วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - บทที่ 1067 ไม่มีทางอื่น
เธอไม่กล้าที่จะเชื่อเบิกตาโพลง เวลาเดียวกัน มองเห็นความตื่นตะลึงเล็กน้อยจากนัยน์ตาของผู้ชาย
ต่อจากนี้ ทั้งสองคนตกลงไปในทะเลพร้อมกัน
จิ่งหนิงล้วนไม่เคยรู้มาก่อน ที่แท้ แต่ก่อนนานมาแล้ว เธอก็เคยร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันกับลู่จิ่งเซินมาแล้ว
แม้ว่าไม่ได้สมัครใจ แต่กระสุนลูกนั้นทะลุผ่านร่างกายของพวกเขาพร้อมกันจริงๆ
เธอไม่รู้ว่าคนที่ยิงเป็นใคร ลู่จิ่งเซินอาจจะรู้
เธอเพียงรู้ว่า อยู่ในวินาทีนั้น อยู่ดีๆเธอล้วนคิดอะไรไม่ออก
นึกถึงช่วงเวลานั้นที่พักอยู่ในอพาร์ตเม้นท์ เธอได้รับการดูแลจากลู่จิ่งเซิน เลื่อมใสศรัทธาผู้ชายคนนี้มานานแล้ว
เธอนึกถึงผู้ชายคนนั้น แม้ว่าเวลาส่วนมากล้วนเงียบมาก แต่ต่อเธอกลับมักจะอ่อนโยนมาก
อยู่ตอนดึกดื่นเที่ยงคืนเขาจะนั่งกับเธออยู่บนระเบียงด้วยกัน พูดถึงอุดมคติกับเลือดอันร้อนรุ่มของตนเองมากมาย
เขาพูดกับเธอเยอะมาก สิ่งที่เมื่อก่อนเธออยู่บนโลกใบนี้ไม่เคยรู้มาก่อน
อย่างเช่นเกี่ยวกับนิวเคลียร์ อย่างเช่นปีศาจตนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่มาพันปีแล้วไม่ตาย อย่างเช่นอวกาศอีก……อื่นๆ
ในเวลานั้น เธอรู้สึกว่าตนเองเหมือนกับฟังนิทาน หรืออาจจะฟังคัมภีร์สวรรค์อยู่
เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่เลื่อมใสศรัทธาต่อเขา เคารพเลื่อมใสอย่างยิ่ง
ในใจจิ่งหนิงคิดอยู่ว่า อาจจะในเวลานั้น แท้ที่จริงตนเองยินยอม เสียสละเพื่ออุดมคติเหล่านั้นที่เขาพูดอยู่ในปากเขาล่ะ
ถึงยังไงอยู่ในปากเขา ถ้าหากไม่มีการเสียสละก็จะอยู่เย็นเป็นสุขไม่ได้ ไม่มีความสุขของประชาชนในโลกหล้า
แต่เรื่องบางเรื่อง ถึงยังไงก็ไม่ต้องให้เธอมาทำ
เธอถูกคนช่วยไว้ คนที่ถูกช่วยขึ้นมายังมีลู่จิ่งเซิน
แต่ว่า หลังจากครั้งนั้น ทั้งสองคนกลับไม่ได้พบเจอกันอีก
บนกายเธอโดนยิง บาดแผลรุนแรงมาก แทบจะเอาตัวไม่รอด
ระหว่างเลอะๆเลือนๆ ได้ยินมีคนพูดว่า “เธอรู้มากเกินไปแล้ว ให้เธออยู่บนโลกนี้ต่อไปอีกไม่ได้ เธอจำเป็นต้องตาย”
จากนั้น กลับมีอีกคนหนึ่งขัดขวางเขา
“ไม่ได้ ถ้าหากเธอตายแล้ว รอให้ลู่จิ่งเซินฟื้นขึ้นมาจะสืบหาอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้น ให้เขารู้ว่าเป็นพวกเราฆ่าคนของเขา พวกเราก็ไม่ได้เจอดีแน่”
“งั้นพวกคุณว่าจะทำยังไงดีล่ะ?”
