วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - บทที่ 1066 อารมณ์เจ็ดตัณหาหก
เธอเงยหน้าขึ้น มองเห็นคางที่แข็งแกร่งเด็ดขาดของลู่จิ่งเซิน
อยู่ดีๆขอบตาก็ร้อนขึ้นขนาดนั้น และแยกไม่ชัดว่าเป็นจิ่งหนิงเมื่อสิบปีก่อน หรือว่าจิ่งหนิงในสิบปีหลัง
เธอยื่นมือออกไป ร้องตะโกนเสียงแหบว่า “คุณลู่……”
ร่างกายของลู่จิ่งเซินแข็งทื่อทันที
จิ่งหนิงได้ยินตนเองตกใจจนร้องไห้ออกมา
ต่อจากนี้ ก็ได้ยินเสียงที่สุขุมของผู้ชาย “อย่าหวาดกลัว”
เสียงเข่นฆ่ากันของผู้คนอยู่ที่ไกล ตามด้วยความโมโหร้องตะโกนของผู้ชาย
“ลู่จิ่งเซิน หากจิตใจที่จะให้เจ้านายเราตายของคุณไม่ตายไป ถึงแม้พวกเราต้องตาย กลายเป็นผีที่ดุร้ายก็จะไม่ปล่อยคุณไปแน่!”
สิ่งที่ติดตามมาก็คือเสียงระเบิดเสียงแล้วเสียงเล่า
จิ่งหนิงถูกทำให้ตกใจจนกายสั่นระริกเรื่อยๆ ลู่จิ่งเซินไม่ไปสนใจคนเหล่านั้น มีลูกน้องของเขาไปจัดการผู้ก่อการจลาจลเหล่านี้แล้ว
เขาอุ้มจิ่งหนิงขึ้นมา ขึ้นไปที่รถ จากนั้นขับรถไปยังอพาร์ตเม้นท์แห่งหนึ่งโดยตรง
ช่วงเวลาต่อมานี้จิ่งหนิงก็พักอยู่ในอพาร์ตเม้นท์แห่งนี้มาโดยตลอด
ทางโรงเรียนยังไม่ได้เปิดเทอม เธอก็ไม่มีที่ไปเช่นกัน โชคดีว่าลู่จิ่งเซินไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกลำบากใจเลย ให้เธอพักอยู่ที่นี่อย่างสบายใจ แต่ตัวเขาเองคือสองสามวันเข้ามาที
จิ่งหนิงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้แปลกประหลาดมาก เธอไม่รู้ภูมิหลังของลู่จิ่งเซิน ทั้งไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องดีต่อตนเองขนาดนี้เช่นกัน
พักอยู่ตลอดจนใกล้จะเปิดเทอมแล้ว มีดึกดื่นเที่ยงคืนวันหนึ่ง อยู่ดีๆเธอมองเห็นผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว
คนที่ชื่อว่าหนานกงจิ่นคนนั้น ผู้ชายที่เคยถูกเธอช่วยไว้ครั้งหนึ่ง
แต่ในครั้งนี้ เธอกับหนานกงจิ่น ไม่ได้พบเจอกันต่อหน้าต่อตา
แต่เธอหลบอยู่ในห้องนอน หนานกงจิ่นแอบเข้ามาอย่างเงียบสงบจากข้างนอก กำลังอยู่ในห้องสืบค้นอะไรไปทั่ว
ในใจเธอหวาดกลัวสุดขีด อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงเวลานี้อยู่กับลู่จิ่งเซิน ถึงแม้เธอยังไม่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าตกลงเกิดอะไรขึ้น แต่ก็คาดเดาได้โดยคร่าวๆ หนานกงจิ่นไม่ได้เป็นคนดีอะไร เขากับลู่จิ่งเซินเป็นศัตรูกัน
ดังนั้นตอนที่เจอกันครั้งแรก ตนเองช่วยหนานกงจิ่นไว้ เขาจึงโมโหขนาดนั้น
นึกถึงที่นี่ เธอแอบจับแท่งเหล็กอันหนึ่งไว้ เดินออกไปอย่างเงียบสงบ
แต่หนานกงจิ่นเป็นใครล่ะ?
อย่าพูดถึงจิ่งหนิงในปีนั้นเลย ถึงแม้ว่าเป็นจิ่งหนิงในปัจจุบัน อยากจะชนะเขาด้านฝีมือ งั้นก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ จิ่งหนิงยังไม่ทันชิดใกล้กับเขา ก็ถูกเขาสังเกตได้แล้ว
ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะเยาะเสียงหนึ่ง หนานกงจิ่นเพียงแค่หมุนตัวอย่างตามใจ ก็จับแท่งเหล็กที่เธอกำลังจะฟาดลงมาไว้ จากนั้นทำตายี๋ยิ้มพูดว่า “เขาพาคุณกลับมาเลยเหรอ?”
