคุณให้มากขึ้นไงครับ”
เธอยอมรับว่าตัวเองมีความสุขกับอาหารมื้อนี้แต่เธอก็รู้สึกต้องหักห้ามใจมากเช่นกัน เธออยากจะแสดงด้านที่ดีที่สุดให้เขาเห็นแต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังปิดบังอยู่
บางทีเขาอาจสัมผัสได้ว่าเธอเกร็งเมื่ออยู่กับเขา หลังจากทานอาหารเสร็จเขาจึงเอ่ยกับเธอ “ต่อไปนี้คุณทำตัวตามสบายตอนทานมื้อเย็นก็ได้นะครับ ในเมื่อผมมาอยู่ตรงนี้แล้ว ผมไม่ลุกหนีไปง่ายๆ หรอก”
โม่จื่อเหยียนเงยหน้าขึ้นและเห็นรอยยิ้มที่ช่างอบอุ่นของเขา
เขาเป็นคนอ่อนโยนเช่นนี้ โม่จื่อเหยียนถึงไม่อาจตัดใจจากเขาได้สักที…
“ไปกันเถอะครับ ผมจะพาคุณไปส่งที่บ้านเอง”
“ฉันอยู่ในมหาวิทยาลัยค่ะ” โม่จื่อเหยียนตอบ
“ผมจะไปส่งแถวๆ นั้นแล้วกันนะครับ” กู้ชิงหลีบอกขณะล็อกรถและเดินนำหน้าโม่จื่อเหยียนไป เธออึ้งไปเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะเดินไปส่งเธอ
เธอเดินตามหลังเขาไปอย่างกับเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ ชวนให้เขาอดขำออกมาไม่ได้
“มาเดินข้างผมสิครับ…”
เธอเร่งฝีเท้าไปเดินข้างเขา เวลานี้พวกเขายังคงเจอนักศึกษาบางคนตามทาง หากแต่ไม่มีใครคิดว่ามีเรื่องผิดปกติระหว่างโม่จื่อเหยียนกับกู้ชิงหลี ถึงอย่างไรนักศึกษาหลายคนก็ไปหาเขาบ่อยครั้งอยู่แล้ว
ไม่นานทั้งสองก็มาถึงด้านนอกหอของเธอ เขาบอกกับเธอขณะที่ไม่มีใครอยู่ “ผมคิดว่าคุณจะกล้าหลังจากที่พูดออกมาเมื่อวานซะอีก แต่ดูเหมือนคุณจะเป็นแค่ลูกไก่เลยนะครับ”
“เมื่อวาน…ฉันแค่วู่วามไปหน่อยน่ะค่ะ” เธอตอบพลางก้มหน้า
“จื่อเหยียน ผมไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิดหรอกนะ” เขาเอ่ยขณะลูบศีรษะเธอ “ขึ้นไปนอนพักผ่อนเถอะครับ จะได้มีสมาธิเรียนคาบวันพรุ่งนี้”
“ค่ะ อาจารย์กู้” เธอพยักหน้ารับ
หลังมองเธอเดินจากไป กู้ชิงหลีก็หัวเราะออกมากับตัวเอง “ฉันคิดว่าเธอเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ที่แท้เธอก็เป็นแค่กระต่ายน้อยอ่อนโยน”
อันที่จริงโม่จื่อเหยียนออกจะผิดหวังกับการกระทำของเธอในวันนี้อยู่ เธอดูเงอะงะต่อหน้าเขาซะเหลือเกิน
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงทำตัวแบบนั้นออกไป
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้มีปัญหากับการเข้ากับคนอื่น…
คืนนั้นโม่จื่อเหยียนกับกู้ชิงหลีไม่ได้ส่งข้อความหากัน ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา
มันทำให้เธอรู้สึกว่าทุกอย่างเหมือนเป็นแค่ฝันไป
เช้าวันต่อมาเธอมีเรียนคาบของกู้ชิงหลี ในขณะที่นั่งเคลิ้มตลอดคาบของเขา เธอไม่อยากจะเชื่อว่าชายที่ทั้งสูงส่งและมีความสามารถคนนี้จะมีความสัมพันธ์กับเธอ
เพื่อนร่วมชั้นของเธอลุกออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อเสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณเลิกเรียน โม่จื่อเหยียนเองก็ลุกขึ้นเช่นกันแต่กลับถูกกู้ชิงหลีเรียกรั้งไว้อย่างกะทันหัน
“จื่อเหยียน อยู่ต่อก่อน คุณไม่ได้ตั้งใจฟังที่สอนไปในคาบใช่ไหมครับ”
เมื่อนักศึกษาคนอื่นได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็รู้ว่าเธอกำลังเดือดร้อนจึงออกไปทันที
ในขณะเดียวกันโม่จื่อเหยียนมองหน้าเขาอย่างงุนงง
กู้ชิงหลีก้าวลงมาจากเวทีและบอกกับเธอ “ผมมีคาบเรียนส่วนตัวให้คุณ คุณจะฟังไหมครับ”
“คุณไม่ได้มีสอนอีกเหรอคะ” เธอถามอย่างมีความสุข
