ศพ - ตอนที่ 318 ดุร้าย
ศพ ตอนที่ 318 ดุร้าย
ในขณะที่ผีตัวนั้นโบกมือ คอของผมก็เหมือนโดนคนบีบ เนื้อโดน รัดจนเจ็บสุดๆ
ช่วงเวลานั้น ผมหายใจไม่ออกเลย
แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ หลังจากที่รู้สึกว่าโดนบีบคอ แรงดึงมหาศาลจากที่ไหนก็ไม่รู้ก็ตามมาติดๆ
ผมไม่อาจปัดป้องใดๆได้เลย ตัวผมโดนแรงดึงมหาศาลนั้นกระฉากตัวออกไปทันที
ตอนนี้ผมไม่อาจควบคุมร่างกายได้เลย ผมลองพยายามดิ้นรนแล้ว แต่สุดท้ายก็เสียแรงเปล่า
ปากก็ส่งเสียงออกมาไม่ได้ ทำได้แค่เพียงพยายามส่งเสียงตะโกน “ อื้อฮือฮือ ” ออกมา
“ ติงฝาน ! ”
“ เหล่าติง ! ”
พอหยางเนิ่วและเหล่าเฟิงเห็นฉากนี้ ก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วมาก ทุกคนยังไม่พร้อมรับมือเลยด้วยซ้ำ
และก็คิดไม่ถึงด้วย ว่ายัยผีตัวนี้จะมีลูกเล่นแบบนี้
หลังเหล่าเฟิงตะโกนเสร็จ เขาก็ไม่กล้ารอช้า เอามือทั้งสองข้างกุมเชือก แล้วกระตุกให้กับดักกระชับตัวทันที
เขาอยากใช้กับดักนี้หยุดการกระทำของผีตรงหน้า ช่วยผมให้หลุดออกจากอันตราย
แต่วิธีนี้ไม่ได้ผลเลยสักนิด พอผีตนนั้นหันมามอง เหล่าเฟิงที่กำลังจะกระชับกับดัก ก็นิ่งอึ้งในทันที
ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าถอดสี ราวกับการมองของผีผู้หญิงคนนี้ ทำให้เหล่าเฟิงกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตัวเขาหยุดนิ่งอยู่กับที่
ลองหันมามองทางหยางเฉ่ว วินาทีต่อจากนั้นเธอก็พุ่งขึ้นไปข้างหน้าทันที เอื้อมมือดึงเสื้อของผมเอาไว้
เพื่อป้องกันไม่ให้ผีผู้หญิงคนนั้นดึงผมไปหา
แต่หยางเฉ้วก็ซื้อได้ค่อนข้างลำบาก แรงดูดมหาศาลนั้น ทำให้แม้แต่ตัวหยางเนิ่วก็ต้องถูกลากไปข้างหน้าด้วย
แต่ในเรื่องของความเร็ว ก็ลดลงมาพอสมควร
ผีผู้หญิงค่อยๆหันมามอง ทางผมกับหยางเนิ่ว
ใบหน้าของเธอยังคงดุร้ายเหมือนเดิม ปากเผยให้เห็นเขี้ยวยาวที่พ่นลมหายใจที่เยือกเย็นออกมา “ ฮึฮึฮึ… ”
ดวงตาปลาตายคู่นั้น จองพวกเราอย่างดุร้าย ในปากพ่นน้ำเสียงที่เย็นชาและโมโหร้ายออกมา
“ ไอ้ชายโฉดหญิงชั่ว วันนี้ฉันจะแยกพวกแกทั้งคู่ออกจากกัน”
หลังจากพูดจบ มือที่ยื่นออกมาของเธอก็ทำท่าบีบอย่างแรงวินาทีนั้นแรงดูดที่มองไม่เห็นก็เพิ่มขึ้นในทันที
คอของผมโดนบีบแรงมาก จนแทบหายใจไม่ได้ ผมหน้าแดง รู้สึกอึดอัดผิดปกติ
แต่ในใจของผมกลับรู้ดี ยัยผีตนนี้มีพลังเยอะมาก ถ้าโดนดูดเข้าไปใกล้ฝ่ามือของอีกฝ่ายแล้ว จุดจบของผมจะต้องออกมาอนาถอย่างแน่นอน เช่นอาจโดนยัยผีตัวนี้บีบคอจนตายหรือไม่ก็โดนกัดตายในที่เดียว
เหล่าเฟิงโดนอีกฝ่ายจ้องจน “ เหวอ ” ตอนนี้หน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว ยืนนิ่งอย่างกับรูปปั้น
แม้หยางเฉ่วจะดึงผมเอาไว้ แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก และถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ผมก็อาจทำให้เธอต้องลำบากไปด้วย
ตอนนี้ผมต้องช่วยตัวเองเท่านั้น
วิธีที่ผมจะช่วยตัวเองได้ในตอนนี้ ก็คือการใช้ยันต์
แม้จะไม่รู้ว่าจะสำเร็จไหม แต่ยังไงผมก็ต้องลองดูสักตั้ง
เมื่อคิดได้แบบนี้ ผมก็กลั้นหายใจ ทนต่อความรู้สึกอึดอัดจากทั่วร่าง
หยิบยันต์ที่เอวออกมาอย่างรวดเร็ว นี่คือยันต์อัญเชิญเทพติงเจีย 12 องค์
เป็นยันต์ที่ทรงอนุภาพที่สุดที่ในบรรดายันต์ทั้งสามที่อาจารย์สอนผม และเป็นยันต์ที่ร่ายคาถายากที่สุด
ยันต์ชนิดนี้ไม่เพียงสามารถสยบปีศาจและศพได้ แต่ยังสามารถใช้จัดการกับวิญญาณชั่วร้ายได้อีกด้วย
ผมไม่ได้คิดอะไรเยอะแยะ ตอนนี้ผมทำได้แค่ใช้ยันต์แผ่นนี้เท่านั้น ใช้ประโยชน์จากพลังของยันต์สลายพลังชั่วร้ายของยัยผีตัวนี้ เพื่อทำให้ตัวเองกลับมาปลอดภัยอีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ หลังจากหยิบยันต์ออกมา ผมก็เสกคาถาอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่จะถูกดูดเข้าไปใกล้ผีผู้หญิง ผมก็ประสานมือทั้งสองข้างเป็นรูปดาบ
ในเวลาเดียวกัน ขณะที่หน้ากำลังแดงก่ำ ผมก็พยายามพูดออกมาด้วยเสียงที่แหบพร่า “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพี้ยง !”
