วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - บทที่ 1062 เนรคุณ
ตายแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและทรยศมากขนาดนั้น
ก็ไม่ต้องพบเจอกับการสังหารและการเข่นฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณมากขนาดนั้นเช่นกัน
ดังนั้น อยู่ในวินาทีนี้ เธอก็ได้เลือกทางอย่างนั้นเหมือนกัน
สิ่งที่ไม่เหมือนคือ เธอไม่ได้ทำลายหินพลังงาน แต่ใส่อยู่ในร่างกายของเขา
หินพลังงานนำจิตแน่วแน่ที่ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งของเจ้านาย หลอมรวมกับร่างกายของหนานจิ่นเป็นหนึ่งเดียวกัน
เธอคิดว่า ในเมื่อสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่การอยู่เย็นเป็นสุข เขาอยากได้ผืนแผ่นดินนี้ งั้นก็ทำให้เขาพอใจเถอะ
ไม่มีราชวงศ์ไหน สามารถคงอยู่ได้รุ่นต่อรุ่น ก็ไม่มีประเทศไหนจะยิ่งใหญ่แข็งแกร่งตลอดกาลเช่นกัน
แต่ว่าเขาทำได้
เพราะว่าเขาจะไม่แก่ ไม่ตาย สามารถใช้ปัญญาและฝีมือของเขา รักษาสิทธิที่แน่วแน่ของเขาไว้ตลอดกาล ก็ให้เขาใช้ทั้งชีวิตในอนาคตที่ยาวไกลของตนเองมาไถ่บาปให้กับราษฎรของประเทศนี้เถอะ
ถึงแม้ตอนที่ก่อนจะตาย ทั้งหมดที่เฉียนเฉียนทำ ยังคงเป็นความหวังดีทั้งหมด
แต่เธออาจจะนึกไม่ถึงตลอดกาล หลังจากเธอตายแล้ว ผู้ชายที่ทำเพื่อสิทธิทุกวิถีทาง เคยทรยศเธอคนนั้น บ้าคลั่งถึงขั้นไหน
บางเวลาคนก็เป็นเช่นนี้
ตอนที่ได้ครอบครอง ไม่รู้จักทะนุถนอมตลอดกาล
จนถึงสูญเสียไป จึงตระหนักถึงความล้ำค่าของอีกฝ่าย
หนานจิ่นบ้าไปแล้ว
เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับความจริงที่เฉียนเฉียนจากไป ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามกลายเป็นศพไปแล้ว เขาก็ไม่อนุญาตให้เอาไปฝัง แต่ใช้โลงเย็นแช่แข็งศพไว้
คนที่มาจากดวงดาวนั้น ล้วนมีจุดที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง
นั่นก็คือ พวกเขาพึ่งพาอาศัยหินพลังงานในการคงอยู่ สามารถคงความเยาว์วัยตลอดไป พอได้สูญเสียหินพลังงานไป ทั้งร่างกายก็จะแก่ลงอย่างรวดเร็วฉับไว
ก็เหมือนเช่นดั่งดอกไม้ที่เหี่ยวแห้ง ชั่วพริบตาเดียวกลายเป็นหญิงชราคนหนึ่ง
ดังนั้น คนที่หนานกงจิ่นแช่แข็งไว้ ไม่ใช่เฉียนเฉียนที่เป็นปกติคนหนึ่งเลย
แต่คือเฉียนเฉียนที่แก่ลงจนดูไม่ได้
แต่ถึงแม้เป็นเช่นนี้ เขายังคงเฝ้ารักษาศพนั้นไว้โดยตลอด ไม่เพียงแค่นี้ เพื่อที่จะขอการรักษาถามหายา สามารถทำให้เฉียนเฉียนตื่นขึ้นมาได้อย่างราบรื่น เขาละทิ้งประเทศ ละทิ้งราชบัลลังก์ที่เขายากที่จะได้มา ไปที่ไกลๆ
ไม่นาน ราชวงศ์ต้าหลินก็ถูกทำลายโดยประเทศคู่ปรปักษ์แล้ว เปลี่ยนราชวงศ์ บนโลกนี้ไม่มีเฉียนเฉียนอีก ทั้งไม่มีราชครูที่มีท่วงทีที่งดงามสุดยอดที่สุดในโลกคนนั้นในปีนั้นอีกเช่นกัน
หนานจิ่นเปลี่ยนชื่อเป็นหนานกงจิ่น ก่อตั้งตระกูลหนาน มีชีวิตอยู่รอดรุ่นต่อรุ่น
หลังจากจิ่งหนิงฟังเรื่องเล่าของเขาจบ ถ้าจะไม่พูดว่าในใจไม่สั่นสะเทือนนั่นคือจอมปลอมล่ะ
เดิมทีเธอคิดว่า เรื่องแบบนี้ จะเกิดขึ้นแค่อยู่ในละครโทรทัศน์หรือในนวนิยายเท่านั้น
นึกไม่ถึงอยู่ในโลกนี้ถึงขนาดคงอยู่จริง
ไม่ว่าเป็นความหลงใหลของเฉียนเฉียน หรือว่าเป็นความโง่เขลาของหนานกงจิ่น ถึงสุดท้ายล้วนเป็นเพียงผลที่มาจากความรัก อดไม่ได้ที่จะทำให้คนทอดถอนใจ
เธออยากรู้อยากเห็นถามว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นนี่ล้วนผ่านไปพันปีแล้ว คุณหาวิธีที่ทำให้เธอฟื้นคืนกลับมาใหม่เจอไหม?”
