วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1261 คุณคิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ยังไงเหรอ
- Home
- วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์
- ตอนที่ 1261 คุณคิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ยังไงเหรอ
“คุณคิดอะไรอยู่คะ”
“คุณไม่ระวังตัวกับผมเลยนะครับ” กู้ชิงหลีเอ่ยพลางอุ้มเธอขึ้นในอ้อมแขน “แต่ว่าคืนนี้ผมอยากจะกินคุณจริงๆ นะ”
โม่จื่อเหยียนถึงกับอึ้งไป เธอพลันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแกะที่กำลังถูกส่งเข้าปากหมาป่าขณะที่ตอบกลับ “พี่สี่คะ ฉันไม่เคยผ่านเรื่องอย่างนั้นนะคะ!”
“ผมก็เหมือนกัน” กู้ชิงหลีเอ่ยกลับหน้าตาเฉย
“เมื่อก่อน…”
“ผมไม่เคยคบผู้หญิงคนไหนมาก่อนครับ” เขาพูดไปตามตรง “ไม่มีใครเคยทำให้ผมใจเต้นได้ แล้วก็ไม่มีใครทำให้ผมปั่นป่วนอย่างที่คุณทำได้เหมือนกัน โม่จื่อเหยียน คุณนี่มันแน่จริงๆ …”
ใบหน้าของเธอค่อยๆ ขึ้นสีระเรื่อก่อนจะเอ่ยเตือนเขา “ทำไมคุณไม่ไปอาบน้ำก่อนล่ะคะ”
“งั้นก็อาบด้วยกันนะครับ” หลังจากว่าจบ กู้ชิงหลีอุ้มโม่จื่อเหยียนกลับเข้าไปในห้องน้ำและวางเธอลงหน้ากระจก
เขาตวัดนิ้วเชยคางเธอก่อนบรรจงจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากของเธอ
โม่จื่อเหยียนทั้งประหม่าและตื่นกลัวขณะที่โอบแขนรอคอเขาไว้ ทว่าเธอกลับเพลิดเพลินกับความรู้สึกนี้และรู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน
พวกเขาไม่เคยสัมผัสกับการแนบชิดลึกซึ้งระหว่างชายหญิงมาก่อน ท่าทีนิ่มนวขของพวกเขาจึงเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนและรุนแรงอย่างรวดเร็ว
โม่จื่อเหยียนมีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำติดกาย เพียงแค่แรงกระตุกเบาๆ ของเขาก็ทำให้ทั้งเรือนร่างของเธอเผยต่อหน้าเขา มันยิ่งทำให้เขาจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว…
กู้ชิงหลีถอดเสื้อสูทออกก่อนที่กล้ามเนื้อแน่นที่ซ่อนอยู่ภายใต้จะปรากฏให้เห็น…
ใบหน้าของเธอแดงก่ำมากขึ้นมากกว่าเดิม
“จื่อเหยียน มองผมสิครับ”
กู้ชิงหลีประคองซีกแก้มของเธอไว้และสบมองลึกเข้าไปในแววตาเปล่งประกายของเธอ “ผมต้องการคุณนะครับ ที่นี่ เดี๋ยวนี้”
เธอไม่อาจปฏิเสธเขาได้พร้อมกับร่างกายที่ตอบสนองเป็นคำตอบ…
ท่าทางของพวกเขาดูงุ่มง่ามไปบ้าง หากแต่มันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาและไร้ซึ่งช่องว่างระหว่างกายหลังจากนั้นไม่นาน…
ท่ามกลางสายน้ำที่ไหลรินลงมาบนตัวทั้งคู่ จุมพิตของพวกเขายิ่งร้อนแรงพร้อมร่างกายที่เริ่มเป็นไปตามสัญชาตญาณ ในจังหวะนั้นโม่จื่อเหยียนไม่อาจคิดถึงสิ่งใดได้ ความจริงเธอไม่คิดจะขยับมาที่เตียงนุ่มสบายแล้วด้วยซ้ำ…
