วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ - บทที่ 432 ระวังใจให้ดี
เซี่ยอันน่าที่มือข้างหนึ่งถือเครป และมืออีกข้างถือเสื้อเชิ้ต ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาซื้อเสื้อให้ผู้ชาย และเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกโล่งใจ สบายใจแบบนี้
แบบนี้ก็เธอก็ไม่ได้ติดค้างอะไรเสี่ยวอวี้หลินแล้ว ความรู้สึกแบบนี้ดีมากๆ
เอ๊ะ แต่คิดไปคิดมา เหมือนเซียวอวี้หลินยังติดค้างเธออยู่ เพราะเขาทำไม่ดีกับเธอนี่นา แต่ช่างเถอะ เธอไม่สนใจแล้ว
“เห็นหรือยัง? แบบนี้ซิเขาถึงเรียกว่าเสื้อผ้า” เซี่ยอันน่าพูดอย่างเย่อหยิ่ง “ฉันบอกนายแล้ว เสื้อผ้าของที่นี่ คุณภาพก็ไม่ได้ต่างจากที่ที่นายเคยซื้อมากหรอก เพราะจริงๆแล้ว เสื้อผ้าที่นั่นก็นำเข้าจากที่นี่ทั้งนั้นแหละ”
เสี่ยวอวี้หลินมองเธอที่พูดอย่างเย่อหยิ่ง ยัยบ๊องนี่แยกไม่ออกเลยหรือว่าอะไรคือของแบรนด์เนมอะไรคือของตลาด?
ยัยบ๊องเอ้ย เธอนี่ทำให้เขาปวดหัวจริงๆ แต่อย่างไรซะ เขาก็ยังมีความสุขกับคำพูดที่เธอบอกว่าให้เขาค่อยๆเลือก เดี๋ยวเธอจะซื้อให้อยุ่
ยัยบ๊องนี่ น่ารักเกินไปแล้ว !
“อืมๆๆ เธอพูดถูก” เสี่ยวอวี้หลินยิ้มเบาๆ
เซี่ยอันน่าได้ยินแบบนั้น ก็ทำหน้าดีอกดีใจ
“ฉันลองอันนี้?” เห็นรอยยิ้มของเซี่ยอันน่าแล้ว เขารู้สึกเหมือนชีวิตสดใสมากขึ้น
เซี่ยอันน่าเห็นสายตาของเขาที่มองเธอแล้ว ก็รู้สึกเขินจนหน้าแดง เหมือนเด็กสาวที่ถูกชายหนุ่มสารภาพรัก เอ่อ..ไม่ เธอไม่ใช่เด็กสาวซะหน่อย
“จุ๊บ” เซี่ยอันน่ารับรู้ได้ถึงแก้มด้านซ้ายของเธอถูกสัมผัสด้วยอะไรซักอย่าง
“เสี่ยวอวี้หลิน…นาย….” เมื่อเซี่ยอันน่าตั้งสติได้ ก็รู้ว่าเมื่อกี้ที่เธอเผลอ ได้ถูกเสี่ยวอวี้หลินจุ้บที่แก้มไปหนึ่งที และมองเธอด้วยสายตาหลงใหล “เอ่อฉัน..ฉัน…แค่รู้สึกว่าไอ้ที่เธอถือในมือมันน่าอร่อยดี”
เสี่ยวอวี้หลินพูดจบก็คิดว่า ตัวเองเป็นอะไรไปแล้วเนี้ย? พูดแก้ตัวอะไรออกมา ก็แค่จูบเอง ผู้หญิงในเมืองนี้หลายต่อหลายคนอยากให้เขาจูบจะตาย แต่ทำไมหลังจากที่เขาจูบเธอแล้ว กลับต้องมาหาข้อแก้ตัวบ้าๆบอๆอะไรแบบนี้ นี่มันไม่ใช่นิสัยเขาเลย
พนักงานมองเห็นสีหน้าของเซี่ยอันน่าก็รู้งาน และเดินมาพูดกับเธอว่า
“สาวน้อย แฟนของคุณดูดีมาก เหมาะกับเสื้อเชิ้ตตัวสีฟ้าไพลินตัวนี้จริงๆ แต่เพราะเป็นแบบใหม่ของทางร้าน ราคาจึงอาจจะแพงนิดหน่อยนะคะ” พนักงานพูดขึ้น
สีฟ้าไพลินหรือ? นึกขึ้นได่ว่ามีพิธีกรอยู่คนหนึ่งที่ไปทำรายการที่ชนบท และเธอไปบังเอิญเจอตอนที่เขาถ่ายทำอยู่พอ พิธีกรคนนั้นชอบสีฟ้าไพลินมากที่สุด
“จริงหรือคะ?” เซี่ยอันน่าลองหยิบชุดมาทาบบนตัวของเสี่ยวอวี้หลิน “หล่อจริงๆ เหมือนพิธีกรคนนั้นเลย ดูสมาร์ทมากๆ”
