วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ - บทที่425 เรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้
เซี่ยอันน่าแลบลิ้น “นี่ไม่ใช่ความผิดฉันนะ”
แผลพวกนี้มันเกิดมาจากเขาทั้งนั้น เสี่ยวอวี้หลินที่กำลังฆ่าเชื้อแผลเอ่ยขอโทษกับเธอว่า “ขอโทษนะฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนี้”
“นายกับชวีเวยนั่น…..”เซี่ยอันน่าอยากถามว่าตกลงแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาคืออะไร แต่พอเขาพูดออกมา กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน
การเคลื่อนไหวของมือเสี่ยวอวี้หลินชำนาญมากขึ้น “ฉันกับเขาเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กจนโต”
“เป็นอย่างนี้เองหรอกเหรอ?” เซี่ยอันน่าไม่เชื่อว่าจะง่ายอย่างนี้
“เป็นอย่างนี้แหละ”
ในเมื่อเสี่ยวอวี้หลินพูดขนาดนี้แล้ว เซี่ยอันน่าก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปอีก ง่ายไม่ง่ายอย่างไรแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ
“เอ้อ…..”
รอบข้างเงียบมาก อยู่ๆเซี่ยอันน่าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนลงจากรถ เสี่ยวอวี้หลินบอกว่ามีสัตว์อยู่แถวๆนี้ แต่เขากลับยังนั่งอยู่นอกรถ ทำไมไม่กลัวเลยสักนิด?
“งั้น นายรีบทำให้เสร็จเถอะ เดี๋ยวมันจะมีสัตว์ป่าออกมาจริงๆนะ….” เซี่ยอันน่าเป็นคนปากมาก คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น
เสี่ยวอวี้หลินเงยหน้า มองเธออย่างจริงจังอยู่นานกว่าจะเอ่ยว่า “เธอเชื่อฉันจริงๆเหรอ?”
“ไม่ควรเป็นงั้นเหรอ?” เซี่ยอันน่าคิดอย่างแปลกใจ ทุรกันดารอย่างนี้มีสัตว์ป่าก็ไม่แปลกหนิ?
“เธอนี่โง่จริงๆ!”เสี่ยวอวี้หลินดีดหน้าผากของเธอ เขาปิดประตูและกลับมานั่งที่ตำแหน่งคนขับ
“ถ้ามีสัตว์ป่าจริงๆ ทำไมต้องสร้างคฤหาสน์ที่นี่ด้วยล่ะ คนเยอะขนาดนี้ ถึงมีรั้วกั้นก็ไม่ยากที่จะบุกเข้ามาใช่ไหม?”
เซี่ยอันน่าคิดอยากรอบคอบอีกครั้งและดูเหมือนว่านี่จะเป็นความจริง “งั้นที่พูดไว้…เมื่อกี้นายโกหกฉันเหรอ?”
“แน่นอน” เสี่ยวอวี้หลินคิดแล้วขำ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงโง่ได้ขนาดนี้ กลัวว่าถ้าเอาเธอไปขาย เธอก็คงจะเอาเงินไปให้คนอื่น
เซี่ยอันน่าโกรธหันหน้าออกไปนอกรถ มองวิวที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“คืนนี้ไม่ต้องกลับเถอะ?” เสี่ยวอวี้หลินที่ขับรถอยู่ จู่ๆก็พูดขึ้น
“นายคิดจะทำอะไร?” เซี่ยอันน่าหันมามองเขาอย่างระวังตัว
เสี่ยวอวี้หลินขับรถอย่างตั้งใจ “ไวน์เมื่อกี้ดื่มแล้วรู้สึกไม่สบายตัว ว่าจะหาที่ดื่มอีกสักหน่อย”
“ฉันไม่เชื่อ!” ถึงเซี่ยอันน่าจะบ้ามาก แต่ก็ให้ความความปลอยภัยกับร่างกายและห่วงตัวเองด้วย
“นายอยากดื่มทำไมฉันต้องอยู่ด้วย?”