กู้ชิงหลีเป็นคนรอบรู้ แม้จะเป็นครั้งแรกเขาก็ยังรู้ว่าจะลดความเจ็บให้กับฝ่ายหญิงได้อย่างไร ถึงได้ดูแลหญิงสาวซื่อบื้อตัวน้อยของเขาเป็นอย่างดี…
แสงไฟจากห้องน้ำส่องสลัวเข้ามาในห้องนอน ทว่าทั้งสองคนที่คลอเคลียกันอยู่ด้านในได้สร้างเงาชวนให้เคอะเขินไม่น้อยลอดผ่านกระจก
เสียงครวญอย่างพึงพอใจดังขึ้นตามหลังเสียงร้องแผ่วเบาจากความเจ็บ…
โม่จื่อเหยียนได้สติรู้ตัวเมื่อเอนหลังบนเตียงเสียแล้ว ความไม่สบายตัวทำให้เธอขดตัวเป็นลูกบอลอย่างไม่ยอมขยับไปไหน
กู้ชิงหลีระบายยิ้มอย่างรักใคร่และรั้งเธอเข้ามาในอ้อมแขน “ตอนนี้ถึงจะเป็นสิ่งที่คุณเรียกว่าอยู่ด้วยกันครับ…”
“พี่สี่ คุณมันผู้ชายนิสัยไม่ได้”
“แค่กับคุณเท่านั้นครับ” เขากดจูบหน้าผากเธอก่อนกล่อมให้เธอหลับ
หลังจากได้ลิ้มรสผลไม้ต้องห้าม เขาก็หิวกระหายเสียจนอยากจะชิมมันอีกครั้ง หากแต่เขารู้ว่าเธอยังไม่พร้อมจึงไม่ฝืนใจเธอ
ทั้งคู่ผล็อยหลับไปในอ้อมแขนกันและกันกระทั่งเช้าวันต่อมา โม่จื่อเหยียนใบหน้าขึ้นสีทันทีเมื่อลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าและพบกับแผงอกของเขา “อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่สี่”
“ยัยบื้อ” กู้ชิงหลียืนขึ้นเผยให้เห็นรูปร่างไร้ที่ติของเขา โม่จื่อเหยียนรีบปิดตาตัวเอง ชายคนนี้ไม่ยับยั้งชั่งใจเวลาอยู่กับเธอเลยหรืออย่างไรกัน
“คุณก็เห็นทุกอย่างแล้ว ผมยังต้องปิดบังอะไรอีกเหรอครับ” เขาถาม
“ฉันยังไม่ชินนี่คะ” เธอหันไปอีกทาง
“คุณมีเรียนคาบที่สาม หลับอีกสักหน่อยก็ได้ครับ” เขาเอ่ยเตือน “ผมจะไปเตรียมอาหารเช้าให้คุณ คุณตอนอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ได้ครับ”
“โอเคค่ะ รีบไปเถอะค่ะ”
เมื่อเห็นเธอเร่งให้เขารีบออกไป เขาก็เดินอ้อมไปเผชิญหน้ากับเธอก่อนถาม “คุณเสียใจเหรอครับ”
“เปล่านะคะ!” โม่จื่อเหยียนรีบส่ายหน้า “ฉันแค่ยังไม่ชินกับเรื่องอย่างนี้เฉยๆ ค่ะ”
“ต่อให้คุณจะเสียใจมันก็สายไปแล้วละครับ ยัยบื้อ” เขาเอ่ยก่อนจูบหน้าผากของเธอ อย่างไรก็ตามเขาไม่อาจหยุดไว้ได้เพียงจูบเดียว…
กู้ชิงหลีติดใจเสียจนถอนตัวไม่ขึ้นหลังจากได้ลิ้มรสเพียงหนึ่งครั้ง สุดท้ายอาจารย์กู้จึงได้ขอลางานเป็นครั้งแรกของเขา…
ส่วนโม่จื่อเหยียนก็ไม่ได้เข้าเรียนสักคาบเช่นกัน
เมื่อเพื่อนของเธอเห็นดังนั้น พวกเธอรู้ทันทีว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองคน
“อย่าบอกฉันนะว่าพวกเขาดุเดือดกันบนเตียงจนลุกไม่ขึ้นน่ะ”
“มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ!”
