วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ - บทที่ 453 : ความเข้าใจผิดที่ถูกทับถม
ชีวิตของเซี่ยอันน่า เปลี่ยนมาเป็นแบบการอยู่หอพัก โรงอาหารและห้องเรียนใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่แค่สามที่เป็นเส้นตรง
แม้ชีวิตจะเงียบสงบ แต่กระเป๋าเงินของเซี่ยอันน่ากลับเหี่ยวแห้ง
เห็นแบงค์สีแดงเหลืออยู่ในกระเป๋าอยู่แค่ใบเดียว เซี่ยอันน่าก็ถอนหายใจออกมา
ถ้าครั้งที่แล้วไม่ทำให้บทบาทนั่นหายไป เซี่ยอันน่าคงหาเงินได้มากกว่านี้ เมื่อทำได้ไม่ดีค่าเทอมสำหรับเทอมหน้าก็หายไป
แต่ตอนนี้ แค่จะทำให้ท้องอิ่มก็ยังยากเลย
ไม่ได้ คิดๆหาวิธีสิ ไม่อย่างนั้นหิวตายแน่
เซี่ยอันน่าหยิบเอาเอกสารการเรียนเข้ากระเป๋านักเรียนแล้วเดินออกจากประตูไป
เดินมาถึงร้านกาแฟที่อยู่หน้าโรงเรียน เซี่ยอันน่าก็ผลักประตูเข้าไป
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับนะคะ”
“อ้อ สวัสดีค่ะ ฉันขอถามพวกคุณหน่อยนะคะว่าที่นี่ต้องการพนักงานพาร์ทไทม์ไหมคะ? ”
“รอสักครู่นะคะ ฉันจะไปถามเจ้าของร้านให้ค่ะ”
“รบกวนด้วยนะคะ”
ผ่านไปสักพัก พนักงงานก็กลับมาพูดว่า: “ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้หญิง ที่นี่พวกเรายังไม่รับพาร์ทไทม์ค่ะ”
สีหน้าปรากฏความผิดหวังอยู่เล็กน้อย แต่เซี่ยอันน่ายังคงยิ้มและพูดว่า “อ้อ โอเค ขอบคุณค่ะ”
ออกจากร้านกาแฟไป เซี่ยอันน่าตั้งใจจะไปถามร้านถัดไป
แต่พอเดินอยู่บนถนนก็มีคนเรียกเซี่ยอันน่า
“คุณเซี่ย?”
เมื่อหันกลับไป เซี่ยอันน่าก็เห็นคนที่อยู่ข้างหลังเป็นคนที่คุ้นเคยกันดี
“คุณหวาง”
ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอเป็นชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบกว่าๆ แต่งตัวดี มีทัศนคติและอัธยาศัยดี ไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกถูกข่มเหง
เมื่อก่อนเซี่ยอันน่าสอนพิเศษอยู่ที่บ้านคุณหวาง ติวให้ลูกชายวัยสิบขวบของเขา
คุณหวางขยับแว่นแล้วพูดว่า: “เมื่อกี้เห็นคุณในร้านกาแฟ ได้ยินมาว่าคุณกำลังหางานพาร์ทไทม์อยู่”
“ใช่ค่ะ ช่วงนี้ค่อนข้างขาดเงินค่ะ ต้องทำงานหาเงินบ้าง”
“เอาอย่างนี้ไหม” คุณชายหวางพูดแล้วยิ้ม “การสอบภาษาอังกฤษของเทียนเทียนไม่ค่อยน่าพอใจ ฉันและแม่เขาอยากหาคนสอนพิเศษให้เขาน่ะ เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มสักหน่อย ไม่รู้ว่าเธอจะพอมีเวลาไหม”
ไม่คิดว่าจะมีโชคเข้ามาหาอย่างนี้ เซี่ยอันน่ารีบยิ้มและพยักหน้า พูดว่า “ได้ค่ะ ฉันว่างค่ะ!”
“งั้นดีเลย พวกเราขอเป็นสามวันต่อสัปดาห์และสองชั่วโมงต่อครั้ง เป็นอย่างไร?”
