วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ - บทที่ 233 : ประธานเย่ คุณได้โปรดปล่อยเขาเถอะ
- Home
- วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
- บทที่ 233 : ประธานเย่ คุณได้โปรดปล่อยเขาเถอะ
ในแววตาของฉู่เจิ้นหยุนมืดมนลงอย่างมาก ถอนหายใจพูดว่า “ประธานเย่ ฉันรู้ว่าคุณสูญเสียสิ่งสำคัญไป แต่เรื่องนี้ก็โทษฉู่เซวียนทั้งหมดไม่ได้ ภรรยาของคุณก็มีส่วนร่วมในนั้นด้วย……”
“เหอะ ฉันหวังว่าประธานฉู่จะไม่ลืมนะ ถ้าไม่ใช่ว่าจู่ๆ ฉู่เซวียนก็รีบมาเมืองAเพื่อพิสูจน์ว่าภรรยาของฉันคือฉู่เหยียนลูกสาวของคุณ ฉันก็ได้เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของเธอไปนานแล้ว จนถึงตอนนี้จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหรอ? ” อารมณ์เย่ฉ่าวเฉินเปลี่ยนเป็นฮึกเหิม แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมอารมณ์ แต่เมื่อเกี่ยวข้องกับมู่เวยเวย เขาไม่สามารถสงบลงได้
ฉู่เจิ้นหยุนเผชิญหน้ากับคำถามของเขา ก็จนปัญญาที่จะแก้ตัว
“แล้วก็ฉันอยากจะถามประธานฉู่ว่า ลูกชายของคุณทำเรื่องเหล่านี้ลับหลังคุณ สักนิดเดียวคุณก็ไม่รู้เลยจริงๆ เหรอ? ”
ฉู่เจิ้นหยุนส่ายหัวอย่างแน่วแน่ “ฉันไม่รู้เลย หลายปีนี้เรื่องกิจการเล็กใหญ่ของบริษัทฉันก็ส่งมอบให้เขาหมดแล้ว ฉะนั้นจึงไม่ได้รับรู้”
“งั้นก็พูดได้ว่า คุณก็ไม่รู้ว่าทั้งหมดใครวางแผนอยู่เบื้องหลังฉู่เซวียนใช่ไหม? ”
“ประธานเย่ ถ้าฉันรู้ จะไม่มีวันยอมให้เขาทำเรื่องแบบนี้เด็ดขาด” นำเสียงของฉู่เจิ้นหยุนเต็มไปด้วยความเสียใจ “ฉันไว้ใจเขาเกินไป เพิกเฉยที่จะอบรมสั่งสอนเขา”
เย่ฉ่าวเฉินทำเสียงไม่พอใจ “ฉันจะเชื่อคำพูดของคุณได้อย่างไร? ”
“ประธานเย่ ฉันเป็นพ่อของฉู่เซวียน ฉันหวังดีกับเขากว่าใครๆ ตอนนี้เขานอนอยู่บนเตียง ฉันอยู่ในอารมณ์เดียวกับคุณ ฉันต้องการจับคนที่อยู่เบื้องหลังเขามากๆ ” ฉู่เจิ้นหยุนรู้เรื่องส่วนตัวของฉู่เซวียน สีหน้าก็โหดเหี้ยมขึ้น ไม่ใช่เพราะว่าเย่ฉ่าวเฉิน แต่เป็นกวิน ฉู่เซวียนเป็นลูกชายคนเดียวของเขา แบกความรับผิดชอบทั้งหมดของตระกูลฉู่ รวมทั้งการสืบทอดวงศ์ตระกูล เขาแน่วแน่ที่จะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
เย่ฉ่าวเฉินเลิกคิ้วมองเขา “ประธานฉู่คงไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสมบัติใช่ไหม? ”
ฉู่เจิ้นหยุนพูดอย่างใจคอห่อเหี่ยวว่า “ประธานเย่ ปีนี้ฉันอายุ 63แล้ว จะสามารถมีชีวิตอยู่บนโลกได้อีกกี่ปี? แม้ว่าตอนนี้ตระกูลฉู่จะไม่ได้ร่ำรวยมหาศาล แต่ก็ประสบความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ แล้วทำไมฉันจะต้องไปหาสมบัติที่ว่างเปล่านั่นเพื่อทำลายกิจการของตระกูลฉู่ของฉันด้วยล่ะ? ”
ได้ฟังเช่นนี้ เย่ฉ่าวเฉินก็ยังพอเชื่อได้ สีหน้าก็ผ่อนคลายลงมาก “ประธานฉู่นับว่าเป็นคนที่รู้เหตุรู้ผล ฉันไปฉู่เซวียนไปก็ได้ แต่ต้องรับปากกับฉันเรื่องหนึ่ง”
“คุณว่ามาเลย”
“หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมา ต้องพูดออกมาว่าใครอยู่เบื้องหลังเขา”
ฉู่เจิ้นหยุนยิ้มออกเล็กน้อย “ประธานเย่ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ถามเขา ฉันก็จะต้องถาม วางใจเถอะ ขอเพียงแค่ฉู่เซวียนฟื้นขึ้นมา แน่นอนว่าฉันจะให้เขาบอกข้อมูลของคนคนนั้นออกมาให้หมด”
เย่ฉ่าวเฉินพยักหน้า “เช่นนี้ดีที่สุด”
“คุณเย่เป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ ฉันก็จะไม่ทำให้ประธานเย่เสียเวลาแล้ว หวังว่า MK และ เย่ฮวางจะมีโอกาสได้ร่วมมือกันอีกครั้งในอนาคต”
เย่ฉ่าวเฉินจับมือเบาๆ เล็กน้อยแล้วปล่อยออก “โอเค จะรอคอยความร่วมมือครั้งต่อไป ฉันไม่ได้ไปส่งนะ”
“ส่งเพียงเท่านี้ก็พอ”
ฉู่เจิ้นหยุนออกไปพร้อมกับเลขาและบอดี้การ์ด เย่ฉ่าวเฉินมองตามหลังเขาไป เพ่งมองเอกสารบนโต๊ะ ถามจางเห่อที่อยู่ข้างๆ ว่า “คุณว่า ฉันเสียเปรียบตระกูลฉู่เกินไปหรือเปล่า? ”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาจะต้องรายงานข้อบกพร่องอย่างแน่นอน ทำไมตอนนี้ถึงได้ใจอ่อนล่ะ?
