วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 1274 อวสาน
ถังหนิงกับโม่ถิงถึงได้จัดงานแต่งงานกันจริงๆ สักที
ความรักของทั้งคู่ได้กลายเป็นตำนานแห่งวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน ทว่าพวกเขามักจะเก็บตัวเงียบและแทบไม่ได้แสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน หากแต่ในครั้งนี้โม่ถิงกำลังวางแผนจะจัดงานแต่งงานให้ถังหนิง
หากมีใครมาดูอายุของพวกเขา ทั้งโม่ถิงกับถังหนิงนั้นเข้าวัยห้าสิบแล้ว แต่ด้วยการดูแลตัวเองอย่างดีพวกเขาจึงดูอายุราวๆ สี่สิบมากกว่า
กระทั่งในตอนนี้ยังไม่มีใครในช่วงอายุเดียวกันที่มีรูปร่างเทียบกันถังหนิงได้
คนทั้งตระกูลโม่แยกย้ายกันเตรียมงานแต่งงาน แต่แน่นอนว่ารวมถึงทุกคนยกเว้นโม่จื่อเหยียนกับกู้ชิงหลี
…
หลังจากตระเวนท่องเที่ยวมาเป็นปี ในที่สุดทั้งคู่ก็กลับมาปักกิ่ง
เมื่อโม่จื่อเหยียนได้พบกับครอบครัวตัวเอง โม่จื่อเฉินอดขำเธอไม่ได้ “คนตระกูลโม่ผิวขาวกันทั้งนั้น ดูเธอสิทำไมผิวคล้ำขนาดนั้นล่ะ ตอนนี้เธอดูเหมือนคนตระกูลโม่ตรงไหนกันเนี่ย”
“พี่รองคะ หนูไม่ได้เจอพี่เป็นปี จะอ่อนโยนกับหนูไม่ได้เลยเหรอ ทำไมถึงรุนแรงกับหนูทุกครั้งที่เจอหน้าเลยล่ะคะเนี่ย”
เมื่อเห็นพี่น้องยุ่งอยู่กับการทะเลาะกัน กู้ชิงหลีก็ตัดสินใจไปทักทายถังหนิงกับโม่ถิงแทน “คุณพ่อครับ คุณแม่ครับ”
“กลับมาก็ดีแล้ว…จื่อเหยียนเป็นยังไงบ้างล่ะ” ถังหนิงถาม
“หมอบอกว่าโอกาสที่เธอจะอาการทรุดลงมีน้อย แล้วร่างกายของเธอก็ฟื้นตัวได้ดีครับ” กู้ชิงหลีตอบ
“แม่คะ เป็นเพราะยาของพี่สี่ได้ผลดีมากเลยค่ะ” โม่จื่อเหยียนอดจะชื่นชมสามีตัวเองไม่ได้ “จริงๆ แล้วก่อนที่หนูจะกลับมาครั้งนี้ หนูคิดว่ามาตลอดว่าเขาให้หนูกินยาที่หมอจัดไว้ให้ แต่ตอนหนูเจอป้าตอนไปตรวจร่างกายเมื่อไม่กี่วันก่อน ป้าก็บอกหนูว่าเขาเลือกยาสมุนไพรเองกับมือเลยนะคะ!”
“ชิงหลี…”
“แม่ครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมได้รับคำแนะนำจากหมออยู่” เขารีบอธิบาย “ผมคงไม่มีทางไม่ระวังกับร่างกายของจื่อเหยียนเด็ดขาดครับ”
“ดีแล้ว”
โม่จื่อเหยียนท่าทางมีความสุขพร้อมผิวพรรณสดใส มันเป็นข้อพิสูจน์ว่ากู้ชิงหลีนั้นดูแลเธอเป็นอย่างดี
แก้มของเธอแดงระเรื่อ ริมฝีปากอมชมพู และฟันซี่ขาวของเธอ จากปัจจัยทั้งสามอย่างนี้ คงไม่มีใครเชื่อว่าโม่จื่อเหยียนป่วยอยู่
วันนั้นโม่จื่อเฉินกับโม่จื่อซีไม่ได้อยากให้น้องสาวเศร้าใจ พวกเขาจึงไม่ได้พาลูกๆ มาด้วย
หากแต่โม่จื่อเหยียนกลับพยายามตามหาซิงเจ๋อไปทั่ว “หลานชายคนดีของหนูไปไหนล่ะคะ”
โม่จื่อซีมองเธอและรู้ว่าเจ้าตัวไม่ได้เข้าใจความหวังดีของพวกเขาแม้แต่น้อย “เขาอยู่ที่บ้านน่ะ พี่ไม่ได้พาเขามา เดี๋ยวเธอจะอุ้มแล้วไม่ปล่อยเขาไปน่ะสิ”
“โธ่ พี่ใหญ่นี่ ใจแคบชะมัดเลยค่ะ!”
“ให้ตายเถอะ!”
ความจริงคนทั้งครอบครัวปฏิบัติตัวอย่างระวังกับโม่จื่อเหยียนและใส่ใจกับความรู้สึกของเธอ ต่อให้โม่จื่อเหยียนจะพยายามทำเหมือนไม่ได้สนใจอย่างถึงที่สุด ทุกคนก็รู้ว่าเธอเสียใจเพียงไหนที่ตัวเองไม่สามารถอุ้มท้องไปได้ช่วงหนึ่ง
กู้ชิงหลีดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนในจังหวะนั้นก่อนจะสอนเธอ “พี่ใหญ่ไม่อยากให้คุณเสียความรู้สึกนะครับ คุณต้องทำลายความหวังดีของเขาด้วยหรือไง”
“เพราะว่าเราไม่มีลูกเหรอคะ ฮ่าๆ คุณป้าบอกฉันแล้วว่าร่างกายฉันปกติดี แล้วฉันก็มีลูกได้อีกครั้งแล้ว คอยดูเถอะค่ะ ฉันจะมีลูกในอีกไม่ช้าแน่ค่ะ”
“ชิงหลี พาเธอกลับบ้านแล้วสอนเธอให้ดีด้วยนะ นายตามใจเธอมากไปแล้ว” โม่จื่อซีว่าเข้าให้
“พอแล้วน่า คุณพ่อกับคุณแม่สำคัญที่สุดในคืนนี้นะคะ…” เหยาอันฉีเอ่ยเตือน
“ใช่แล้ว ต่อให้มีเรื่องใหญ่ตอนนี้ก็ต้องทิ้งไว้ก่อนนะคะ” เชียนหลานเอ่ยสำทับเหยาอันฉี
พี่น้องหัวเราะกันและหันไปสนใจถังหนิงกับโม่ถิง
“แม่คะ หนูได้ยินว่าพ่อทำชุดแต่งงานให้แม่ด้วยตัวเองกับมือเลย หนูขอดูได้ไหมคะ”
ถังหนิงมองหน้าโม่จื่อเหยียน แต่เธอไม่ได้ปฏิเสธคำขอ “ขึ้นมาด้านบนสิ”
แม่ลูกขึ้นไปห้องนอนชั้นบน โม่จื่อเหยียนรู้สึกชื่นชมทันทีที่เห็นชุดแต่งงานประดับเพชรที่แขวนอยู่ด้านใน “ว้าว แม่คะ พ่อทำชุดนี้จริงๆ เหรอ ถึงมันจะดูเรียบๆ แต่หนูก็นึกถึงหน้าพ่อตอนที่พ่อเย็บเพชรแต่ละเม็ดลงบนชุดนี้ออกนะคะ”
“เขาแอบแม่ศึกษาการทำมันน่ะ”
เมื่อโม่จื่อเหยียนได้ยินเช่นนั้น เธอซาบซึ้งจนตาเริ่มแดง “เพราะว่าพ่อรักแม่มากไงคะ”
ถังหนิงรู้เรื่องนี้ดี เธอรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรกที่พวกเขาแต่งงานกัน
เมื่อนึกถึงวันที่พวกเขาแต่งงานกันที่สำนักงานกิจการพลเรือน ถังหนิงก็อดหัวเราะไม่ได้ แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงไหน เธอก็ยังจำครั้งที่เธออาจหาญไปคว้าตัวประธานบริหารไห่รุ่ยมาแล้วขอให้เขาแต่งงานกับเธอได้
“แม่คะ หนูอยากเห็นว่าแม่จะเป็นยังไงในชุดแต่งงานจังเลยค่ะ”
นั่นเป็นความปรารถนาเรียบง่ายที่ถูกเติมเต็ม ถึงอย่างไร งานแต่งงานแห่งทศวรรษ ของถังหนิงกับโม่ถิงก็กำลังจะถูกจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า
สำหรับงานนี้ โม่ถิงไม่ได้ห้ามสื่อและนักข่าวบันเทิงรายงานเรื่องนี้ ครั้งนี้เขาต้องการให้คนทั้งประเทศรู้ว่าเขารักถังหนิงมากแค่ไหน
ในวันแต่งงานทั้งเมืองตกอยู่ในความฮือฮา ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ทุกคนต่างพูดถึงงานใหญ่นี้
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นริมทะเลพร้อมมีดอกไม้แสนงดงามเป็นฉากหลัง วันนั้นในที่สุดคนทั้งประเทศก็ได้เห็นโม่ถิงในชุดสูทขาวและถังหนิงในชุดแต่งงาน
“แม่คะ…แม่สวยจังเลยค่ะ” โม่จื่อเหยียนตาแดงเมื่อเห็นถังหนิงในชุดแต่งงาน “หนูมั่นใจว่าพ่อต้องห้ามใจไม่อยู่ตอนที่ได้เห็นแม่แน่ๆ ค่ะ”
ถังหนิงสวมผ้าคลุมแต่งงานของตัวเองพลางมองหน้าลูกสาวและโอบกอดอีกฝ่ายไว้ “ลูกทั้งสามคนก็ต้องมีความสุขเหมือนกันนะ พ่อกับแม่ถึงจะเบาใจได้”
“ค่ะแม่” โม่จื่อเหยียนบอกขณะลูบหลังแม่ตัวเองแผ่วเบา ก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดและช่วยจัดชุดพร้อมเอ่ย “เตรียมตัวนะคะ อีกเดี๋ยวแม่ต้องออกไปแล้ว”
ถังหนิงไม่สนใจเรื่องของลูกๆ อีกต่อไป กลับคาดหวังว่าโม่ถิงจะเป็นอย่างไรในชุดสูทขาวแทน
ชายคนนั้นผู้เป็นสามีของเธอ…
คนที่เธอรักมากที่สุด
ท้องฟ้าสดใสและกลุ่มเมฆขาว พร้อมสายลมอ่อนๆ ที่พัดพากลิ่นกุหลาบให้โชยมา ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้ เสียงระฆังวิวาห์ได้ลั่นขึ้นในจังหวะนั้น
ถังหนิงปรากฏตัวจากซุ้มดอกไม้สดพร้อมกับผ้าคลุมแต่งงาน เธอยืนอยู่หัวพรมที่ปกคลุมไปด้วยกลีบดอกไม้ ในขณะที่โม่ถิงอยู่ในชุดสูทขาวแถบยาวเสริมให้ยิ่งดูแช่มชื่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก เขามักสง่างามและโดดเด่นมาจากหมู่ผู้คนอยู่เสมอ
เขาเดินมาหาถังหนิง ก้าวมายืนตรงหน้าก่อนจับมือเธอมาคล้องแขนเขาไว้ “คุณนายโม่ครับ ผมคิดว่านี่เป็นการแต่งงานไปตลอดชีวิต”
ถังหนิงมองผ่านผ้าคลุมและเห็นว่าดวงตาของโม่ถิงแดงอย่างที่เธอคาดไว้
“เราเป็นคู่แต่งงานกันมานานนมแล้วนะคะ ทำไมคุณยังอ่อนไหวขนาดนี้ล่ะคะ”
“เพราะว่าผมยังอยากจะดูแลคุณไปอีกห้าสิบปีไงครับ”
…
ไม่ห่างออกไปสามพี่น้องกับคนรักของพวกเขาเฝ้ามองงานแต่งงานพร้อมความรู้สึกตื้นตันใจ
ถึงอย่างไรใครจะไม่ชื่นชมความรักเช่นนี้บ้าง
ทว่าในเวลาเช่นนี้ โม่จื่อเฉินยังอดแกล้งโม่จื่อเหยียนไม่ได้ “ดูเธอเข้าสิ เธอหายไปเป็นปี อย่างนี้ใครจะมาดูแลไห่รุ่ยล่ะ”
“พี่รอง แล้วพี่ดีขนาดไหนล่ะคะ”
“ไห่รุ่ยมีไว้เพื่อเธอเสมอนั่นแหละ” โม่จื่อเฉินเอ่ยย้ำ
“คือว่าฉันกำลังจะปฏิเสธมันน่ะค่ะ ร่างกายฉันไม่อนุญาตให้ฉันทำงานหนักเท่าไหร่”
“เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ถ้าเธอมีหลานให้พี่ พี่จะคิดลาออกจากตำแหน่งและรับหน้าที่ประธานบริหารไห่รุ่ยให้เธอเอง” โม่จื่อเฉินรับปาก
“จริงเหรอคะ”
โม่จื่อเหยียนดวงตาเป็นประกายทันที
เป็นไปตามที่พูดคุยกันไว้ในไม่กี่ปีหลังจากนั้น…
ใครบอกว่าโม่จื่อเหยียนอุ้มท้องไม่ได้กันล่ะ
เธอลงเอยด้วยการมีลูกอยู่ทุกปีอย่างไม่น่าเชื่อ!