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
“ฉันย้ายบ้านแล้ว นี่เป็นที่อยู่ใหม่ของฉัน คุณพร้อมแล้วก็มาได้เลย”
“รับทราบค่ะ จะไม่ทำให้รอนานนะคะ ช้าสุดอาจเป็นพรุ่งนี้ตอนเย็นก็จะเข้าไปได้แล้วค่ะ”
“โอเค”
หลังคุณหวางเดินจากไป เซี่ยอันน่ากระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
ให้ตายเถอะ วันนี้โชคดีจริงๆ เพิ่งคิดว่าจะหาเงินอย่างไร เงินก็ไหลเข้ามาแล้ว
ดูท่าตัวเองจะเริ่มโชคดีขึ้นแล้ว!
เซี่ยอันน่าหมุนตัวด้วยรอยยิ้ม แต่เกือบชนคนที่อยู่ข้างหลังเธอ
“อะ ขอโทษค่ะขอโทษค่ะ คุณ…..”
ยังไม่ทันจะพูดขอโทษจบ หลังเห็นหน้าคนตรงข้ามแล้ว เซี่ยอันน่าก็ร้องเสียงหลง
“เสี่ยวอวี้หลิน!?”
“ทำไมเธอทำหน้าอย่างนั้น เห็นผีหรือไง?” สีหน้าเสี่ยวอวี้หลินมีแววฉายดุเมื่อมองเซี่ยอันน่า “ดูเธอมีความสุขมากเลยนะถึงกับต้องกระโดดโลดเต้นที่เมื่อกี้ได้คุยกับผู้ชายคนนั้น แล้วทำไมพอเจอฉันถึงทำท่าอย่างกับเจอผีอย่างนั้นล่ะ?”
ผู้ชายคนนั้น?
เซี่ยอันน่านิ่งไปซักพักก่อนจะเข้าใจว่าเสี่ยวอวี้หลินกำลังพูดถึงใคร
เซี่ยอันน่าขมวดคิ้วและถามว่า : “เกี่ยวอะไรกันกับนาย แล้วนายมาทำอะไรที่นี่?”
“ฉันมาทานข้าวแถวนี้ ไม่ได้หรือไง!”
“นายมาทานข้าวอยู่แถวนี้?”
เซี่ยอันน่ามีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย เสี่ยวอวี้หลินพูดขึ้นเสียงเพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง : “ใช่น่ะสิ เธอมีอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่ค่ะไม่กล้าหรอกค่ะ ฉันเป็นคนจนๆตัวเล็กๆคนหนึ่ง จะไปกล้ายุ่งเรื่องของคุณได้อย่างไร”
เสี่ยวอวี้หลินไม่ได้สนใจน้ำเสียงล้อเลียนของเซี่ยอันน่าในขณะนั้น เขากลับถามขึ้นว่า : “คนเมื่อกี้ เป็นใคร?”
“เพื่อนที่รู้จักกันน่ะ”
“เพื่อนอะไร”
ท่าทีเสี่ยวอวี้หลินที่ข่มคนอื่นทำให้เซี่ยอันน่าไม่ชอบเอามากๆถึงกับต้องขมวดคิ้วถาม “เสี่ยวอวี้หลิน นายใจกว้างขึ้นอีกนิดได้ไหม?”
“ฉันก็แค่อยากถาม เธอก็รีบตอบฉันสิ!”
“
“นายถาม ฉันก็ต้องตอบเหรอ? ฉันเบื่อที่จะต้องมาสนใจคุณแล้ว!”
“เธอไม่พูด เพราะมีอะไรปิดบังอยู่ใช่ไหมล่ะ?”
“
“ฉันปิดบังอะไร เพ้อเจ้อ!”
“เพราะเธอคิดที่ไม่อยากบอกคนอื่นไง!”
เสี่ยวอวี้หลินยิ่งพูดยิ่งโกรธ เหตุผลทุกอย่างถูกเผาลงหมดเกลี้ยงและพูดอย่างโมโหว่า : “ไม่แปลกที่ไม่ได้สนใจฉัน ที่แท้เธอก็ชอบผู้ชายแบบนั้นนี่เอง เซี่ยอันน่า ตาเธอบอดหรือไง เขาแต่งงานแล้วแถมยังมีลูกอีก พวกเธอไม่มีทางไปได้ดีหรอกนะ!
“พูดเรื่องบ้าๆอะไรเนี้ย ไร้สาระจริงๆเลย!”