“คุณชาย คุณทำเช่นนี้ก็เพื่อคุณผู้หญิงกับคุณชายน้อย” จางเห่อพูดสรรเสริญ
เย่ฉ่าวเฉินโล่งใจเล็กน้อย “ก็อาจจะ”
ตั้งแต่มีเวยเวยและลูก เย่ฉ่าวเฉินก็รู้สึกว่า ไม่ว่าจะทำอะไรในใจก็เป็นห่วงไปหมด เมื่อใดก็ตามที่คิดจะฆ่าคน ก็รู้สึกว่าถ้าฝ่ายตรงข้ามไปแก้แค้นแม่ลูกของเขาจะทำอย่างไร? ฉะนั้นจึงรู้สึกใจอ่อนลงมามาก
อย่าทำเรื่องที่ไม่ดีไว้ วันหน้าวันหลังได้เจอกันอีก ก็ต้องนึกถึงสภาพจิตใจของเขาในขณะนี้ด้วย
ต่อมาเป็นงานที่มีขั้นตอนซับซ้อน ตอนบ่าย เย่ฉ่าวเฉินเรียกประชุมพนักงานทั้งหมดของสวนสนุก มีพนักงานเกือบ 500 คนรวมทั้งคนทำความสะอาดและพ่อครัวร้านอาหาร
“สวัสดีทุกคน ฉันคือเย่ฉ่าวเฉินแห่งเย่ฮวางกรุ๊ป สวนสนุกจะเปิดในวันพรุ่งนี้ ฉันหวังว่าทุกคนจะมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวของคุณ อย่าทำอะไรผิดพลาดเลินเล่อ ถ้ามีขั้นตอนไหนที่เกิดปัญหาขึ้นมา ฉันจะเอาโทษให้ถึงที่สุด กลับกัน ถ้าพรุ่งนี้รวมทั้งวันหยุดยาว 1 สัปดาห์ ในแปดวันนี้ กิจการของเราทะลุ 20 ล้าน โบนัสของทุกคนจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า”
ประโยคสุดท้ายนี้ที่เขาพูดจบ ในที่นั้นก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นด้วยความชื่นชมยินดี เป็นไปอย่างที่คาดไว้ เงินเท่านั้นที่สามารถกระตุ้นความปรารถนาของพนักงานได้ดีที่สุด
ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว รอแค่เปิดกิจการพรุ่งนี้ เย่ฉ่าวเฉินที่นั่งอยู่บนระเบียงของโรงแรมก็ได้รับสายพิเศษ โทรมาจากสำนักงานใหญ่ในเมือง
หลังจากฟังคำพูดด้านนั้นจบ เย่ฉ่าวเฉินแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าที่ไม่ได้เห็นมาหลายวัน
“ขอบคุณครับ พรุ่งนี้ฉันเตรียมพร้อมอย่างแน่นอน”
เลขาหลิวเคาะประตูเข้ามา ในมือเป็นจานผลไม้ที่หั่นไว้อย่างดี “ประธานเย่ ท่านยุ่งมาตลอดทั้งวัน ทานผลไม้สักหน่อยเถอะ”
วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ เย่ฉ่าวเฉินก็สั่งว่า “บรรดาผู้นำที่สำคัญในเมืองจะเข้าร่วมพิธีเปิดในวันพรุ่งนี้ คุณไปแจ้งให้ทราบสักหน่อย ใช่แล้ว ยังมีผู้นำในจังหวัดอีกหนึ่งท่าน”
เลขาหลิวประหลาดใจเล็กน้อย เปิดสวนสนุกต้องเชิญมามากมายขนาดนี้เลย
ผู้นำ นี่เป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของเมืองA
เย่ฉ่าวเฉินชำเลืองมองเขา “นี่มีอะไรน่าประหลาดใจเหรอ? สองโครงการในเมืองที่ตอบรับฉันก็ถูกมู่ซื่อแย่งไปหมดแล้ว หรือว่าพวกเขาไม่ควรจะมาแสดงความยินดี? ”
เลขาหลิวรีบยิ้มแล้วพูดว่า “ที่ท่านประธานเย่พูดก็ถูก ฉันจะไปจัดการตอนนี้เลย”
เลขาหลิวออกไปไม่กี่นาที รองประธานที่ดูแลโครงการสวนสนุกเดินเข้ามาอย่างกระตือรือร้น “ท่านประธานเย่ เราขายตั๋วออนไลน์ได้มากกว่า 20,000 ใบแล้ว”
นี่เป็นข่าวดีจริงๆ จองบัตรผ่านประตูสวนสนุกราคา 280 หยวน พรุ่งนี้ลด 20% สำหรับการเปิดกิจการ โปรโมชั่นสุดคุ้ม เป็นธรรมดาที่หลายๆ คนจะซื้อ