ไม่รอจิ่งหนิงพูด “อิ” อีกเสียงหนึ่ง
“ช่างเป็นวัยหนุ่มที่ตกหลุมรักใครง่ายๆจริงๆล่ะ ในปีนั้นถ้าผมเปิดโล่งเริ่มมีสติปัญญาอย่างเขาขนาดนี้สักครึ่งหนึ่ง ก็ไม่ถึงกับตกอับร่อนเร่เป็นสภาพในวันนี้”
พูดอยู่ อยู่ดีๆยื่นมือม้วนหนึ่งที ก็ได้ม้วนร่างกายของเธอไว้ ปลายเท้าเตะเบาๆ คนถึงขนาดเหมือนดั่งใบไม้ร่วงลอยออกไปอย่างเบา
“ในเมื่อคุณเป็นฝ่ายชนเข้ามาในมือของผมเอง งั้นก็อย่าโทษผมไม่เกรงใจเลย คุณวางใจเถอะ ผมจะไม่ทำร้ายคุณ เพียงแค่เขายอมเอาของออกมา ผมย่อมส่งคุณกลับไปอย่างปลอดภัยแน่นอน”
พูดจบ จิ่งหนิงเพียงรู้สึกว่าลำคอเจ็บขึ้นมา คนก็สลบไปเลย
ตื่นมาอีกที เธอพบเห็นว่าตนเองอยู่บนเรืออีกแล้ว
หนานกงจิ่นดูเหมือนรักลำเอียงกับสิ่งที่เป็นเรือสำราญอย่างนี้มากจริงๆ เป็นเพราะว่าสิ่งนี้ทุกด้านไร้ความช่วยเหลือ กลับทำให้เขามีความรู้สึกปลอดภัยกว่า
ดังนั้น เขาเลือกพาจิ่งหนิงไปบนเรือ จากนั้นแจ้งลู่จิ่งเซินเข้ามาทำการแลกเปลี่ยน
จิ่งหนิงไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่พวกเขาแลกเปลี่ยนกันเป็นอะไร เพียงแค่ผ่านช่องประตู ได้ยินคลุมเครือไม่กี่คำ
เหมือนกำลังพูดถึงแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์อะไร หรือว่าอะไรนะ
แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์!
ใช่ ก็คือสิ่งนี้!
อยู่ดีๆจิ่งหนิงก็ตื่นขึ้นมาเลย ถึงยังไง เธอในปัจจุบันนี้ เป็นเธอในสิบปีหลัง รู้จักภูมิหลังของแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์แล้ว
ดังนั้น ถึงแม้จิ่งหนิงที่อยู่ในความทรงจำไม่ชัดเจน แต่เธอในสิบปีหลังที่เป็นผู้ชม กลับได้ยินชัดเจน
ต่อจากนี้ ประตูถูกคนชนออก เธอถูกผู้ชายสองคนโยนออกไป
เธอเห็นลู่จิ่งเซินยืนอยู่ด้านตรงข้ามและหนานกงจิ่นยืนอยู่ข้างหลังเธอ ยื่นมือจับคอของเธอไว้กับตา
เธอไม่สงสัยเลยสักนิด เพียงแค่หนานกงจิ่นคิดจะทำ ออกแรงเบาๆสักหน่อย คอของเธอก็จะถูกบีบหักทันที
ได้ยินเพียงหนานกงจิ่นถามว่า “เอาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ออกมา ผมก็ปล่อยเธอไป ยังไงล่ะ?”
บนใบหน้าของลู่จิ่งเซินไม่มีสีหน้าอะไร
“คุณคิดว่าผมจะสนใจชีวิตของเธอเหรอ?”
“ไม่สนใจ วันนี้คุณมาทำไมล่ะ?”
“เหอะ!” ลู่จิ่งเซินหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง ถึงขนาดวางท่าใหญ่โตไม่สนใจใครนั่งลงอยู่ข้างๆ
“เข้ามาดูสิว่าคุณหนานที่เคยสาบานจะไม่ฆ่า จะทำการฆ่าอยู่ต่อหน้าผมยังไง”
สีหน้าหนานกงจิ่นเปลี่ยนทันที
“คุณรู้ได้ยังไง……”
“ในเมื่อผมจะจับคุณ ย่อมต้องทำการสืบคุณอยู่แล้ว รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ไม่ใช่เหรอ?”