ไม่อยากที่จะบ้าไปกับเสี่ยวอวี้หลิน เซี่ยอันน่าจึงหันหลังเพื่อจะเดินไป
“ฉันยังพูดไม่จบ อย่าเดินหนีนะ!”
เสี่ยวอวี้หลินขวางทางที่เซี่ยอันน่าจะเดินไปและมีท่าทางที่ดูโกรธมากอย่างกับสามีจับได้ว่ามีชู้
เซี่ยอันน่าคิดเพียงว่าเสี่ยวอวี้หลินไม่มีเหตุผลและก่อกวนไม่หยุด จึงเอ่ยเตือนไปว่า “เสี่ยวอวี้หลิน ถ้านายอยากจะบ้า ก็บ้าไปคนเดียว อย่าเหมาฉันไปกับนายด้วย!”
พูดแล้ว เซี่ยอันน่าก็มุดออกจากแขนเสี่ยวอวี้หลินไป พอหลุดออกมาได้ก็วิ่งหนีเลย
“เธอหยุดเลยนะ เซี่ยอันน่า ฉันบอกให้เธอหยุด!”
เสี่ยวอวี้หลินร้องตามหลังโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของตนเอง แต่เซี่ยอันน่ากลับยิ่งวิ่งหนีเร็วขึ้น
เห็นแผ่นหลังของเธอ เสี่ยวอวี้หลินตะโกนตามหลังอย่างโมโหว่า: “เธอตายแน่ยัยเด็กแสบ คิดไม่ถึงเลยนะว่าจะกล้าล่อลวงผู้ชายแบบนั้นได้ ฉันอยากจะรู้นักว่าความรู้สึกของพวกเธอว่ามันมันลึกซึ้งกันแค่ไหน!”
……
เซี่ยอันน่าหาบ้านหวางตามที่อยู่ใหม่และกดออด
“มาแล้วมาแล้ว”
คุณนายหวางเดินมาเปิดประตู หลังเห็นเซี่ยอันน่าเขาจึงเช็ดมือที่ชื้นกับผ้ากันเปื้อนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อันน่าเองเหรอ เข้ามาสิ เทียนเทียนรอเธออยู่นานแล้ว”
“เดินตามคุณนายหวางไปที่ห้องของเทียนเทียน เซี่ยอันน่ายิ้มและทักทายกันกับเขา
“เทียนเทียน”
เมื่อได้ยินเสียงของเซี่ยอันน่า เทียนเทียนก็รีบพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “พี่อันน่า พี่มาแล้ว”
“อืม พี่มาสอนพิเศษให้นายน่ะ พวกเราเริ่มกันเลยดีไหม?’
“ดีเลยครับ”
เซี่ยอันน่าทบทวนการบ้านมาล่วงหน้า เมื่อรู้ว่าตรงไหนที่เทียนเทียนค่อนข้างอ่อน เธอจะได้เน้นทบทวนเป็นพิเศษ
เทียนเทียนตั้งใจฟังมากและยังจดตามไปด้วยเป็นครั้งคราว
ท่าทางแบบนี้ของเขาทำให้เซี่ยอันน่ารู้สึกคล้อยตามไปด้วย บางครั้งก็อธิบายให้ละเอียดมากที่สุด ตรงไหนที่เทียนเทียนไม่เข้าใจ เซี่ยอันน่าก็จะช้าลงเพื่อให้เทียนเทียนรับได้ทั้งหมด
ก๊อกก๊อก——
มีคนมาเคาะประตู หลังจากนั้นคุณนายหวางก็ถือจานเดินเข้ามา
“อันน่า ทานผลไม้กันเถอะ”
“ขอบคุณค่ะคุณนายหวาง”
พูดคุยกับเซี่ยอันน่าเสร็จ คุณนายหวางก็พูดกับเทียนเทียนว่า: “เทียนเทียนครับลูกต้องเอาใจใส่เรียนหน่อยนะ ตอนสอบครั้งหน้าต้องตั้งใจหน่อย อย่าเอาคะแนนสอบน้อยๆแบบนั้นมาทำให้แม่และพ่อถูกเอ่ยชื่อนะ”
เทียนเทียนหงุดหงิดขึ้นนิดหน่อยจึงพูดว่า: “ครับผม รู้แล้วครับแม่ แม่อย่ามารบกวนพวกเราเรียนเลย’
“เด็กคนนี้ งั้นเซี่ยอันน่า ต้องลำบากเธอแล้วนะ”
“คุณนายเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ”
