วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1268 ดังขนาดนั้น
ความเป็นจริงได้พิสูจน์ว่าการเป็นพ่อแม่คนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อคู่รักไม่ได้คุมกำเนิด และใช้เวลาทุกคืนปล่อยใจไปตามความต้องการกับกิจกรรมเร่าร้อนของพวกเขา
เมื่อโม่จื่อเหยียนเห็นสองขีดบนที่ตรวจครรภ์ เธอถึงกับนิ่งงันไป ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะรู้ตัวว่ากำลังจะกลายเป็นแม่คนแล้ว เมื่อก่อนเธออิจฉาโม่จื่อซีมาตลอดแต่เธอไม่ต้องเป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว
“ผมรู้ว่าคุณมีความสุข แต่ว่าอย่างตื่นเต้นเกินไปสิครับ” กู้ชิงหลีเอ่ยเตื่อนเบาๆ “ตอนนี้คุณเป็นแม่แล้วนะ ดังนั้นอย่าลืมระวังตัวนะครับ โอเคไหม”
โม่จื่อเหยียนพยักหน้า หากแต่เธอยังคงไม่อาจซ่อนเร้นแววตื่นเต้นบนใบหน้าของเธอได้
“เราต้องบอกพ่อกับแม่ให้รู้โดยเร็วที่สุดนะครับ พวกท่านจะได้มีความสุขเหมือนกัน”
“งั้นคืนนี้ไปทานมื้อเย็นที่บ้านนะคะ” โม่จื่อเหยียนว่าขึ้น
โม่จื่อเหยียนจินตนาการถึงชีวิตในฐานะพ่อแม่ว่าจะเป็นเช่นไรมาตลอด แม่เธอจะเคยเลี้ยงซิงเจ๋อมาก่อนเธอก็ยังไม่หนำใจ
ตอนนี้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เธอกำลังจะมีครอบครัวเล็กๆ เป็นของตัวเอง มันช่างเป็นความรู้สึกที่น่าทึ่ง
โม่จื่อเหยียนโทรหาถังหนิง หากแต่เธอไม่ได้อธิบายอะไรและถังหนิงก็ไม่ได้สงสัยเช่นกัน
คืนนั้นเมื่อทั้งสองมาถึงไฮแอทรีเจนซี โม่จื่อเหยียนตื่นเต้นและภาคภูมิใจเต็มที มันทำให้กู้ชิงหลีกังวลไม่น้อย “ผมบอกให้คุณระวังไงครับ เดินดีๆ สิครับ”
เมื่อถังหนิงเห็นท่าทีของเขา เธอก็เดาได้ทันทีว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ไม่ทันที่โม่จื่อเหยียนจะได้พูดอะไรถังหนิงก็ถามขึ้น “ลูกท้องเหรอ”
“แม่คะ…ถ้าแม่จะเดาถูกตลอดอย่างนี้งั้นก็ไม่ตื่นเต้นแล้วสิคะ!”
“ลูกมาได้ถูกเวลามาก พี่รองของลูกจะกลับมาบ้านคืนนี้แล้วเขาก็ยังไม่ได้เจอชิงหลีเลย ลูกถือโอกาสนี้ให้พวกเขาเจอกันเลยสิ”
ในเมื่อชายทั้งสองคนเป็นอาจารย์ทั้งคู่ ถังหนิงคิดว่าพวกเขาคงมีเรื่องให้คุยกันหลายอย่าง
กู้ชิงหลีพยักหน้ารับ จริงๆ แล้วเขาสงสัยเรื่องพี่ชายโม่ทั้งสองอยู่มาก และต้องการเจอพวกเขามานานมากแล้ว ทว่ายังไม่เคยมีโอกาสเสียที
อย่างไรก็ตามสายตาของเขายังจับจ้องที่โม่จื่อเหยียนตลอดเวลา ด้วยกังวลว่าเธอจะลืมว่าตัวเองตั้งท้องอยู่
ด้วยเหตุนี้ ถังหนิงจึงตัดสินใจไม่ถามลูกสาวแต่กลับหันไปทางกู้ชิงหลีแทน “ตอนนี้เธอมีลูกแล้ว แล้วเรื่องแต่งงานล่ะ”
“ผมจะไม่ปิดบังนะครับ คุณแม่ เราจดทะเบียนสมรสกันเมื่อสองเดือนก่อนแล้วครับ”