…
ทั้งคู่ลงเอยด้วยการขลุกอยู่บนเตียงด้วยกันทั้งวัน หากแต่พวกเขาไม่ได้ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการอิงแอบแนบชิดกัน กลับกำลังพักผ่อนแทนต่างหาก
โม่จื่อเหยียนรู้สึกว่าโชคดีกำลังถาโถมมาหาตัวเอง หากแต่เธอไม่รู้ว่าในตอนนั้นโม่ถิงกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง
ถังหนิงโทรหาเธอระหว่างที่กำลังทานมื้อเย็นกับกู้ชิงหลี ทั้งคู่สวมแหวนแต่งงานและเพลิดเพลินกับไวน์อย่างกับคู่ข้าวใหม่ปลามัน ทว่าทันทีที่ได้ยินว่าโม่ถิงป่วยเธอก็ลุกพรวดพราดจากที่นั่ง
“พ่อของลูกเป็นหวัดมาหลายวันแล้ว ตอนนี้ลูกควรกลับมาทำหน้าที่ในฐานะประธานบริหารไม่ใช่เหรอ”
“แม่คะ หนูจะกลับไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” เธอรีบตอบทันที
“แม่ดีใจที่ลูกรู้ว่าต้องกลับมานะ”
เมื่อเห็นท่าทีตื่นตระหนกบนใบหน้าของเธอ กู้ชิงหลีช่วยเธอเก็บเสื้อผ้าและจัดกระเป๋าทันที “คุณต้องกลับไปที่ไฮแอทรีเจนซีใช่ไหมครับ”
“พ่อของฉันป่วย ฉันต้องกลับไปดูแลเรื่องอื่นๆ น่ะค่ะ”
“งั้นให้ผมไปส่งนะครับ” กู้ชิงหลีเสนอ “อย่างนั้นน่าจะเร็วกว่า”
“โอเคค่ะ” โม่จื่อเหยียนพยักหน้า
เธอนึกไม่ถึงว่าโอกาสที่กู้ชิงหลีจะได้เจอพ่อแม่ของเธอจะมาถึงเร็วขนาดนี้
ทั้งคู่ขับรถเข้ามาในไฮแอทรีเจนซีและพบกับถังหนิงที่หน้าบ้านอย่างไม่คาดคิด โม่จื่อเหยียนรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่เธอไม่มีทางเลือกนอกจากก้าวออกมาจากรถของกู้ชิงหลีและแนะนำเขาให้แม่ของเธอรู้จัก
กู้ชิงหลียังคงดูสมบูรณ์แบบอย่างที่เคย เขายื่นมือออกไปอย่างนอบน้อมหลังจากเดินลงมาจากรถ “สวัสดีครับ คุณน้า”
“ฉันได้ยินเรื่องของคุณมาเยอะเลยค่ะ” ถังหนิงระบายยิ้ม “เข้าไปด้านในก่อนสิ”
“ผมวางแผนว่าจะไปเยี่ยมคุณน้าในอีกไม่ช้าแล้ว แต่เพราะเหตุการณ์กะทันหันวันนี้ ผมเลยไม่มีโอกาสเตรียมตัวมาให้ดี ผมรู้สึกแย่นิดหน่อยเพราะเรื่องนี้น่ะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก” ถังหนิงวางท่าอย่างคนที่อาวุโสกว่า ดูท่าแล้วเธอคงกำลังวางแผนก่อเรื่องให้กู้ชิงหลีอยู่ “จื่อเหยียน ไปดูพ่อของลูกก่อนสิ”
โม่จื่อเหยียนรู้ว่าถังหนิงจงใจส่งเธอไปอยู่ให้ห่างๆ หากแต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่เธอทำได้ “งั้นหนูไปนะคะ แม่…”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า แม่ไม่รังแกแฟนของลูกหรอก” ถังหนิงเอ่ยย้ำอย่างเอือมระอา ใครๆ ก็บอกกันว่าลูกสาวที่แต่งงานแล้วเหมือนกับน้ำที่ล้นออก ดูเหมือนว่าท่าจะจริงอย่างที่พวกเขาว่ากัน
เธอหันไปมองหน้ากู้ชิงหลี ทว่าเขายังคงรักษากิริยาท่าทางและนิ่งสงบอย่างที่เคย
เขาไม่น่าจะเป็นผู้ชายธรรมดา
“คุณกู้ เชิญนั่งค่ะ” ถังหนิงต้อนรับขณะที่พวกเขาเดินข้ามาในห้องนั่งเล่น “ฉันได้ยินว่าคุณเป็นอาจารย์ของลูกสาวฉัน”
“ครับ คุณน้า”
“ถ้าอย่างนั้น คุณคิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ยังไงเหรอคะ” ถังหนิงจงใจถามลองใจ
ทันทีที่เขาได้ยินคำถามนี้ เขาก็ยกยิ้มและไม่ได้มีท่าทีแตกตื่น “อาจารย์ที่ดีก็เหมือนเพื่อนที่ดีครับ พออาจารย์กับลูกศิษย์มีอายุใกล้เคียงกัน มันก็ยากที่จะไม่พัฒนาความสัมพันธ์กัน ความยับยั้งชั่งใจเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น แต่ถ้าคนหนึ่งได้เจอกับอีกคนหนึ่งที่พวกเขาไม่สามารถห้ามใจต่อกันได้จริงๆ อย่างนั้นพวกเขาก็จะเสียสละทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ข้างคนที่ล้ำค่าคนนี้ครับ!”
สายตาของถังหนิงฉายแววอ่อนลงหลังได้ยินดังนั้น
เขาเป็นผู้ชายที่ทั้งใจกว้างและได้รับการอบรมมาดี