เดินออกจากห้องไป คุณนายหวางมองเทียนเทียนและเซี่ยอันน่านั่งอยู่ด้วยกันจู่ๆก็รู้สึกอิจฉาเซี่ยอันน่า
เซี่ยอันน่าเป็นวัยรุ่นมีความคึกคักเล่นด้วยกันกับเทียนเทียนได้ เรียนด้วยกันได้
มองมาที่ตัวเองแล้วก็เป็นแค่แม่บ้านคนหนึ่ง นอกจากดูแลทำกับข้าวให้พ่อของพวกเขาวันละสามมื้อ เธอก็ทำอะไรไม่เป็น”
แม้สามีจะเคยพูดว่า คุณต้องมีความสุขกับการมีชีวิตที่บ้านนะ
แต่คุณนายหวางกลับรู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก มักมีความรู้สึกเหมือนเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางอยู่บ่อยๆ
ถ้าปีนั้นเธอไม่ทิ้งงานของตัวเองไป เกรงว่าเธอในตอนนี้ ก็คงจะไม่จืดชืดเหมือนอย่างนี้หรอก
คุณนายหวางถอนหายใจออกมาเบาๆและหมุนตัวเดินออกไป
ภายในห้อง เทียนเทียนกำลังทานผลไม้อยู่ทั้งยังกำลังบ่นว่าแม่เขานั้นจู้จี้เกินไป
“เทียนเทียน” เซี่ยอันน่ามองเด็กชายตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้าอย่างจริงจังจึงพูดว่า “หนูอย่าใช้ความคิดแบบนั้นพูดกับแม่หนู แม่จะเสียใจได้นะ”
“ผมก็แค่อยากบอกความไม่พอใจของตัวเอง ผมก็มีความรู้สึกนะ แม่ก็เป็นแต่อย่างนี้ ชอบไม่นึกถึงความรู้สึกของคนอื่น”
เซี่ยอันน่ายังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่นี่เป็นเรื่องของคนอื่น เธอเป็นแค่คนนอกยังต้องวางตัวให้เหมาะสมกว่านี้
เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ได้ เซี่ยอันน่าก็ติวให้เทียนเทียนต่อ โดยลืมเรื่องราวตอนเล็กๆที่เพิ่งเกิดเมื่อกี้ไป
ติวเสร็จฟ้าก็มืดแล้ว
เซี่ยอันน่าเตรียมตัวกลับมหาลัย แต่คุณหวางกลับเรียกเธอไว้
“มืดแล้ว เธอกลับคนเดียวไม่ปลอดภัยหรอกให้ฉันไปส่งเถอะ”
เซี่ยอันน่ารีบโบกมือและพูดว่า: “ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง ป้ายรถเมล์อยู่นอกเขตหมู่บ้านนี้เอง สะดวกมากค่ะไม่ต้องรบกวนคุณไปส่งหรอกค่ะ”
“ให้ฉันไปส่งเถอะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมากจริงๆ ฉันจะบอกพ่อแม่เธอได้อย่างไร”
“เอ่อ…..”
“ไปเถอะ มีเวลาลังเลอยู่แบบนี้ ฉันจะได้รีบกลับมา”
คุณหวางพูดแล้วก็คว้ากุญแจเดินออกประตูไปก่อน
เซี่ยอันน่าทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เดินออกประตูไปด้วยกันกับคุณหวางแต่โดยดี
พวกเขาเพิ่งเดินไป คุณนายหวางก็เดินออกมาจากห้อง
เธอเห็นว่าข้างนอกมีลมกังวลว่าฝนจะตกเอาได้จึงเตรียมร่มให้เซี่ยอันน่า
แต่เมื่อเดินมาถึงประตู ก็พบว่าเธอเดินออกไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่สามีของตัวเองก็หายไปแล้ว
หันไปมองลูกชายที่กำลังต่อจิ๊กซอว์อยู่จึงเอ่ยถามว่า: “อันน่ากับพ่อล่ะ?”
“พ่อบอกว่ามืดแล้ว ต้องไปส่งพี่อันน่าที่มหาลัย”
คุณนายหวังจับร่มที่อยู่ในมือแน่นและไม่ได้พูดอะไรแล้วหันหลังเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง
……
วันเวลาผ่านไปในแบบเดิมๆ ทุกวันเซี่ยอันน่าจะเข้าเรียน สอนพิเศษ ช่วงชีวิตที่คับแน่น แต่เธอกลับคิดว่ามันสมบูรณ์แบบมาก
บางทีนี่อาจจะเป็นชีวิตที่เหมาะกับเธอ
เรื่องราวที่ผ่านมามากมายก่อนหน้านี้ เป็นเพียงแค่ความฝัน
ตอนนี้ตื่นจากฝันแล้ว ก็ควรที่จะตั้งใจขึ้นหน่อย
หลังทบทวนในตอนเย็นเสร็จ ฉีฉีปวดท้องจึงกลับหอพักไปก่อน
ก่อนเดินไป เธอยังขอให้เซี่ยอันน่าซื้อก๋วยเตี๋ยวเย็นให้
ยัยคนตะกละคนนี้ปวดท้องอยู่ก็ไม่ลืมที่จะกิน
เซี่ยอันน่าไม่มีทางเลือกได้เพียงแต่เดินไปยังถนนอาหารที่อยู่ทางเข้ามหาลัย
แม้จะมืดแล้วแต่ถนนเส้นนั้นก็ยังคึกคักอยู่ มีนักศึกษามากมายเดินมาซื้อของกินที่นี่
กลุ่มคนแน่นขนัด เซี่ยอันน่าซื้อก๋วยเตี๋ยวเย็นและทาโกยากิไส้ปลาหมึกอย่างละอันแล้วเตรียมหันหลังกลับ
แต่หน้าประตูทางเข้ามหาลัย เธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างแปลงดอกไม้
“คุณหวาง?”
เมื่อคุณหวางเห็นเซี่ยอันนา เขาไม่แน่ใจอยู่แวบหนึ่ง จากนั้นก็ขยี้ควันให้ดับและยิ้มให้เธอ
เมื่อเห็นนายจ้างปฏิกิริยาแรกของเธอคือ: “วันนี้ไม่น่าใช่วันที่ต้องติวนะคะ”
“ฉันรู้ ฉันมาเดินรอบๆแถวนี้แค่นั้นเอง เธออย่าคิดมาก”
“อ้อ”
“ว่างไหม ฉันจำได้ว่าด้านนี้ของมหาลัยมีร้านชานมอร่อยๆอยู่ แต่ไปนานแล้ว ไม่รู้ว่าร้านนั้นย้ายไปอยู่ไหน เธอช่วยฉันหาหน่อยได้ไหม?”
“ร้านชานม?” เซี่ยอันน่าคิดแล้วพูดว่า “แถวมหาลัยมีร้านชานมเยอะแยะ ไม่รู้ว่าคุณหวังหมายถึงร้านไหน”
“เอางี้แล้วกัน ที่สำคัญคือร้านนั้นมีข้าวเหนียวดำ”
“งั้นฉันรู้แล้ว ร้านพวกเขาย้ายที่ตั้งแต่ต้นปีแล้ว ย้ายไปอยู่ประตูเหนือ”
“มิน่าล่ะ”
“งั้นฉันพาคุณไปเอง”
“โอเค”
พาคุณหวางเดินหาร้านชานม คุณหวางเอ่ย: “เธออยากดื่มอะไรสั่งเลย ฉันเลี้ยงเธอเอง”.
“งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะคะ” ชานมแค่แก้วเดียวก็ไม่แพง เซี่ยอันน่าก็เลยไม่ได้เกรงใจและพูดกับเจ้าของร้านว่า “ชานมถั่วแดงอุ่นหนึ่งแก้ว ขอบคุณค่ะ”
คุณหวางเองก็สั่งชานม ทั้งสองเดินถือชานมมานั่งในร้านชานมที่คับแคบ
เซี่ยอันน่ามองชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าและพูดว่า: “คุณหวัง วันนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ ดูไม่มีความสุขมากเลยค่ะ”
“ฉันทะเลาะกับภรรยาน่ะ”
“การทะเลาะกันระหว่างสามีภรรยามักเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงยาก คุณเป็นผู้ชายอดทนมากขึ้นหน่อยก็ดีแล้ว”
คุณหวางถอนหายใจยาวๆแล้วพูดว่า: “ฉันอดทนกับเธอมากแล้ว แต่อารมณ์โมโหของเธอมันมากขึ้นเรื่อยๆและยังสงสัยระแวงไปทั่วอีก”
คุณหวางเอียงมองออกไปนอกหน้าต่างและพูดว่า: “ปีนั้น พวกเรารู้จักกันที่มหาลัยนี้ เธออ่อนหวานและใจดีมาก พอฉันเห็นก็ตกหลุมรักเธอเลย”
“ตั้งแต่ตอนไหนกันนะที่เธอเริ่มกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลอย่างนั้น เรื่องเล็กนิดเดียวก็ทำให้เธอคิดไปถึงไหนต่อไหน เพื่อดูแลครอบครัวนี้ ฉันทำงานเหนื่อยมากกลับถึงบ้านแทนที่จะได้พักผ่อนแต่กลับต้องคอยระวังรับมือกับเธอ”
“เธอไม่พอใจนิดหน่อยก็ทำให้บ้านนี้วุ่นวายไปหมด ใครๆก็รู้สึกไม่สบายใจ แม้แต่เทียนเทียนก็กลัวเธอมาก ตอนนี้เธอเป็นแม่และภรรยาที่ล้มเหลวคนหนึ่ง”
คุณหวางเป็นคนพูดน้อย ทำให้เขาพูดแขวะภรรยาได้เช่นนี้ ดูเหมือนว่าช่วงนี้ชีวิตเขาจะกลุ้มใจมาก
เซี่ยอันน่าเกาหัวอย่างช่วยไม่ได้และเอ่ยว่า: “แม้แต่แฟนฉันก็ไม่มี ไม่รู้ว่าจะปลอบคุณอย่างไร”
คำพูดที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจทำให้คุณหวางรู้สึกดีขึ้นมาก
แต่คำพูดของเซี่ยอันน่านั้นกลับทำให้เขาหัวเราะ
“ไม่มีแฟน? ฉันก็อ่านหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจอยู่นะ เห็นรูปของเธอโพสต์อยู่บนนั้นนะ”
สีหน้าเซี่ยอันน่าแสดงออกว่ารู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อยและเธอเอ่ยว่า: “นั้นเป็นข่าวซุบซิบค่ะ ฉันกับเสี่ยวอวี้หลินเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้นเอง ลูกท่านหลานเธอที่มีเงินพวกนั้น จะมาหวั่นไหวกับคนอย่างฉันได้อย่างไร”
คุณหวางพยักหน้าพูดว่า: “ก็ใช่ ชนชั้นที่ไม่เหมือนกัน ความน่าจะเป็นที่จะให้เกิดความรู้สึกจริงๆนั้นต่ำมาก อันน่า เธอเป็นผู้หญิงที่ดี เธอต้องดูแลตัวเองได้แน่”
“อืม ฉันทำได้”
คุณหวางเงยหน้ายิ้มออกมาอย่างอบอุ่นและเอ่ยว่า: “คุยกับเธอมากสักพักแล้วรู้สึกดีขึ้นมาก ขอบคุณเธอนะ”
“เห็นๆอยู่ว่าคุณเลี้ยงชานมฉัน ฉันสิคะควรที่จะขอบคุณคุณ”
“ดึกมากแล้ว เธอกลับไปเถอะ”
“โอเคค่ะ”
คุณหวางมาส่งเซี่ยอันน่าถึงหน้าประตูมหาลัยแล้วโบกมือให้เธอและเตรียมเดินจากไป
แต่อยู่ๆเซี่ยอันน่าก็เรียกเขาไว้
“เอ่อคือคำพูดพวกนี้จากฉันอาจไม่เหมาะสมสักเท่าไร แต่ฉันดูออกนะคะว่าคุณเหนื่อยมาก คุณนายหวางเองก็เหนื่อยมากค่ะ ในเมื่อพวกคุณกำลังพยายามเพื่อครอบครัวนี้แล้ว ทำไมไม่พูดคุยกันดีๆล่ะคะ”
สีหน้าคุณหวางดูสับสนไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ยิ้มออกมาและเอ่ยว่า: “อาจจะนะ”
คุณหวางพูดจบก็เดินจากไป
เห็นแผ่นหลังคุณหวางเซี่ยอันน่าก็ถอนหายใจ
ดูเหมือนว่าทุกบ้านจะมีปัญหาของตัวเองสินะ