หนานกงจิ่นพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “หาเจอแล้ว”
“วิธีอะไรเหรอ?”
หนานกงจิ่นไม่ได้รีบเร่งตอบกลับ แต่ควักมือถือออกมา เปิดข่าวฉบับหนึ่งยื่นไปยังข้างหน้าเธอ
“คุณอ่านนี่ก่อน”
จิ่งหนิงรับมาอ่านแล้วอ่านอีก พบเห็นว่าเป็นข่าววิทยาศาสตร์ฉบับหนึ่ง
สิ่งที่พูดถึงคือในสองปีก่อน หินอุกกาบาตก้อนหนึ่งตกอยู่ในเมืองริมทะเลแห่งหนึ่ง ก่อให้เกิดรังสีนิวเคลียร์ขนาดใหญ่อยู่ที่นั่น ทำให้คนที่นั่นถ้าไม่ก็ป่วย ถ้าไม่ก็ย้ายออกไปหมด
จากนั้น ที่นี่ค่อยๆกลายเป็นเมืองร้างแห่งหนึ่ง
คนข้างนอกตั้งชื่อให้ที่นี่ชื่อหนึ่งว่า เมืองผี
จิ่งหนิงอ่านการรายงานข่าวที่อยู่ข้างบน ขมวดคิ้วขึ้นมา
“คุณให้ฉันอ่านนี่ทำไมล่ะ?”
หนานกงจิ่นพูดเสียงเข้มว่า “ในปีนั้นหินอุกกาบาตก้อนนั้นที่ตกอยู่ที่นี่ แท้ที่จริงไม่ใช่หินอุกกาบาตที่แท้ๆอะไรเลย แต่คือยานอวกาศที่มาจากดวงดาวเดียวกันกับเฉียนเฉียน สิ่งที่ไม่เหมือนคือคนคนนั้นไม่มีความโชคดีขนาดนั้นเท่าเฉียนเฉียน เพราะบางสาเหตุตายไปแล้ว แต่แม้ว่าเขาตายแล้ว หินพลังงานยังอยู่ ผมสืบมาก่อนแล้วปีนั้นตอนที่มีคนออกจากที่นั่น นำหินพลังงานก้อนนั้นไปด้วย เพราะรู้สึกว่าเนื้อหินพลังงานหายาก อีกทั้งเอาไว้เป็นของที่ระลึกที่มีต่อบ้านเกิดเมืองนอน ดังนั้นก็เลยแยกมันกลายเป็นหลายก้อน แบ่งให้ผู้คนที่อยู่ในบ้านนั่นก็คือแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ในวันนี้”
จิ่งหนิงอึ้งชะงักอย่างโหดร้าย
“แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์เหรอ? ความหมายของคุณคือ……”
“ใช่แล้ว ก็คือแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์นั้นที่เล่าตกทอดกันมาอยู่ข้างนอกตอนนี้”
อยู่ดีๆจิ่งหนิงก็เข้าใจเลย ทำไมหนานกงจิ่นพยายามขนาดนี้ที่อยากจะหามันเจอ
หินพลังงานมาจากดวงดาวเดียวกัน เล่ากันว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถทำให้คนอยู่ยงคงกะพันธ์ ตายแล้วเกิดใหม่ได้……
ดังนั้น แท้ที่จริงที่เล่าลือกันเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงเหรอ?
รู้สึกถึงจุดนี้ สีหน้าของเธอมีความซีดขาวจางๆเล็กน้อย
หนานกงจิ่นพูดต่ออีกว่า “แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ทั้งหมดถูกแยกเป็นสิบสองชิ้น ในตอนต้นคนที่ได้หินพลังงานก้อนนี้ เคยเห็นหินอุกกาบาตก้อนนั้นตกลงมากับตา ในตอนนั้นวิทยาศาสตร์ยังไม่เผยแพร่ทั่วไปเลย พวกเขาคิดว่าเป็นเทพเทวดาที่อยู่บนฟ้าตกสู่โลก ดังนั้นหลังจากเก็บหินพลังงานได้ แกะสลักคำจารึกในการขออธิษฐานให้มีความสุขความเจริญอยู่ข้างบน หวังว่าเทพเทวดาสามารถคุ้มครองพวกเขาให้ร่ำรวยมีเกียรติชั่วนิรันดร
ต่อจากนี้ หินพลังงานเหล่านี้ ค่อยๆผ่านมือหลายมือเร่ร่อนไปอยู่ข้างนอก โดยไม่เจตนาผมก็พบเห็นก้อนหนึ่ง รู้สึกวัตถุดิบนี้เหมือนกับหินพลังงานที่ในตอนต้นเฉียนเฉียนใส่เข้าไปในร่างกายของผมก้อนนั้นมาก ดังนั้นก็เลยสืบข้อมูลสักหน่อย นี่จึงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองร้อยปีก่อนเรื่องนั้น”
จิ่งหนิงเม้มปากแล้วเม้มปากอีก
“ดังนั้นล่ะ? คุณอยากจะรวบรวมสิ่งนี้ คืออยากจะทำอะไรล่ะ? คุณไม่คิดว่ามันจะสามารถทำให้เฉียนเฉียนของคุณฟื้นคืนชีพจริงๆล่ะ?”
“ไม่ลองสักหน่อยจะรู้ได้ยังไงล่ะ?”
หนานกงจิ่นสงบเงียบจ้องมองเธออยู่ “นี่เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวแล้ว ถ้าหากแม้แต่อย่างนี้ล้วนไม่ได้ งั้นอยู่บนโลกใบนี้……”
อยู่บนโลกใบนี้ ก็จะไม่มีวิธีที่สามารถทำให้เฉียนเฉียนฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีกแล้ว
เฉียนเฉียนของเขาก็ต้องจากเขาไปตลอดกาลแล้ว
จิ่งหนิงได้ยินคำพูดของเขา แม้ว่ารู้สึกซาบซึ้งใจมากกับเขาที่เพื่อคนรักที่สุดยึดมั่นถือมั่นความรักลึกซึ้งเป็นพันปี แต่ยังคงรู้สึกว่าทำเช่นนี้เหลือเชื่อมากเกินไปแล้ว
“ดังนั้นคุณจึงยึดมั่นถือมั่นขนาดนี้ที่จะหาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์สิบสองชิ้นให้เจอเหรอ? แต่นั่นเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ? คุณทำไมต้องจับฉันมาที่นี่ล่ะ?”
พูดถึงสิ่งนี้ บนใบหน้าของหนานกงจิ่นกลับปรากฏสีหน้าที่หยอกเล่นขึ้นมาหนึ่งที
“ผมก็ไม่อยากจะจับคุณเช่นกัน จิ่งหนิง ผมเคยบอกมาก่อน คุณเคยช่วยชีวิตผมมาก่อน ถึงแม้ผมรู้สึกว่าตนเองไม่ได้เป็นคนดีคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่คนที่เนรคุณคนหนึ่งอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเป็นไปได้ยังไงที่ผมจะทำร้ายคุณล่ะ?”
“งั้นคุณ……”
“สาเหตุที่ผมทำเช่นนี้ แท้ที่จริงเพียงแค่เพื่อป้องกันตนเองล่ะ จนถึงตอนนี้คุณยังมองไม่ออกเหรอ ลู่จิ่งเซินสามีของคุณ ผู้ชายคนนั้นที่อยู่เคียงข้างกายคุณทั้งวัน แท้ที่จริงไม่ค่อยเหมือนกับจินตนาการของคุณเลยเชียวเหรอ?”
จิ่งหนิงมีความงุนงงเล็กน้อย
ไม่เหมือนกันเหรอ?
มีอะไรไม่เหมือนกันล่ะ?
หนานกงจิ่นส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก ทอดถอนใจเบาๆหนึ่งที
“ช่างเถอะ ความทรงจำช่วงนั้นของคุณที่ถูกเขาลบไป งั้นผมก็จะช่วยคุณให้นึกออกเถอะ”
เขาพูดอยู่ อยู่ดีๆลุกขึ้นมา เดินเข้าไปเลย
จิ่งหนิงจ้องมองเขา และไม่รู้ว่าทำไม ในใจก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ
เธอยันอยู่กับพื้น ถอยไปยังข้างหลังเรื่อยๆ
บ่นพึมพำอยู่ในปากว่า “คุณอย่าเข้ามา คุณอย่าเข้ามา คุณคิดจะทำอะไร……”
จากนั้น คำพูดยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกคนจับศีรษะไว้แล้ว