“ดื่มคนเดียวจะสนุกอะไร? วันนั้นคุณก็เสียใจไม่ใช่เหรอ? ดื่มคนเดียวยิ่งดื่มยิ่งเสียใจจริงไหม?” เสี่ยวอวี้หลินลดสายตาลง ปกปิดความรู้สึกของตัวเองไว้
เซี่ยอันน่ามองเขาอยู่นาน รู้ว่าวันนี้เขาเจ็บปวดมามาก เธอเองก็เคยประสบกับความสิ้นหวังอย่างนี้มา ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะเห็นใจเขา
แต่เห็นได้ชัดว่าคนที่ทำให้เจ็บปวดได้นั้นเป็นตัวเขาเองและทำไมยังต้องแสดงความเจ็บปวดของเขาต่อหน้าเธอด้วย
“เธอกำลังจะแต่งงาน”
“ฮะ? อะไรนะ?” เซี่ยอันน่าคิดว่าตัวเองหูฝาดไปจึงถามขึ้นอีกครั้ง “ได้อย่างไร วันนี้ไม่ใช่วันเกิดเธอเหรอ? ถ้าพูดว่าจะแต่งงาน ผู้ชายคนนั้นทำไมไม่อยู่ข้างๆเธอ?”
“เธอไม่ได้รักผู้ชายคนนั้น”
“งั้นทำไม……”
“เซี่ยอันน่าไม่เข้าใจเลยสักนิก ในเมื่อไม่รักแล้วทำไมต้องแต่งงาน?
เสี่ยวอวี้หลินฝืนยิ้ม “เธอไปเรียนที่ต่างประเทศอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนนั้นก็เลิกกับฉันไป พอกลับมาเธอก็ท้องแล้ว”
“ท้อง?” เซี่ยอันน่าไม่อยากจะเชื่อ “เรื่องน้ำเน่าอย่างนี้ไม่ได้มีแค่ในละครทีวีหรอกเหรอ?”
“แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว” เสี่ยวอวี้หลินเสียใจมาก ตกลงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่นี่เขาไม่อยากจะคิดถึงมันอีก สรุปแล้วเรื่องของพวกเขาสองคนคงเป็นไปไม่ได้อีก!
“นายอย่าเสียใจเลย…” เซี่ยอันน่าไม่รู้ว่าจะปลอบเขาอย่างไรดีกับเรื่องอย่างนี้ อย่างไรเขาก็ถูกสวมเขาแล้วหนิ?
“ใครบอกว่าฉันเสียใจ?” เสี่ยวอวี้หลินเจียดเวลาหันมามอง “เดี๋ยวเลี้ยงเหล้าเธอเอง ไปไม่ไป?”
“เอ่อ….” เซี่ยอันน่าอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองเขาที่เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วอย่างนี้ “ไปก็ไป ใครกลัวใคร?”
เสี่ยวอวี้หลินยิ้มที่มุมปากและกดเท้าลงเหยียบคันเร่งตลอดทางจนถึงคฤหาสน์
“ดื่มอะไรดี?” เสี่ยวอวี้หลินพาเซี่ยอันน่ามาที่ห้องเก็บไวน์ของเขา ด้านในมีไวน์เก็บไว้อยู่ทุกชนิด
เซี่ยอันน่าหยิบไวน์องุ่นมาไว้ในมือและชั่งใจอยู่สักพัก “อันนี้แล้วกัน ดูแล้วน่าจะอร่อยที่สุด”
เสี่ยวอวี้หลินไม่ได้คัดค้านอะไรและเลือกของตัวเองมาอีกสองสามขวด เซี่ยอันน่าบอกไม่ได้เลยสักขวดว่ามันเป็นประเภทไหนและดีกรีของมันนั้นสูงมาก
สองคนนั่งอยู่โต๊ะในสวนที่ไม่รู้ถูกลากมาจากไหน
“เมื่อก่อนเธอไปดื่มเหล้าที่ร้านทำไม?” เสี่ยวอวี้หลินชูแก้วในมือโยกไปมา มองของเหลวสีทองที่ไหลอยู่ขอบแก้ว
“เพราะผู้ชายห่วยๆ” เซี่ยอันน่าดื่มเหล้าเข้าไปอึกหนึ่งอย่างเหม่อลอย ของเหลวที่หวานหยดทำให้เธอยิ้มออกมา
“เขาพูดตลอดเวลาว่าชอบฉันมากๆแต่สุดท้ายฉันก็เพิ่งมารู้ว่าความจริงแล้วเขามีคนรักมากมายซ่อนอยู่เบื้องหลังฉัน”
“คุณตกหลุมรักผู้ชายแบบนี้ได้อย่างไร?” เสี่ยวอวี้หลินอดไม่ได้ที่จะดูถูก ขาดผู้หญิงไม่ได้ขนาดนั้นแล้วทำไมเขาไม่เป็นผู้ชายที่เอาแล้วไม่เลือกไปเลยล่ะ?
