วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - บทที่ 1072 ทำให้เกิดการรบกวนความสงบสุขของทารกในครรภ์
- Home
- วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน
- บทที่ 1072 ทำให้เกิดการรบกวนความสงบสุขของทารกในครรภ์
คนคนนั้นจ้องมองลู่จิ่งเซินอีกที
หนานกงจิ่นจนใจ ได้แต่ให้คนปล่อยลู่จิ่งเซินกับพวกเขากู้ซือเฉียนทั้งสามคนออกไป
แต่จิ่งหนิงกับโม่ไฉ่เวย กลับยังคงจับกุมอยู่ในมือของเขาอย่างแน่นโดยตลอด
เขารู้ว่าความรักความผูกพันที่ลู่จิ่งเซินมีต่อจิ่งหนิงลึกขนาดไหน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเบิกตาโพลงจ้องมองจิ่งหนิงเกิดเรื่องอย่างเด็ดขาด
ดังนั้น เพียงแค่เขายึดกุมจิ่งหนิงไว้อย่างแน่น ก็ไม่กลัวลู่จิ่งเซินจะฉ้อโกงแล้ว
อยู่ตอนที่ลูกน้องส่งสายตาซักถามไปยังลู่จิ่งเซินอีก ลู่จิ่งเซินพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกเล็กน้อยซึ่งไม่สามารถสังเกตได้
นี่ฝ่ายตรงข้ามจึงใบหน้าเย็นชาอยู่ยื่นกล่องที่ใส่แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์เข้าไป
ตอนที่เห็นกล่องนั้น ตาของหนานกงจิ่นก็สว่างเลย
ทั้งใบหน้าล้วนเปิดเผยสีสันที่แวววาวแห่งความละโมบโลภออกมา เขายกมือขึ้นคว้ากล่องเข้ามาทันทีหลังจากเปิดออก เพียงเห็นข้างในสะดุดตามากเป็นแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ทั้งสามชิ้นนั้นที่แต่ก่อนลู่จิ่งเซินแย่งไปจากมือเขา
หาเจอแล้ว!
ในที่สุดก็หาเจอแล้ว!
ในที่สุดเฉียนเฉียนของเขาก็มีทางรอดแล้ว เขารอมาหลายปีขนาดนี้ ในที่สุดก็รอถึงวันที่อยู่พร้อมกันกับเฉียนเฉียนของเขานี้แล้ว
หนานกงจิ่นดีใจจนแทบจะร้องไห้
เขาจ้องมองลู่จิ่งเซินพวกเขาทั้งหลายหนึ่งที ฉวยโอกาสที่ไม่มีคนสังเกตเห็น หันหน้าก็วิ่งไปยังข้างนอกเลย
กู้ซือเฉียนเป็นคนที่มีปฏิกิริยาขึ้นมาก่อนใคร โดยจิตใต้สำนึกก็ย่างก้าวจะไล่ตามไป
กลับถูกลู่จิ่งเซินเรียกไว้
“ไม่ต้องตามแล้ว!”
กู้ซือเฉียนหันหน้าไปไม่เข้าใจจ้องมองเขาอยู่
ลู่จิ่งเซินจ้องมองไปยังลูกน้องของตนเอง
“ของติดตั้งเสร็จหรือยัง?”
ฝ่ายตรงข้ามพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “ติดตั้งเสร็จแล้ว”
“ติดตามเขา ดูว่าเขาไปที่ไหน”
“ครับ”
พวกลูกน้องออกไปหมดแล้ว
กู้ซือเฉียนกับเฉียวฉีและคนอื่นๆนี่จึงมีปฏิกิริยาขึ้นมา อยากรู้อยากเห็นถามว่า “คุณวางแผนอะไรไว้แล้วเหรอ?”
ลู่จิ่งเซินอมยิ้มหนึ่งที “ก็ไม่มีอะไร ลูกเล่นเล็กน้อย เดี๋ยวพวกคุณก็รู้เอง”
เขาไม่ได้เล่าอย่างละเอียดเลย กู้ซือเฉียนกลับมองออกว่า เขาวางแผนมาก่อนแล้ว นี่จึงวางใจลง
ในเวลานี้ อยู่ดีๆข้างกายส่งเสียง อืม เสียงหนึ่งของหญิงสาวมา
พอลู่จิ่งเซินหันหน้าไปมอง ทันใดนั้นสีหน้าเปลี่ยนอย่างรุนแรง
เพียงเห็นจิ่งหนิงก้มตัวอยู่จับท้องไว้นั่งยองๆอยู่กับพื้น และข้างกายเธอโม่ไฉ่เวยกำลังสับสนวุ่นวายหมดหวังพยุงเธออยู่
“หนิงหนิง!”
