วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ - บทที่ 418 เธอต้องรับผิดชอบ
ต้วนอีเหยาใจอ่อนและพูดขึ้นว่า ” ให้เธอพักอยู่ที่นี่เถอะ พวกเราไม่ได้ขาดแคลนห้องนอนสักหน่อย”
” แต่เราก็ไม่ได้ขาดแคลนหลอดไฟนิ! ”
คำพูดของเขาทำให้ต้วนอีเหยาพูดไม่ออก แล้วหันไปยิ้มให้เย่ชูวเสวียแบบจนปัญญาจริงๆ ” ถ้าไม่ได้จริงๆ เธอก็ไปเที่ยวเล่นข้างนอกก่อน ผ่านไปสองสามวันค่อยกลับมา? ”
” ฉันไม่ตกลง! ” เย่ชูวเสวียยืนขึ้นอย่างดื้อรั้น ” ถ้าพวกพี่ทำแบบนี้พวกพี่จะสูญเสียฉันไปได้นะ! ”
” ใครใช้ให้เธอเป็นส่วนเกินละ “เย่จิงเหยียนพูดออกไปพูดแทรกขึ้นมาประโยคหนึ่งอย่างเยือกเย็น
ทำให้เย่ชูวเสวียที่ตอนแรกก็โกรธอยู่แล้วยิ่งรู้สึกหดหู่ขึ้นไปอีก ” ก็ได้ๆๆ ฉันจะไป! ”
” ชูวเสวีย ” เย่ชูวเสวียไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ เธอหันหลังแล้วเดินออกไปทางประตู หนานกงเจารีบลุกเดินตามเธอออกไป
ต้วนอีเหยาเห็นท่าทีบูดบึ้งของเย่ชูวเสวีย เลยสะกิดเย่จิงเหยียนที่นั่งอยู่ข้างๆไปหนึ่งที ” พอได้แล้ว คุณหยุดแกล้งเธอเถอะ! ”
เย่จิงเหยียนยักคิ้วอย่างไม่แยแส ทำอีเหยาเลยต้องพูดขึ้นเอง ” ชูวเสวีย พวกพี่แค่ล้อเล่น พวกเธอจะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ก็ได้ รีบกลับมาเร็ว! ”
” จริงหรอ? ” เย่ชูวเสวียหันหน้ามาแล้วมองไปที่เย่จิงเหยียน รอให้เขาพยักหน้า
” อือ! “เย่จิงเหยียนพยักหน้าเบาๆและไม่ได้พูดอะไร
แต่ว่าเพียงเท่านี้ก็ทำให้เย่ชูวเสวียดีใจมากๆแล้ว เธอพุ่งตัวเข้าไปกอดแขนเย่จิงเหยียนไว้ ” ฉันรู้อยู่แล้ว พี่เป็นพี่ชายที่ดีที่สุดแล้ว! ”
” พอๆๆ แต่ฉันมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ เธออยู่ได้ แต่เขาไม่ได้ ” เย่จิงเหยียนดึงมือตัวเองออกด้วยความรังเกียจ แล้วจ้องไปที่หนานกงเจาที่อยู่ไม่ไกล
” ฉัน……”
” ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว! ” เย่ชูวเสวียพูดแทรกหนานกงเจา
หนานกงเจาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ” ชูวเสวีย……”
เย่ชูวเสวียไม่ได้หันไปดูเขา เธอยกมือแล้วโบกมือไปมา ” คุณมีที่พักของตัวเองไม่ใช่หรอ รีบกลับไปเถอะ! ”
” ฉันไม่มีนิ! “หนานกงเจาไม่ได้ขยับไปไหน เขาใช้สายตาที่อ้อนวอนมองไปที่เย่ชูวเสวีย
” ฉันไม่เชื่อหรอก! “นอกจากคฤหาสน์แล้ว เขายังมีอพาร์ทเม้นท์หรู ถ้าบอกว่าไม่มีที่พักมันช่างเป็นเรื่องตลกสะจริงๆ
ถ้าตอนนั้นเธอมองการณ์ไกลกว่านี้หน่อย ซื้ออพาร์ทเมนท์เล็กๆเก็บไว้สักห้อง ตัวเองก็ไม่ต้องแบกหน้ามาขอความช่วยเหลือจากเย่จิงเหยียนแบบนี้หรอก
พอหนานกงเจาเห็นว่าเย่ชูวเสวียไม่มีทีท่าว่าจะให้เขาอยู่ด้วย ก็ทำได้แค่พูดกับเธอว่า ” ถ้าอย่างนั้นเธอก็ดูแลตัวเองดีๆนะ พรุ่งนี้ฉันมาหาใหม่! ”