“ไม่ครับ ผมดูตารางเรียนของคุณแล้วและก็รู้ว่าคุณก็ไม่มีเรียนเหมือนกัน” ว่าแล้วเขาก็ถอดเสื้อแจ็กเกตวางลงบนโต๊ะ หยิบปากกาเลเซอร์ออกมา ชี้ไปทางกระดานและเริ่มอธิบายหัวข้อบนนั้นอย่างละเอียด
หรือนี่จะเป็นคาบเรียนที่เขาจัดขึ้นเพื่อเธอเป็นพิเศษกัน
หรือเขาจะเห็นว่าเธอไม่ได้ฟังจริงๆ เลยตั้งใจรั้งเธอไว้
โม่จื่อเหยียนรู้สึกปลื้มปริ่มในใจและรู้ว่าเขาปฏิบัติกับเธอต่างจากคนอื่น แก้มของเธอแดงระเรื่อภายใต้แสงแดดเจิดจ้า จิตใจลอยไปไหนต่อไหนอยู่บ้างอย่างช่วยไม่ได้
ทั้งสองลงเอยด้วยการอยู่ในห้องเรียนอยู่ทั้งคาบ
จนเมื่อเธอพยักหน้าและมั่นใจว่าเธอเข้าใจแล้วเขาจึงปล่อยเธอไป
“ผมยังมีสอนอีกคาบ ช่วยผมสั่งอาหารจากโรงอาหารเป็นมื้อเที่ยงให้หน่อยสิครับ” เขาบอกขณะที่เธอเดินออกไป
โม่จื่อเหยียนพยักหน้ารับและทำสัญญาณมือรับรู้ให้ “ฉันจะรอคุณอยู่ที่เดิมนะคะ”
เธอเฝ้าบอกตัวเองให้หักห้ามใจไม่ทำตัวคลั่งไคล้เขาจนเกินงามไป หากแต่ก็ยังมีคนอีกมากมายที่ชอบพอเขา เธอก็ยังโชคดีพอที่มีสายสัมพันธ์กับเขาบ้าง
หลังจากมาถึงโรงอาหาร เธอสั่งอาหารชุดหนึ่งให้กับเขาอย่างเบิกบานใจ ก่อนจะนั่งลงในที่ประจำของเธอ ที่ที่เธอจะเห็นเขาได้อย่างชัดเจนแต่ไม่ใกล้เกินไปนัก
ไม่นานเขาก็สอนหนังสือเสร็จและมาถึงโรงอาหาร เมื่อเห็นอาหารวางอยู่บนโต๊ะประจำของเขาก็ยิ้มกับตัวเอง
โม่จื่อเหยียนรู้ใจเขาดีอย่างที่คิดไว้…
ไม่ห่างออกไป โม่จื่อเหยียนมองนักศึกษาที่รายล้อมกู้ชิงหลีเริ่มวอแวกับเขา ชายคนนี้เป็นที่ชอบพอของคนมาก มันทำให้เธอรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
ทั้งสองเข้าใจกันและกันทั้งที่นั่งแยกโต๊ะในโรงอาหาร แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นถึงกระแสที่ทั้งสองส่งถึงกัน
หลังจากเขาทานอาหารเสร็จก็ออกไปจากโรงอาหารทันที ตอนนี้เองที่หัวหน้าผู้ดูแลโรงอาหารเข้ามาหาเธอและบอก “ฉันคิดว่าเธอสั่งอาหารสองชุดมาให้ตัวเองซะอีก ไม่คิดว่าอีกชุดจะเป็นของอาจารย์กู้เลยนะเนี่ย”
“จุ๊ๆ …อย่าให้ใครรู้นะคะ”
“โอเค ฉันไม่บอกใครหรอก ถ้าเธอต้องการอะไรเพิ่มก็บอกฉันได้เลยนะ” เธอว่าอย่างกระตือรือร้น
โม่จื่อเหยียนทำท่าทางคล้ายขอบคุณและรีบลุกตามหลังกู้ชิงหลีออกไปกี่เมตร
ไม่นานหลังจากนั้นถึงได้รับข้อความจากเขา [คุณทำการบ้านเสร็จหรือยังครับ]
เธอหน้าแดงเพราะเขาจับได้ว่าเธอตามเขามา
[เป็นเด็กดี กลับห้องไปพักผ่อนนะ ผมจะโทรหาหลังคุณเลิกเรียนบ่ายนี้…]
หลังได้รับคำสั่งเธอก็หยุดตามเขาและกลับไปที่หอตัวเอง
เมื่อเพื่อนร่วมห้องเห็นเธอก็อดจะถามออกมาไม่ได้ “จื่อเหยียน ช่วงสองวันมานี้เธอดูแปลกๆ ไปนะ เธอคงไม่ได้เสียสติไปเพราะตามตื๊ออาจารย์กู้ไม่สำเร็จใช่ไหม
“เธอก็รู้ว่ามีคนในมหาวิทยาลัยชอบอาจารย์กู้เยอะมากพอที่จะวนรอบโลกได้สองครั้งใช่ไหม เป็นธรรมดาที่เธอจะคว้าน้ำเหลวโดยเฉพาะเป็นการแอบรักข้างเดียวด้วย”
“ฉันไม่เป็นไร ไม่ได้เสียสติสักหน่อย” โม่จื่อเหยียนหัวเราะ “ฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่คนเดียวที่ตามตื๊ออาจารย์กู้ไม่สำเร็จ คนอื่นก็ล้มเหลวเหมือนกัน ฉันยังสุขภาพจิตดีอยู่นะ”
“ดีแล้ว” เพื่อนของเธอว่าพลางตบบ่าเธอ “ฉันกำลังสงสัยว่าอาจารย์กู้ชอบผู้ชายหรือเปล่า ดูสิว่ามีผู้หญิงสวยๆ ในมหาวิทยาลัยเยอะแค่ไหน ไม่ใช่แค่นักศึกษานะ แม้แต่อาจารย์ก็ยังหลงใหลเขากัน แต่เขาก็ไม่เคยสนใจใครเลย”
“ที่เธอคิดก็มีเหตุผลนะ” โม่จื่อเหยียนพยักหน้า
“งั้น…ฉันคงต้องขอบอกว่าผู้ชายดีๆ ทุกคนในโลกถูกผู้ชายคนอื่นแย่งไปหมดแล้วล่ะ”