“ลบความจำของเธอ โยนเธอทิ้งทะเล เป็นหรือตาย ขึ้นอยู่กับโชคชะตา”
“ได้ งั้นก็ทำตามนี้เถอะ”
ยังไงจิ่งหนิงก็นึกไม่ถึง ผลลัพธ์ที่ตนเองตามหานานขนาดนี้ กลับกลายเป็นแบบนี้
เธอมองเห็นน้ำตาของตนเองไหลลงจากหางตา อยู่ในสายตาที่ขมุกขมัว ผู้ชายคนนั้นยังนอนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ล้วนไม่รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นอยู่ข้างกายเลยสักนิด
ที่แท้เป็นเช่นนี้
ที่แท้ นี่ก็คือความเป็นจริงที่เธอต้องการ
ทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนาเลย กลับเกิดขึ้นเพราะว่าเขาจริงๆ
ดังนั้น หลังจากผ่านไปหลายปี เจอกันอีกครั้ง เขาจึงรีบร้อนอยากจะแต่งงานกับเธอขนาดนั้น ไม่ได้เพราะว่ารักแรกพบ เพียงเพราะว่าอยากจะชดเชยเหรอ?
ดังนั้น ถึงแม้ว่าหลังจากทั้งสองคนอยู่ด้วยกันนานขนาดนี้ ถึงแม้ว่ามีโอกาสหลายครั้งขนาดนั้น เขาสามารถเปิดเผยกับตนเอง แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไร แต่เลือกที่จะเอาทั้งหมดนี้ล้วนซ่อนไว้อยู่ในจิตลึกๆเหรอ?
ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง
อยู่ดีๆเธอก็เข้าใจแล้ว ทำไมอานอานยิ่งเติบโต บุคลิกระหว่างคิ้วกับหน้าตาก็ยิ่งเหมือนเธอ
เพราะว่า นั่นตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่ลูกติดอะไรเลยสักนิด แต่คือลูกสาวแท้ๆของเธอ
ความจำช่วงนั้นที่เธอสูญเสียไป ถูกคนบังคับลบออก และบังคับตัดการติดต่อของเธอกับลู่จิ่งเซิน
จากนั้นมา เธอถูกคนของกลุ่มมังกรช่วยไว้ หลังจากเข้าร่วมกลุ่มมังกรเพื่อความสะดวกก็ย้ายโรงเรียนเลย เขายิ่งจะไม่มีทางติดต่อตนเองได้
ทั้งหมดนี้จึงจะเป็นความจริงแท้ๆเลยเชียวเหรอ?
จิ่งหนิงมองเห็นตนเองมีน้ำตาไหลลงมา
เธอหลับตาลง คิดอยู่ในใจว่า ก็ให้เป็นเช่นนี้เถอะ!
ในเมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ ยกเว้นยอมรับ ไม่มีทางอื่นแล้ว
จิ่งหนิงตื่นขึ้นมา
ลืมตาขึ้นอีก เธอยังคงอยู่ในห้องที่ฟุ่มเฟือยเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นกฤษณาห้องนั้น
เธอนั่งอยู่บนเบาะรองนั่งหวาย มีลักษณะก่อนที่เธอจะเข้าไปในความทรงจำของตนเองเหมือนเดิม สิ่งที่ไม่เหมือนคือหนานกงจิ่นไม่ได้ยืนอยู่ข้างกายเธออีก แต่กลับไปนั่งอยู่ด้านตรงข้าม
นอกหน้าต่างที่อยู่ไกล มีแสงอาทิตย์ส่องเข้ามา แต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นเลยสักนิด ทั้งตัวล้วนหนาวเย็นถึงกระดูก
หนานกงจิ่นลืมตาจ้องมองเธอ ถามว่า “ล้วนจำได้แล้วเหรอ?”
สีหน้าของจิ่งหนิงมีความเขียวซีดเล็กน้อย
เธอจ้องมองหนานกงจิ่นอยู่ ถามว่า “เมื่อกี้สิ่งที่ฉันเห็นเหล่านั้น……ล้วนเป็นจริงเหรอ?”
“แน่นอน”
“ทำไม?” จิ่งหนิงมีความงงงวยเล็กน้อย “แต่ก่อนฉันนึกอะไรไม่ออก ทำไมเมื่อกี้ล้วนนึกออกหมดเลยล่ะ?”
“เพราะว่าผมเทชี่แท้เข้าไปในสมองของคุณ พวกเขามีฝีมือลบความจำของคุณ แท้ที่จริงเพียงแค่ใช้วิธีการบางอย่าง ปิดผนึกความทรงจำเมื่อก่อนของคุณไว้ ตัวคุณเองก็นึกถึงบางช่วงได้แล้ว ผมช่วยคุณอีกแรงหนึ่ง ก็นึกออกได้แล้วโดยปริยาย”
หนานกงจิ่นพูดจบ วางแก้วน้ำชาลง อมยิ้มเต็มใบหน้าจ้องมองเธออยู่
“ดังนั้น ตอนนี้คุณก็เข้าใจ ทำไมลู่จิ่งเซินจะอยู่ด้วยกันกับคุณแล้ว?”
