วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 930 ถ้าเรื่องจะย่ำแย่ลงไปกว่านี้ เราก็จะตกต่ำไปด้วยกัน
- Home
- วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์
- ตอนที่ 930 ถ้าเรื่องจะย่ำแย่ลงไปกว่านี้ เราก็จะตกต่ำไปด้วยกัน
ผู้คนบนโลกออนไลน์ต่างเฝ้าคอยดูและวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ข่าวใหญ่ที่ไม่คาดฝันนี้จะลงเอยในทิศทางไหนกันนะ
เฝิงจิ้งเคยเป็นผู้ช่วยของลัวอิงหงในช่วงที่เธอเริ่มก่อตั้งเอเจนซี่ของตัวเองขึ้นมาด้วยชื่อเสียงของเธอ หลังจากห่างหายจากวงการไปนาน อยู่ๆ ลัวอิงหงกลับตัดสินใจกลับคืนวงการ และบังเอิญว่าผู้จัดการของเธอดันเป็นลูกสาวของเฝิงจิ้ง
หากแต่ไม่มีใครรู้ว่าเฝิงจิ้งเคยแต่งงานมาก่อน!
นั้นยิ่งทำให้การแสดงนี้ยิ่งน่าติดตามยิ่งขึ้นไปอีก
ถึงแม้สาธารณชนจะไม่รู้ว่าเฝิงจิ้งทำอะไรไว้กับลัวอิงหง แต่ทั้งวงการก็รับรู้เรื่องนี้มาตลอด ดังนั้นในตอนนี้เมื่อการแสดงเปิดม่านขึ้น จึงเป็นธรรมดาที่ผู้คนจะเฝ้าจับตามอง
เฝิงจิ้งแสร้งทำเป็นคนดี ไม่ปิดบังความรู้สึกผิดที่เธอมีต่อลูกสาวของตัวเอง เธอยอมรับผิดในทันนีและออกมาแก้ข่าวอย่างไม่กระดากอาย ทำให้คนเกลียดเธอไม่ลง อย่างไรเสียทางตำรวจก็เป็นฝ่ายที่ออกมายืนยันให้เธอ
ทว่าไม่ว่าเฝิงจิ้งจะก่อเรื่องวุ่นวายเพียงไหน หลินเฉี่ยนยังคงไม่ได้ออกมาตอบโต้แต่อย่างใด ต่อให้สื่อตามรังควาน เธอก็ยังคงปิดปากเงียบ
เมื่อไม่มีการตอบโต้กลับมา เฝิงจิ้งจึงแทบจะได้เอาน้ำตามาล้างหน้าตัวเองตลอดทั้งวัน ท่าทางเหนื่อยล้า เธอพยายามทำให้ตัวเองน่างสารที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เธอถึงขั้นบุกไปถึงจู้ซิงมีเดีย
ถังหนิงกำลังอ่านเอกสารบางอย่างอยู่ในขณะที่เลขาของเธอเข้ามาแจ้งเธอว่าเฝิงจิ้งรออยู่ด้านนอก ทันทีที่ได้ยินดังนั้นเธอจึงหันไปมองหลินเฉี่ยน
หลินเฉี่ยนกำลังจดจ่ออยู่กับการดูแลลัวอิงห ถังหนิงจึงปิดแล็ปท็อปก่อนเป็นฝ่ายเดินออกไปพบเฝิง
จิงเอง
“ถังหนิง รีบบอกให้เฉี่ยนเฉี่ยนออกมาพบฉัน…”
ถังหนิงก้มหน้าและหัวเราะออกมาก่อนเอ่ย “พี่เฝิงคะ การแสดงของพี่มันทำอะไรจู้ซิงมีเดียไม่ได้หรอกค่ะ ไม่ว่าจริงๆ แล้วคุณจะรู้สึกยังไง เราก็จะทำกับพี่เหมือนเป็นตัวตลกเท่านั้นแหละค่ะ”
“ถังหนิง หลินเฉี่ยนเป็นลูกสาวของฉัน ฉันก็แค่อยากได้ลูกสาวของฉันคืน”
“คุณกลัวว่าหลินเฉี่ยนกับพี่หลงจะแฉเรื่องที่คุณแอบมีลูกเลยจัดฉากขึ้นมาเองสินะคะ” ถังหนิงนั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน “คุณรู้ว่าการปรากฏตัวของหลินเฉี่ยนหมายถึงการที่อดีตที่ดำมืดของคุณกำลังจะถูกเปิดเผยในไม่ช้านี้ คุณเลยตัดสินใจเข้าควบคุมสถานการณ์เองก่อนที่คนอื่นลงมือ
