วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 894 เธอพร้อมจะประกาศศักดากับคนทั้งโลก
งานหมั้นของเฉวียนจื่อเยี่ยถูกจัดขึ้นที่บ้านตระกูลเฉวียน ในค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลอง ทั้งบ้านถูกตกแต่งอย่างหรูหราระยิบระยับไปด้วยแสงไฟ คนดังมากหน้าหลายตากำลังพากันตบเท้าเข้าร่วมงานฉลองในครั้งนี้ ดังนั้นคุณนายเฉวียนจะเสียหน้าไม่ได้
เธอเป็นจอมบงการขั้นสุด ไม่เพียงแต่สิ่งที่เธอทำกับเฉวียนจื่อเยี่ยที่เห็นได้ชัด แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างไฟในห้องนั่งเล่นยังต้องผ่านความเห็นชอบจากเธอ
ในคืนนี้เธอพร้อมจะประกาศศักดากับคนทั้งโลกแล้ว
จะว่าไปแล้วคู่หมั้นของเฉวียนจื่อเยี่ยก็มาจากครอบครัวนักการเมือง และเป็นธรรมดาที่ผู้คนมักอิจฉาเมื่อเห็นครอบครัวนักธุรกิจได้เกี่ยวดองกับครอบครัวนักการเมือง ด้วยหมายความว่าพวกเขาสามารถสนับสนุนกันและกันได้
ในไม่ช้าบ้านตระกูลเฉวียนก็คับคั่งไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย คนจากทุกแวดวงต่างเข้าร่วมงานและพวกเขากำลังซุบซิบกันเรื่องความลับของตระกูลเฉวียน
หลินเฉี่ยนและหลี่จิ่นออกมาช้ากว่าคนอื่นๆ มาก ทว่าหลี่จิ่นตัดสินใจที่จะไม่สวมชุดทางการที่มักใส่ไปร่วมงานเลี้ยง แต่กลับเลือกที่จะสวมเครื่องแบบทหารของเขาแทน
ดูเหมือนว่าจะไม่มีเสื้อผ้าชื่อดังยี่ห้อไหนที่จะดึงความสนใจได้มากเท่ากันชุดเครื่องแบบบนร่างของเขาแล้ว
“คืนนี้เป็นงานหมั้นของพี่ชายของฉัน อย่าบอกนะว่าคุณเตรียม การแสดง บางอย่างเอาไว้น่ะค่ะ…” หลินเฉี่ยนเอ่ยจับผิดระหว่างทางไปบ้านตระกูลเฉวียน
“ผมเตรียมของขวัญมาต่างหาก ถึงคุณอาจจะตัดขาดกับตระกูลเฉวียนแล้ว แต่คุณก็น่าจะมีเรื่องติดค้างกับพวกเขาเอาไว้นะครับ” เขาตอบกลับขณะขับรถ
เมื่อได้ยินดังนั้น เธอตกอยู่ในความเงียบ แม้ว่าจะสงสัยถึงของขวัญของหลี่จิ่น เธอก็ไม่รีบร้อนที่อยากจะรู้ว่ามันคืออะไร ถึงอย่างไรเดี๋ยวมันก็ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว
หลี่จิ่นไม่ได้ปริปากใดๆ ออกมาเช่นกัน ไม่มีใครเชี่ยวชาญเรื่องทำเฉยชาไปมากกว่าเขาอีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่อง การมอบของขวัญ
หลินเฉี่ยนต้องได้รับความเจ็บปวดจากตระกูลเฉวียนมาตั้งเท่าไร จะปล่อยพวกเขาให้รอดไปได้ง่ายๆ ได้อย่างไรกัน
…
ในเวลาเดียวกันที่งานหมั้น ท่ามกลางแสงไฟที่ส่องสอดประสานกันและเสียงไวโอลินเสนาะหู บรรดาแขกต่างพูดคุยกันเรื่องว่าที่เจ้าบ่าว คุณนายเฉวียนระบายยิ้มและเอ่ยกับทุกคน “ทุกคนคะ กรุณาฟังทางนี้ด้วยนะคะ เมื่อถึงเวลาเดี๋ยวลูกชายของฉันก็จะออกมาเอง เขาบอกว่าเขาเตรียมเรื่องเซอร์ไพรส์ไว้ให้กับเจ้าสาวและอยากให้พวกเราอดใจรออีกนิดค่ะ”