“ไม่เลว อืมลืมบอกคุณไป บริษัทMKได้โอนหุ้นทั้งหมดเป็นชื่อเย่ฮวางของเราแล้ว จากนี้ไปสวนสนุกแห่งนี้จะเป็นของเย่ฮวางของเรา”
“ห๊า? ” ดวงตาของรองประธานเบิกกว้าง คิดว่าตนเองฟังผิดไป “นี่เป็นไปได้อย่างไร? เงินทุนปัจจุบันของบริษัทเราเดิมทีไม่สามารถซื้อหุ้นได้มากมายขนาดนี้”
“ไม่ได้ซื้อ พวกเขาให้ฟรี สาเหตุอะไรคุณก็ไม่ต้องถามแล้ว” เย่เฉินพูดอย่างเรียบเฉย
รองประธานก็ยิ่งประหลาดใจ จากนั้นก็ตื่นเต้นดีใจเป็นที่สุด มิน่าล่ะหลายวันมานี้ไม่เห็นคนของบริษัทMKสักคน ที่แท้……พวกเขาถอนตัวไม่แล้ว!
ฮ่าฮ่าฮ่า ต่อไปก็ไม่ต้องทนเหม็นขี้หน้าของคนพวกนั้นอีก
“ท่านประธานเย่ ภาพลักษณ์ของคุณในใจฉันสูงกว่าWittmann ไอ๊หยาไอ๊หยา ดีจริงๆ ดีเหลือเกิน ฉันต้องไปดื่มปลอบขวัญสักแก้วแล้ว มิฉะนั้นคืนนี้จะนอนไม่หลับ” รองประธานพูดแล้วเดินออกไป
“อย่าดื่มจนเมาล่ะ พรุ่งนี้ยังมีเรื่องต้องรับมือ” เย่ฉ่าวเฉินกำชับ
“ประธานเย่วางใจเถอะ ฉันมีลิมิต” รองประธานหัวเราะแล้วออกจากประตูไป
ห้องเงียบลง เย่ฉ่าวเฉินก็อดคิดถึงมู่เวยเวยไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าเธอต้องทนทุกข์อยู่ที่ไหนในเวลานี้ เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ ความสุขทั้งหมดก็จางหายไป
เดิมที ความสำเร็จจะมีความสุขมากขึ้นถ้าได้แบ่งปันกับคนที่รัก ถ้าเวยเวยกับลูกอยู่ในตอนนี้ เขาจะมีความสุขมากๆ อย่างแน่นอน แม้ว่าจะเหนื่อยแต่ก็จะรู้สึกเต็มไปด้วยพละกำลัง
แต่ตอนนี้ ในใจของเขาเหมือนถูกก้อนหินก้อนใหญ่กดทับไว้ ไม่สามารถมีความสุขได้เลย
คฤหาสน์ตงเจียว
มู่เทียนเย่นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา เสี่ยวซีหร่านล้มลงนอน หมอนอยู่บนขาของเขา ชายคนนั้นลูบหัวเธอเบาๆ ข่าวกำลังรายงานการเปิดสวนสนุกในวันพรุ่งนี้
“ในที่สุดเย่ฉ่าวเฉินก็เต็มใจที่จะกลับมา” มู่เทียนเย่พูดเบาๆ
“สวนสนุกเปิดแล้ว เขาต้องกลับมาอย่างแน่นอน” เสี่ยวซีหร่านกำลังอ่านนิตยสารพื้นเมืองอยู่
“เพื่อนคนนั้นของคุณทำไมไม่กลับมา? ”
เสี่ยวซีหร่านวางนิตยสารลง ขมวดคิ้วพูดว่า “ใช่สิ อาเหยียนทำไมไม่กลับมา พูดตามเหตุผล นี่ก็เป็นโครงการของบริษัทMKของพวกเขาด้วย ทำไมไม่เห็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องสักนิดในข่าวเลย? ”
“เย่ฉ่าวเฉินซื้อหุ้นของMKไปแล้วหรือเปล่า? ” มู่เทียนเย่ลองคาดเดา
เสี่ยวซีหร่านมองเขา “ฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ซื้อหุ้นครึ่งหนึ่ง อย่างน้อยก็ต้อง 100 ล้าน ตอนนี้ในมือเย่ฉ่าวเฉินมีเงินมากมายขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงแม้ว่าเขามีเงินที่จะซื้อ MKก็จะยอมขายเหรอ”
“คุณพูดก็ถูก MKไม่ขาย เขาก็ไม่มีทาง ช่างเถอะไม่คิดถึงพวกเขาแล้ว พรุ่งนี้คุณอยากไปสวนสนุกไหม? ฉันจะพาคุณไป” มู่เทียนเย่ก้มไปถามเขาอย่างอ่อนโยน
“ก็อยากไปนะ แต่พรุ่งนี้คนต้องล้นหลามอย่างแน่นอน ฉันไม่อยากไปตอนที่คนคึกคักเช่นนี้ อีกสองสามวันเถอะ”
“สองสามวันเป็นวันหยุดยาว คนก็ยิ่งเยอะนะ” มู่เทียนเย่พูดแล้วยิ้ม