รอให้เขาปิดประตูสนิท แววตาของเย่จิงเหยียนก็กลับมาเป็นปกติ ” เธอคิดว่ามันหมายความว่ายังไง? ”
ทำเหมือนกับว่าเย่ชูวเสวียแต่งงานออกไปแล้วอย่างนั้นแหละ เหมือนว่าคนในบ้านเขาเป็นคนนอกไปได้ ดุแลตัวเองดีๆอะไร ที่เย่ชูวเสวียเติบโตมาได้ขนาดนี้ก็เป็นเพราะการเลี้ยงดูของพวกเขาไม่ใช่หรอ? ”
” พี่ชาย เขาไปคิวต่ำ พี่ไม่ใช่ไม่รู้สักหน่อย พี่อย่าไปถือสาเขาเลย! ”
พอเย่ชูวเสวียเห็นว่าเย่จิงเหยียนยังมีอารมณ์โกรธอยู่เล็กน้อย ก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย ” ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย! ที่บ้านมีอะไรกินบ้าง ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว! ”
ในขณะที่กำลังพูด ก็เดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหาของกิน เธอหยิบมันฝรั่งทอดกรอบถุงหนึ่งออกมาแล้วกลับไปนั่งบนโซฟา
” ยังมีอาหารที่พี่ชายเธอทำไว้อีกนิดหน่อย เดี๋ยวพี่ไปอุ่นให้ อาหารหลักจะกินแค่ขนมไม่ได้ ”
ต้วนอีเหยาเอาอาหารบนโต๊ะอาหารเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ เย่ชูวเสวียที่อยู่ข้างหลังพอได้ยินว่าเป็นอาหารที่พี่ชายเป็นคนทำก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที ” อาหารที่พี่ชายทำ ถ้าอย่างนั้นฉันต้องกินให้ได้! ”
” ให้เธอพอกินรองท้องไปก่อนก็พอ แค่มื้อสองมื้อไม่เป็นไรหรอก ” เย่จิงเหยียนหันหน้าไปทางอื่นเล็กน้อย ความหมายของคำพูดเขามันชัดเจนมากก็คือหยุดอุ่นอาหารที่เหลือได้แล้ว
แต่ว่าต้วนอีเหยาและเย่ชูวเสวียกลับแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน สองสามนาทีผ่านไป อาหารออกจากหม้อแล้ว เย่ชูวเสวียนั่งรอบนโต๊ะอาหาร เธอแทบจะอดไม่ไหวอยากที่จะลิ้มลองรสฝีมือในการทำอาหารของเย่จิงเหยียน
” ลุกขึ้นๆ นี่เป็นอาหารที่ทำให้พี่สะใภ้ใหญ่เธอกิน ถ้าเธออยากกิน ก็ไปเข้าครัวทำกินเอง! ”
เย่ชูวเสวียแลบลิ้นให้เขา ” ไม่เอาหรอก พี่ชายพี่จะขี้เหนียวเกินไปหน่อยรึเปล่า มันก็แค่อาหารไม่กี่คำไม่ใช่หรอ อีกทั้งยังเป็นอาหารที่พวกพี่กินเหลืออีกด้วย ทำไมถึงให้ฉันกินไม่ได้? ”
เย่จิงเหยียนจ้องหน้าเธอ ” ก็เพราะว่าฉันเป็นคนทำไง! ”
” ถ้าอย่างนั้นฉันยิ่งต้องลอง! ” เย่ชูวเสวียไม่รอให้เย่จิงเหยียนตอบ เธอหยิบตะเกียบแล้วคีบมันเข้าปากคำใหญ่
” หะ? พี่ชาย นี่พี่เป็นคนทำจริงๆหรอ? “ตอนที่เย่ชูวเสวียได้ยินว่าเป็นอาหารที่เย่จิงเหยียนทำเธอก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่พอเอาเข้าปากไปแล้ว รสชาติกลับไม่ได้แย่อย่างที่เธอคิด
ยิ่งกินกลับยิ่งรู้สึกว่ายิ่งอร่อย!
