ศพ - ตอนที่ 256 แก่นหยินแดง
ตอนที่ 256 แก่นหยินแดง
พวกเรายืนอยู่ข้างๆ จู่ๆก็ได้ยินพี่เฟิงพูดกับท่านนักพรตตู๋ว่า เหลือเวลาอีกแค่ 3 เดือน มันจึงทําให้ผมและอาจารย์งงกันทันที
แต่นี่คงเป็นเรื่องส่วนตัวของ พี่เฟิงและท่านนักพรตตู๋ ดังนั้นพวกเราจึงไม่ถามอะไร
แต่ท่านนักพรตตู๋กลับสูดหายใจเข้า แล้วพูดออกมาทันที “ หานเฉ่วเฟิง เธอไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก !
3 เดือนหลังจากนี้ ฉันจะหาของมาให้เจ้าเอง แต่เจ้าก็จําคําสัญญาของตัวเองเอาไว้ด้วยละ ”
“ งั้นก็ดี ในเมื่อนายจําได้อย่างชัดเจน งั้นฉันกลับไปก่อนนะ ! ” หลังจากพูดจบ พี่เฟิงก็พ่นลมหายใจออกมา ตาเหลือก ทันใดนั้นร่างของพี่เฟิงก็ล้มลง เขาสลบไปในทันที
ผมยืนอยู่ข้างๆ จึงประคองพี่เฟิงเอาไว้ได้ทัน
ผมรู้ ถ้าพี่เฟิงเป็นคนยอมมอบร่างให้โดยดี เหล่าเฟิงก็จะตื่นขึ้นมาได้ ในช่วงเวลาสั้นๆ
ขณะที่ผมกําลังประคองร่างของเฟิงเฉ่วหาน อาจารย์อดกวาดสายตามองเขาไม่ได้ หลังจากนั้นก็พูดกับท่านนักพรตตู๋ด้วยท่าที่หดหูใจ “ เหล่าตู๋ มีเรื่องอะไรกันเหรอ ? แถมมีเวลากําหนดด้วย ”
เมื่อท่านนักพรตตู๋ได้ยินอาจารย์ถาม เขาก็อดถอนหายใจไม่ได้ “ เมื่อ 3 ปีก่อน ฉันรับปากหานเฉ่วเฟิง
ว่าจะหาแก่นหยินแดงมาให้เขาหนึ่งเม็ด ถ้าทําไม่ได้ เขาจะเริ่มแย่งร่างมาจากเสี่ยวเฟิง ไม่เป็นวิญญาณรองที่ต้องหลับไหลอีกต่อไป”
จู่ๆก็ได้ยินท่านนักพรตตู๋พูดแบบนี้ ในใจของผมจึงอดไม่ได้ที่จะมีเสียงดัง “ กึก ” แก่นหยินแดง ไม่ใช่เรื่องตลก
แก่นหยินคืออะไร นั่นก็คือแก่นพลังของธาตุหยิน เป็นตัวบรรจุพลังหยินที่ทรงพลังเอาไว้ ซึ่งหลอมรวมกันในร่างกาย
ของสิ่งนี้มีจริงแต่เราเอามาได้ยาก ถ้าอยากได้สิ่งนี้ เราจะต้องฆ่าอีกฝ่ายก่อน
แต่ถ้าอีกฝ่ายตายแล้ว แก่นพลังหยินก็จะสลายไปด้วย ดังนั้นต้องใช้ฝีมือชั้นสูง ก็คือฆ่าในคราวเดียว
และรีบชิงแก่นพลังออกมา มันถึงจะคงสภาพอยู่ได้ ไม่อย่างนั้นในระยะเวลาไม่กี่นาทีนั้น แก่นพลังหยินก็จะหายไปโดยอัติโนมัติ
ถึงเจ้าสิ่งนี้จะสามารถออกมาจากวิญญาณได้ แต่ถ้านํามาใช้ให้ดี มันก็ถือเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง
เพราะสามารถใช้ซ่อนตัวจากภูติผีได้
เรื่องรูปร่างนั้น ก็เหมือนสร้อยที่เสี่ยวม่านสวมเอาไว้ก่อนหน้านี้ มีลวดลายแกะสลักงดงาม
มองดูแล้วเหมือนกับหยกเนื้อดีชิ้นหนึ่ง
พวกเราสู้กับผีมามากมาย แต่กระทั่งถึงตอนนี้ พวกเราก็ยังไม่ได้ของสิ่งนี้มาครอบครอง จะเห็นได้ว่าของสิ่งนี้หายากขนาดไหน
แต่มันยังไม่จบเท่านี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ คําพูดที่ท่านนักพรตตู๋พูดออกมา “ แดง”
แดงคืออะไร มันก็คือแก่นพลังหยินของผีร้ายชุดแดง
ผีแบ่งเป็น 5 ระดับ ขาว เหลือง แดง เขียว และม่วง
สีแดงอยู่ในอันดับที่สาม จะเห็นได้ว่าลําดับของผีนั้นหายากแค่ไหน
จนถึงตอนนี้ พวกเรายังไม่เคยเจอผีชุดแดงเลยสักครั้ง จึงไม่ต้องพูดถึงแก่นพลังหยินของมันเลย
ผมและอาจารย์อดขมวดคิ้วไม่ได้ แต่คุณฉีที่ยืนอยู่ข้างๆกลับเงี่ยหูฟังอย่างเงียบๆ
ในเวลานี้เขายังอ้าปากถามว่า “ ท่านนักพรตทุกท่าน อะ อะไรคือแก่นหยินแดง หาซื้อได้ที่ไหน พวกคุณช่วยผมถึงขนาดนี้ แค่คุณบอกสถานที่มา ผมตัวแทนตระกูลฉีจะไปซื้อมาให้พวกคุณทันที ! ”
คุณฉีก็เป็นคนดีเช่นกัน ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจว่าพวกเรากําลังคุยอะไร
แต่เมื่อเห็นพวกเราต้องการเจ้าสิ่งนี้มาก เขาก็อยากให้ตัวเองมีส่วนร่วมด้วย
แต่ท่านนักพรตตู๋กลับยิ้มอย่างขมขืน “ ขอบคุณในความหวังดีของคุณฉี แต่แก่นหยินนี้คือแก่นพลังหยินที่ทรงพลังของวิญญาณ เกิดและตายไปพร้อมกับมัน มีอยู่ทุกทีแต่เอามาครอบไม่ได้ง่ายๆ !”
เมื่อคุณได้ยินคําพูดนี้ เขาก็หน้าซีดทันที
เขายังคิดว่า เจ้าแก่นหยินนี้อาจเป็นแค่ยาราคาแพง หรือไม่ก็หยกล้ำค่า แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นแก่นพลังหยินของผี
ขณะที่คุณฉีกําลังตกใจและเลิ่กลั่ก เหล่าเฟิงก็ค่อยๆลืมตาขึ้น เขาได้สติแล้ว
เหล่าเฟิงเพิ่งตื่นขึ้นมา เขาก็กวาดสายตามองรอบๆ ขณะเดียวกันก็พูดออกมาว่า “ เป็นไงบ้าง ? จัดการผีดิบสองตัวนั้นได้แล้วเหรอ ? ”
“ เรียบร้อยแล้ว เอาศพไปฝังใหม่แล้วด้วย ! ” ผมตอบกลับทันที
เมื่อเหล่าเฟิงฟังจบ เขาก็พยักหน้าเล็กน้อย “ เสร็จแล้วก็ดี! แล้วทําไมพวกคุณมองผมแบบนี้ละ ?”