เสียงเพิ่งเงียบลง ผมก็ยื่นยันต์ไปข้างหน้าเล็กน้อย
ทันใดนั้นเอง ยันต์ปราบสิ่งชั่วร้ายแผ่นนี้ก็เปล่งแสง
“ ตูม” พร้อมด้วยเสียงระเบิดตามมาติดๆ มันกลายเป็นประกายไฟ
ขณะที่ประกายไฟปะทุขึ้น ยันต์แผ่นนั้นก็เริ่มทำงานตรงหน้าของผม
ขณะที่ยันต์แผ่นนั้นเริ่มปลดปล่อยพลังออกมา จู่ๆแรงมหาศาลที่บีบคอผมเอาไว้ก็หายไป แรงดึงนั้นก็หยุดตามมาติดๆ
ผีผู้หญิงที่ยืนห่างออกไปห้าเมตร ก็ก้าวถอยหลังไปสองก้าวอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าโดนพลังของยันต์หยุดยั้งเอาไว้
เธอในตอนนี้ จ้องผมด้วยความโมโห ขณะเดียวกันก็เตรียมจะลงมือกับผมอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน ผมก็ไอตามสัญชาตญาณสองสามครั้ง แล้วต่อด้วยการหายใจเข้าเฮือกใหญ่ๆ
“ พวกเราถอยเร็ว ! ” หยางเฉวรีบพูด
ผมเองก็รู้ดี ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพักหายใจ ต้องทิ้งระยะห่างให้ปลอดภัยจากยัยผีตัวนี้ก่อน
ยัยนี่แข็งแกร่งกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้ หากไม่ทิ้งระยะห่าง เราต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ
ขณะพยายามหายใจ ผมถอยไปข้างหลังหลายก้าวอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกันก็หยิบเชือกแดงขึ้นมาจากพื้น เตรียมกระชับกับดับให้แน่น
“ ไอ้ชายโฉดหญิงชั่ว คอยดูเถอะว่าฉันจะฆ่าพวกแกยังไง”
ผีผู้หญิงตะคอก ขณะเดียวกันก็คิดจะเข้ามาโจมตีพวกเราอีกครั้ง
เมื่อได้ยินผีผู้หญิงพูดแบบนั้น ผมก็ไม่ลังเลแต่อย่างใด รีบกระตุกกับดับให้แน่นทันที
กับดับรูปร่างสี่เหลี่ยมหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว มันกำลังจะขังผีผู้หญิงเอาไว้ตรงกลาง
แต่ยัยผีตัวนี้ กลับทำท่าไม่กวาดกลัวเลยสักนิด และยังทำบางอย่างที่เหนือความคาดหมายของพวกเราอีกด้วย
เธอเห็นตัวกับดักกำลังหดเล็กลง ในปากกลับเค้นเสียงดัง ฮึ หลังจากนั้นก็ยกมือขึ้น
ทันใดนั้นเองลมจากทั่วสารทิศก็พัดเข้ามากับดักที่กำลังหดตัว นั้น “ ตูม” มีเสียงระเบิดดังตามมาติดๆ
เชือกแดงที่ถักทอขาดวิ่น ยันต์ที่ติดอยู่ก็ลุกไหม้
เมื่อเห็นฉากนี้ ผมกับหยางเฉ่วก็ตะลึงในทันที
เวรละ ยัยผีนี่น่ากลัวเกินไปแล้วมั้ง
นี่มันวงเวทย์ที่ทำมาจากเชือกแดงนับร้อยเส้นเลยนะ
ผีปกติทั่วไป แค่คิดจะเข้ามาใกล้ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะโดนพลังของยันต์ทำร้าย
แต่ยัยผีตรงหน้า กลับใช้แค่ฝ่ามือเดียว ก็สามารถทำลายเส้นใยที่ทรงพลังของพวกเราได้แล้ว
ผมเริ่มกลัว ความแข็งแกร่งของยัยผีตัวนี้ เกินกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้มาก
เมื่อเห็นความน่าเกรงขามของอีกฝ่าย ผมก็คิดว่าอย่างเธอน่าจะถึงระดับเต้าชื่อจงฉีแล้ว
