วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - บทที่ 1073 รอดจากเหตุการณ์ที่เลวร้าย
ทั้งสองคนอึ้งชะงักอย่างโหดร้าย!
ระเบิดขนาดเล็กเหรอ?
นี่……
แต่ว่าคิดให้ละเอียด ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้
แต่ก่อนพวกเขาเข้าใจหนานกงจิ่นไม่พอ ดังนั้นไม่รู้จุดอ่อนของเขา
แต่ปะทะกันมาเป็นช่วงเวลานานขนาดนี้ ก็ค่อยๆเข้าใจแล้วเช่นกัน
เพราะว่าเป็นคนที่เดินมาจากพันปีก่อน ดังนั้นส่วนลึกของจิตใจเขามีความเย่อหยิ่งกับถือดีอยู่อย่างมหันต์
มักจะรู้สึกว่าตนเองรู้มากกว่าคนอื่น และร้ายกาจกว่า
เขามีความสามารถเต็มตัวจริงๆ อยู่ด้านการต่อสู้วิชาการโบราณศิลปะนี้ชำนาญเหลือเกิน
แต่อยู่ด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ กลับเป็นจุดอ่อน
แต่ก่อนกู้ซือเฉียนอาศัยตอนเอาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ให้เขาและติดตั้งตัวระบุตำแหน่งอยู่บนกล่องที่ใส่แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ ก็จะไม่ใช่เป็นตัวอย่างหนึ่งเหรอ?
ตอนนี้ ตามวิธีการของลู่จิ่งเซิน มีแต่จะทำโหดเหี้ยมมากกว่าเขาอีก และไม่ใช่เบากว่า
ใจของกู้ซือเฉียนกับเฉียวฉีสงบลงนิดๆ
แต่นึกถึงคำถามที่ลู่จิ่งเซินถามเมื่อกี้นั้น ทั้งสองคนล้วนเงียบไปอีกพักหนึ่ง
สุดท้าย ยังเป็นเฉียวฉีเอ่ยปากก่อน
“พวกเราจะไม่โกรธคุณ ความเป็นความตายถูกกำหนดโดยโชคชะตา ถึงแม้หนานกงจิ่นมีชีวิตอยู่ก็ไม่แน่ที่จะช่วยพวกเราอย่างจริงใจ สุดท้ายยังคงต้องเป็นพวกเราเองไปคิดวิธีจัดการเรื่องยากข้อนี้
ยิ่งกว่านั้นถ้าหากให้เขารวบรวมแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ครบทั้งสิบสองชิ้นจริงๆ เปิดยานอวกาศสำเร็จโดยทำให้เกิดนิวเคลียร์ระเบิด ถึงเวลานั้นคนที่ตายก็ไม่เพียงแค่พวกเรากลุ่มนี้แล้ว อาจจะมีคนมากมายมหาศาลมากกว่าร้อยล้านถูกผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ พวกเราเห็นเขาทำอย่างนี้ไม่ได้”
กู้ซือเฉียนก็พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกเช่นกัน
“อะเฉียวพูดถูก เรื่องนี้พวกเราจะคิดวิธีเอง หนานกงจิ่นต้องตาย”
ลู่จิ่งเซินจ้องมองพวกเขาอยู่ ถ้าในใจจะพูดว่าไม่สั่นสะเทือนนั่นก็จอมปลอมแล้ว
เขายกมือตบไหล่ของทั้งสองคน ตบแล้วตบอีก
“พวกคุณวางใจเถอะ ก่อนหน้านี้ผมก็ขอร้องคุณอาเชวค้นคว้าวิจัยยาถอนพิษเกี่ยวกับโรคแบบนี้อยู่แล้ว พวกเรามีต้นเงินทองอยู่ในมือ อย่างน้อยชีวิตของเฉียวฉียังไม่ต้องกังวลเป็นเวลาชั่วคราว เพียงแค่ค้นคว้าวิจัยยาถอนพิษออกมา จะแก้โรคนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”
ทั้งสองคนล้วนพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
ในเมื่อตกลงกันแล้ว ทุกคนก็ไม่พัวพันกับหัวข้อนี้อีก
ลู่จิ่งเซินสั่งคนลงไป จับตามองหนานกงจิ่นอยู่อย่างแน่น รอให้ถึงเวลากับสถานที่ที่เหมาะสม ทำการระเบิดทันที
การระเบิดในครั้งนี้ เขาทำจนยอดเยี่ยมล้ำเลิศเหลือเกิน
ใครๆก็นึกไม่ถึง แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ที่ถูกโลกภายนอกแย่งชิงจนหัวแตกที่มีค่ามหาศาล จะถูกเขาใช้เทคโนโลยีการตัดอย่างไฮเทคตัดมันออกใส่ชิประเบิดไว้ในแต่ละชิ้น
เพียงแค่ถึงเวลาจุดนั้น ฝั่งนี้กดสวิสลง ฝั่งโน้นก็จะระเบิดทันที
องค์ประกอบนิวเคลียสเม็ดเล็กที่ใส่อยู่ข้างใน แม้ว่าจะไม่ทำให้เกิดผลกระทบมากเกินไปกับบริเวณรอบๆ แต่จะทำให้คนที่ถือสิ่งของชิ้นนี้ในมือตายในชั่วพริบตาเดียวอย่างแน่นอน
นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำไมลู่จิ่งเซินไม่ได้กดสวิสลงในทันที แต่ให้คนตามรอยหาเวลาที่แม่นยำ
ถึงยังไงอานุภาพของนิวเคลียร์สิ่งนี้ยังคงมากเกินไปแล้ว
เขาไม่อยากทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ด้วยเหตุนี้ยกเว้นตอนที่หนานกงจิ่นอยู่คนเดียว เขาจึงจะทำการระเบิดแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์
และเขาเชื่อมั่น หนานกงจิ่นยากที่จะได้แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์มา ย่อมจะไม่วางใจเอาของเหล่านี้ไว้กับคนข้างๆ ย่อมติดตัวตนเองอย่างแน่นอน ต่อจากนี้เพียงแค่จับได้ตอนที่เขาอยู่ลำพังก็ได้แล้ว
หลังจากลู่จิ่งเซินสั่งลงไปเสร็จ กู้ซือเฉียนกับเฉียวฉีเห็นตนเองอยู่นี่ไม่ได้ทำอะไร ก็เป็นฝ่ายไปช่วยเองเลย
ลู่จิ่งเซินกลับถึงห้องผู้ป่วย
ในเวลานี้ จิ่งหนิงยังไม่ฟื้น
เชวซู่ลงไปพักผ่อนแล้ว โม่ไฉ่เวยเฝ้าอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยของเธอ
มองเห็นลู่จิ่งเซินเข้ามา โม่ไฉ่เวยขยี้ตาที่แดงขยี้แล้วขยี้อีก ฝืนยิ้มพูดว่า “แกมาแล้ว แกอยู่เป็นเพื่อนเธอเถอะ ฉันออกไปก่อนล่ะ”
ลู่จิ่งเซินพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก สัตย์ซื่อจริงใจพูดว่า “ขอบคุณครับแม่”
โม่ไฉ่เวยโบกมือแล้วโบกมืออีก ไม่ได้พูดอะไร หมุนตัวออกไปเลย
ลู่จิ่งเซินนั่งลงอยู่หน้าเตียงผู้ป่วย
เพียงเห็นผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงสีหน้าขาวซีดดั่งกระดาษ ตรงท้องที่อยู่ใต้ผ้าห่มนูนขึ้นนิดๆ นั่นเป็นลูกของพวกเขา
ลู่จิ่งเซินยกมือขึ้น ฝ่ามือวางอยู่บนท้องน้อยของเธออย่างเบาๆ
ก็อยู่ในเวลานี้ ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง อยู่ดีๆ ฮึ เสียงเบาๆหนึ่งที
เขาสั่นระริกทั้งตัว รีบลุกขึ้น ก็เห็นจิ่งหนิงลืมตาขึ้นนิดๆจ้องมองเขาอยู่อย่างอ่อนแอ
“หนิงหนิง คุณฟื้นแล้วเหรอ?”
เขาแทบจะดีใจจนเลิกคิ้ว จับมือเธอไว้อย่างแน่น เป็นห่วงถามว่า “มีตรงไหนไม่สบายหรือไม่? ผมจะรีบไปเรียกคุณอาเชวเข้ามา”
กำลังจะออกไป มือของจิ่งหนิงออกแรงนิดๆ ดึงเขาไว้เลย
“ไม่ต้อง จิ่งเซิน……”
ลู่จิ่งเซินรีบหยุดย่างก้าว หันหน้ากลับจ้องมองเธออยู่อย่างตื่นเต้น
“เป็นยังไงล่ะ?”
จิ่งหนิงถาม “หนานกงจิ่นล่ะ? เขาเป็นยังไงล่ะ?”
ลู่จิ่งเซินแข็งทื่อทันที
เขานึกไม่ถึงจริงๆ เรื่องแรกที่จิ่งหนิงฟื้นขึ้นมาถามเป็นเรื่องหนานกงจิ่น
ลู่จิ่งเซินไม่อยากปกปิดเธออีก ดังนั้นเล่าแผนการกับการวางแผนของตนเองให้กับจิ่งหนิงฟังทั้งหมด
จิ่งหนิงฟังจบ เงียบไปสักพัก ถอนหายใจหนึ่งที
“แท้ที่จริงเขาก็เป็นคนน่าสงสารคนหนึ่งเช่นกัน”
ตอนที่รักแท้เคยยืนอยู่ต่อหน้าตนเองไม่รู้จักทะนุถนอม ตอนที่เสียรักแท้ไป กลับจับความอาลัยรักกับความหวังเล็กน้อยนั้นอย่างแน่นไม่ยอมปล่อยมือ
จากนี้ไล่ตามย่างก้าวของเธอ เหยียบผ่านเวลา เหยียบผ่านภูเขาแม่น้ำมากมาย พยายามมาเป็นพันปี เพียงแค่จะรอวันที่เธอฟื้นคืนชีพนั้น
แต่ว่า เขาอาจจะไม่รู้ตลอดกาล ที่ว่าแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์เพียงแค่หลุมพรางอย่างหนึ่งล่ะ
เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นคืนชีพเลยสักนิด ไม่เพียงแค่นี้ ยังจะทำให้คนมากมายตกอยู่ในภัยพิบัติอีก
ถ้าจะพูดว่าหนานกงจิ่นเป็นคนร้ายคนหนึ่ง มิสู้พูดว่าเป็นคนโง่คนหนึ่งที่ตกอยู่ในความรักความผูกพันจนเกือบจะบ้าคลั่ง
ลู่จิ่งเซินไม่ได้พูด อยู่ดีๆจิ่งหนิงขมวดคิ้ว ยกมือจับท้องของตนเองไว้
ลู่จิ่งเซินตื่นเต้นขึ้นมาทันที ทั้งห่วงใย พูดอีกว่า “หนิงหนิง เป็นยังไงเหรอ? ท้องไม่สบายใช่หรือไม่ล่ะ?”
จิ่งหนิงส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก
อยู่ดีๆเธอปรากฏรอยยิ้มที่สบายออกมาหนึ่งที หันหน้ามองไปยังลู่จิ่งเซิน
“เมื่อกี้ฉันดูเหมือนจะรู้สึกถึงการขยับตัวของทารกในครรภ์”
ลู่จิ่งเซินอึ้งชะงัก
เขาไม่ได้เป็นพ่อครั้งแรกแล้ว ย่อมรู้จักอะไรคือการขยับตัวของทารกในครรภ์
นี่ก็หมายความว่า เด็กแข็งแรงมากล่ะ เด็กไม่เป็นไร!
ลู่จิ่งเซินก็ดีใจมากเช่นกัน เขาจับมือของจิ่งหนิงไว้อย่างแน่น สัตย์ซื่อจริงใจพูดว่า “หนิงหนิง รอคุณดีขึ้นแล้ว ผมก็จะเล่าเรื่องทุกอย่างในหลายปีที่ผ่านมานี้ให้คุณฟังหมด จะไม่ปกปิดสักนิด ดีหรือไม่ล่ะ?”
จิ่งหนิงจ้องมองเขาอยู่อย่างลึกๆ
แรกสุดตอนที่รู้ความจริง แท้ที่จริงเธอมีความโกรธต่อลู่จิ่งเซินอยู่
แต่ว่านึกถึงความยึดมั่นถือมั่นของเขา ความจริงจังของเขา ความเจ็บปวดใจและความลำบากยากเข็ญของเขา
ความโกรธเหล่านั้น ดูเหมือนก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นแล้ว
จิ่งหนิงใบหน้าขาวซีดยิ้มแล้วยิ้มอีก
“ได้”
“ฉันจะรอวันนั้นที่คุณบอกความจริงทั้งหมดกับฉัน”
ข่าวที่จิ่งหนิงฟื้นแล้ว ไม่นานคนทั้งหลายล้วนรู้หมดเลย
เชวซู่ยังคงเข้ามาทำการตรวจเช็คให้กับเธอสักหน่อย แน่ใจว่าขณะนี้ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว เพียงแค่ช่วงเวลานี้ต้องนอนพักครรภ์อยู่บนเตียงตลอด จนกว่าสภาพทารกในครรภ์จะมีเสถียรภาพจึงลงจากเตียงได้
จุดนี้กลับไม่มีอะไร ไม่ว่ายังไง จิ่งหนิงกับลูกสำคัญที่สุด
ดังนั้น ลู่จิ่งเซินก็เลยอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนกับเธอโดยตลอด แทบจะพูดได้ว่าติดตามอย่างใกล้ชิดไม่ห่างสักก้าว
และสำหรับเรื่องของหนานกงจิ่นฝั่งโน้น เขามอบเรื่องนี้ให้กู้ซือเฉียนกับเฉียวฉีแล้ว