เฟิงเฉ่วหานเห็นสายตาแปลกๆของพวกเรา เขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
ท่านนักพรตตู๋รีบหลบสายตา “ ไม่ ไม่มีอะไร !”
หลังจากพูดจบ ท่านนักพรตตู๋ก็บอกให้พวกเราออกไปจากที่นี่
ถึงเหล่าเฟิงจะเป็นคนเย็นชา แต่เขาก็ฉลาด มองออกว่าบรรยากาศมันไม่ถูกต้อง
บวกกับเมื่อกี้เขาเพิ่งถูกหานเฉ่วเฟิงควบคุมร่ายกาย เขาจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ อาจารย์ เขาพูดอะไรใช่ไหม ? ”
ไม่รอให้ท่านนักพรตตู๋พูดออกมา อาจารย์ผมก็ตะโกนอยู่ข้างๆ “ พี่ของแกให้อาจารย์ของแกไปหาแก่นหยินแดง !”
เมื่อเหล่าเฟิงได้ยินคําพูดนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที “ สมควรตาย อาจารย์ไม่ต้องไปสนเขา ร่างเป็นของผม
ถึงเขาคิดจะยึดมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก”
ท่านนักพรตตู๋ไม่ได้พูดอะไร เพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย
ทุกคนไม่รู้จะพูดอะไรดี และไม่รู้ว่าท่านนักพรตตู๋ไปตกลงกับพี่เฟิงได้ยังไง แต่ตอนนี้ เป็นไปไม่ได้
ที่พวกเราจะหาแก่นหยินแดงเจอ…..
หลังจากนั้น ทุกคนก็ไม่คิดจะอยู่ตรงนี้ต่อ ต่างคนต่างหมุนตัวเดินกลับไปที่หมู่บ้านทันที
ระหว่างทาง ผมยังเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ให้เหล่าเฟิงฟังทั้งหมด
ระหว่างฟังเฟิงเฉ่วหานก็สงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ เขาคอยคิดหาสาเหตุตลอดทั้งเรื่อง
ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาดีแล้ว เมื่อจัดการศพทั้งสองเรียบร้อย งานของพวกเราก็ถือว่าเสร็จสิ้น เหลือแค่รอรับเงินแล้วเดินทางกลับบ้านเท่านั้น
ทุกคนเหนื่อยมาก เมื่อเข้าไปในบ้านก็ล้มตัวลงนอน คิดว่าจะได้พักผ่อนอีกหน่อย
แต่ขณะที่ผมนอนอยู่บนเตียง จะทํายังไงผมก็นอนไม่หลับ ในหัวของผมกําลังคิดเรื่องแก่นหยินแดงตลอด
ผมคิดว่า การได้เจ้าสิ่งนี้มาครองเหมือนกับการถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง มันแทบไม่มีโอกาสเลยสักนิด
ถ้า 3 เดือนหลังจากนี้ ท่านนักพรตตู๋หาแก่นหยินแดงมาให้พี่เฟิงไม่ได้ งั้นต่อไปเหล่าเฟิงจะไม่ควบคุมร่างกายได้อย่างลําบากเหรอ ?
ดังนั้น ผมจึงอดถามเหล่าเฟิงไม่ได้ “ เหล่าเฟิงหลับรึยัง ? ฉันมีเรื่องจะถาม
“ เรื่องแก่นหยินเหรอ ? ” เฟิงเฉวหานไม่หลับตาด้วยซ้ำ เขาพูดออกมาเบาๆ
“ ใช่ ฉันอยากรู้ว่า ทําไมพี่เฟิงต้องอยากได้เจ้านั้นด้วย ? แถมแก่นหยินของผีชุดแดง ก็ไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น ทําไมลุงตู๋ถึงได้รับปากเรื่องพันนี้ละ ?”