เขาทายสิ่งที่เธอคิดออก แต่จะว่าไปการกระทำของเธอ ที่เอาเสื้อมาทาบบนตัวเขาแบบนี้ ก็ทำให้ใจของเขากระตุกแปลกๆ
“เท่าไหร่คะ? พวกเราเอาตัวนี้แหละ” เซี่ยอันน่ามองไปที่เสื้ออย่างมีความสุข พร้อมกับลูบเนื้อของเสื้อไปมา “อืม คุณภาพไม่ต่างจากที่นั่นเลย”
เจ้าของร้านได้ยินที่เธอชม ก็ยิ้มชอบอกชอบใจ “แน่นอนค่ะ ร้านเรานำเข้ามาอย่างดี คุณภาพไม่แย่แน่นอนค่ะ”
“ตัวนี้ 200 ค่ะ แต่เพราะคุณเป็นลูกค้าประจำ เราลด 20% เหลือ 160 ค่ะ” เจ้าของร้านพูดไป พับเสื้อผ้าใส่ถุงให้เซี่ยอันน่าไป
เซี่ยอันน่าขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามว่า “ครั้งก่อนที่มาเหมือนเห็นป้ายราคาบอกว่า 100 นึงนี่คะ”
ครั้งก่อน? ยัยนี่เคยมาที่นี่แล้ว? เคยมาซื้อเสื้อผ้าให้ใคร? ว่าแล้วมันแปลกๆ ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง
“สาวน้อย คุณน่าจะจำผิดนะ น่าจะเป็นสีฟ้าน้ำทะเล ไม่ใช่สีฟ้าไพลิน” เจ้าของร้านรีบพูดขึ้น จะให้ยอมรับว่าตัวเองขึ้นราคาได้อย่างไรกัน
“ก็ได้ค่ะ 160 ก็ 160 ไม่ใช่ว่าซื้อไม่ได้สักหน่อย” เซี่ยอันน่าพูดจบ ก็หยิบเงินออกมาจ่าย
“หึ ความรู้สึกตอนใช้เงินคนอื่นคงไม่เหมือนกันซินะ” เสี่ยวอวี้หลินพึมพำ
เซี่ยอันน่าเห็นเขามองมาที่เธอ จึงถามว่า “อยากกินเครปนี้หรือ? ฉันซื้อให้เอาไหม?”
ที่แท้ เขาเอาแต่จ้องเธอ เพราะอยากกินเครปนี้ซินะ
เซียวอวี้หลินขำก๊าก ยัยนี่โง่จริงๆหรือแกล้งเนี่ย?
“เซี่ยอันน่า ก่อนหน้านี้เธอเคยมาซื้อเสื้อผ้าให้ใครกันแน่? ทำไมถึงเคยเห็นเสื้อตัวนี้ที่นี่?” เสี่ยวอวี้หลินหรี่ตาถาม
“อีกแปป เดี๋ยวฉันบอก ” เซี่ยอันน่าตอบกลับ พร้อมกับกินเครปในมือไปด้วย
แหมะ เพียงชั่วพริบตา ซอสในเครปก็หยดลง
“อ่า?” เซี่ยอันน่ามองดูรองเท้าเธอที่โดนซอสหยดใส่อย่างเศร้าๆ
“มีอะไร?” เสี่ยวอวี้หลินถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเธอ
“ซอสหยดใส่รองเท้าสีขาวน่ะซิ” เซี่ยอันน่าใส่รองเท้าสีขาวที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้ และซอสที่หยดใส่ก็ซักออกยากมากเสียด้วย
เสี่ยวอวี้หลินไม่เข้าใจ แค่รองเท้าโดนซอสหยดใส่รองเท้าคู่เดียว มันจะอะไรขนาดนี้ ดูๆแล้วก็ไม่น่าจะแพงอะไรเลย
“ถอดออกมา!” เสี่ยวอวี้หลินพูดเสียงดัง
“ทำไมล่ะ?” เซี่ยอันน่าถามกลับเสียงดังเหมือนกัน จนคนรอบข้างมอง
เสี่ยวอวี้หลินไม่อดทนรอ เขาอุ้มเธอไปที่รถ และไม่ลืมที่จะถอดรองเท้าเธอโยนทิ้งด้วย
“เฮ้ เสี่ยวอวี้หลิน นายจะทำอะไร?” เซี่ยอันน่าถาม พร้อมกับดิ้นไปมา
“รองเท้าสกปรกแล้ว ก็ไม่ต้องใส่ เธอซื้อเสื้อให้ฉัน เดี๋ยวฉันซื้อรองเท้าให้เธอบ้าง แฟร์ๆ”
ได้ยินที่เขาพูด เซี่ยอันน่าก็คลายกังวล
แต่ทำไมเขาขับรถไปทางคอนโดหรูของเขาล่ะ?