หรือจะพูดอีกอย่างคือ พลังของอีกฝ่ายสูงกว่าพวกเราแล้ว
ผมใจสั่น แต่ก็ไม่ได้ยืนซื้ออยู่เฉยๆ
รู้ว่าในเวลานี้ยิ่งลังเลเท่าไหร่ ความตายก็จะเข้ามาหาเร็วเท่านั้น
หลังจากลังเลพักหนึ่ง ผมก็รีบดึงดาบไม้ออกมา
หยางเนิ่วก็ตอบสนองเช่นกัน เธอเองก็ดึงดาบไม้ตามมาติดๆ
แต่ไม่รอให้พวกเราได้ทำขั้นต่อไป ยัยผีตัวนั้นก็คำรามออกมา “ โฮก ” หลังจากนั้นก็พุ่งเข้ามาหาพวกเราทันที
การเคลื่อนไหวเร็วสุดๆ จนเห็นเป็นภาพซ้อนทับกัน
ภายในช่วยพริบตา เธอก็มาอยู่ในรัศมีสังหารแล้ว แถมเธอยังเหวี่ยงกรงเล็บที่คมกริบเข้ามาแล้ว
ม่านตาของผมขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันผมก็รีบตะโกนออกมาว่า “ รีบหลบ ! ”
ขณะพูด ผมก็ผลักตัวหยางเนิ่วอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันก็ตวัดดาบออกไปรับมือ
แต่การตวัดดาบที่หุนหันพันแล่นของผม กลับไม่โดนคู่ต่อสู้เลย
กลับกันกลับกลายเป็นสร้างโอกาสให้อีกฝ่าย “ แควก ” กรงเล็บพวกนั้นกวาดมาโดนหน้าอกของผมตรงๆ
ตอนนี้ผมกำลังใส่เสื้อขนเป็ดอยู่ มันโดนข่วนเป็นรอยกรงเล็บสี่รอย พร้อมกันนั้นขนเป็ดข้างในก็ไหลทะลักออกมาทันที
ผมทำหน้าชา รีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว โชคดีที่วันนี้ผมใส่เสื้อผ้าหนา การข่วนเมื่อกี้ก็เลยไม่โดนเนื้อของผม ไม่อย่างนั้นหน้าอกของผมคงโดนบาดเป็นแผลแล้ว
อีกทางด้านหนึ่ง หยางเฉ่วที่โดนผมผลักเมื่อกี้ ได้ลุกขึ้นมาแล้ว
ไม่รอให้ยัยผีนี่ลงมือกับผมอีกรอบ “ ฟั่บ ” ดาบก็พุ่งเข้าไปแทงที่ซี่โครงซ้ายของผีผู้หญิง
ผีชุดเหลืองก็รับรู้ได้ถึงอันตราย เธอจึงหันไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเองเธอก็จ้องไปที่หยางเนิ่ว
เมื่อเห็นดาบกำลังพุ่งเข้ามา เธอกลับไม่หลบเลยสักนิด แต่พลิกมือเข้าไปจับเอาไว้ทันที
แม่เจ้า เธอใช้มือเดียวจับดาบเอาไว้
ดาบไม้เป็นอาวุธปราบสิ่งชั่วร้าย เป็นอาวุธออกศึกของพวกเราคนปราบสิ่งชั่วร้าย ผีทั่วไปหลบเจ้าสิ่งนี้แทบเป็นแทบตาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะแตะมันตรงๆเลย
แต่ยัยผีชุดเหลืองตัวนี้ มีพลังเยอะมาก เธอคว้าดาบเอาไว้ในมือดื้อๆ
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ ดาบไม้เป็นของธาตุหยาง ตอนนี้มันแผดเผาผีผู้หญิง “ ซ่าซ่าซ่า ” แถมยังมีควันลอยออกมาจำนวนไม่น้อย
แต่เหมือนผีผู้หญิงจะตายด้านไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด เธอยังคงไม่ปล่อยมือ
กลับกันยังจ้องหยางเนิ่วตาไม่กระพริบ และพูดออกมาอย่างดุร้าย “ อี ยังคิดจะฆ่าฉัน ฉันจะทำลายหน้าสวยๆของแกเดี่ยว
พอพูดจบ เธอก็ออกแรงกระตุกอย่างแรง หยางเนิ้วถูกกระฉากไปตามแรง
มืออีกข้างหนึ่งของผีผู้หญิง เล็งไปที่หน้าขาวสวยของหยางเจ่วเธอกำลังจะตบ