“ฉันก็ไม่รู้” เซี่ยอันน่าตบเข้าที่หน้าผากพยายามทำให้ตัวเองสร่างเมาขึ้น “บางทีสมองในเวลานี้ก็คงจะเบลอๆเหมือนกับที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้
“ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกจริงๆ”
เสี่ยวอวี้หลินบ่นพึมพำและเริ่มรินไวน์ใส่แก้วหนึ่งตามด้วยอีกแก้วหนึ่ง “ช่างพวกเขาปะไร วันนี้พวกเราไม่เมาไม่เลิก!”
“โอเค ไม่เมาไม่เลิก!”
เซี่ยอันน่ายิ้มและชนแก้วกับเสี่ยวอวี้หลิน ดื่มจนหยดสุดท้าย ไม่รู้ว่าขวดไหนเป็นขวดที่ตัวเองเลือกมาคว้าขวดมาได้ก็ดื่มมันเลย
“อะ นายจะทำอะไร?”
เซี่ยอันน่าเห็นเสี่ยวอวี้หลินเข้ามาใกล้ตัวเองด้วยสติที่เลอะเลือน ใบหน้าที่ขยายใหญ่ขึ้นปรากฏอยู่ต่อหน้า
“ความจริง เธอก็โตมาสวยนะ!” สมองเสี่ยวอวี้หลินคงเลอะเลือน ถึงจูบลงมาที่ริมฝีปากแดงก่ำของเธอได้
“อะ!” ดวงตาเซี่ยอันน่าเบิกกว้าง ยื่นมือออกไปผลักอกเขา พยายามดิ้นเพื่อลุกขึ้น
“อย่าดิ้น”
เสี่ยวอวี้หลินละจากริมฝีปากของเธอไปปลุกเร้าอารมณ์อยู่แถวใบหูของเซี่ยอันน่าอย่างสะเปะสะปะจนเธอเผลอปล่อยมือและได้ปล่อยให้เขาทำตามคำเรียกร้องของร่างกายตัวเอง
เธอคิดว่าตัวเองบ้าไปแล้ว!
เมื่อรู้สึกตัวว่าผู้ชายคนนี้คือเสี่ยวอวี้หลิน เธอไม่นึกเลยว่าจะต่อต้านเขาไม่ลงและเอาแต่หลอกตัวเองว่าเสี่ยวอวี้หลินได้รับความเจ็บปวดมา เธอจึงอยากทำให้เขารู้สึกดีขึ้น
แต่ว่า…..
หัวใจของเธอกลับไม่รู้ว่าทำไมถึงเต้นแรงขนาดนี้!
……
วันรุ่งขึ้น เซี่ยอันน่าคลึงไปที่หน้าผากของตัวเอง มืออีกข้างเหมือนกับถูกอะไรกดทับอยู่ เธอหันหน้าไปเห็นใบหน้าเสี่ยวอวี้หลินที่ขยายชัดอยู่
“อะ!”
เสียงร้องตกใจปลุกให้เสี่ยวอวี้หลินที่หลับสนิทอยู่ให้ตื่น เขามองเซี่ยอันน่าด้วยความงัวเงีย “อะไรเหรอ?”