เขาร้องตะโกนเสียงหนึ่ง กอดจิ่งหนิงไว้ทันที จิ่งหนิงจ้องมองเขาอยู่ ร้องเสียงแหบแห้งพูดว่า “จิ่งเซิน ท้องฉัน……ท้องเจ็บมาก”
มีเลือดสีแดงไหลตามต้นขาลงมา
ลู่จิ่งเซินจ้องมองจนตาล้วนค้างแล้ว อุ้มเธอขึ้นมาทันทีพุ่งออกไปยังข้างนอก
“วางแผนรถ ไปโรงพยาบาล!”
พื้นที่ที่นี่เป็นทะเลทราย เงื่อนไขไม่ดีเลย โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดกับพวกเขาเพียงแค่อนามัยเล็กๆแห่งนี้ที่อยู่ในเมืองแห่งนี้เท่านั้น
ลู่จิ่งเซินจ้องมองจิ่งหนิงที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ขอบตาแดง
“หนิงหนิง คุณแข็งใจไว้ ผมรีบโทรเรียกเชวซู่เข้ามาจะไม่เป็นไรนะ”
จิ่งหนิงจับมือเขาไว้อย่างแน่น เจ็บจนพูดไม่ออกแล้ว
ลู่จิ่งเซินไม่กล้าห่างออก ให้โม่ไฉ่เวยไปโทรหาเชวซู่
โชคดีตอนที่เชวซู่รู้ว่าโม่ไฉ่เวยกับจิ่งหนิงอยู่ที่ไหน ก็อยู่ระหว่างทางที่กำลังจะเข้ามาก่อนแล้ว
ผ่านไปประมาณไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็รีบเร่งมาถึงโรงพยาบาล
“คนล่ะ? คนอยู่ที่ไหน?”
เชวซู่อยู่ระหว่างทาง ก็รู้อาการของจิ่งหนิงผ่านโทรศัพท์ว่าค่อนข้างรุนแรง ด้วยเหตุนี้ตอนที่เข้ามาก็มีความร้อนใจเล็กน้อยเช่นกัน
ฝูงชนที่ล้อมรอบอยู่บนระเบียงทางเดิน หลีกทางออกมาทางหนึ่งโดยอัตโนมัติ ลู่จิ่งเซินพุ่งเข้ามาจับเขาไว้ทันที
“คนอยู่ในห้องผ่าตัด หมอที่นี่ผมไม่เชื่อใจ คุณอาเชว เรื่องนี้ล้วนอาศัยคุณแล้ว คุณจะต้อง ……”
เชวซู่โบกมือแล้วโบกมืออีก “วางใจเถอะ ผมรู้”
พูดจบ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าไปห้องผ่าตัดโดยตรง
ลู่จิ่งเซินจ้องมองมือที่ว่างเปล่าอยู่ ใจลอยไปสักพัก นี่จึงรีบตามเข้าไปด้วย
ตอนนี้จิ่งหนิงตั้งครรภ์ห้าเดือนแล้ว
เพราะว่าเป็นฝาแฝด ดังนั้นท้องจะใหญ่กว่าหญิงมีครรภ์ทั่วไปหน่อย
ถึงแม้ว่าหลายวันนี้ เธอพยายามทำให้ตนเองสงบเงียบลงแล้ว พยายามเต็มที่ไม่ให้ได้รับผลกระทบทำให้เด็กเกิดเรื่องอะไรขึ้น
แต่มีบางสิ่งถึงยังไงยังคงไม่อยู่ในขอบเขตการควบคุมของเธอ
ด้วยเหตุนี้หลังจากตอนที่เห็นการแลกเปลี่ยนสำเร็จ ในที่สุดก็พ้นจากอันตรายแล้ว กลับไม่ได้แข็งเอาไว้
ทันใดนั้นร่างกายก็พังทลายลงมา ในเวลาเดียวกัน ท้องก็ประคองไม่ไหวแล้วเช่นกัน
นี่จึงมีอาการที่จะแท้งลูก
เชวซู่อยู่ข้างในยุ่งไปนานมาก
ฝีมือการรักษาโรคของเขาล้ำเลิศ จุดนี้ลู่จิ่งเซินกลับเชื่อใจเขามาก
เพียงแค่นึกถึงคนที่นอนอยู่ที่นั่นเป็นจิ่งหนิง ในใจเขาก็อดไม่ไหวที่จะดึงเข้ามาจับไว้แน่นพักหนึ่ง
หนิงหนิง หนิงหนิงของเขา
จะต้องไม่เกิดเรื่องอะไรนะ
เขายังมีคำพูดมากมายที่ไม่ได้พูดกับเธอ ยังมีเรื่องมากมายที่ยังไม่ได้อธิบายกับเธอ
รวมกับเรื่องในครั้งนี้ เขายังติดค้างคำขอโทษคำหนึ่งกับเธอล่ะ
ลู่จิ่งเซินจับมือจิ่งหนิงอย่างแน่นอยู่ข้างๆโดยตลอด
โม่ไฉ่เวยก็กังวลมากเช่นกัน
แต่เป็นเพราะว่าใจของเธอค่อนข้างอ่อนแอ รับฉากที่กระทบกระเทือนมากเกินไปไม่ไหว ด้วยเหตุนี้ให้รออยู่ข้างนอก ไม่ได้เข้าไปเลย
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง
ในที่สุดเชวซู่ก็โล่งอกไปที
“ได้แล้ว ขณะนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว”
ในเวลานี้ เพราะว่าจิ่งหนิงเหนื่อยเกินไป และร่างกายอ่อนแอเกินไป นอนหลับอย่างไม่รู้สึกตัวไปนานแล้ว
เชวซู่เช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก จ้องมองลู่จิ่งเซินที่สงสัยงงงวยเต็มใบหน้า ยกมือให้สัญญาณเขาออกไปคุยข้างนอก
นี่ลู่จิ่งเซินจึงอาลัยอาวรณ์ปล่อยมือของจิ่งหนิงออก หนึ่งก้าวหันหน้าดูสามครั้งจึงตามเขาออกไป
“คุณอาเชว ตกลงเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
พอออกจากห้องผ่าตัด ลู่จิ่งเซินก็รอไม่ไหวที่จะถาม
เชวซู่ถอนหายใจหนึ่งที “ขณะนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้ว แม่ลูกปลอดภัย แต่เป็นเพราะว่าทำให้เกิดการรบกวนความสงบสุขของทารกในครรภ์ ช่วงเวลานี้ดีที่สุดล้วนต้องนอนพักครรภ์อยู่บนเตียง อย่าขยับตัวไปทั่ว ช่วงเวลานี้พวกคุณกลับประเทศไม่ได้”
ลู่จิ่งเซินได้ยินคำพูด โล่งอกไปที
ไม่สามารถกลับประเทศไม่เป็นไร จะต้องพักต่ออยู่ในเมืองเล็กๆแห่งนี้ก็ไม่เป็นไร
เพียงแค่จิ่งหนิงไม่เป็นอะไร ทั้งหมดล้วนไม่ใช่ปัญหาอะไร
ลู่จิ่งเซินแทบจะดีใจจนร้องไห้ โม่ไฉ่เวยได้ยินผลลัพธ์นี้ ก็โล่งอกไปทีเช่นกัน
และกู้ซือเฉียนกับเฉียวฉีที่ตามหลังมา เห็นสภาพก็ตบไหล่ของเขาตบแล้วตบอีก
“จิ่งหนิงไม่เป็นไรก็พอแล้ว ลู่จิ่งเซิน เรื่องที่เกี่ยวกับหนานกงจิ่น……”
นี่ลู่จิ่งเซินจึงนึกถึงว่ายังมีเรื่องฝั่งโน้นยังไม่ได้จัดการ
สีหน้าของเขาขึงลับลง
ระหว่างหนานกงจิ่นกับเขาไม่ว่าต่อสู้ทั้งต่อหน้าและลับหลังยังไงล้วนไม่เป็นไร แต่พอเกี่ยวเนื่องไปถึงความปลอดภัยของจิ่งหนิงเรื่องนี้ก็ไม่ได้จบง่ายขนาดนี้แล้ว
นัยน์ตาลึกๆของเขาแว็บผ่านความโหดเหี้ยมอำมหิตหนึ่งที พูดเสียงเข้มว่า “เรื่องนี้ผมจะจัดการเอง พวกคุณไม่ต้องกังวล”
ในเวลาเดียวกัน จ้องมองเฉียวฉีหนึ่งที
“กลับมีคำพูดหนึ่ง ผมอยากจะถามพวกคุณ”
ทั้งสองคนล้วนอึ้งชะงัก
สัญชาตญาณบอกกับพวกเขา สิ่งที่ลู่จิ่งเซินจะถามอาจจะไม่ใช่คำถามที่ดีอะไร
แต่ในเวลานี้ ก็ไม่มีทางออกอะไรแล้วเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองคนล้วนพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
“คุณถามเถอะ”
ลู่จิ่งเซินถามว่า “ถ้าหากว่าหนานกงจิ่นตายแล้ว ต้นเงินทองก็ยังหาไม่เจอเช่นกัน พวกคุณจะโกรธผมหรือไม่?”
ทั้งสองคนชงักงัน
คำถามนี้ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย
ต้นเงินทองไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเฉียวฉี ยังเกี่ยวข้องกับคนทั้งหลายในตระกูลหนานอีก ลู่จิ่งเซินถึงขนาดล้วนจะไม่สนใจชีวิตของคนทั้งหลายแล้วเหรอ?
ความเงียบของคนทั้งสอง ให้คำตอบลู่จิ่งเซินแล้ว
“บอกกับพวกคุณตามตรงเถอะ ผมติดตั้งตัวระบุตำแหน่งอันหนึ่งอยู่บนแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ของเขา ยังมีระเบิดขนาดเล็กที่สามารถควบคุมได้จากระยะไกลอีก”