ลู่จิ่งเซินทำตายี๋ขึ้นมานิดๆ “หนานกงจิ่น ผมขอเตือนคุณยังคงถูกจับโดยละม่อมเถอะ ละทิ้งแผนการที่เหมือนเช่นดั่งฝันหวานฝันกลางวันอย่างนั้นของคุณ ตอนนี้คุณยังไม่ได้ทำผิดอะไร กลับตัวยังทัน ผมสามารถรับประกันให้คุณได้ รักษาชีวิตคุณไว้”
อยู่ดีๆหนานกงจิ่นก็หัวเราะ ฮ่าฮ่า ขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
“รักษาชีวิตผมไว้เหรอ? คุณคิดว่าผมอยู่มานานขนาดนั้น ยังกลัวตายเหรอ? ผมอยากตายได้สักวันหนึ่งใจจะขาด อย่างนั้นผมก็จะหลุดพ้นโดยสิ้นเชิงแล้ว!”
พูดถึงที่นี่ อยู่ดีๆเขาจ้องมองไปยังจิ่งหนิงที่อยู่ในอ้อมอก
“ผมตายแล้วไม่เป็นไร แต่เธอไม่เหมือนกันล่ะ อิอิ กำลังเป็นวัยเยาวชนอยู่ ผมได้ยินว่าเธอยังบริจาคสิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่งให้แก่คุณ? ฮ่าฮ่าฮ่า ลู่จิ่งเซิน คุณกลับกลายเป็นต้องอาศัยวิธีการแบบนี้ทำให้มีลูก ผมว่าคุณใช้ไม่ได้เลยใช่หรือไม่ล่ะ? เป็นผู้ชายจนกลายเป็นอย่างนี้ ผมรู้สึกสงสารแทนคุณจริงๆ”
คำพูดยังไม่ทันพูดจบ เพียงเห็นผู้ชายที่อยู่ด้านตรงข้ามทำตายี๋ขึ้นมา เปล่งแสงที่อันตรายออกมาหนึ่งที
“ผมเพียงแค่ไม่อยากปนเปื้อนอารมณ์เจ็ดตัณหาหกเท่านั้น ถึงยังไงคนที่มีฝีมืออย่างคุณหนานแบบนี้ สุดท้ายก็ต้องหกคะเมน อยู่กับคำว่ารักคำหนึ่ง ผมลู่จิ่งเซินบอกกับตนเองว่าเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งก่อนที่ภารกิจยังไม่สำเร็จ จะไม่ถามหาเรื่องความรักชายหญิงอย่างเด็ดขาด”
หนานกงจิ่นหยุดชะงัก
ก็อยู่ในเวลานี้ อยู่ดีๆมีเสียงปืนดังขึ้น
ทั้งสองคนล้วนตื่นตะลึงหนึ่งที ต่อจากนี้ ก็ได้ยินว่ามีคนขับเรือลำหนึ่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเข้ามา
“หนานกงจิ่น คุณถูกพวกเราล้อมรอบไว้แล้ว ปล่อยตัวประกันไป คุณยังมีโอกาส มิฉะนั้นพวกเราได้เพียงแต่ลงโทษประหารชีวิตคุณ ณ ตอนนี้แล้ว”
ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วขึ้นมา
ไม่ใช่คนของเขา
ให้ตายซิ! ข้างบนยังไม่เชื่อใจเขาอีก ทั้งๆที่ขาดแค่ก้าวสุดท้ายแล้ว กลับยังคงถูกคนเหล่านี้ทำให้เสียเรื่อง
พวกเขาไม่ปรากฏตัว ตนเองยังมีโอกาสต้อนรับขับสู้กับหนานกงจิ่น พอพวกเขาปรากฏตัวนี่จะไม่ใช่ทำให้เสียเรื่องพอดี
เป็นอย่างที่คิดไว้ พอหนานกงจิ่นได้ยินเสียงนี้ ก็หัวเราะขึ้นมาทันทีจริงๆ
“ลู่จิ่งเซิน ผมเคยบอกแล้ว เพียงพบกับคุณคนเดียว นึกไม่ถึงคุณไม่เอาไหนขนาดนี้ กลับกลายเป็นยังพาผู้ช่วยมาอีก ช่างเถอะ คนคืนให้คุณ บัญชีของพวกเราคราวหน้าค่อยเคลียร์กันอีก”
พูดจบ โยนจิ่งหนิงเข้าไปยังอ้อมอกของเขาทันที ตนเองกลับกระโดดออกไปเลย
จิ่งหนิงตื่นตกใจหนึ่งที รีบจับเสื้อของเขาไว้ และก็อยู่ในเวลานี้ กลับได้ยิน เสียง “พุ้ง” เบาๆเสียงหนึ่ง
กระสุนลูกหนึ่งพุ่งมาจากที่ไกล ทะลุร่างกายของเธอ ทั้งทะลุร่างกายของลู่จิ่งเซินอีก