เมื่อเฟิงเฉ่วหานได้ยินคําพูดนี้ เขาก็ไม่ได้ตอบกลับทันที เขาถอนหายใจออกมา หลังจากนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้น
จุดบุหรี่ให้ตัวเอง หลังจากนั้นถึงพูดว่า “ ที่จริงเรื่องนี้ต้องโทษฉัน ! ”
“ โทษนาย ? ” ผมขมวดคิ้ว
เหล่าเฟิงพยักหน้า “ ใช่ เมื่อ 3 ปีก่อนฉันกับอาจารย์ไปเจอผีน้ำที่มณฑลซานซี แต่เจ้าผีน้ำตัวนั้นร้ายกาจมาก ตอนนั้นพวกเราคนปราบสิ่งชั่วร้ายมีกันทั้งหมด 6 คน ตายไป 3……..”
หลังจากนั้น เหล่าเฟิงก็เล่าเรื่องผีน้ำมณฑลซานซีเมื่อ 3 ปีก่อนให้ผมฟังหนึ่งรอบ
บอกว่าเมื่อสามปีก่อนเหล่าเฟิงและท่านนักพรตตู๋เดินทางไปที่มณฑลซานซี เพราะได้ยินว่ามักมีคนตายที่แม่น้ำ ทั้งสองคนจึงเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ระหว่างนั้นก็พบกับคนปราบสิ่งชั่วร้ายอีก 4 คน รวมกับพวกเขาเป็น 6 คนพอดี
ท้ายที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงที่หมาย หลังจากตรวจดูแล้ว พวกเขาก็พบว่าในแม่น้ำสายนั้นมีผีน้ำสิงอยู่หนึ่งตน
เพราะตายอย่างไม่เป็นธรรม หลังจากตายไปจึงกลายเป็นผีร้าย คอยพรากชีวิตคนอยู่ตามแม่น้ำ
เพื่อจะกําจัดผีน้ำตนนี้ สามารถพูดได้ว่าทั้งหกคนพยายามใช้ทุกวิถีทาง แถมสุดท้ายคนปราบผียังตายไปถึง 3 คน
เพราะเฟิงเฉ่วหานช่วยป้องกันการโจมตีให้ท่านนักพรตตู๋ครั้งนึง จึงได้รับบาดเจ็บสาหัส สุดท้ายก็เปลี่ยนให้พี่เฟิงออกโรง พวกเขาถึงฆ่าผีน้ำได้ ทําให้แม่น้ำสายนั้นกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
แต่ร่างกายบาดเจ็บหนัก ทําให้เฟิงเฉ่วหานควบคุมร่างกายไม่ไหว
เมื่อหานเฉ่วเฟิงเห็น เขาก็อยากใช้โอกาสนี้ กดเหล่าเฟิงเอาไว้ และยึดอํานาจควบคุมร่างกายมาเป็นของตัวเอง ทําให้เหล่าเฟิงกลายเป็นวิญญาณรอง
เป็นธรรมดาที่ท่านนักพรตตู๋จะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น ถ้าไม่ใช่เหล่าเฟิงปกป้องเขาเอาไว้ ท่านนักพรตตู๋ก็คงตายไปแล้ว
หลังจากทําข้อตกลงกันเรียบร้อย ท้ายที่สุดท่านนักพรตตู๋ก็สัญญาว่าจะหาของสามอย่างมาให้พี่เฟิง
โดยมีเส้นตายเป็นตัวกําหนด ให้เขาเลิกล้มความคิดที่จะยึดร่างของเหล่าเฟิง
ถ้าทําไม่ได้ ในอนาคตเขาจะเข้าไปยุ่งระหว่างการชิงร่างของพี่เฟิงหรือเหล่าเฟิง
พี่เฟิงชั่งน้ำหนักซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่สุดท้ายก็ยอมตกลง
ตอนนี้ของสองในสามอย่างที่ว่า เขาหามาได้แล้ว เหลือเพียงแก่นหยินแดงอย่างสุดท้าย ที่ยังไม่ได้มาอยู่ในมือ