ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด - ตอนที่ 271 กระจกคุนหลุน
ทันใดนั้น ทุกคนในเหตุการณ์ต่างเงียบสงัดลงราวกลับไม่เข้าใจความหมายของหวาซู
“ลูกข้า…เป็นไปได้อย่างไร” สิงเหิงทำหน้าฉงน ก่อนจะถามขึ้นเสียงดัง “พวกเจ้าทำอะไรลูกข้า?!”
เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนี้ ทุกคนก็เข้าใจขึ้นมาทันที มังกรเสวียนกำเนิดต้องใช้เวลาห้าร้อยปีขึ้นไป ถึงแม้สิงเหิงจะไม่ได้ถ่วงเวลาการฟักไข่มังกรเพื่อความสมดุลของสวรรค์ทั้งสี่ทิศ แต่ไข่มังกรนั้นฟักออกมาก็เป็นเรื่องของร้อยปีมานี้ สำหรับเผ่าพันธุ์มังกรแล้ว มังกรภายในร้อยปีถือว่าเป็นลูกมังกร แม้แต่การกลายร่างยังทำไม่ได้ จะวางแผนเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร
“แล้วแต่พวกท่านจะเชื่อหรือไม่” หวาซูไม่สนใจความสงสัยของทุกคน เขากวาดตามองทุกคนอย่างเยือกเย็น “อีกไม่นานโลกสวรรค์จะมีท่านมหาเทพองค์ใหม่ ส่วนพวกท่าน…คงจะอยู่ที่นี่ตลอดไป”
พูดจบเขาก็โบกมือขึ้น ท่านเทพด้านหลังล้วนเริ่มการจู่โจม ในเวลานั้นคาถามากมายล้วนพุ่งตรงไปยังท่านมหาเทพทั้งสาม ทุกคนทำได้เพียงหยิบอาวุธออกมารับมือ ฝ่ายหยวนเจียงพุ่งไปด้านหน้าคุ้มครองท่านมหาเทพไว้ด้านหลัง
แต่พวกเขาไม่อาจใช้พลังได้ อาศัยเพียงแค่อาวุธไม่อาจต้านทานการจู่โจมของอีกฝ่ายได้ อีกทั้งภายในตำหนักคับแคบเกินไป พวกเขามีคนจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีท่านเทพจำนวนไม่น้อยบาดเจ็บภายในระยะเวลาอันสั้น หลงฉางที่อยู่ด้านข้างทนดูต่อไปไม่ได้ เขาก่อกำแพงพลังวิญญาณขึ้นมาต้านการจู่โจมไว้ชั่วคราว
ถึงแม้กระจกคุนหลุนจะเป็นอาวุธวิเศษ แต่มันมีผลกระทบต่อพลังเทพมากกว่าพลังวิญญาณ หลงฉางอยู่ในยมโลกเป็นเวลานาน เขาพอรู้วิธีการดึงพลังวิญญาณบ้าง แต่ก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กำแพงที่ก่อตัวขึ้นจากพลังวิญญาณปรากฏขึ้นเพียงชั่วคราวก็สลายหายไป
“เจ้าเมืองหลง เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างสวรรค์ของพวกข้า” หวาซูมองไปยังหลงฉางที่อยู่ตรงข้าม “สวรรค์ไม่มีเจตนาที่จะเป็นศัตรูกับยมโลก หวังว่าเจ้าเมืองหลงจะไม่แทรกแซงเรื่องนี้”
“ไม่มีเจตนาเป็นศัตรู?” หลงฉางหัวเราะ “น่าขำสิ้นดี! พวกเจ้ากักขังวิญญาณนับหมื่นของยมโลกเพื่อเพาะเลี้ยงเส้นชีพจรเทพ จากนั้นยังฆ่าสหายเมืองหมิ่นเฟินของข้า ตอนนี้เจ้าบอกว่าไม่มีเจตนาเป็นศัตรู?” คิดว่ายมโลกรังแกง่ายหรือ