เสี่ยวซีหร่านคิดๆ ดูแล้วก็พูดว่า “งั้นก็พรุ่งนี้เถอะ ถึงอย่างไรในเมืองAก็ไม่มีอะไรน่าสนุก ฉันจะได้ถือโอกาสไปถามเย่ฉ่าวเฉินหน่อย ท้ายที่สุดแล้วอาเหยียนไปไหน โทรไปก็ไม่รับ คนก็ไม่เจอ”
“อืม งั้นพรุ่งนี้เราไปกัน”
วันที่ 13 เดือน กันยายน ฤดูใบไม้ร่วงอากาศเย็นสบาย ดวงอาทิตย์สว่างสดใส
บรรยากาศเต็มไปด้วยความร้อนรนก่อนวันหยุดยาว
สวนสนุกขนาดใหญ่เย่ฮวางคึกคักราวกับตรุษจีน เปิดอย่างเป็นทางการเวลาเก้าโมงเช้า เริ่มแปดโมง สำหรับซื้อตั๋วผ่านประตูมีแถวที่ยาว แขกรับเชิญสุดฮอตกำลังแสดงอย่างทุ่มเทบนเวที ทั้งหมดที่ได้รับเชิญคือวงร็อกที่มาแรงที่สุดในปีนี้ ดังนั้นบรรยากาศจึงคึกคักมาก
เย่ฉ่าวเฉินมองไปที่ฉากด้านนอก ก็เบาใจอย่างมาก
“ท่านประธานเย่ พวกเลขาธิการจางจะมาถึงแล้ว” เลขาหลิวรีบเข้ามาบอก
“ไป ไปต้อนรับสักหน่อย” เย่ฉ่าวเฉินเดินไปที่ประตูพร้อมกับผู้บริหารระดับสูงของเย่ฮวางทั้งหมด
เลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลก็มาด้วย ยังมีและนายกเทศมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ รองนายกเทศมนตรี รวมทั้งอธิบดีเจ็ดแปดคน แน่นอนว่าไพ่ที่ใหญ่ที่สุดคือรองผู้ว่าราชการที่ได้รับเชิญมาจากเลขาธิการจาง
หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างกล่าวทักทายกัน เย่ฉ่าวเฉินก็เชิญทุกท่านไปพักผ่อนก่อน พิธีเปิดจะเริ่มในเร็วๆ นี้ เลขาธิการจางเดินไปข้างๆ เขาแล้วกระซิบว่า “ผู้ว่าฉวนมาที่นี่เพื่อมาดู ถือได้ว่าเป็นการตรวจสอบโครงการด้านวัฒนธรรมและความบันเทิงในเมืองA เขาจะไม่รอขึ้นเวทีนะ”
“โอเค ฉันรู้แล้ว”
เย่ฉ่าวเฉินรู้จักตนเองดี หน้ายังไม่ได้มีหน้ามีตาใหญ่โตขนาดนั้นที่จะเชิญผู้ว่าฯ จังหวัดมาตัดริบบิ้นให้ มีเพียงแค่เลขาธิการคณะกรรมการเทศบาลและนายกเทศมนตรีก็พอแล้ว
“ได้ยินมาว่าสวนสนุกนี้เป็นพี่น้องชาวฮ่องกงมาร่วมลงทุน ทำไมไม่เห็นคนของพวกเขาเลยล่ะ? ” เลขาธิการจางถามอย่างไม่เข้าใจ
เย่ฉ่าวเฉินพูดอย่างระงับอารมณ์ “เกิดปัญหากับเครือข่ายทุนของMK ฉันจึงซื้อหุ้นทั้งหมดของพวกเขามา”
เลขาธิการเหลือบมองเขา ในสายตามีความชื่นชมอย่างมาก พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “หนุ่มอายุน้อยมีอนาคต มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว”
เย่ฉ่าวเฉินยิ้มๆ อย่างถ่อมตัว “เลขาธิการจางชมเกินไปแล้ว”
เลขาธิการจางกล่าวหยอกล้อว่า “อย่าลืมจ่ายภาษีตรงเวลาและตามจำนวน รายได้ทางการเงินของเมืองAขึ้นอยู่กับ บริษัทใหญ่ๆ เช่นคุณ”
เย่ฉ่าวเฉินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “เลขาธิการจางวางใจได้ นี่เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเราที่ควรจะทำ”
เลขาธิการจางพยักหน้า ตบเบาๆ ที่บ่าของเขา ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อพูดคุยกับรองผู้ว่าราชการจังหวัด
เก้าโมง พิธีเปิดอย่างเป็นทางการเริ่มต้นขึ้น
เมื่อเลขาธิการคณะกรรมการเทศบาล นายกเทศมนตรีและกรรมการหลายคนปรากฏตัวบนเวที ทันทีสถานที่ก็เงียบสงบอย่างมาก กล้องถ่ายวิดีโอและกล้องถ่ายรูปของสื่อมวลชนทั้งหมดต่างก็เตรียมพร้อมเข้าไป
