ศพ - ตอนที่ 243 เริ่มพิธีย้ายหลุมศพ
ตอนที่ 243 เริ่มพิธีย้ายหลุมศพ
ผมเห็นผู้อาวุโสณีออกไปแล้ว ผมจึงพูดกับคุณฉีที่กําลังคํานับว่า “ คุณฉี ผู้อาวุโสออกไปแล้ว คุณรีบลุกขึ้นเถอะ!”
คุณไม่พูด แต่เขาก็ลุกขึ้น
เหล่าเฟิงเองก็ปล่อยภรรยาคุณฉี แต่วินาทีที่คุณฉีลุกขึ้น ภรรยาคุณฉีก็พุ่งเข้ามาจะตบหน้าผม
“ ไอ้นักพรตชั่ว แกมันพูดจาเหลวไหล!”
แต่มือยังไม่มาถึงหน้าผม คุณฉีก็จับมือภรรยาเอาไว้ “ พอแล้ว ท่านนักพรตเสี่ยวติงแค่พูดแทนพ่อ เธอทําเรื่องผิดต่อฉันรึเปล่า ? พวกเรากลับไปตรวจเดียวก็ได้รู้! ไม่ท้องดีที่สุด นี่จะถือเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด แต่ถ้าท้อง แกเตรียมหย่ากับฉันได้เลย! แล้วยังต้องชดใช้ให้ฉันทั้งหมด!”
หลังจากพูดจบ คุณฉีก็สะบัดมืออย่างรวดเร็ว และผลักภรรยาออกไปทันที
จากนั้นก็หันมาพูดกับพวกเราว่า “ ท่านนักพรตทั้งหลาย ยังกินข้าวกันไม่เสร็จเลย พวกเราไปกินต่อเถอะครับ!”
ขณะที่พูด คุณฉีก็ฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย
ภรรยาคุณฉีที่ล้มลงกับพื้น กลับร้องไห้ออกมาทันที
พวกเราไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี แต่ยังไงพวกเราก็รู้สึกอึดอัดมาก
หลังจากนั้น พวกเราก็ออกจากห้องมาถึงตัวบ้าน
เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู ก็มีคนแก่หลายคนและพวกป้าๆ เข้ามาถามไถ่
ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฉีเสี่ยวเทียนเป็นอะไร แล้วทําไมภรรยาคุณฉีกําลังร้องไห้อยู่
คุณฉียังยิ้มให้ พูดว่าไม่มีอะไร เด็กตกใจเลยร้องไห้ บอกให้ทุกคนไปกินข้าวกันต่อ
ผู้คนในที่นั้นไม่ได้คิดอะไรมาก ในเมื่อเด็กดีขึ้นแล้ว และยังได้ยินคุณฉีพูดแบบนั้น ดังนั้นทุกคนจึงเข้ามานั่งล้อมวง และกินข้าวกันต่อ
แต่คุณฉีที่นั่งข้างๆ เห็นได้ชัดว่าเขากินไม่ลง เอาแต่รินเอง ดื่มเอง
แม้ตอนกินข้าวจะเจอเรื่องขัดจังหวะเล็กน้อย แต่มันไม่ได้ส่งผลต่อความอยากอาหารของผมและเฟิงเฉ่วหาน ช่วงเวลานี้พวกเรากินดื่มกันอย่างเต็มที่
คนแก่และพวกป้าๆที่อยู่ที่นี่ หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ก็อยู่ต่อกันอีกแป๊บหนึ่ง หลังจากนั้นก็กลับบ้านของตัวเอง
คนที่เหลืออยู่ก็คือนักพรตอย่างพวกเรา ครอบครัวคุณและคนขับรถสามคน
ตอนนี้คุณฉีดื่มเข้าไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังมีแรงดึงคนขับรถอีกสองคนไปนั่งดื่มเป็นเพื่อน
ลูกน้องของเขาก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง จึงต้องนั่งดื่มกับคุณ
คุณฉีดื่มไปเพ้อไป เขาพูดว่า ทําไมฉันโง่ขนาดนี้ น่าจะรู้ตั้งนานแล้ว
หลังจากพูดจบเขาก็พูดต่อทันที ไม่ไม่ไม่ พ่อต้องเข้าใจผิดแน่ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง ต้องเป็นเรื่องโกหก
เสี่ยวเทียนต้องเป็นลูกของฉัน
คนขับรถสามคนไม่เข้าใจ แต่อาจารย์ ท่านนักพรตตู๋ ผมและเหล่าเฟิง กลับเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
คุณฉีกําลังพูดเรื่องที่เขาโดนภรรยาสวมเขา ผู้อาวุโสเป็นฉี เป็นธรรมดาที่เขาจะแยกแยะออกว่าเสี่ยวเทียนเป็นหลานของเขารึเปล่า
ภรรยาคุณฉีสวมเขาให้คุณอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแค่คุณไม่เห็นผู้อาวุโสฉีด้วยตัวเอง ในใจจึงยังมีความหวังบางๆ หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด
ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ใครจะยอมรับเรื่องสวมเขาได้ และยังเรื่องเลี้ยงลูกให้คนอื่นอีก
อาจารย์และท่านนักพรตตู๋เห็นคุณฉีดื่มเยอะแล้ว จึงบอกให้คนขับรถทั้งสามคนพาเขากลับห้อง
เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนต่างตั้งตื่นแต่เช้า เพราะวันนี้ต้องย้ายหลุมศพ เมื่อทําเรื่องนี้เสร็จ งานของพวกเราก็จะเสร็จสมบูรณ์
ก่อนหน้านี้อาจารย์และท่านนักพรตตู๋คํานวณเวลาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว สําหรับวันเดือนปีเกิดของผู้อาวุโส
วันนี้มีช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดอยู่สองช่วง หนึ่งคือเก้าโมงเช้า สองคือหกโมงเย็น สําหรับผู้อาวุโสฉีทั้งสองเวลา สองช่วงนี้เป็นฤกษ์ดีที่สุด
ถ้าย้ายหลุมศพเวลาอื่น จะถือว่าไม่ค่อยเหมาะสม
เพียงแต่หลังจากตื่นมาตอนเช้า เตรียมของไปทําพิธี พวกเรากลับไม่เห็นเงาของคุณฉี
ต่อมาถึงได้รู้ว่า เมื่อคืนคุณฉีดื่มเยอะเกินไป อย่าว่าแต่ตามไปย้ายหลุมศพเลย ตอนนี้เขายังไม่ตื่นด้วยซ้ํา
อาจารย์และท่านนักพรตตู้เห็นคุณฉียังไม่ตื่น เลยตัดสินใจรออีกหน่อย จึงเลื่อนเป็นหกโมงเย็นแทน
ดังนั้น พวกเราจึงได้แต่อยู่ในบ้าน
ตอนกลางวัน สายตาที่ภรรยาคุณฉีใช้มองพวกเราไม่ดีเหมือนเก่าก่อนแล้ว หรือแม้แต่ส่งสายตาเกลียดชังพวกเราด้วย
แต่พวกเราก็ทําอะไรไม่ได้ ยังไงหลังจากย้ายหลุมเสร็จพวกเราก็จะจากไป เรื่องอื่นพวกเราจัดการไม่ไหว
เมื่อถึงเวลาประมาณบ่ายสาม ในที่สุดคุณฉีของเราก็ตื่นซะที
เขาเดินโซซัดโซเซออกจากห้อง อาจารย์และท่านนักพรตตู๋เห็นคุณฉีเดินออกมา จึงเล่ารายละเอียดการย้ายหลุมศพให้คุณฉีฟังหนึ่งรอบ
บอกเขาว่าถ้าเขาอยากย้ายหลุมศพวันนี้ จะต้องรอให้ถึงตอนเย็น ตอนเย็นเมื่อฟ้ามืดแล้ว ความเร็วอาจช้าลงหน่อย และอาจเกิดข้อผิดพลาดไปด้วย
ถ้าไม่ย้ายหลุมศพวันนี้ จะต้องรออีกสองวันถึงจะตรงกับฤกษ์ดี
คุณฉีขมวดคิ้ว แต่ก็ยังตัดสินใจจะย้ายเย็นนี้
บอกว่ามีอาจารย์และท่านนักพรตอยู่ เขามั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน
ในเวลาเดียวกันเขายังหันไปมองลูกชายที่กําลังเล่นของเล่นอยู่ไม่ไกล บอกว่าพอเรื่องนี้จบแล้ว
ถึงจะเป็นตอนกลางดึก เขาก็จะกลับเข้าเมืองไปจัดการเรื่องครอบครัวทันที
มันชัดเจนมาก คุณฉียังคิดเรื่องสวมเขาอยู่ เขาอยากเข้าเมืองไปตรวจดีเอ็นเอให้แน่ใจ
อาจารย์และท่านนักพรตตู๋เห็นคุณฉีตัดสินใจแล้ว จึงไม่พูดอะไรมาก
แม้การย้ายหลุมศพตอนกลางคืนจะยุ่งยากอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทําไม่ได้ บวกกับเป็นความต้องการของนายจ้าง พวกเราจึงทําตามเวลาที่กําหนดไว้
ตอนนี้บ่ายสามกว่าแล้ว ห่างจากหกโมงเย็นอีกสองชั่วโมงนิดๆ ดังนั้นพวกเราจึงเริ่มทํางาน
พวกเรานําสัตว์สามอย่าง และอุปกรณ์ขุดหลุมศพ ออกไปจากบ้าน
แต่ตอนออกจากบ้าน คุณฉีและภรรยากลับทะเลาะกันยกหนึ่ง และยังรุนแรงมากด้วย
เมื่อมาถึงหลุมศพใหม่ ท่านนักพรตตู๋ เฟิงเฉ่วหาน และคนขับรถคนหนึ่งอยู่ที่นี่
เมื่อถึง 6 โมงเย็น พวกเราจะเริ่มขุดพร้อมกัน
หลังจากนั้นท่านนักพรตตู๋และคนอื่นๆ จะตามมารวมตัว กับพวกเราที่หลุมศพเดิม ช่วยกันยกโลง และย้ายหลุมศพ
เรื่องพวกนี้ถูกเตรียมการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงรอให้ถึงเวลาที่กําหนดเท่านั้น
ขอแค่ไม่เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ก่อนห้าทุ่ม พวกเราก็น่าจะทําทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
ผ่านไปไม่นาน ผม อาจารย์ คุณฉี และคนขับรถอีกสองคน ก็ได้มาถึงหลุมศพดังเดิม
ผมทําตามที่อาจารย์สั่ง ทําสัตว์สามอย่างวางไว้หน้าหลุมศพก่อน นําผ้าขาวแขวนเอาไว้รอบๆ จากนั้นอาจารย์ก็เริ่มทําพิธี
คุณคุกเข่าอยู่ข้างๆ ส่วนคนขับรถอีกสองคนกําลังช่วยกันเผากระดาษ
หลังจากอาจารย์ทําการเซ่นไหว้เสร็จ ก็เป็นเวลา 5 โมงเย็นแล้ว ยังมีเวลาหนึ่งชั่วโมงในการขุดดิน
อาจารย์พักครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดกับพวกเราว่า “ โอเค ใกล้ถึงเวลาแล้ว ฉันจะเริ่มทําพิธีย้ายหลุมศพ
ตอนเริ่มพิธีย้ายหลุมศพคุณฉี คนขับรถทั้งสองคน! แล้วก็แก ถอยออกไปก่อน! ”
“ ได้อาจารย์ ! ” ผมขานรับ หลังจากนั้นก็รีบถอยไปอยู่หลังอาจารย์อย่างรวดเร็ว
คุณฉีและคนขับรถอีกสองคนก็ไม่รอช้า รีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว
อาจารย์เห็นพวกเราถอยไปแล้ว เขาก็ไม่รอช้า จุดธูป หยิบยันต์สามแผ่นออกมา
เขาพูดลากเสียงยาว และดังมาก “ กาน ชิง เฉา ช่าง คุน ยุ่น ฟาน กาง หลง หม่า หนิว เฉอ ตั้งแต่บรรพการ ยันต์สามแผ่นเช่นวิญญาณ หวังว่าท่านทั้งสองจะให้เกียรติ”
หลังจากพูดจบ อาจารย์โยนยันต์สามแผ่นออกจากมือ ไม่รอให้ยันต์ตกถึงพื้น อาจารย์ก็ประสามมือท่าเทียนเฮ่ออย่างรวดเร็ว
“ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพี้ยง !”
หลังจากพูดจบ ท่าประสานมือเทียนเฮ่อก็ชี้ไปข้างหน้า ทันใดนั้นยันต์สามแผ่นที่ตกลงมาบนพื้นดัง “ตูม”
ก็ระเบิดกลายเป็นลูกไฟ เผายันต์เป็นเถ้าถ่านทันที
แต่อาจารย์ยังไม่หยุด หลังจากขี้เถ้าของยันต์ทั้งหมดลอยหายไปแล้ว อาจารย์หยิบดาบไม้ขึ้นมา รําไปรอบๆ เห็นได้ชัดว่าพิธีเริ่มต้นขึ้นแล้ว