” คิดไม่ถึงเลยว่าพี่มีของดีที่ซ่อนเอาไว้ ถ้าฉันไม่ได้มากะทันหันแบบนี้ ชีวิตนี้คงไม่มีวันได้กินแล้วใช่ไหม? ”
” รู้อยู่แล้วก็ไม่ต้องพุดออกมานะ ” เย่จิงเหยียนไม่อยากอยู่ในห้องครัว พอพูดเสร็จเขาก็เดินออกไปเลย
เย่ชูวเสวียมองไปที่ต้วนอีเหยาอย่างสงสัย ต้วนอีเหยาเบะปาก ” เขาก็นิสัยแบบนี้แหละ เขาน่าจะอายนั่นแหละ ”
” คิดไม่ถึงเลยว่าพี่ชายจะมีของดีซ่อนไว้มากมายขนาดนี้ ” เย่ชูวเสวียก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ และเธอก็จัดการกับอาหารบนโต๊ะต่อไป
……
” ถึงแล้ว ”
เสี่ยวอวี้หลินจอดรถที่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง แล้วพูดเตือนเธอเบาๆ
ตรงหน้าของพวกเขาคือประตูที่สร้างแบบแนวย้อนยุคอันงดงาม มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในจังหวัดนี้ และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับท็อปเท็นของประเทศอีกด้วย
เสี่ยวอวี้หลินมองเซี่ยอันน่าผ่านกระจกหลัง เธอนั่งอยู่ตรงเบาะหลังและไม่มีทีท่าที่จะลงจากรถเลยสักนิด
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆนักศึกษาที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยระดับนี้ได้ ทำไมถึงได้ไปสถานที่แบบผับบาร์แบบนั้น ควรจะเคารพกฎและมีวินัยในตัวเองไม่ใช่หรอ?
” ตอนนี้คนเยอะ รออีกสักหน่อยฉันค่อยลงได้ไหม? ” เซี่ยอันน่าเงยหน้าขึ้นแล้วถามอย่างเกรงใจ
เวลาที่พวกเขามาถึงมันเป็นเวลาที่จะเข้าเรียนพอดี นักศึกษาเดินผ่านรถของพวกเขาไปทีละกลุ่มๆ
รถเฟอร์รารี่สีเหลืองมันโดดเด่นเป็นพิเศษ ทุกคนก็ต่างอยากรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ข้างในรถคือใคร แต่ว่ากระจกกันแสงบดบังใบหน้าคนคนในรถไว้
เสี่ยวอวี้หลินพยักหน้า ” ถึงยังไงฉันก็ไม่มีธุระอะไร รอก็รอ ”
ทั้งสองนั่งอยู่ในรถ ไม่มีใครพูดขึ้นมาก่อนเลย เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกสงสัยเล็กน้อย เลยถามขึ้นว่า ” เมื่อวาน……ทำไมต้องไปที่นั่นด้วย? ”
” ฉัน……” เซี่ยอันน่ายิ้มอย่างขมขื่น ” มันผ่านไปแล้ว ต่อไปจะไม่ทำเรื่องโง่ๆแบบนี้อีก ”
” เพราะผู้ชายหรอ? ” เสี่ยงอวี้หลินลองถามดู เขาจำได้ก่อนที่เขาจะเอาตัวออกจากเธอ เธอดึงเขาไว้ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อย เห็นได้ชัดเจนว่าเธอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายอีกคน
เซี่ยวอันน่าเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ ” ฉันพูดอะไรออกไปกับคุณบ้างหรอ? ”
” เรื่องสำคัญน่าจะพูดทั้งหมดแล้วแหละ ” เสี่ยวอวี้หลินอดทนไว้พยายามไม่ให้ตัวเองยิ้ม เขาตั้งใจจะแกล้งเธอ
” เป็นไปได้ยังไง……ถ้าอย่างนั้นฉัน……” เซี่ยอันน่าขยับตัวไปมาอย่างวุ่นวายใจ ” ถ้าอย่างนั้นเรื่องของเขาฉันก็เล่าไปแล้วหรอ? ”
” ไม่ใช่แค่เล่านะ ยังคิดว่าฉันเป็นเขาอีกด้วย ไม่อย่างนั้นทำไมตอนเช้านี้ตอนที่เธอตื่นมาถึงมานอนในอ้อมแขนฉันได้ละ? ”
” หะ? ” เซี่ยอันน่าตกใจมากขึ้นไปอีก ” ฉันคงไม่ได้ทำเรื่องอะไรเสียหายกับคุณใช่ไหม? ”
เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนที่เธอเมาเธอจะเป็นยังไง แต่ว่าเมื่อวานมันเจ็บปวดมากจริงๆ ดื่มไวน์คนเดียว แค่สองสามแก้วก็รู้สึกมึนๆเมาๆแล้ว
เสี่ยวอวี้หลินก้มไปมองเธอ ” จูบฉัน สัมผัสตัวฉัน และยังกอดฉันไว้ไม่ยอมปล่อยอีก แบบนี้ถือว่าใช่ไหไหม? ”
” หะ! ”
เซี่ยอันน่าอุทานออกมา พอตระหนักได้เธอก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปาก ” ฉันทำเรื่อง……เรื่องแบบนั้นจริงหรอ? ”
เธอคิดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ตัวเองเมาตัวเองจะเป็นคนแบบนั้น เปลี่ยนไปราวกับคนละคน!