“เธอจะไม่จัดงานแต่งงานเหรอ” ถังหนิงไม่ทันได้ฟังว่ากู้ชิงหลีเรียกเธอว่า คุณแม่
“จื่อเหยียนบอกว่าครอบครัวของเธอไม่มีใครจัดงานแต่งงาน เธอเลยไม่อยากเสียแรงไปกับมันเหมือนกัน ถึงยังไงชีวิตคู่ที่ราบรื่นก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กัยพิธีการอย่างนั้นอยู่แล้วครับ” เขาตอบเสียงนุ่มอย่างที่สุขุมและสุภาพอยู่เสมอ
ถังหนิงพยักหน้าให้เป็นคำตอบ “ในเมื่อมันเป็นทางเลือกของเธอฉันก็จะไม่เข้าไปแทรกแซง ตอนนี้จื่อเหยียนตั้งท้องแล้ว เธอก็ต้องดูแลให้ดี จื่อเหยียนอาจจะมีความสามารถแต่เธอก็ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่พอ เธอต้องมีใครบางคนอยู่คอยเตือนและชี้แนะอยู่ข้างๆ”
“ผมจะดูแลเธอให้ดีแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ คุณแม่”
ถังหนิงไม่ได้เป็นห่วงมากนักเพราะกู้ชิงหลีมีความเป็นผู้ใหญ่ พึ่งพาได้ และยังเอาใจใส่
ในทางกลับกันนิสัยของโม่จื่อเหยียนยังต้องปรับอีกมาก
หากแต่ถังหนิงไม่ได้อยากจะพร่ำบ่นเธอ
ไม่นานโม่จื่อเฉินก็มาถึงบ้านพร้อมกับเชียนหลาน เมื่อเห็นชายหน้าตาไม่คุ้นเคยในบ้านตัวเองครั้งแรก เขาก็ตกใจเล็กน้อย หากแต่ก็กลับมารักษาท่าทีเหมือนเดิม
อย่างไรเสียก็ไม่มีสิ่งใดที่เล็ดลอดสายตาเขาไปได้ แม้แต่น้องเขยคนนี้
“โอ๊ะ อาจารย์กู้นี่”
ทันทีที่กู้ชิงหลีเห็นโม่จื่อเฉิน เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา โดยเฉพาะเมื่อสบตามองกัน ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะมองคนออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
“พี่รองครับ” กู้ชิงหลีทักทายตามความอาวุโส
“พี่สะใภ้รองคะ…” โม่จื่อเหยียนบอกข่าวดีของเธอเมื่อเห็นเชียนหลานทันที “…ฉันท้องแล้วค่ะ พี่กำลังจะได้เป็นคุณป้าแล้วนะคะ…”
โม่จื่อเฉินมองหน้ากู้ชิงหลี คล้ายไม่อยากเชื่อว่าพวกเขาจะรวดเร็วกันเพียงนี้
“ผมได้ยินมาว่าพี่รองเป็นอาจารย์สอนฟิสิกส์อยู่”
“ฉันก็ได้ยินว่านายประสบความสำเร็จมากเหมือนกัน”
ชายทั้งสองคนสุภาพต่อกัน หากแต่โม่จื่อเฉินรู้ว่าการเป็นอาจารย์นั้นเป็นเพียงฉากบังหน้าของกู้ชิงหลี
“โห…ไม่เคยรู้มาก่อนว่าผมจะดังขนาดนั้นเลยนะครับ”
“ใครบางคนแอบรักนายมาสี่ปี ชื่อของนายเลยฟังคุ้นหูในบ้านนี้น่ะ” โม่จื่อเฉินตอบ “ฉันได้ยินเรื่องของนายมาเยอะเลย ถ้านายเป็นผู้ชายคนอื่นตอนนี้ฉันคงทำให้นายพิการไปแล้ว”
โม่จื่อเฉินยอมรับในตัวกู้ชิงหลี
เขาก่อร่างสร้างตัวมาด้วยตัวเอง ไม่ทำตัวหวือหวา ทั้งยังไม่เคยทำเรื่องบุ่มบ่าม
จากข้อดีเหล่านี้ กู้ชิงหลีนั้นคู่ควรกับน้องสาวเอาแต่ใจของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