“อย่ามาพูดกับฉันว่าอยากได้ลูกสาวคืนอีกเลยค่ะ…
“หลินเฉี่ยนไม่มีทางไปกับคุณแน่นอนค่ะ”
“ฮึ่ม ถังหนิง เธอมีสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องของฉันกับหลินเฉี่ยน” เฝิงจิ้งพูดถากถาง
“ถ้าเป็นที่อื่นฉันก็คงไม่มีสิทธิ์หรอกค่ะ แต่ถ้ามีจู้ซิงมีเดียเข้าไปเกี่ยวข้องแล้วล่ะก็ เกี่ยวกับฉันเต็มๆ ค่ะ ถึงยังไงตอนนี้คุณก็อยู่ในถิ่นของฉันนะคะ…”
“ฉันไม่จบแค่นี้แน่…” เฝิงจิ้งรู้ว่าเธอคงไม่ได้เจอหลินเฉี่ยนในครั้งนี้จึงหันหลังเดินจากไป
ไม่นานหลังจากนั้น หลินเฉี่ยนก้าวออกมาจากห้องฝึก เธอยังคงนิ่งเงียบขณะที่มองไปยังทางเข้าที่ว่างเปล่า
“เธอต้องมาตามรังควานเธออย่างน้อยก็ไม่กี่วันครั้งแน่ เธอต้องเตรียมตัวเอาไว้ด้วยล่ะ” ถังหนิงว่าขึ้น “การแสร้งทำตัวน่าสงสารของเธอจะยิ่งทำให้เธอได้ประโยชน์ในหน้าที่การงานและอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลัวอิงหงถึงจุดวิกฤตได้”
หลินเฉี่ยนถอนหายใจอย่างท้อแท้
เธอหงุดหงิดใจเล็กน้อยแต่ไม่มีที่จะไประบายอารมณ์
ถังหนิงมองหลินเฉี่ยนและสีหน้าหงุดหงิดใจของอีกฝ่าย เดาได้ไม่ยากว่าต่อไปเฝิงจิ้งจะสร้างความกดดันให้เธอขนาดไหน
“พี่หนิง ช่วยฉันคิดหน่อยสิคะ…”
ถังหนิงรอให้หลินเฉี่ยนขอความช่วยเหลือมาสักพักแล้ว หากแต่เธอกังวลว่าเจ้าตัวจะไม่มั่นใจในวิธีของเธอ “เธอแน่ใจเหรอ เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยยั้งมือในจัดการกับคนอื่น”
“มั่นใจสิคะ” หลินเฉี่ยนตอบ
“ดี อย่างนั้นก็รอดูการแสดงสนุกๆ ได้เลย”
ถังหนิงดูแลหลินเฉี่ยนเหมือนน้องสาวของตัวเองมาตลอด เธอจึงไม่มีทางนั่งมองอีกฝ่ายทุกข์ใจเฉยๆ ได้
นับจากนั้นไม่ว่าหลินเฉี่ยนจะไปที่ไหนก็มักจะมีนักข่าวคอยตามติดอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามหลินเฉี่ยนไม่ได้หลบเลี่ยงพวกเขา เธอจ้องตรงเข้าไปในกล้องตัวหนึ่งก่อนเอ่ย “ฉันเป็นแค่ผู้จัดการ ฉันไม่ต้องการให้คนภายนอกสนใจกับเรื่องเบื้องหลังครอบครัวมากเกินไป โดยเฉพาะตอนที่ฉันยังตามสืบเรื่องนี้อยู่ค่ะ”
“หลินเฉี่ยน ไม่ได้หมายความว่าคุณเองก็สงสัยว่าเฝิงจิ้งเป็นแม่ของคุณใช่ไหมคะ”
“ฉันมีข้อสันนิษฐานเยอะแยะไปหมดนั่นแหละค่ะ เพราะเท่าที่ฉันจำได้ ฉันเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้งค่ะ…”
พูดจบหลินเฉี่ยนก็หันหลังเดินจากไป หากแต่คำตอบที่เธอออกมาเผยกับสื่อได้ทิ้งคำถามเอาไว้มากมาย เธอกำลังพยายามบอกว่าเฝิงจิ้งทอดทิ้งเธอหรือ
เมื่อได้เห็นการให้สัมภาษณ์ของหลินเฉี่ยน เฝิงจิ้งพลิกโต๊ะตรงหน้าคว่ำด้วยความโกรธ
ลูกสาวคนนี้ของเธอช่างไม่รู้ว่าอะไรเป็นประโยชน์กับตัวเองเอาเสียเลย!