“ดีเลยครับ ว่าแต่ทำไมเราไม่เห็นคุณหนูรองของตระกูลคุณเลยล่ะครับ”
ทุกคนต่างรู้ดีว่าคุณหนูรองคือใคร
ทว่าสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้แขกบางคนเลิกถามถึงเรื่องนี้กับเธอได้ คุณนายเฉวียนจึงไม่สบอารมณ์นัก
“พอดีวันนี้หลินเฉี่ยนยุ่งน่ะค่ะ ฉันคิดว่าเธอคงจะมาร่วมงานไม่ได้”
ทุกคนรู้ดีว่าเป็นเพราะเธอยุ่งเกินกว่าจะมาร่วมงานได้หรือเพราะเหตุผลอื่น
แต่พวกเขาก็กลับไปนั่งที่เดิมและเพลิดเพลินกับการแสดงต่อ
ทันทีที่คุณนายเฉวียนหันกลับไป พวกเขาเริ่มสุมหัวกระซิบกระซาบด้วยกัน
“ข่าวลือกันไปทั่ววงการแล้วว่าเฉวียนจื่อเยี่ยยอมรับออกมาเองว่าชอบพอน้องสาวตัวเอง มีบางคนเห็นพวกเขาทำบัดสีบัดเถลิงกันในห้องน้ำตอนคืนงานวันเกิดครบรอบ 60 ปีของคุณพ่อเฉวียนด้วยนะ”
“ตอนนี้เฉวียนจื่อเยี่ยเขี่ยหลินเฉี่ยนทิ้งและตัดสินใจแต่งงานกับลูกสาวของข้าราชการคนหนึ่ง หลินเฉี่ยนต้องพูดอะไรไม่ออกแน่ๆ ”
“อย่าบอกฉันนะว่าตระกูลเฉวียนรับหลินเฉี่ยนมาเลี้ยงเพื่อให้ลูกชายมีใครบางคนมาให้คบไปเล่นๆ น่ะ”
“ฉันล่ะอยากจะเห็นหน้าของหลินเฉี่ยนตอนนี้จริงๆ ”
“เลิกพูดได้แล้ว ดูสิว่าใครมา”
แม้ว่าตระกูลเฉวียนจะไม่ได้ให้ความสนใจกับวงการบันเทิงมากนัก แต่ก็ไม่มีทางจะไม่รู้จักว่าโม่ถิงและถังหนิงเป็นใคร คู่รักเข้าร่วมงานอย่างเงียบๆ และไม่ได้แต่งตัวสะดุดตามากนัก หากแต่การปรากฏตัวของพวกเขาก็เหมือนกับราชาและราชินี ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะดึงความสนใจจากทุกคนไปได้ พวกเขารู้ตัวพลางยกแก้วขึ้นทักทายอีกฝ่ายกลับ
ไม่มีใครคาดคิดว่าโม่ถิงและถังหนิงจะเข้าร่วมงานนี้ ถึงครั้งหนึ่งเฉวียนจื่อเยี่ยจะเคยเป็นศิลปินของไห่รุ่ยก็ตาม แต่มันก็ดูแปลกๆ มากเกินไป
ผู้คนต่างพยายามเข้าหาทั้งคู่ในทันที ด้วยหากสามารถทำให้โม่ถิงหรือถังหนิงสนใจได้ พวกเขาก็จะมีโอกาสสูงที่จะได้มีชื่อเสียงโด่งดัง
น่าเสียดายที่ทันทีที่ทั้งคู่มาถึง พวกเขาหาที่เหมาะๆ นั่งลงก่อนโม่ถิงจะไปกล่าวทักทายคุณพ่อเฉวียนเล็กน้อย
“ประธานโม่ ขอบคุณที่มาร่วมงานนนะคะ” คุณนายเฉวียนเข้ามาหาโม่ถิงพร้อมรอยยิ้มและพยายามชนแก้วกับเขา หากแต่เขากลับไม่สนใจแต่อย่างใดขณะหันกลับไปอยู่ข้างถังหนิง
คุณนายเฉวียนถึงกับอึ้งไป ความจริงแล้วเธอรู้สึกงุนงงเล็กน้อย “ฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ทุกคนก็รู้กันว่าโม่ถิงเฉยชาขนาดไหน เขาสนใจคนที่เขาอยากจะสนใจเท่านั้นแหละ และเขาก็จะเมินคนอื่นโดยไม่ชายตามองเลยสักนิดด้วย” คุณพ่อเฉวียนว่าขึ้น “ไหนๆ คุณก็จะไม่ได้เจอเขาอีกอยู่แล้ว อย่าเอามาใส่ใจเลย”
เธอสูดหายใจลึกอย่างทำใจ
“ว่าแต่จื่อเยี่ยทำอะไรอยู่เนี่ย ทำไมเขายังไม่มาอีก”
“ทำไมคุณใจร้อนจังล่ะ ว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณยังอยู่แต่งหน้าอยู่ข้างบนอยู่เลยนะ”
ระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกัน อยู่ๆ หนึ่งในแขกก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
ในตอนนี้ว่าที่เจ้าสาวกำลังเดินลงบันไดมาจากชั้นสอง
ยากที่จะปฏิเสธว่าเธอช่างงดงามจริงๆ อันที่จริงเดิมทีตัวเธอเองก็สง่างามสมกับเป็นลูกสาวของข้าราชการอยู่แล้ว พร้อมทั้งรูปลักษณ์และสง่าราศีที่ชวนทึ่งจนหยุดหายใจ
“เธอคือว่าที่เจ้าสาวใช่ไหม สวยจังเลยนะ”
“ใช่ เทียบกันแล้ว หลินเฉี่ยนกลายเป็นวัชพืชชั้นต่ำไปเลย”
“ถูกเผง ชาติตระกูลของพวกเธอก็ทำให้ต่างกันหลายขุมแล้ว”
ทุกคนจ้องมองในขณะที่ว่าที่เจ้าสาวในชุดราตรีทรงหางปลาสีขาวก้าวผ่านหน้าพวกเขาไป ทว่าทุกคนก็มองซ้ายขวาหาเฉวียนจื่อเยี่ยเช่นกัน เจ้าสาวอยู่ที่นี่แล้วแล้วเจ้าบ่าวไปอยู่ที่ไหนกัน
เมื่อเห็นลูกสะใภ้ของเธองดงามขนาดนี้ คุณนายเฉวียนโผเข้าหาเธออย่างตื่นเต้นและสวมกอดเธอเอาไว้ “เสี่ยวเยี่ย หนูสวยมากเลยจ้ะ”
หญิงสาวก้มลงมองแหวนหมั้นบนนิ้วและส่งยิ้ม “ขอบคุณค่ะ คุณป้า…”
“ทำไมยังเรียกว่าคุณป้าอยู่ล่ะจ๊ะ”
เธอตกใจไปเล็กน้อย หากแต่สุดท้ายก็หันไปหาคุณนายเฉวียนและเรียกอีกฝ่ายว่า แม่ อย่างว่าง่าย
“ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ ตอนนี้หนูเรียกฉันว่าแม่แล้ว แม่จะคอยหนุนหลังอยู่ตรงนี้เองจ้ะ”
ตอนนี้เองที่แสงไฟทุกดวงในห้องส่องไปยังว่าที่เจ้าสาวเสริมให้เธอเป็นจุดสนใจ
เธอคือลูกสะใภ้ของตระกูลเฉวียน คนที่จะไม่มีทางขายหน้าเหมือนลูกสาวที่รับมาเลี้ยงอย่างหลินเฉี่ยน
“คุณแม่คะ จื่อเยี่ยอยู่ไหนละคะ” เจ้าสาวว่าขึ้นอย่างสงสัยว่าทำไมเจ้าบ่าวถึงไม่โผล่มาให้เห็นในวันสำคัญอย่างนี้
“จื่อเยี่ยบอกว่าเขาอยากทำเซอร์ไพรส์ให้หนูน่ะจ้ะ เขาเลยออกไปเตรียมการตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วล่ะ” คุณนายเฉวียนตอบกลับด้วยความยินดี “อดใจรออีกนิดนะจ๊ะ โอเคไหม”
เธอพยักหน้ารับ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้เข้ากันได้ดีจนทำให้คนอื่นๆ พากันอิจฉา
ทว่าในเวลานี้เองที่มีบางคนเริ่มคาดเดากันว่าที่เฉวียนจื่อเยี่ยหายไปเพราะไปหาหลินเฉี่ยน
ทันทีที่คุณนายเฉวียนได้ยินเธอก็ไม่พอใจ จึงรีบเอ่ยให้ลูกสะใภ้ของตัวเองมั่นใจ “อย่าไปเชื่อคำพูดไร้สาระพวกนั้นเลยจ้ะ จื่อเยี่ยเป็นคนรักษาคำพูด ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ…
…อีกอย่างหลินเฉี่ยนเป็นแค่ลูกสาวบุญธรรมของเรา เรื่องระหว่างเธอกับจื่อเยี่ยไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน อย่าคิดมากเลยนะ”
ทีแรกคุณหนูเยี่ยส่งยิ้มให้อย่างเข้าใจ หากแต่เมื่อเวลาผ่านไปท่าทีของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป…