วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 940 ต้องเป็นกับดักของเฝิงจิ้งแน่
ทันทีที่ลัวอิงหงรับสาย เธอลุกพรวดพราดขึ้นมาจากที่นั่งอย่างตื่นตระหนกและถามว่าเขาอยู่ที่ไหนทันที
ชายหนุ่มพึมพำบอกที่อยู่ไปก่อนวางสาย
ลัวอิงหงรีบค้นหาตามที่อยู่และพบว่าลูกชายตัวเองอยู่ที่ไนต์คลับชื่อดัง
มันง่ายที่จะถูกคนอื่นล่อลวงในที่ที่มีทั้งคนดีและเลวปะปนกันเช่นนี้
เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอรีบพุ่งไปทางประตูแต่กลับถูกถังหนิงรั้งเอาไว้เสียก่อน “พี่หง เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงต้องรีบขนาดนั้นล่ะ”
“ถังหนิง ฉันไม่มีเวลามาอธิบายอะไรแล้ว ฉันต้องรีบไปที่นั่นให้เร็วที่สุด”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ” ถังหนิงว่าขึ้นพลางคว้าตัวอีกฝ่ายไว้ “พี่หงคะ ตอนนี้คุณอยู่ในช่วงสำคัญในการกลับมาแจ้งเกิดนะคะ ฉันมั่นใจว่าคุณรู้ว่าเฝิงจิ้งอาจจะเล่นสกปรกได้ทุกเมื่อ แค่บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น เสียเวลาไม่มากนักหรอกค่ะ”
ได้ยินคำพูดของถังหนิง ลัวอิงหงพลันใจเย็นลงและจับมือถังหนิงเอาไว้ “ลูกชายของฉันโทรมา บอกว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ ซาวน์ออฟไนต์ ค่ะ”
ถังหนิงสั่งให้เลขาของตัวเองเอาชื่อไปตรวจสอบก่อนที่คนรับคำสั่งจะรีบกลับมาพร้อมคำตอบ “ประธานถังคะ เป็นชื่อของไนต์คลับชื่อดังในปักกิ่งค่ะ”
“ลูกชายของฉันขอให้ฉันไปช่วยเขา”
“ถ้าลูกชายของคุณกำลังขอความช่วยเหลือก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะไปด้วยตัวเองหรอกค่ะ อีกอย่าง พี่หงคะ คุณได้คิดถึงสิ่งที่จะตามมาหลังจากไปถึงที่นั่นบ้างหรือเปล่า ไม่ว่าลูกชายของคุณจะอยู่ที่นั่นจริงหรือไม่ ชื่อเสียงของคุณต้องถูกทำลายแน่ๆ ค่ะ ยิ่งถ้าเฝิงจิ้งทิ้งลูกชายคุณขึ้นมา คิดว่าข่าวลือจะออกมาเป็นยังไงล่ะคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้นลัวอิงหงก็ชะงักไป ถังหนิงพูดถูก
เฝิงจิ้ง!
ทุกอย่างคงเป็นกับดักที่เฝิงจิ้งวางไว้แน่!
“ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ฉันจะให้เลขาของฉันติดต่อทางตำรวจและบอกให้เขาจัดการเรื่องนี้เองค่ะ”
ลัวอิงหงพยักหน้ารับ มาถึงตอนนี้เธอค่อนข้างมั่นใจว่าต้องเฝิงจิ้งต้องวางกับดักเอาไว้แน่
เธอค่อยๆ ใจเย็นลง อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ถังหนิงเห็นว่าลูกชายของลัวอิงหงยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าตัว ไม่ว่าเธอจะรับปากไว้เท่าไรและต้องการก้าวต่อไปข้างหน้ามากเพียงไหน เพียงแค่เฝิงจิ้งโยนบททดสอบเล็กๆ มาให้ ลัวอิงหงก็ขาดสติในทันที ดูเหมือนว่าการช่วยให้เธอได้ลูกชายกลับคืนมาคงเป็นสิ่งที่เธอจำเป็นต้องทำต่อจากนี้เสียแล้ว
ในไม่ช้าทางตำรวจได้แจ้งกลับมาให้ทราบว่าลูกชายของลัวอิงหงสบายดี เขาแค่กำลังดื่มสังสรรค์และพูดคุยเรื่องสัพเพเหระอยู่เท่านั้น
หลังจากถามเขาไม่กี่คำ พวกเขาก็ปล่อยให้เขานั่งดื่มต่อไป
ลัวอิงหงถอนหายใจออกมา เธอระแวงเล็กน้อยกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น หากเป็นไปตามแผนของเฝิงจิ้งและสามารถล่อลวงเธอไปที่ไนต์คลับได้จริงๆ อะไรจะเกิดขึ้นกัน
เช่นเดียวกับถังหนิง เธอหันขวับมาสั่งเลขาของเธอทันที “ไปที่ไนต์คลับเดี๋ยวนี้แล้วหาบาร์เทนเดอร์ที่น่าไว้ใจสักคน ให้เขาเอาโทรศัพท์ของลูกชายลัวอิงหงมาโทรหาเฝิงจิ้ง บอกเขาให้เตือนเธอว่าลูกชายของพี่หงกำลังเดือดร้อนและให้เธอรีบมารับเขา ไม่อย่างนั้นรูปในโทรศัพท์อาจจะหลุดไปได้…”
“เข้าใจแล้วค่ะ ประธานถัง”
หากเป็นเกมที่เฝิงจิ้งต้องการเล่น อย่างนั้นก็ได้
“อย่ากระโตกกระตากไปล่ะ ทันทีที่เฝิงจิ้งไปถึงเราจะถ่ายรูปเธอไว้ เราจะไม่แฉพวกเขา แต่ฉันจะใช้พวกมันทำอย่างอื่นแทน”
“รับทราบค่ะ” เลขารีบออกไปจากบริษัท
ในขณะเดียวกันลัวอิงหงไม่รู้ว่าถังหนิงวางแผนอะไรเอาไว้ เธอรู้เพียงแค่ลูกชายของตัวเองปลอดภัยดี ถึงได้กลับไปนั่งทำงานต่อ
ถังหนิงมองไปทางลัวอิงหง อยู่ๆ ก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าในฐานะแม่ เธอช่างน่าสงสารเหลือเกิน เธอถูกเฝิงจิ้งกดขี่ข่มเหงมาหลายปีโดยที่ไม่มีหนทางเอาคืน ที่แย่ไปกว่านั้นเฝิงจิ้งยังได้ครอบครองอาวุธที่แหลมคมที่สุดและสามารถเสียดแทงเข้ามาในใจเธอได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นการที่ลัวอิงหงจะเป็นอิสระจากเฝิงจิ้งได้อย่างแท้จริง จึงจำเป็นต้องเอาอาวุธของเธอคืนมาให้ได้
…
เฝิงจิ้งไม่รู้ว่าถังหนิงได้ถือไพ่เหนือกว่าตัวเองแล้ว
ทั้งยังไม่รู้ว่าถังหนิงตัดสินใจที่จะเล่นตามน้ำ ดังนั้นเมื่อเธอได้รับสายจากบาร์เทนเดอร์ เดิมทีเธอไม่ได้สนใจจะไปปรากฏตัวที่ไนต์คลับ หากแต่เมื่อปลายสายบอกว่าไอ้โง่นั่นมีรูปของพวกเขาในโทรศัพท์ เรื่องราวก็กลับตาลปัตร
หากรูปพวกนั้นถูกเปิดเผยออกไป ทั้งชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเธอจะต้องถูกทำลายย่อยยับ
เป็นไปได้ว่าบาร์เทนเดอร์จะเรียกเงินค่าปิดปาก เฝิงจิ้งจึงยอมรับคำขอ อย่างไรก็ตามเธอต้องทำตามเงื่อนไขข้อหนึ่งคือเธอต้องไปรับเขาด้วยตัวเอง แต่อย่างไรเสียไนต์คลับก็เป็นสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านและมีที่ให้หลบซ่อนเยอะ ทั้งเธอยังไม่เชื่อใจคนอื่นและตอนนี้ผู้จัดการของเธอก็กำลังยุ่งกับการคุยงานอยู่