“นาย…ฉัน…”เซี่ยอันน่ามองไปที่เขาและมองมาที่ตัวเองอีกครั้ง บนร่างกายของทั้งสองไม่มีเสื้อผ้าเหลืออยู่
“ทำไมเหรอ…..” เสียงของเสี่ยวอวี้หลินอ่อนเพลียและเกียจคร้านถามขึ้นอีกครั้ง
อยู่ๆเซี่ยอันน่าก็ใช้ผ้าห่มห่อร่างกายตัวเองที่ไม่ใส่อะไรไว้แน่น จ้องหน้าเสี่ยวอวี้หลินอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ในสมองก็คิดอยู่ตลอดว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกทั้งสองกำลังดื่มเหล้าคุยเล่นกัน หลังจากนั้น…ถัดมาฉันก็เหมือนเห็นใบหน้าหนึ่ง ต่อจากนั้น….ต่อจากนั้นก็จำไม่ได้แล้ว
คิดมาถึงตรงนี้เซี่ยอันน่าก็จำไม่ได้แล้วว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น เห็นแต่สภาพของทั้งสองในช่วงเวลานั้นและก็ไม่อยากคิดแล้วว่าเมื่อวานทั้งสองนั้นเกิดความสัมพันธ์อะไรบางอย่างขึ้น
เซี่ยอันน่าตบเข้าที่หน้าผากของตัวเองสองที นึกเสียใจที่ทำไมเมื่อวานต้องดื่มจนเมา เมาทีไรก็ต้องเกิดเรื่องทุกครั้ง
เสี่ยวอวี้หลินที่อยู่ข้างๆตื่นขึ้นมา มองท่าทีของเซี่ยอันน่าก็อดขำไม่ได้และมองหน้าเซี่ยอันน่าด้วยความสนใจที่สักพักก็ขมวดคิ้วสักพักก็หงุดหงิด
เซี่ยอันน่าหันไปมองเมื่อสังเกตเห็นสายตาของเสี่ยวอวี้หลิน
แต่พอมองใบหน้าที่หล่อโดดเด่นนี้ก็คิดถึงเรื่องเมื่อวานที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองและหน้าก็แดงไปจนถึงคอทันที
“ทำไม?”
ตอนนี้เขินอยู่เหรอ? เสี่ยวอวี้หลินมองเซี่ยอันน่าที่มีท่าทีแบบนี้และสุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งสาวน้อยคนนี้อีก จากนั้นก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก “ดูเหมือนว่าหลังเธอดื่มเหล้าแล้วจะเร่าร้อนเหมือนกับไฟเลยนะ ครั้งที่แล้วเป็นแบบนี้ ครั้งนี้ก็ยังเป็นแบบนี้อีก”
เซี่ยอันน่าหน้าแดงแปร๊ด ถ้าตอนนี้มีหลุมอยู่เธอคงมุดเข้าไปแน่และอย่างไรก็จะไม่โผล่ออกมา
แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรในห้องเลย แม้แต่ที่ให้ซ่อนก็มีเพียงตู้เสื้อผ้าตู้เดียว แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะที่ไหนเธอก็ขยับไปไม่ได้เพราะเสื้อผ้าไม่ได้ใส่ เซี่ยอันน่าถือโอกาสมองสำรวจห้องนี้อย่างละเอียด การตกแต่งเรียบง่ายมาก ไม่มีของตกแต่งอะไรที่เกินจำเป็น ทั้งโทนสีก็ยังเป็นสีเทาและขาวเป็นหลัก ก้มมองผ้าห่มที่พันอยู่แน่นก็เป็นสีเทาทั้งหมด
เสี่ยวอวี้หลินดูเหมือนจะคิดอะไรออก จึงแสดงสีหน้าที่ดูผ่อนคลายออกมาและสายตาคมที่ปนไปด้วยความเย็นชาและดูถูก “ทุกครั้งที่เธอเมามากๆจะเป็นเหมือนอย่างเมื่อคืนนี้ไหม?”