” แน่นอนสิ ตอนเช้าที่ฉันตื่นมามีแต่น้ำลายของเธอเต็มไปหมด ฉันขยะแขยงแทบแย่! ” เสี่ยวอวี้หลินพูดอยู่ก็ราวกับว่าคิดถึงเรื่องอะไรบางอย่างแล้วเขาก็จามออกมา
พอเซี่ยอันน่าเห็นปฏิกิริยาที่เล่นใหญ่ขนาดนี้ของเขา ก็เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เธอเอามือปิดหน้าตัวเองไว้แล้วก้มหน้าลง ” ทำไมคุณไม่ห้ามฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ! ”
ในแววตาของเสี่ยวอวี้หลินมีความอยากแกล้งเธอแฝงอยู่ ” เธอไม่รู้ตัวหรอว่าตัวเองตอนเมาเป็นยังไง ฉันจะไปห้ามเธอได้ยังไง? อีกเรื่อง เธอบอกว่าเธอดื่มจนเมา ใครจะไปรู้ว่าเธอตั้งใจหรือเปล่า? ”
” อาจจะเห็นว่าฉันหล่อ หน้าตาดีเลยแกล้งเมา อันนี้ฉันก็ไม่รู้อะไรเลย! ”
” ไม่ๆๆๆ ” เซี่ยอันน่ารีบยกมือโบกไปมาเพื่อปฏิเสธ ” ฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ฉันเมาจริงๆ เรื่องเมื่อคืนฉันจำอะไรไม่ได้เลย! ”
เสี่ยวอวี้หลินไปไปมองด้วยสีหน้าจริงจัง “เธอทำกับฉันราวกับว่าฉันเป็นคนง่ายๆ ตอนนี้ยังเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมรับอีก ถ้าเธอจะปฏิเสธจริงๆ ฉันก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ถึงยังไงในห้องพักของโรงแรมก็ไม่มีกล้องวงจรปิดสักหน่อย ”
” เธออยากไปก็ไปเถอะ ฉันก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ต้องการความรับผิดชอบอะไรหรอก ” เสี่ยวอวี้หลินนั่งทำท่าเสียใจอยู่ในรถ และเปิดประตูให้เซี่ยอันน่าด้วยตัวเอง
เซี่ยอันน่าวางมือไว้ตรงที่เปิดประตูรถ แต่เธอกลับทำใจไม่ได้ ทั้งๆที่เธอเป็นคนที่เสียเปรียบ แต่พอเสี่ยวอวี้หลินพุดแบบนั้นราวกับเธอเป็นคนกระทำผิดอย่างนั้นแหละ ถ้าเธอไม่ปลอบเขา ตัวเธอเองก็จะกระวนกระวายใจ
” ฉัน…….
” ไปเถอะๆ ฉันไม่เป็นไร ” เสี่ยวอวี้หลินอดทนไว้ไม่ให้หัวเราะออกมา เขาอยากหัวเราะตั้งนานแล้ว ต่อเพื่อแกล้งเธอก็เลยอดทนได้จนมาถึงตอนนี้
ยิ่งเขาพุดแบบนี้เซี่ยอันน่าก็ยิ่งรู้สึกเศร้ามากขึ้น เอื้อมมือไปสัมผัสบนศีรษะเขาเบาๆ ” ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณไม่ต้องเสียใจนะ ”
เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกได้ถึงมือเล็กที่สัมผัสอยู่บนศีรษะ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึงใจสั่นและหวั่นไหว
เขาขยับศีรษะให้ออกจากมือเซี่ยอันน่า ” ฉันไม่ได้เสียใจจริงๆ เธอรีบเข้าไปเถอะ ”
เซี่ยอันน่าเหลือบไปมองหน้าประตูโรงเรียน นักศึกษาน้อยลงแล้ว นานๆจะมีผ่านมาสักคน เธอเองก็ไม่รู้สึกพวกเขาเลย เธอกำลังตัดสินใจว่าว่าจะลงรถดีหรือไม่ แต่พอหันกลับมามองเสี่ยวอวี้หลินที่เอามือกุมขมับอยู่ เธอก็รู้สึกเศร้านิดหน่อย ”
เธอลองถามเขา ” คุณไม่ได้เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม? ”
” ไม่เป็นไรๆ เธอรีบไปเถอะ! ” เสี่ยวอวี้หลอนรู้สึกรำคาญเล็กน้อย ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้คงไม่แกล้งสาวน้อยคนนี้แต่แรกแล้ว เอาแต่ถารมอยู่นั่นแหละ คงไม่ใช่เพราะว่าหลงเสน่ห์เฉพาะตัวของเขาเข้าหรอกนะ?