หวาซูขมวดคิ้วมุ่น ราวกับกังวลอะไรบางอย่าง เขาพูดโน้มน้าวต่อ “เรื่องของลูกศิษย์คนนั้นเป็นเพียงความเข้าใจผิด เขาบุกรุกเข้าพื้นที่ฝึกฝนของนายน้อย พวกข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นคนเมืองหมิ่นเฟินจึงลงมือหนักไปบ้าง เมื่อเรื่องนี้จบสิ้น นายน้อยจะคืนความยุติธรรมให้พวกท่าน เชิญเจ้าเมืองหลงเปิดทางให้ด้วย”
“เข้าใจผิด?” หลงฉางหัวเราะเสียงเย็น “พวกเจ้าฆ่าคนของเมืองหมิ่นเฟิน แต่จะจบเรื่องด้วยการใช้คำว่าเข้าใจผิด? ในเมื่อพวกเจ้าต้องการคืนความยุติธรรม เช่นนั้นก็ไม่ต้องถ่วงเวลา ตอนนี้พวกเจ้าคืนมาได้เลย เมืองหมิ่นเฟินถึงจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องบนโลก แต่พวกข้าแยกแยะบุญคุณความแค้นอย่างชัดเจน พวกเจ้าคืนมาด้วยเลือดก็พอ วันนั้นใครทำให้เขาวิญญาณสลาย วันนี้คนผู้นั้นต้องวิญญาณสลายเหมือนกัน!”
“เจ้า…” สีหน้าของหวาซูเต็มไปด้วยความโกรธ เขามองไปยังหลงฉางด้วยสายตาอาฆาต “ในเมื่อเจ้าเมืองหลงพูดเช่นนี้ ก็อย่าหาว่าพวกข้าไร้ความเมตตา” เดิมทีเขาเป็นกังวลเรื่องราชายมโลกที่เพิ่งตื่น จึงคิดจะไว้ชีวิตเขา ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการหาที่ตาย เขาก็ตามใจ!
พูดจบเขาหันไปมองคนด้านหลัง “ฆ่าพวกเขาให้หมด!”
ทันทีที่สิ้นเสียง การจู่โจมยิ่งดุเดือดมากขึ้น ฝ่ายท่านมหาเทพทั้งสามทำได้เพียงถอยหลัง ทั้งตำหนักสั่นสะเทือนก่อนจะพังทลายลงมา ฝ่ายคนของสำนักเทียนซือถึงแม้จะยืนอยู่หน้าประตูห่างจากสนามรบ อีกทั้งถูกคาถาของฝ่ายหวาซูกักขังเอาไว้ ในเวลาหนึ่งจึงไม่มีคนจู่โจมพวกเขา แต่ก็ยังคงถูกเศษหินหล่นทับบาดเจ็บไปหลายคน
สายตาของอวิ๋นเจี่ยวเย็นลง สีหน้าที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเคร่งเครียดกว่าเดิม นางก้มมองกระจกในมืออย่างช้าๆ …
ส่วนท่านมหาเทพทั้งสามฝั่งตรงข้ามใกล้จะรับมือไม่ไหวแล้ว เมื่อไม่มีพลังพวกเขาจึงตกเป็นฝ่ายที่ถูกโจมตี อีกทั้งยังมีท่านเทพจำนวนไม่น้อยได้รับบาดเจ็บสาหัส ในขณะที่พวกเขาถอยจนไม่มีทางไป พลังวิญญาณที่หลงฉางเรียกออกมาก็ใกล้จะสลายไปจนหมดสิ้นแล้ว
“เฮอะๆๆ …” หวาซูหัวเราะอย่างได้ใจ เขาทำท่าราวกับได้รับชัยชนะแล้ว “อย่าดิ้นรนไปเลย ตำแหน่งท่านมหาเทพแห่งสวรรค์เดิมทีก็เป็นของนายน้อยอยู่แล้ว ผู้ที่ขัดขวางต้องถูกกำจัดให้หมด มีกระจกคุนหลุนอยู่พวกท่านไม่มีทางหนีไปได้ โลกสวรรค์ก็ดี ยมโลกก็ดี หรือแม้กระทั่งมนุษย์พวกนี้ก็ดีวันนี้ต้องตายอยู่ที่นี่ทั้งสิ้น”
“ข้าว่าไม่แน่!” ทันทีที่เขาพูดจบ มีเสียงเรียบเฉยของหญิงสาวดังขึ้น
หวาซูขมวดคิ้ว เขาหันไปมองยังต้นเสียง ก่อนจะพบว่าผู้พูดคือหญิงสาวที่ถือกระจกคุนหลุนไว้