ไม่นานเฝิงจิ้งจึงมาถึงไนต์คลับตามที่รับปากไว้ ด้วยการปลอมตัวมาอย่างดีจึงยากที่ใครจะจำเธอได้
แผนเดิมของเธอคือการล่อให้ลัวอิงหงมาที่นี่และใส่ร้ายอีกฝ่าย แต่ใครจะคิดว่าเธอกลับถูกหลอกให้มาที่นี่เสียเองและยังถูกบังคับให้ทำข้อแลกเปลี่ยนกันอีก
หลังจากรับลูกชายของลัวอิงหงมา เฝิงจิ้งพลันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะรอยยิ้มบนในหน้าของบาร์เทนเดอร์ เธอรู้ว่าบางอย่างผิดแผนไปอย่างชัดเจน จึงรีบออกมาจากไนต์คลับพร้อมกับชายหนุ่ม หากเธอรู้ว่าเขาจะสร้างปัญหาขนาดนี้ เธอคงจะไม่สั่งให้คนมอมเหล้าเขา
จากนั้นเลขาของถังหนิงได้กลับไปที่จู้ซิงมีเดียพร้อมกับรูปถ่ายและหลักฐาน
“ประธานถังคะ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีค่ะ เฝิงจิ้งกังวลเรื่องรูปของเธอจนไม่มีเวลามาสงสัยอะไร ต่อให้ตอนนี้เธอรู้ตัวมันก็สายไปแล้วล่ะค่ะ”
ถังหนิงมองรูปที่เลขาของตัวเองถ่ายมา แม้ว่าเฝิงจิ้งจะแต่งตัวรัดกุมมาก พวกเขาก็ยังสามารถจับภาพระยะประชิดของเธอไว้ได้
ว่ากันตามจริงแล้วพวกเขาได้ภาพที่ชัดเจนในตอนที่เธอออกจากไนต์คลับไปพร้อมกับลูกชายของพี่หงด้วยซ้ำ
“มีหลักฐานอย่างนี้… เฝิงจิ้งจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งตัวเขากลับมาแน่”
“ส่งรูปพวกนี้ไปให้เฝิงจิ้งสักสองสามรูปสิ”
“รับทราบค่ะ” เลขาเป็นคนฉลาดและเข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เธอจึงรีบไปทำตามคำสั่ง
เฝิงจิ้งคงนึกไม่ถึงว่าหลังจากที่ตัวเองได้วางแผนทำร้ายคนอื่นมาทั้งชีวิต สุดท้ายเธอจะตกเป็นเหยื่อของคนอื่นอย่างง่ายดายเช่นนี้ เมื่อพูดถึงเรื่องของการวางแผนแล้ว ฝีมือของเธอไม่ถึงหนึ่งในสิบของถังหนิงด้วยซ้ำ
เพียงแต่ถังหนิงไม่เคยใช้แผนของตัวเองทำร้ายคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่เท่านั้น
เธอเชื่อในวิธีการตาต่อตาฟันต่อฟัน เธอจึงไม่เคยเริ่มหาเรื่องใครก่อน ทว่าเธอก็ไม่เคยเกรงกลัวพวกเขาเช่นกัน
ในไม่ช้าเฝิงจิ้งก็ได้รับ ของขวัญ จากถังหนิง หลังเปิดซองจดหมาย เธอมองรูปภาพด้วยความตกตะลึง
“ใครกัน ใครถ่ายรูปพวกนี้เอาไว้กัน”
คนแรกที่เธอนึกถึงคือลัวอิงหง แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ฉลาดนักแต่ตอนนี้ถังหนิงก็อยู่ข้างๆ เธอ
มีใครในปักกิ่งไม่รู้บ้างว่าถังหนิงน่ากลัวแค่ไหน
เธอจึงต่อสายหาลัวอิงหงทันที “นังหน้าด้าน เธอไม่แยแสลูกชายตัวเองจนถึงขั้นมาแว้งกัดฉันได้เลยเหรอ”
ปลายสายมองโทรศัพท์อย่างงุนงงก่อนจะฟังอีกฝ่ายพูดต่อ
“ว่ามาสิ บอกฉันมาตามตรงว่าเธอต้องการอะไร”
ลัวอิงหงไม่เข้าใจว่าเฝิงจิ้งกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ หากแต่พอคาดเดาได้ว่าเธอหมายถึงอะไร
เธอจึงวางสายและไปหาถังหนิง หลังเล่าเรื่องโทรศัพท์ที่ได้รับให้ถังหนิงฟัง ถังหนิงก็หลุดหัวเราะออกมา
“พี่หง ตั้งสติดีๆ นะคะ เฝิงจิ้งกำลังจะสูญเสียไพ่สำคัญใบสุดท้ายในมือไปแล้วล่ะค่ะ”