เซี่ยอันน่าไม่ฟังคำพูดของเขาและไม่ยอมเปิดประตูรถสักที เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกประหลาดใจเลยหันไปมอง พอเห็นว่าเธอจ้องเขาอย่างใจจดใจจ่อ เลยถามเธอกลับไปว่า ” มีอะไร? ”
” ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันต้องทำยังไงคุณถึงจะไม่เสียใจ? ”
” ฉันไม่ได้เสียใจจริงๆ! ” เสี่ยวอวี้หลนพูดเน้นเสียงแข็ง
เซี่ยอันน่าไม่ได้พูดอะไร เอาแต่มองเขานิ่งๆ ทำให้เสี่ยวอวี้หลินตื่นตระหนก ผ่านไปสักพัก เขาก็พูดขึ้นอย่างกับคนติดอ่าง ” คือว่า……ถ้า……ถ้าเธออยากตอบแทนฉันจริงๆก็ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้แล้วกัน ”
” เพราะอะไร? ” นี่มันไม่เหมือนเป็นการตอบแทนเลย
” ให้ฉันคิดตอนนี้ ฉันจะไปคิดออกได้ยังไง แน่นอนว่าขอเบอร์โทรศัพท์ไว้จะได้ติดต่อเธอได้ง่ายๆไง! ไม่อย่างนั้นพอถึงเวลาแล้วเธอหนีไป ฉันจะไปหาเธอจากที่ไหนละ? ”
เสี่ยวอวี้หลินก็แค่หาข้ออ้างง่ายๆ เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้มีความคิดที่จะขอเบอร์เธอเอาไว้ ก็แค่จู่ๆความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวก็เลยพูดออกมา
เซี่ยอันน่ามองเขาอยู่สักพัก และหาเหตุผลที่ต้องปฏิเสธไม่เจอ ถึงยังไงเธอก็เป็นคนก่อเรื่อง ทำได้เพียงฉีกกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากระเป่า ” ฉึกฉักๆๆ ” เขียนตัวเลขลงไปบนกระดาษ
” ถ้าคุณคิดออกแล้วก็โทรหาฉันนะ ” ในขณะที่พุดก็ยื่นกระดาษในมือให้เสี่ยวอวี้หลิน
เสี่ยวอวี้หลินรีบกระดาษมา แล้วทำมือโอเคให้เธอ เซี่ยอันน่าเหมือนว่ายังอยากพูดอะไรบางอย่าง เธอคิดไปคิดมาสุดท้ายก็ไม่ได้พุดออกมา เธอเปิดประตูแล้วเดินออกจากรถไปเลย
พอเธอยืนย่างมั่นคงแล้ว เสี่ยวอวี้หลินก็ไม่ได้ล่ำลาอะไรเธอมาก เขาเหยียบคันเร่งแล้วขับออกไปเลย
เซี่ยอันน่ายินอยู่ข้างถนน มีชั่วขณะหนึ่งที่เธอใจลอย คืนนี้ มันเหมือนกับเป็นความฝัน ในฝันมีโรงแรมหรู มีรถหรู และมีผู้ชายรูปหล่อ
พอตื่นจากความฝัน เธอก็กลับมาเป็นนักศึกษาคนหนึ่ง ต้องปฏิบัติตามกฎตลอดเวลา ไม่หนีเรียน ไม่โดดเรียน ไม่มาสาย ไม่กลับก่อน
ก่อนที่จะลงรถจริงๆแล้วเธออยากจะบอกกับเสี่ยวอวี้หลินว่าห้ามโทรมาในเวลาเรียน เพราะว่าเธออาจจะไม่ได้รับสาย แต่พอเอากลับมาคิดดูอีกที เจ้าชายแบบเขา ต้องการผู้หญิงแบบไหนก็มีให้เขาอยู่แล้ว เขาจะมาระลึกถึงคงเธอได้ยังไงกัน?
ไม่แน่พอกลับถึงบ้านอาจจะเอาแผ่นกระดาษที่เธอให้ไปทิ้งลงขยะก็เป็นได้
เมื่อกี้ที่คุยการเรื่องการตอบแทน เธอรู้อยู่แล้วเสี่ยวอวี้หลินแค่แกล้ง ดูจากภาพลักษณ์ของเขาก็รู้ว่าเขาเป็นคนเสเพล
แค่โดนจูบไปทีสองทีทำราวกับว่าเป็นเรื่องร้ายแรงใหญ่เท่าฟ้าอย่างนั้นแหละ
” หยุดคิด หยุดคิด หยุดคิด! “เซี่ยอันน่าตบหน้าผากตัวเองและเดินเข้าประตูมหาวิทยาลัยไปพร้อมกับถุงผ้าของเธอ
เสี่ยวอวี้หลินมองท่าทางของเซี่ยอันน่าผ่านกระจกหลัง อดไม่ได้ที่จะยิ้ม ยัยสาวน้อยคนนี้ คิดอะไรอยู่เนี่ย บ้าๆบอๆ……
……
เย่จิงเหยียนนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เขาเงียบไม่พูดอะไร แต่อีด้านหนึ่ง เย่ชูวเสวียและต้วนอีเหยากลับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
เขาส่งเสียง ” หึ ” ออกมาหนึ่งที แล้วใช้สายตาอาฆาตมองไปที่เย่ชูวเสวีย
ตั้งแต่ที่เย่ชูวเสวียเริ่มกินข้าวเขาก็เข้าใจเลยทันทีว่าทำไมพ่อแม่ต้องไล่เธออกมา เอาแต่อยู่ตัวติดกับเมียคนอื่นอยู่ได้ จะไม่ให้โกรธได้ไง
ก่อนหน้าที่เธอจะมา อีเหยาเป็นของเขาแค่คนเดียว พอตอนนี้เธอมา ก็เอาแต่พาเมียเขาเดินไปนั่นไปนี่ และคุยกันตลอดเวลา โดยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป อย่าบอกว่ากี่เดือนเลย แค่วันเดียว เขาก็สุดจะทนแล้ว!
” พี่อีเหยา ต่างหูของพี่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ตลอดเลย? วันนี้ฉันเอาต่างหูที่พึ่งออกใหม่มาด้วย มาสิ เดี๋ยวฉันลองใส่ให้พี่ ”
เย่ชูวเสวียดึงต้วนอีเหยาให้มานั่งตรงหน้าตัวเอง เปิดกล่องของเธอที่เธอเอามาด้วยออก ด้านในมีเต็มไปด้วยเครื่องประดับเงินและทองทุกชนิด
ต้วนอีเหยานั่งลงบนโซฟาอย่างไม่ทันตั้งตัว ” ฉันรู้สึกว่าจี้อันนี้เรียบง่ายดี แล้วมันก็เหมาะกับพี่ ก็เลยใส่……”
” โอ้ นี่เป็นเพราะพี่ไม่เข้าใจ ผู้หญิงเราต้องมีเครื่องประดับและเสื้อผ้าสวยๆ ไว้ จะได้ยิ่งอยู่ยิ่งสวยขึ้นเรื่อยๆ”
เย่ชูวเสวียเลือกหยิบจี้ที่ทั้งเรียวและยาวออกมา ในขณะที่เธอพูดก็พลางใส่ต่างหูให้เธอไปด้วย
” เป็นยังไง? ฉันบอกแล้วว่าอันนี้เหมาะกับพี่ พี่ว่าไหม?” เย่ชูวเสวียปรบมืออย่างพึงพอใจกับผลงานชิ้นเอกของตัวเอง
ต้วนอีเหยาเอียงหัวและมองดุต่างหูใหม่ของตัวเองในกระจกอย่างระเอียด เดิมทีหน้าของเธอก็ไม่ใหญ่อยู่แล้ว แต่พอใส่ต่างหูอันนี้ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์มากขึ้นเยอะมาก
” นี่……สวยหรอ? “ต้วนอีเหยาขมวดคิ้ว เธอดูไม่ออกเลยจริงๆว่ามันไม่เหมือนกันตรงไหน ก็แค่รู้สึกหนักๆที่หูมากขึ้นเท่านั้นเอง