น้ำเสียงคล้ายกับมีความไม่สบายใจอยู่ในนั้น แต่ในเวลานี้ทั้งสองไม่ได้มีกะจิตกะใจไปใส่ใจ
สายตาของเซี่ยอันน่าหลุกหลิกไปมา เมื่อถูกเสียงของเสี่ยวอวี้หลินมากระตุ้นความคิด “ฮะ? นายพูดว่าอะไรนะ?”สีหน้าของเซียอันน่าดูงงงวย
ไม่นึกเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ฟังคำพูดของผม เสี่ยวอวี้หลินขมวดคิ้วและพูดขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้เซี่ยอันน่าได้ยินชัดเจน เขาหมายความว่าอย่างไร? หรือเขาคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงเหลวไหล? ภายในใจรู้สึกแย่ขึ้นมาทันที รู้สึกเหมือนตัวเองได้รับความไม่เป็นธรรม
เซี่ยอันน่าดึงผ้าห่มที่อยู่ข้างตัวและเชิดคางขึ้นเล็กน้อย “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย? ถึงเราจะเคยมีอะไรกันครั้งหนึ่ง แต่ทำไมนายต้องมาพูดแบบนี้กับฉันด้วยล่ะ?” เซี่ยอันน่าไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงโกรธมากขนาดนี้และถลึงตาใส่
หรือว่าเธอไม่เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะมีปฏิกิริยาขนาดนี้ได้อย่างไร เสี่ยวอวี้หลินคิดว่าเป็นอย่างที่ตัวเองพูดถึงทำให้เธอโกรธได้
“ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า นายหลบไปหน่อย….” เซี่ยอันน่าลนลาน นอกจากเธอรีบอยากจะใส่เสื้อผ้าแล้ว แต่เพราะเสี่ยวอวี้หลินขวางอยู่เพราะงั้นเธอถึงไม่กล้าจะขยับตัว
“ให้ฉันหลบ?”เสี่ยวอวี้หลินขึ้นเสียง “นี่มันห้องฉันถ้าจะหลบก็ต้องเป็นเธอที่หลบ!”
“นาย…..” แววตาของเซี่ยอันน่าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ทำไมปากของผู้ชายคนนี้ถึงไม่น่ายกโทษให้อย่างนี้นะ เสียดายที่เกิดมาหล่อ ถ้าคนพูดไม่หล่อเดาได้เลยว่าเดี๋ยวคงถูกคนตีเอาแล้ว พูดกวนส้นเท้าจริงๆ
“ฉันทำไม?” เสี่ยวอวี้หลินดูเหมือนจะไม่ทันมองว่าเซี่ยอันน่าโกรธจนแก้มป่องแล้วเพราะยังแกล้งเธอต่อ
เซี่ยอันน่าหันหน้าไปอีกทางและไม่พูดอะไร เมื่อวานเหมือนตัวเองจะรู้สึกแปลกๆกับผู้ชายคนนี้ แต่ตอนนี้แค่อยากให้คนตรงหน้าหายไปเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อวานต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ เซี่ยอันน่าบอกตัวเองอยู่ในใจพรางคิดก็ส่ายหัวไป
เสี่ยวอวี้หลินเห็นเซี่ยอันน่าส่ายหัวก็คิดว่าเธอไม่สบาย ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแย่ขึ้นมาและแววตาก็ไม่ได้เย็นชาเหมือนแต่ก่อน
เซี่ยอันน่าได้ยินเสียงขยับตัวอยู่ข้างหลังจึงหันกลับไปมอง
“อ๊า…..” เสี่ยวอวี้หลินเดินลงจากเตียงทั้งที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เซี่ยอันน่าที่เพิ่งหันกลับมาหลับตาปี๋ทันทีด้วยความตกใจ เสี่ยวอวี้หลินเดินตรงไปที่ห้องน้ำโดยไม่ได้สนใจเสียงร้องของเธอเลย