เมื่อถึงชั้นล่างของคอนโด เซี่ยอันน่ามองเขาอย่างไม่เข้าใจและถามว่า
“นายจะทำอะไรกันแน่?”
“ฉันไม่รู้” เสี่ยวอวี้ไม่รู้และไม่เข้าใจอารมณ์ของตัวเอง เมื่อนึกว่าเธอกำลังไปดูเสื้อผ้าให้กับผู้ชายคนอื่น ก็รู้สึกไม่ชอบใจมาก
เสี่ยวอวี้หลินนั่งนิ่งอยู่ในรถพักใหญ่ ภายในใจเขาสับสนมาก
“เสี่ยวอวี้หลิน นายคงไม่ใช่ได้ตกหลุมรักฉันหรอกใช่ไหม?” เซี่ยอันน่าพูดแบบรำคาญๆไม่ได้ใส่ใจ
“ถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะ ถ้า…ฉันตกหลุมรัก..เธอก็ตกหลุม..รักฉัน…” เสี่ยวอวี้หลินพูดไม่ได้ศัพท์ ถึงแม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ต้องยอมรับเลยว่าเธอทำให้ใจเขาเต้นแรงมากเลยทีเดียว
เซี่ยอันน่าแกล้งเมินไม่สนใจคำพูดเขา และพูดต่อว่า
“นายโยนรองเท้าฉันทิ้ง นายต้องชดใช้” เซี่ยอันน่าพูดจบ ก็นึกขึ้นได้ นี่มันเหมือนคำพูดที่เอาไว้ใช้กับแฟนเลยนี่นา
พอคิดได้แบบนั้น เธอก็หน้าแดงขึ้นมา
เธอมองเสี่ยวอวี้หลิน สายตาที่น่าหลงใหลคู่นั่น ดูมีเสน่ห์มาก
“ก็ไปซิ!” เสี่ยวอวี้หลินเดินลงมาเปิดประตูแลมโบกินี่ และอุ้มเธอลงมาจากรถ เดินเข้าคอนโดไป
ตอนนี้เขาไม่ต้องการใครแล้ว เขาต้องการแค่ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดเขาเท่านั้น
ลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่เขาอยู่ เสี่ยวอวี้หลินอุ้มเธอเดินเข้าห้องไป
ตอนนี้เซี่ยอันน่าช็อกไปแล้ว เธอไม่เคยโดนผู้ชายอุ้มแบบนี้มาก่อน แถมยังเพิ่งรู้จักได้ไม่นานอีกด้วย
“นาย..นายจะทำอะไร?” เซี่ยอันน่าถามตะกุกตะกัก
“ก็….”
จากนั้นเขาก็บรรจงจูบไปที่ริมฝีปากของเธอ เป็นการอธิบายคำพูดต่อจากเมื่อกี้
“เสี่ยวอวี้หลิน นาย…นายออกไปนะ” เซี่ยอันน่าพูดและทุบเขา แต่เสี่ยวอวี้หลินไม่รู้สึกเจ็บอะไร
เขากอดเอวเธอไว้ และจูบอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง….
“อู้อี้ๆ” เซี่ยอันน่าพยายามจะพูดต่อต้าน แต่เพราะโดนปิดปากไว้แบบนี้ ทำให้ไม่มีเสียงใดๆออกมา
เสี่ยวอวี้หลินจูบเธอลึกซึ้งมากขึ้น จนรับรู้ได้ถึงรสชาติของซอสเครปเมื่อกี้ และรับรู้ได้ถึงรสชาติความหอมหวานของรอยจูบหญิงสาวคนนี้
เซี่ยอันน่าเคลิ้มไปกับรอยจูบของเขา ค่อยๆหลับตาพริ้ม…
“หลิน…” เซี่ยอันน่าไม่รู้ตัวว่าทำไมถึงกล้าเรียกเขาแบบนี้
“ทำไมหรือ?” เสี่ยวอวี้หลินถามกลับด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงของเขาทำให้เซี่ยอันน่ายิ่งลุ่มหลง
“อื้อ หลิน” เธอค่อยๆกอดเขากลับ
เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกพอใจมากกับอ้อมกอดของเธอ เขากระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ
และเขาก็หยุด !
“อ่า?” เซี่ยอันน่างงกับการกระทำของเขา ทำไมอยู่ๆก็หยุด?
จากนั้นเธอรู้สึกเย็นๆที่หลัง พอตั้งใจคิดดู ถึงได้รู้ว่าถูกเขาดึงเสื้อขึ้นแล้ว
“เสี่ยวอวี้หลิน นาย……” เซี่ยอันน่าถลึงตาใส่เขา แต่ก็ไม่มีแรงจะขัดขืนอะไร
และแล้วฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดลง…
“เสี่ยวอวี้หลิน” เซี่ยอันน่าทนความรู้สึกนี้ไม่ไหวแล้ว
ช่างมันเถอะ ตั้งแต่วันนี้ไปเธอจะไม่เจอหน้าเสี่ยวอวี้หลินอีก แต่ว่าตอนนี้ ช่วงเวลานี้ เธอต้องการเขามาก เธอไม่อาจจะต่อต้านสิ่งที่ใจสั่งการได้อีกแล้ว
“เป็นไง? ฉันเก่งไหม?” น้ำเสียงของเสี่ยวอวี้หลินช่างน่าหลงใหล จนเซี่ยอันน่าโง่หัวไม่ขึ้น
“ฉันไม่เคยทำแบบนี้กับผู้ชายคนไหน ฉันไม่รู้” เซี่ยอันน่ากล่าว
“หลิน…อือ…อ่า..” เซี่ยอันน่าค่อยๆเอนตัวลงนอน
จากนั้นเสี่ยวอวี้หลินก็ค่อยๆโอบกอดเธอ บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความโรแมนติก…
ห้องของเสี่ยวอวี้หลินอยู่ชั้นบนสุด ชั้นที่ 33
เมื่อเดินเข้ามา เขาไม่ได้ปิดม่าน เพราะทั้งสองกำลังมีอารมณ์ที่หึกเฮิมอยู่ และอีกอย่าง เขาก็ชอบอารมณ์ที่มีแสงแดดส่องเข้ามากระทบตัวแบบนี้
เซี่ยอันน่าหน้าแดงมาก จนทำให้คนที่เห็นอดใจไม่ไหว….
แสงแดดจากภายนอกที่สองเข้ามากระทบใบหน้าของเซี่ยอันน่า ทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากกว่าเดิม
“เสี่ยวอวี้หลิน…นาย….” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ ก็โดนเขาพูดแทรกขึ้น
“เป็นไงชอบไหม?” เสี่ยวอวี้หลินกระซิบที่ข้างหูเธอ
และเวลาก็ดำเนินไป ท้องฟ้าของนอกค่อยๆเปลี่ยน พระอาทิตย์ค่อยๆเลื่อนลาลับ
เซี่ยอันน่ามองไปที่ร่างอันแข็งแรงของเสี่ยวอวี้หลิน แม้ในใจเธอจะมีความสุขมาก
แต่อีกใจหนึ่ง เธอกลับรู้สึกเหมือนเธอเล่นกับไฟ เขาเปรียบเสมือนยาพิษที่มีรสชาติหอมหวาน รู้ว่าตอนจบจะต้องเสียใจ แต่เธอก็ยอม
“เป็นอะไรยังคิดอยู่หรือ?” เสี่ยวอวี้หลินกระตุกยิ้มเล็กน้อย ก็ตกหัวใจของเซี่ยอันน่าไปครองได้อย่างง่ายดาย
เซี่ยอันน่าคิดไปคิดมา นี่เป็นสิ่งที่เธอต้องการจริงหรือ? ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ มีอะไรดีขนาดนั้นเลยหรือ?
ถึงแม้มันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้อยากตกเป็นแค่สิ่งของของเขา หรือไม่ต้องการให้คนมองเธอเกาะเขากิน
และความจริงอีกอย่างคือ เขาและเธอต่างก็ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรของกันและกันเลย
เขาทั้งสองก็แค่บังเอิญมาเจอ มารู้จักกัน จากนั้นก็ตอบสนองความต้องการของแต่ละคนเท่านั้น
ท้องฟ้าค่อยๆเปลี่ยนสี และกว่าเซี่ยอันน่าจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว