ศพ - ตอนที่ 338 ช่วงชิงเวลา
ตอนที่ 338 ช่วงชิงเวลา
เห็นได้ชัดว่ายัยแก่กำลังถ่วงเวลาจำกัดให้เจ้าแมวตัวนั้นมีเวลาหนี้มากกว่าเดิม
ตอนนี้เธอไม่ได้จู่โจมพวกเราแล้วแต่กลับเป็นฝ่ายป้องกันซะมากกว่า
เรารู้ดีแก่ใจไม่ว่าจะเป็นเจ้าแมวแก่ที่กำลังหนีไปหรือเหล่าฉินและเหล่าเฟิงที่กำลังนอนสลบอยู่
สำหรับพวกเราแล้วเวลาเป็นสิ่งมีค่ามากและเราก็ไม่คิดจะต่อสู้กับยัยแก่นี่ต่อไปอีกแล้ว
พอคิดได้แบบนี้ผมก็บ้าคลั่งขึ้นมาตวัดดาบไปทางยัยแก่อย่างแรง
เปิดฉากการต่อสู้ใช้ทุกวิถีทางทุ่มสุดกำลังจนแทบจะเป็นการโจมตีแบบไร้ยางอาย
แต่ในเวลานี้ผมไม่ได้คิดอะไรเยอะขนาดนั้นผมคิดแค่ว่าจัดการยัยแก่สมควรตายนี่ให้ได้เร็วๆเราจะได้พาเหล่าฉินและเหล่าเฟิงกลับไปรักษาสักที
เหล่าฉันโดนแรงระเบิดจนสลบและโดนไฟคลอกหลังจากนั้นแม้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแต่ตรงที่โดนไฟคลอกหากไม่รักษาให้ทันเวลามันจะทิ้งรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดเอาไว้
ยังมีเหล่าเฟิงอีกคนพี่เฟิงกลืนแก่นหยินแดงเข้าไปตรงๆ
แม้จะเป็นแก่นพลังที่ไม่สมบูรณ์แต่มันก็มีพลังหยินอยู่ไม่น้อย
ในเมื่อเป็นแบบนั้นร่างกายมนุษย์ก็ไม่อาจจะรับได้ง่ายๆ
ดังนั้นเราต้องรีบพาเหล่าเฟิงและเหล่าฉันกลับไปตรวจดูอาการและรักษาทันทีเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิดที่จะตามมาทีหลัง
สำหรับเจ้าแมวแก่ที่หนีไปตอนนี้ไม่เหลือเงาแล้วผมไม่มีความคิดจะไล่ตามมันเท่าไหร่
ในป่าที่รกร้างแบบนี้ไปไล่ตามแมวแก่หนึ่งตัวคงไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น
ถึงสุดท้ายจะตามทันก็ไม่รู้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
ด้วยเหตุนี้ผมจึงคิดแค่จะจบการต่อสู้ตรงหน้าเร็วๆจะได้ออกไปจากที่นี่สักที
แต่ก็นะหลังจากผมทุ่มสุดตัวแม้จะต้านเอาไว้ได้แต่เธอก็เสียจังหวะหลายครั้ง
หลังจากร่วมมือกันหลายรอบอาจารย์และท่านนักพรตต์ก็เกือบทำสำเร็จ
พวกเราบีบให้ยัยแก่ต้องใช้พละกำลังมากกว่าเดิมเรื่องนี้จึงเป็นเหตุทำให้พลังในการคงรูปของร่างจิตของเธอลดลงไปอย่างมาก
ต่อจากนั้นสองสามนาทีอาจารย์และท่านนักพรตต์ก็ไม่เหลือโอกาสให้ยัยแก่ได้พักหายใจโจมตีกระหน่ำซ้ายขวาจนยัยแก่รับมือไม่ค่อยไหว
ยายแก่เสียพลังไปเยอะมากเธอต้านไม่อยู่แล้ว
พอเห็นว่ากำลังจะแพ้ไม่อาจยื้อเวลาได้อีกต่อไปเธอก็ถอยหลังไปอย่างรวดเร็วเว้นระยะห่างจากพวกเราอย่างชัดเจน
เธอเว้นระยะประมาณห้าเมตรในเวลานี้ยัยแก่ยืนนิ่งเผยให้เห็นเพียงคางที่เหี่ยวย่นและเสียงหัวเราะอันน่าขนลุก “ฮ่าฮ่าฮ่า”
หลังจากนั้นเราก็ได้ยินยัยแก่พูดว่า“คืนนี้เล่นมามากพอแล้วข้าควรไปได้แล้วแต่พวกเจ้าสบายใจได้
เราจะยังได้พบกันใหม่!”
“ฮึ! ยัยแก่อย่าให้ข้าหาร่างจริงของแก่เจอนะข้าจะเผาแกให้เป็นจุลอย่างแน่นอน!” ท่านนักพรตต์พูดอย่างดุดัน
แต่ยัยแก่นั้นกลับหัวเราะ “ฮ่าๆ” แล้วตะโกนอย่างเย็นชา “อวดดีจริงๆพลังระดับพวกเจ้ายังคิดจะเผาร่างข้าถ้าไม่เป็นเพราะกฎขององค์กรและมีถนนหยินขวางอยู่ข้าคงจะมาฆ่าพวกเจ้าที่ตำบลชิงฉือไปนานแล้ว!”
พอพูดจบยัยแก่ก็เอาไม้เท้าดำในมือกระแทกที่พื้น
“ปัง” ทันใดนั้นร่างของยัยแก่ก็เริ่มบิดเบี้ยวจากเท้าขึ้นมาเหมือนกระแสน้ำแล้วสุดท้ายเมื่อสายลมพัดเข้ามาร่างของเธอก็หายไปทันที
สีหน้าของอาจารย์และท่านนักพรตตู้ไม่ดีเท่าไหร่แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้
พอเห็นยัยแก่หายไปแล้วทั้งสองคนก็จ้องตรงที่ยัยแก่ที่หายไปอย่างดุร้ายแวบหนึ่งหลังจากนั้นถึงได้หมุนตัวกลับไปมองตรงที่เหล่าฉินและเหล่าเฟิงนอนอยู่
ในเวลาเดียวกันก็ได้ยินอาจารย์พูดว่า “ไปเราต้องรีบไปดูเหล่าฉันและเสี่ยวเฟิง!”
พลังจากพูดจบพวกเราก็รีบวิ่งมาหาเหล่าฉันและเหล่าเฟิง
ท่านนักพรตต์เป็นแพทย์แผนจีนเขาตรวจอาการของทั้งสองคนซ้ำแล้วซ้ำอีก
เหล่าฉันยังโอเคดีไม่มีปัญหาใหญ่อะไรแต่พอตรวจอาการบาดเจ็บของเหล่าเฟิงแล้วเขากลับทำหน้าหนักใจ
“แก่นหยินออกฤทธิ์ลมปราณภายในแปรปรวนเสี่ยวเฟิงอาการแย่มาก” ท่านนักพรตคู่ดูเศร้านิดหน่อย
แต่ต่อจากนั้นเขาก็หันมามองผมแล้วถามว่า “เสี่ยวฝานเธอแน่ใจใช่ไหมว่าหานเฉ่วเฟินกลืนเจ้าแก่นพลังของผีร้ายนี้เข้าไปจริงๆ?”
“คือใช่ครับพี่เฟิงกลืนลงไปเองแถมยังบอกว่าต่อไปให้เอาเลือดสดๆให้เขาดื่มวันละถ้วย!ลุงตู้นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ร่างกายของเหล่าเฟิงจะเป็นอะไรไหม?” ผมถามด้วยความร้อนใจ
ท่านนักพรตต์กลับส่ายหัว “พูดยาก!ตอนนี้เขาอาการแย่มาก”
“ถ้าพูดยากนักงั้นก็ไม่ต้องพูดแล้ว! พวกเราพาพวกเขากลับไปก่อนเถอะหลังจากนั้นค่อยตรวจให้ละเอียดในป่ารกร้างแบบนี้ถ้ายัยแก่นั้นย้อนกลับมาหรือมีปีศาจหรือผีอะไรออกมาอีกพวกเราจะแย่เอานะ!” อาจารย์พูดในขณะเดียวกันก็มองไปรอบๆอย่างหวาดระแวง
“คืองั้นพวกเรากลับกันเลยเถอะ!”ท่านนักพรตต์ก็ตอบกลับ
ผมกำลังยืนอยู่ข้างเหล่าเฟิงเป็นธรรมดาที่ผมจะไม่รอช้ารีบแบกเหล่าเฟิงขึ้นหลังทันที
เหล่าฉันโดนท่านนักพรตต์แบกขึ้นหลังหลังจากนั้นพวกเราก็เริ่มวิ่งกลับไปที่ตำบล
ตอนออกจากหุบเขาถึงผมจะเจอรอยเลือดและเห็นรอยเท้าของเจ้าแมวตัวนั้นทอดยาวเข้าไปในป่า
แต่พวกเราไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้และไม่มีอารมณ์ไปไล่ตามด้วย
ตอนนี้เราคิดแค่ว่าต้องรีบพาเหล่าฉินและเหล่าเฟิงกลับไปรอให้พวกเขาไม่เป็นอะไรแล้วต่อไปเราค่อยตามไปคิดบัญชีกับเจ้าแมวแก่และยัยแก่นั่น
ทางบนเขาไม่ได้เดินง่ายนักทางนี้ทำให้ผมเหนื่อยจนแทบหมดแรง
พอกลับมาถึงตำบลชิงฉือก็ปาไปตีสามแล้ว
ท่านนักพรตตูรีบทำการรักษาให้ทั้งสองคนทันทีเขาฝังเข็มให้เหล่าเฟิง