หากหลินเฉี่ยนยืนกรานที่จะกดดันเธออย่างนี้ เธอคงไม่มีทางเลือกนอกจากใช้วิธีที่รุนแรงมากขึ้น
จากนั้นเฝิงจิ้งจึงบอกให้ผู้ช่วยของเธอติดต่อหลินเฉี่ยน อ้างว่าเธอมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับพ่อของเธอจะคุย
หลินเฉี่ยนไม่ต้องการไปพบเธอ แต่เฝิงจิ้งข่มขู่ว่าจะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของหลี่จิ่นถ้าเธอไม่ยอมมาเจอ
“เฉี่ยนเฉี่ยน ลูกคงไม่อยากให้พวกเขาล้มงานแต่งงานก่อนวันงานใช่ไหมล่ะ”
“ท้ายที่สุดหลินเฉี่ยนจึงไม่มีทางเลือกนอกจากไปพบอีกฝ่าย
หากแต่ก่อนที่ไปพบ เธอได้บอกให้ถังหนิงรู้ก่อนแล้ว…
“นัดเจอกันที่ไหนล่ะ ฉันจะได้จัดการให้” ถังหนิงตอบ “ฉันรู้ว่าเธอเครียดแต่เชื่อใจฉันเถอะ โอเคมั๊ย”
หลินเฉี่ยนพยักหน้ารับพร้อมความรู้สึกหนักใจที่จางหายไป…
ตลอดช่วงเวลานี้ หลี่จิ่นยังไม่กลับมาจากฐานทัพ บางทีนี่อาจเป็นข้อเสียที่สุดของการแต่งงานกับทหารก็เป็นได้
ไม่นานหลินเฉี่ยนก็มาถึงสถานที่นัดพบ เมื่อเฝิงจิ้งเห็นเธอ เธอโผเข้าหาเธอและเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “เฉี่ยนเฉี่ยน แม่รู้ว่าลูกคงยกโทษให้แม่ไม่ได้ แต่แม่ก็หวังให้ลูกเรียกแม่ว่า แม่ อย่างน้อยสักครั้งนะ”
หลินเฉี่ยนรู้สึกว่าเฝิงจิ้งคงกลายเป็นพวกเสพติดการเสแสร้งไปแล้ว ทั้งที่ไม่มีคนมองอยู่เธอก็ยังจะเสแสร้งแกล้งทำอีก
เธอดึงแขนตัวเองออกก่อนเอ่ยถาม “คุณจะบอกฉันเรื่องอะไรเกี่ยวกับพ่อล่ะ”
“แม่เป็นแม่ของลูกนะ นี่คือสิ่งที่ลูกทำกับแม่เหรอ” อย่างที่คิดไว้ เฝิงจิ้งพลันปาดน้ำตาและพูดเสียงเรียบเฉย
“เลิกพูดเรื่องไร้สาระสักที”
“เฉี่ยนเฉี่ยน ฉันเป็นแม่ของเธอนะ ชั่วชีวิตนี้เธอหนีฉันไปไม่พ้นหรอก…” เฝิงจิ้งหัวเราะก่อนที่จะว่าขึ้นเสียงเย็นชา “ฉันอยากให้เธอจัดการกับลัวอิงหงให้ ไม่อย่างนั้นฉันจะบอกพ่อแม่ของหลี่จิ่นว่าพ่อของเธอเป็นโจรข่มขืน ฉันมั่นใจว่าตระกูลหลี่จะไม่ยอมรับลูกสาวของอาชญากรเข้าตระกูลแน่ๆ ”
หลินเฉี่ยนอึ้งไปเล็กน้อยขณะที่สะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ “ถ้าคุณเปิดเผยเรื่องนี้จริง มันก็ไม่มีผลดีอะไรกับตัวคุณเหมือนกันนั่นแหละค่ะ”
“ถ้าเรื่องจะย่ำแย่ลงไปกว่านี้ เราก็จะตกต่ำไปด้วยกันเนี่ยแหละ ฉันก็จะกลายเป็นแค่เหยื่อ แต่เธอจะทั้งเสียคนรักและไม่มีที่พึ่งอีก…”
“คุณมันบ้าไปแล้ว!”
“กว่าฉันจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่ง่ายๆ แล้วนังหน้าด้านลัวอิงหงยังจะต้องการแย่งทุกอย่างกลับไปอีก เธอคิดว่าฉันจะปล่อยให้รอดไปได้เหรอ ไม่มีทางซะหรอก! ดังนั้นก็ตอบฉันมาซะดีๆ ว่าเธอจะจัดการให้ฉันไหม”
หลินเฉี่ยนมองหน้าเฝิงจิ้งและนึกถึงถังหนิงที่อยู่ในห้องถัดไป…
เพียงเท่านั้นเธอก็เบาใจลง…
“ตอบฉันมา!”