“พี่รองชมผมเกินไปแล้วครับ ถ้ามีเรื่องให้ผมช่วยในอนาคตก็บอกให้ผมได้เลยนะครับ”
“นอกจากแม่กับพ่อแล้ว นายเป็นคนที่ทำเงินเก่งที่สุดในบ้านแล้ว ต่อไปฉันอาจต้องอาศัยนายต่างหาก”
ตั้งแต่โม่จื่อเฉินเปิดเผยตัวตนกับโม่จื่อซี ตัวตนของเขาก็ไม่ได้เป็นความลับมากนักกับคนที่บ้านอีกต่อไป ถึงอย่างไรเขาก็ได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้อำนวยการ ดังนั้นตัวตนของเขาถึงได้ถูกเปิดเผยเรียบร้อยแล้ว
เขาจึงไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยมานานแล้ว
“พี่รองคะ พี่ทำเมินและโกหกพวกเรามาหลายปีก็แย่พอแล้ว เลิกโกหกพี่สี่ของหนูได้แล้วนะคะ” โม่จื่อ
เหยียนปกป้องกู้ชิงหลี “พี่ชายของฉันทำงานที่กระทรวงความมั่นคงแห่งชาติน่ะค่ะ พี่เขาเป็นคนที่น่าทึ่งสุดๆ เลยค่ะ!” เธออธิบายกับกู้ชิงหลี
ไม่น่าล่ะโม่จื่อเฉินถึงได้รู้เรื่องเขามากขนาดนี้
ดูเหมือนว่านับตั้งแต่ที่โม่จื่อเหยียนเริ่มตกหลุมรักเขา โม่จื่อเฉินก็รู้ประวัติเบื้องหลังของเขาหมดแล้ว
ทว่าแน่นอนว่าวันนี้โม่จื่อเหยียนกลับมาบ้านเพื่อบอกข่าวดีว่าด้วยเรื่องที่เธอตั้งท้อง
ตอนนี้โม่จื่อเหยียนกำลังจะเป็นแม่คน ถังหนิงไม่รู้สึกว่าเธอมีเรื่องต้องหนักใจอีกต่อไป
“เธอแต่งงานได้แค่สองเดือนก็ตั้งท้องแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะชอบซิงเจ๋อของเราจริงๆ สินะ เธอชอบเด็กมากขนาดนั้นเลยเหรอ” โม่จื่อเฉินเอ่ยเย้า “หรือเธออยากจะรวบรัดสามีของเธอที่เพิ่งจะคว้าเขามาได้กันล่ะ”
“ถ้าหนูเป็นพี่คงไม่พูดหรอกค่ะ พี่กลัวว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องของพี่หรือไง พี่รอพี่สะใภ้มาตั้งห้าปี ส่วนฉันก็รอพี่สี่มาสี่ปี งั้นเราอย่าแซวกันเลยดีกว่าค่ะ”
“ทำไมคืนนี้ทุกคนเอาแต่เย้ยใส่กันล่ะเนี่ย” ถังหนิงหัวเราะ
โม่จื่อเฉินหัวเราะออกมาเช่นกัน ทว่าสุดท้ายเขาก็ตอบกลับด้วยท่าทีจริงจัง “แม่ครับ เราทำให้แม่เป็นห่วงมาตลอดหลายปีนี้ ตอนนี้เหยียนเอ๋อร์มีครอบครัวของเธอเองแล้ว แม่ไม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้วละครับ แม่จะได้ใส่ใจแค่เรื่องของพ่อได้แล้วต่อไปนี้เขาจะได้ไม่มาทรมานเราไงครับ”
“รอจนกว่าเหยียนเอ๋อร์จะคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัยก่อนสิ…”
ด้วยเธอให้กำเนิดลูกมาถึงสามคน ถังหนิงจะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไรกัน
จริงอยู่ที่โม่ถิงไม่ต้องการให้เธอเข้าไปยุ่มย่ามกับชีวิตของลูกๆ หากแต่คนเป็นแม่จะทำเช่นนั้นได้หรือ
ความจริงแล้วหากลูกๆ ทั้งสามคนไม่ต้องการเธอแล้ว มันคงจะทำให้เธอรู้สึกเปล่าเปลี่ยวไม่น้อย…
ความเปล่าเปลี่ยวที่แม้แต่ความรักของโม่ถิงก็ไม่อาจเติมเต็มได้