จะรู้เลยว่า จางฉี่ตงเลขาธิการคณะกรรมการเทศบาลเมืองAปกติปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างสงบเสงี่ยม โดยเฉพาะตอนแผ่นดินไหวที่เมืองAก็แสดงออกอย่างกล้าหาญกระตือรือร้น ทำให้คนยิ่งชอบผู้ปกครองคนนี้อย่างเป็นทางการ เพื่อหลีกเลี่ยงการสงสัย เขาไม่ค่อยมีส่วนร่วมในงานขององค์กรเช่นนี้ แต่คาดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะวิ่งอย่างเอิกเกริกมาตัดริบบิ้นเปิดงานให้สวนสนุก นี่เกินความคาดหมายของทุกคนจริงๆ
อันดับแรกพิธีกรแนะนำแขกที่มาร่วมงาน จากนั้นเย่ฉ่าวเฉินกล่าวเปิดงาน “สวัสดีทุกท่าน ฉันคือเย่ฉ่าวเฉินประธานของเย่ฮวาง ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าร่วมพิธีเปิดสวนสนุก…….”
ท่ามกลางฝูงชนที่เบียดเสียด เสี่ยวซีหร่านและมู่เทียนเย่มองจากทางด้านนี้ไกลๆ สวมแว่นกันแดด รอยยิ้มบนใบหน้าจางมาก
“เย่ฉ่าวเฉินมีหน้ามีตามากเลยนะ คาดไม่ถึงว่าจะเชิญเลขาธิการจางมาตัดริบบิ้นเปิดงาน” เสี่ยวซีหร่านยิ้มแล้วกล่าว
มู่เทียนเย่โอบไหล่ของเธอ ป้องกันเธอไม่ให้ถูกคนชน กล่าวอธิบายว่า “ฉันขโมยเนื้อติดมันมาจากปากของเขามากมาย คาดว่าในเมืองก็ทำเพื่อปลอบโยนความรู้สึกของเขา ฉันกลัวว่าคนรวยจะลงไปตั้งถิ่นฐานในเมืองอื่น ย้ายธุรกิจออกไปอีก ไม่รู้ว่าเมืองAจะต้องเก็บภาษีได้น้อยแค่ไหน”
“พูดถูก ทุกปีเกินครึ่งที่ฉันไม่ได้อยู่ที่เมืองS สิ้นปียังมีจดหมายเชิญกองอยู่บนโต๊ะทำงานของฉัน แต่ฉันไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงเลยสักงาน ฉันเบื่อหน่ายโอกาสแบบนั้นที่สุด แค่พูดก็เหนื่อยแล้ว”
มู่เทียนเย่ชอบนิสัยที่สง่าผ่าเผยตามอำเภอใจนี้ของเธอ ก้มหน้าลงจูบบนติ่งหูของเธอ “ต่อไปคุณก็ไม่ต้องไป ทุกอย่างมีฉัน”
เสี่ยวซีหร่านหัวเราะคิกคัก “อืม คุณจัดการเรื่องเหล่านี้เก่งที่สุด ต่อจากนี้ไปฉันก็ไม่ก้าวก่ายแล้ว”
ในแง่ของทรัพยากรทางการเงิน เสี่ยวซีหร่านมากกว่ามู่เทียนเย่กว่าสองเท่า อย่างไรก็ตามพวกเขาสองคนไม่ได้รู้สึกว่าเสี่ยวซีหร่านมีเงินมากมายแล้วกดมู่เทียนเย่ ความรักของคนทั้งสองมาจากหัวใจ พวกเขามีจิตวิญญาณทาเสมอภาค และมีความรักที่เท่าเทียมกัน ดังนั้นพวกเขาจึงเข้ากันได้ดีมาก
ในขณะที่พูด คำพูดของเย่ฉ่าวเฉินก็จบลงเช่นกัน “สุดท้าย ฉันหวังว่าทุกคนจะได้พบกับความสุขและเสียงหัวเราะที่นี่อีกครั้ง ขอบคุณครับ”
เสียงปรบมือดังกึกก้อง เสี่ยวซีหร่านไม่ยอมรับไม่ได้ว่า บางครั้งผู้ชายคนนี้ก็ดูหน้าเนื้อใจเสือมาก แต่ยังสามารถควบคุมสถานที่ได้
ผ้าไหมสีแดงถูกตัดออก ลูกโป่งไฮโดรเจนหลากสีจำนวนนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า เสียงสดุดีและเสียงดนตรีดังขึ้นพร้อมกัน เปิดสวนสนุกอย่างเป็นทางการ ยืนอยู่บนเวทีและเฝ้าดูผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็นสามคนครอบครัว เวลาพ่ออุ้มลูก ความทุกข์ในใจก็ยิ่งมากขึ้น
ดึงความมีชีวิตชีวาพาผู้นำทุกคนชมรอบๆ สวนสนุก รองผู้ว่ากล่าวอย่างพึงพอใจว่า “นี่น่าจะเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่แห่งแรกในจังหวัดของเรา ทำได้ดีมาก เพียงแต่จะต้องทำให้มั่นคงปลอดภัย ยังไงต้องไม่ให้เกิดปัญหา”
“คุณวางใจได้ โครงการทั้งหมดฉันล้วนตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ไม่มีอุบัติเหตุด้านความปลอดภัยอย่างแน่นอน”
“อืม ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย”
“ครับ ผู้ว่าฯ ฉวน”
หลังจากส่งผู้นำทั้งใหญ่และเล็กไปแล้ว เย่เฉาเฉินก็ถอนหายใจยาวๆ อย่างโล่งอก เมื่อวันนี้จบลง เขาก็ไม่ต้องการที่นี่อีกต่อไป เขาจะทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อไปค้นหาเวยเวย
ผู้ที่มาเที่ยวชมเดินเป็นแถวยาวเหยียด อย่างรวดเร็ว สวนสนุกที่ว่างเปล่าเต็มไปด้วยผู้คน เปลี่ยนเป็นแออัดขึ้นมา
เย่ฉ่าวเฉินเดินไปที่บริเวณสำนักงาน เมื่อเดินผ่านโซนอาหาร สายตาก็พบร่างที่คุ้นเคยอยู่ไม่ไกล เขาหยุดฝีเท้าทันที หัวใจก็เต้นเร็วขึ้น
เมื่อเห็นคนนั้นเดินไปข้างหน้า เย่ฉ่าวเฉินก็คืนสติและเร่งความเร็วไล่ตามเขาทันที แต่ผู้ที่มาเที่ยวชมมากเกินไปจริงๆ มีคนออกมาขวางทางของเขาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ระมัดระวัง เขาก็ชนเข้ากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ถือสายไหม สายไหมในมือที่เพิ่งซื้อก็ตกลงบนพื้น
“แม่ สายไหมของฉัน” เด็กผู้หญิงกำลังจะร้องไห้ออกมา
เย่ฉ่าวเฉินอดไม่ได้ที่จะหยุดก้าวฝีเท้า พยุงเด็กผู้หญิงขึ้นมา “ขอโทษนะ ลุงรีบไปหน่อย” พูดพลางก็หยิบเงินหนึ่งร้อยจากในกระเป๋าออกมาแล้วยัดใส่มือเด็กผู้หญิง “คุณไปซื้อเองอีกอันหนึ่ง โอเคไหม? ”
“เฮ้ คุณนี่ทำไมเป็นคนแบบนี้ จะรีบร้อนไปถึงไหน? ” แม่เด็กผู้หญิงปัดฝุ่นบนตัวของลูกอย่างไม่พอใจ
“ขอโทษครับ ฉันหาคนเลยไม่ได้ระมัดระวัง” เย่ฉ่าวเฉินกล่าวขอโทษอย่างร้อนใจ เมื่อเงยหน้ามองไปอีกครั้ง เงาด้านหลังของคนคนนั้นก็หายไปแล้ว
แม่ของเด็กผู้หญิงยังอยากที่จะพูดอะไร ก็เห็นว่าผู้ชายที่ปรากฏเป็นคนหล่อคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นเย่ฉ่าวเฉินที่ตัดริบบิ้นเปิดงานบนเวทีเมื่อกี้นี้ ชั่วพริบตาก็เปลี่ยนเป็นทึ่มทื่อทันที “อะ ไม่เป็นไรๆ คือเด็กเดินไม่ได้ดูทาง”
เย่ฉ่าวเฉินพยักหน้ากับเธอ และก็ออกไปอย่างรวดเร็ว
“มองไกลๆ ก็หล่อมากแล้ว มองใกล้ก็ยิ่งน่าหลงใหล” ในแววตาคุณแม่อายุน้อยเป็นประกาย
“แม่ เงิน ฉันอยากได้สายไหมอีก” เด็กผู้หญิงชูธนบัตรหนึ่งร้อยให้แล้วกล่าว
“โอเคๆ แม่จะพาคุณไปซื้อ”
ตอนนี้เขารีบไปที่โซนขายอาหาร เงาร่างที่คุ้นเคยนั้นหายไปแล้ว เย่เฉาเฉินไปหาที่ละแวกแถวนั้น แต่ก็ยังไม่เห็น
หรือตนเองตาลายเหรอ? ก็ชัดเจนว่าเป็นเงาด้านหลังของเขา
ครั้งที่แล้วเวยเวยบอกว่าเห็นมู่เทียนเย่ เย่ฉ่าวเฉินก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมด แต่ตอนนี้ มู่เทียนเย่ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ เหรอ?
ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ก็ขอให้คุณรีบออกมาได้ไหม? จะกล่าวขอโทษก็ดี ถูกคุณฟาดก็ดี เพียงแค่คุณยังมีชีวิตอยู่ก็พอ เพียงแค่นั้นเวยเวยก็จะรู้สึกโล่งใจมากขึ้นเกี่ยวกับอดีต
“เย่ฉ่าวเฉิน” เสียงที่ไพเราะเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
เขาหันตัวกลับ เสี่ยวซีหร่านที่ไม่ได้เห็นมานานยืนอยู่ห่างออกไปสองเมตร สวมชุดลำลองสบายๆ ในมือถือแก้วชานมสีชมพู สีหน้าแดงระเรื่อ ดวงตาเป็นประกาย
“เสี่ยวซีหร่าน? ” เย่ฉ่าวเฉินประหลาดใจเป็นที่สุด
“ทำไม? ฉันมาสวนสนุกของคุณตกใจมากเลยเหรอ? ”
“ใช่ตกใจมาก คุณมาได้ยังไง…..” ทันใดนั้นเย่ฉ่าวเฉินก็จำภาพบนเรือสำราญได้ กวาดสายตามองไปรอบๆ ไม่เห็นคนที่สะดุดตา จึงถามว่า “คุณมาคนเดียวเหรอ? ”
เสี่ยวซีหร่านพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “มาด้วยกันกับเพื่อนของฉัน เพียงแต่คนเยอะมากเลยพลัดหลงกัน”
เปลือกตาเย่ฉ่าวเฉินกระตุก “เพื่อน? ต้องการให้ฉันช่วยคุณหาไหม? ”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวอีกสักครู่ฉันจะโทรติดต่อเขา”
“ในเมื่อมาถึงอาณาบริเวณของฉันแล้ว ทานข้าวเที่ยงด้วยกันเถอะ ฉันเลี้ยงเอง”
“อาเหยียนกลับมาแล้วหรือยัง? ” เสี่ยวซีหร่านมุ่งถามประเด็นหลักอย่างตรงไปตรงมา เธอมาก็เพื่อเรื่องนี้ เดิมทีเธออยากจะออกไปแล้วโทรหาเขาให้มาพบแล้วถาม นึกไม่ถึงว่าจะเจอกันที่นี่
“เธอ….ยังไม่ได้ เธอยังเที่ยวพักผ่อนอยู่ที่ต่างประเทศ” เย่ฉ่าวเฉินไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง ทำได้เพียงเล่นละครตบตา
เสี่ยวซีหร่านเดินเข้ามาทีละก้าวๆ สายตาอันว่องไวและเฉียบแหลมถามเจาะลึกที่ตัวของเขา น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “เย่ฉ่าวเฉิน คุณไม่ต้องมาโกหก อาเหยียนเกิดเรื่องใช่ไหม? ”
สีหน้าเย่ฉ่าวเฉินก็เย็นลงมา “เสี่ยวซีหร่าน คุณกังวลมากเกินไปแล้วหรือเปล่า? ”
“เชอะ! ฉันเห็นคุณเศร้าสร้อยหรอก ก็พูดตามการกระทำของคุณ ถ้าอาเหยียนเที่ยวพักผ่อนอยู่ที่ต่างประเทศจริงๆ ทำไมไม่มีข่าวคราวสักนิดเลยล่ะ? อีกทั้งจนกระทั่งวันนี้โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้? แล้วก็โครงการสวนสนุกนี้เธอก็เคยมีส่วนร่วมมาก่อน บริษัทMKเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนใหญ่ เปิดกิจการเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าคนของMKสักคนก็ไม่มี คนที่มีปัญญามองแวบเดียวก็รู้ว่าด้านในนี้มีเรื่องปกปิดอยู่” เสี่ยวซีหร่านพูดแต่ละประโยคสอดคล้องกับเหตุผล พูดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล ทำให้เย่ฉ่าวเฉินปวดหัวเล็กน้อย
ผู้หญิงที่ฉลาดเกินไปไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยจริงๆ
อาหารบนถนนมีคนที่สัญจรไปมาหนาแน่น สองคนนี้ คนหนึ่งคือเย่ฉ่าวเฉินประธานเย่ฮวางที่เพิ่งได้รับความสนใจ คนหนึ่งคือสาวสวยที่ดึงดูดความสนใจ โดยธรรมชาติคนจำนวนมองว่าเสี่ยวซีหร่านเป็นแฟนของเย่ฉ่าวเฉิน
“พวกเราเปลี่ยนสถานที่พูดคุยกันเถอะ ตรงนี้ไม่สะดวก” เย่ฉ่าวเฉินท่าทีอ่อนโยนเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าเสี่ยวซีหร่านไม่เต็มใจที่จะถูกคนมอง พยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้ ไปไหน? ”
“ด้านนั้นเป็นสำนักงาน ค่อนข้างสงบ” เย่ฉ่าวเฉินหันตัวกลับจะพาเธอไป หยุดฝีเท้าเล็กน้อยแล้วกล่าวถามว่า “คุณเรียกเพื่อนมาด้วยกันไหม”
“ไม่ต้อง เขาเดินเล่นไปเองก่อนเถอะ อีกสักครู่ฉันค่อยติดต่อเขา”
“แบบนี้ไม่เหมาะสมนะ”
เสี่ยวซีหร่านเลิกคิ้ว โมโหเล็กน้อย “มีอะไรไม่เหมาะสม? เพื่อนของฉัน ฉันบอกว่าเหมาะสมก็เหมาะสม ทำไมคุณพูดไร้สาระมากมายขนาดนี้? ” ก็แปลก ไม่ว่ากรณีใดๆ เธอก็มองเย่ฉ่าวเฉินอย่างไม่เคยชิน ฉันมักจะสีหน้าไม่ดีกับเขาตลอด
เย่ฉ่าวเฉินนอกจากจะถูกเวยเวยเคยแค้นแบบนี้แล้ว ก็ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าพูดกับเขาแบบนี้ ยกเว้นเสี่ยวซีหร่านที่จองหองคนนี้ตรงหน้า
แต่ไหนแต่ไรไม่เคยไว้หน้าเขาเลยสักนิด ทำให้เขาต้องอับอายในที่สาธารณะครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ยิ่งน่าโมโหก็คือ คาดไม่ถึงว่าเขาจะทำอะไรเธอไม่ได้เลย
“คิดอะไรอยู่ล่ะ? คุณจะไปไม่ไป” เสี่ยวซีหร่านขมวดคิ้วถาม
เย่ฉ่าวเฉินจับหน้าผากอย่างจนปัญญา “ไปๆๆ คุณเป็นพี่ใหญ่ คุณพูดแล้วก็ต้องทำตาม”
เสี่ยวซีหร่านร้องเชอะอย่างเย็นชา ขี้เกียจสนใจเขา
ด้านหลังแผงขายก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ไม่ไกล มู่เทียนเย่เฝ้าดูด้านหลังของคนสองคน เมื่อกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง เสี่ยวซีหร่านก็เอามือไว้ด้านหลังส่งสัญญาณมือว่าOK ผู้ชายก็หัวเราะอยู่ในใจ เธอรู้ว่าตนเองต้องมองเธออยู่แน่นอน ดังนั้นจึงทำให้ตนเองวางใจ
เมื่อกี้ก็คือบังเอิญ มู่เทียนเย่พบเต้าหู้ย่างแสนอร่อยที่ร้านอาหารก่อนหน้านี้ ให้เสี่ยวซีหร่านรอเขาไปซื้ออยู่ที่หน้าแผงชานม ผลสรุปเมื่อกลับมา ก็เห็นเงาร่างที่รีบร้อนของเย่ฉ่าวเฉิน คล้ายกับหาใครอยู่อีก
มู่เทียนเย่คาดว่า เขาจะต้องเห็นตนเองอย่างแน่นอน ยังดีที่เสี่ยวซีหร่านรู้จักพลิกแพลง
หลายนาทีต่อมา คนสองคนนั่งอยู่ที่ชั้นสองในห้องทำงานของเย่ฉ่าวเฉิน เลขาฯ หลิวเสิร์ฟกาแฟสองถ้วยและผลไม้จานหนึ่ง ขณะออกไปสายตาก็มองเสี่ยวซีหร่าน กล่าวในใจว่า เหมือนเคยพบสาวสวยคนนี้ที่ไหน
เสี่ยวซีหร่านนำมือทั้งคู่ซ้อนทับกันแล้ววางไว้บนขา เป็นพลังที่ออกมาจากหญิงแกร่ง “พูดเถอะ ตกลงเกิดอะไรขึ้น? ”
เย่ฉ่าวเฉินพูดอย่างสงบเงียบว่า “อาเหยียนถูกลักพาตัวไป”