ได้ยินเสียงปิดประตู เซี่ยอันน่าถึงค่อยๆหรี่ตาขึ้นมามอง เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ในห้องถึงได้กล้าลืมตาขึ้นมา ได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำ เซี่ยอันน่าจึงกล้าลุกขึ้นมาจากเตียงและรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่อย่างเร่งรีบ
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้อาบน้ำเร็วอย่างนี้นะ เซี่ยอันน่าใส่เสื้อผ้ายังไม่ทันจะถึงสองนาทีเลยประตูก็เปิดออกแล้ว บนตัวของเสี่ยวอวี้หลินยังอบอวลไปด้วยไอร้อน บนตัวมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบอยู่ หยดน้ำไหลลงไปตามลอนของกล้ามเนื้อ
เซี่ยอันน่าจ้องมองรูปร่างของเขา สีผิวที่เหมือนข้าวสาลี กล้ามเนื้อบนหน้าท้องและกล้ามแขนนั้นบ่งบอกได้ว่าคนๆนี้ออกกำลังกายเป็นประจำ
“มองพอหรือยัง?” เสี่ยวอวี้หลินมองเซี่ยอันน่าที่จ้องมายังท่อนบนของตัวเขาเธอมองอยู่สักพักก็ยังไม่ละสายตาไปไหน กระตุกรอยยิ้มพร้อมความสนุกก็แวบเข้ามาในสายตาจึงย่างเท้าเข้าไปใกล้
เซี่ยอันน่ากลับมามีสีหน้าที่เขินอาย ทันทีที่เห็นเสี่ยวอวี้หลินเดินตรงเข้ามา เธอก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณและจ้องมองชายตรงหน้าที่ไม่เคยคาดเดาอะไรได้
“ตึง” ส้นเท้าเซี่ยอันน่าเตะเข้าที่ข้างเตียงและสะดุดนั่งลง จิตสำนึกของเสี่ยวอวี้หลินสั่งให้เขายื่นมือออกไปคว้าแขนเธอไว้
เซี่ยอันน่านั่งลงที่เตียงเงยหน้ามองเสี่ยวอวี้หลิน “เอ่อ…ปะ….ปล่อยแขนฉันได้ไหม?” เซี่ยอันน่าขยับแขน เสี่ยวอวี้หลินเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าจับแขนเธอไว้จึงรีบปล่อยมือออก เซี่ยอันน่ารู้สึกไม่อึดอัดที่ถูกจ้องมองจึงขยับไปด้านข้างและลุกขึ้นยืน
เฮ้อ ผู้หญิงคนนี้ซ่อนอะไรไว้กันนะ? ฉันจะไม่กินเธออีกแน่และเขาเองก็ไม่สนหุ่นที่เหี่ยวแห้งของเธอเลยสักนิด
เสี่ยวอวี้หลินไม่ได้มองเซี่ยอันน่าที่แอบอยู่มุมกำแพง แต่เดินตรงไปนั่งลงที่เตียง แม้ว่าจะยังจ้องมองเซี่ยอันน่าที่ดูหวาดระแรงด้วยความสนใจ
เซี่ยอันน่าไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงจ้องมองมาที่ตัวเอง หรือว่าหน้าของเธอมีอะไรติดอยู่? หรือว่าใส่เสื้อผ้ากลับด้าน?
เมื่อนึกได้เซี่ยอันน่าแทบจะก้มลงมองเสื้อผ้าของตัวเองทันที เพราะตอนใส่เสื้อผ้าเธอรีบจนลนลานที่จะใส่เสื้อผ้าจริงๆ อาจจะใส่กลับด้านได้
แต่หลังจากเซี่ยอันน่าก้มดูอยู่สักพักก็พบว่าเสื้อผ้าของตัวเองไม่ได้ใส่กลับด้านแต่อย่างใด นึกได้ก็รีบลูบหน้าของตัวเองและหมุนตัวมองตัวเองในกระจก ตรวจดูว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบนหน้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า” เสี่ยวอวี้หลินหัวเราะดังออกมาอย่างไม่ปิดบัง
สาวน้อยคนนี้น่ารักมาก เสี่ยวอวี้หลินมองเซี่ยอันน่าสำรวจเสื้อผ้าตัวเองและท่าทางที่สะท้อนจากกระจกก็นึกขำ ผู้หญิงคนนี้ปัญญาอ่อนจริงๆ