“ท่านมั่นใจในกระจกนี้เสียจริง” อวิ๋นเจี่ยวโบกกระจกคุนหลุนในมือไปมา “แต่ข้าดูแล้วไม่เห็นมีอะไรพิเศษ”
พูดจบยังไม่ทันรอเขาตอบสนอง จากนั้นได้ยินเพียงเสียงเปราะดังขึ้นจากกระจก กระจกที่อยู่บนมือของนางคดเคี้ยวขึ้นไปทางด้านบนราวกับ มีกลไกบางอย่างถูกเปิดออก จากนั้น กลายเป็นลักษณะของดอกบัว ส่วนด้านบนของดอกบัวนั้นปรากฏเป็นข่ายพลังทับซ้อนกันนับชั้นไม่ถ้วน
ไม่รู้ว่านางทำอะไร ข่ายพลังนั้นปรากฏแสงสว่างสีทองขึ้นมา นาทีถัดมาทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกว่าพลังภายในร่างกายสามารถกลับมาใช้ได้อีกครั้ง
การควบคุมของกระจกคุนหลุน…ถูกแก้ออกแล้ว!
Σ(°△°|||)︴
“นี่…เป็นไปไม่ได้!” หวาซูทำหน้าเหลือเชื่อ สายตาที่มองไปยังอวิ๋นเจี่ยวเต็มไปด้วยความฉงน “เจ้าเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา เป็นไปได้อย่างไร…” นั่นเป็นถึงอาวุธวิเศษ ถึงจะเป็นท่านมหาเทพก็ต้องใช้พลังจำนวนมากในการขับเคลื่อน แต่นางเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา จะแก้การควบคุมของกระจกคุนหลุนอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร “เจ้าเป็นใครกันแน่!?”
แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาหาคำตอบแล้ว สิงซีท่านมหาเทพบูรพาสวรรค์เป็นคนแรกที่ตั้งสติได้ เขาออกคำสั่ง “จับพวกเขาเอาไว้!”
ท่านเทพด้านหลังรีบถืออาวุธพุ่งตรงเข้าไปทันที ท่านเทพคนอื่นก็ตั้งสติขึ้นได้เช่นกัน พวกเขาต่างพุ่งตัวเข้าไป สถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็ว ฝ่ายหวาซูมีคนจำนวนไม่มาก ก่อนหน้านี้มีเพียงพวกเขาที่สามารถใช้พลังได้จึงสามารถข่มคนของทั้งสามฝ่ายได้ ตอนนี้พลังกลับมาแล้ว พวกเขาจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้งสามฝ่าย
ทันใดนั้นมีท่านเทพสี่ห้าคนถูกดาบฟาด ใบหน้าของหวาซูเผยความตื่นตระหนกออกมา เขาสะบัดธงอีกครั้ง ทันใดนั้นแสงสีแดงสว่างขึ้นครอบคลุมพวกเขาเอาไว้ภายใน ต้านทานการจู่โจมของอีกฝ่าย
สีหน้าของหวาซูสงบลง เขากวาดตามองทุกคน จากนั้นพูดด้วยท่าทางโอหังเหมือนอย่างเคย “เดิมทีคิดว่าวันนี้จะสามารถกำจัดพวกท่านได้ ไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้!” เขาหันไปมองอวิ๋นเจี่ยว “เอาเถอะ อย่างไรแล้วจุดประสงค์ของข้าก็ลุล่วงแล้ว”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” ท่านมหาเทพทั้งสามตกตะลึง ทันใดนั้นมีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้น