สายตาจิ่งหนิงงุนงง
หนานกงจิ่นพูดเสียงเข้มว่า “เขาไม่ใช่ประธานของลู่ซื่อกรุ๊ปอะไรเลยสักนิด สถานะที่แท้จริงของเขาคือผู้รับผิดชอบขององค์กรX องค์กรนี้ก็คือพุ่งเป้ามายังผมโดยเฉพาะ คุณก็รู้เช่นกัน ผมไม่อยากทำร้ายใครเลย ผมแค่อยากจะรวบรวมแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์สิบสองชิ้นให้ครบ ให้เฉียนเฉียนของผมฟื้นคืนชีพ แต่พวกเขากลับอยากจะขัดขวาง คุณว่าผมควรต่อต้านหรือไม่ล่ะ?”
จิ่งหนิงเม้มปากอย่างแน่น ไม่ได้พูด
หนานกงจิ่นก็ไม่ร้อนใจเช่นกัน พูดต่ออีกว่า “ในตอนต้นเพื่อความลับนี้พวกเขาสามารถลบความจำของคุณ โยนกายคุณที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสทิ้งลงไปในทะเลโดยไม่สนใจไยดี ตอนนี้เพื่อความลับนี้ไม่ถูกทำให้รั่วไหลพวกเขาก็สามารถดักซุ่มอยู่ข้างกายของคุณอีกครั้ง โชคดีคุณสูญเสียความจำแล้วจริงๆ ถ้าหากไม่ใช่ เชื่อหรือไม่ว่าคุณตายโดยร่างกายไม่สมบูรณ์มานานแล้ว ไม่มีโอกาสนั่งอยู่ต่อหน้าผมอีกเลยสักนิด”
คำพูดนี้ กลับทำให้สีหน้าของจิ่งหนิงแป๊บเดียวก็ขึงลับลงมา
“คุณพูดเหลวไหล! ลู่จิ่งเซินจะไม่ทำร้ายฉันอย่างเด็ดขาด!”
“ใช่เหรอ? ในเมื่อเขาไม่อยากทำร้ายคุณ มาถึงข้างกายคุณ ก็ไม่มีความคิดที่จะสำรวจคุณว่ายังจำเรื่องในปีนั้นได้หรือไม่เลย งั้นทำไมเขาไม่ยอมเล่าสิ่งเหล่านี้ให้คุณฟังล่ะ?”
หนานกงจิ่นหยุดชะงักแล้วหยุดชะงักอีก พูดยั่วยุล่อลวงต่ออีกว่า “แต่ก่อนไม่พูดตามน้ำใจเหตุผลยังยกโทษให้ได้ แต่ตอนนี้ พวกคุณไม่ใช่ล้วนรู้เรื่องของผมแล้วเหรอ? พวกคุณหาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ทั่วโลก แต่คุณย่อมนึกไม่ถึงแน่นอนล่ะ แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ที่เหลือหลายชิ้นนั้น ตามความจริงก็อยู่ในมือของลู่จิ่งเซิน ดังนั้นไม่ว่าพวกคุณหาอยู่ข้างนอกยังไง ล้วนหาไม่เจออยู่แล้ว เพราะว่านั่นเดิมทีก็อยู่ในมือเขาแล้ว”
จิ่งหนิงสีหน้าซีดขาว
“คุณพูดอะไรนะ? ในมือเขามี……”
“ใช่!”
พูดถึงสิ่งนี้ บนใบหน้าของหนานกงจิ่นแว็บผ่านความขึงลับหนึ่งที
“อยู่ในสิบปีก่อน เพื่อแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์หลายชิ้นนั้นที่ตกอยู่ในมือเขาตลอดเวลาผมก็ถูกเขาทำให้อยู่ต่อจนถึงตอนนี้ แต่คุณดูสิล้วนผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เพื่อแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์กู้ซือเฉียนกับเฉียวฉีบินไปทั่วโลก คุณก็ช่วยพวกเขาหาอย่างสุดจิตสุดใจเช่นกัน แต่ว่าลู่จิ่งเซินล่ะ? อิอิ”