แต่ร่างกายของเหล่าเฟิงไม่ค่อยดีเท่าไหร่เดี่ยวก็ร้อนเดี๋ยวก็หนาว
ท่านนักพรตต์บอกว่าเพราะในร่างกายของเหล่าเฟิงมีแก่นพลังของผีอยู่ตอนนี้นอกจากทำให้หัวใจเหล่าเฟิงเต้นเป็นปกติแล้วเขาก็ทำอะไรไม่ได้อีก
แต่ท่านนักพรตต์ก็สงสัยเช่นกันบอกว่าถ้าคนปกติกลืนแก่นหยินเข้าไปผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงใครคนนั้นก็จะตายแล้ว
แต่เหล่าเฟิงกลับทนมาได้หลายชั่วโมงแล้วถึงจะดูอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
แม้จะรู้สึกสงสัยแต่ก็เดาว่านี่อาจเกี่ยวข้องกับร่างกายของเหล่าเฟิง
เขามีหนึ่งชีวิตสองวิญญาณมีดวงวิญญาณอยู่ร่วมกัน
และพี่เฟิงก็อยากได้แก่นหยินแดงมาโดยตลอดยังไงมันก็น่าจะมีประโยชน์กับเขาตอนนี้เรายังไม่รู้สาเหตุแต่ขอแค่ร่างกายของเหล่าเฟิงไม่เป็นอะไร
รอให้เหล่าเพิ่งตื่นขึ้นมาจากนั้นก็เรียกพี่เฟิงออกมาแล้วค่อยถามจากเขาก็ได้แล้ว
เรื่องก็เป็นแบบนี้หลายวันต่อจากนั้นพวกเราคอยดูแลเหล่าเฟิงและเหล่าฉันตลอด
ยังไรก็ตามอาการของเหล่าฉันไม่ได้แย่มากนักวันถัดมาเขาก็ได้สติกลับคืนมาแล้วเพียงทายาอีกหน่อยเขาก็ไม่เป็นอะไรแล้ว
แต่อาการของเหล่าเฟิงยังเหมือนเดิมนอนหลับไม่ได้สติร่างกายเดี่ยวร้อนเดี๋ยวหนาวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่นอกจากเราจะคอยดูแลร่างกายของเหล่าเฟิงแล้วเราก็ยังระวังมากกว่าเดิม
ในเวลาเดียวกันอาจารย์ให้ผมไปศาลเจ้าหลักเมืองด้วยตัวเองบอกให้ปู่หลิ่วช่วยคอยระวังให้พวกเราพักหนึ่งเรากลัวว่าวันไหนเจ้าแมวแก่จะกลายร่างเป็นแมวธรรมดาแล้วย้อนกลับมาอีก
ในฐานะที่ปู่หลิ่วเป็นคนของเผ่าจิ้งจอกเขาก็น่าจะมีความสามารถแยกแยะสัตว์ได้อยู่บ้าง
แน่นอนในการต่อสู้ครั้งนี้แม้พวกเราจะเป็นฝ่ายสูญเสียแต่กลับได้ข้อมูลบางอย่างมาจากปากของยัยแก่
นั่นก็คือตำบลชิงฉือที่พวกเราอยู่เป็นเหมือนที่มู่หลงเหยียนพูดเอาไว้เจ้าพวกองค์กรตาผีพวกนั้นไม่กล้าเข้ามาใน“พื้นที่ต้องห้าม”ง่ายๆ
คำพูดประโยคสุดท้ายของยัยแก่ที่บอกว่า“ถ้าไม่เป็นเพราะกฎขององค์กร”มันพิสูจน์ได้ทันทีว่าสาวกขององค์กรตาผีไม่อาจเข้ามาใกล้เส้นทางไปนรกของที่นี่ได้ตามใจชอบ
ถึงว่าทำไมมู่หลงเหยียนถึงได้มั่นใจนักบอกว่าที่นี่ปลอดภัยมากให้ผมไม่ต้องกลัวว่าเจ้าจางเทานั่นจะกลับมาล้างแค้น
ตอนนี้ดูเหมือนมันจะเป็นอย่างที่เธอพูดจริงๆ
แน่นอนว่าไม่สามารถเข้ามาได้ตามใจชอบก็ไม่ได้แปลว่าจะเข้ามาไม่ได้
เจ้าแมวแก่นั่นก็คือตัวอย่างเพราะมีกฎขององค์กรชั่วและเส้นทางนรกอยู่ยัยแก่ถึงไม่กล้าเข้ามาตามอำเภอใจแต่มันก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะไม่ส่งลูกศิษย์หรือบางอย่างมาทำร้ายเรา
ดังนั้นต่อไปนี้พวกเราต้องระวังมากกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบเจ้าแมวแก่นั่นเกิดขึ้นอีก
และเพื่อความปลอดภัยของชีวิตพวกเราเอง……